ตอนที่ 234 ตีตราเป็นเจ้าของ / ตอนที่ 235 ชอบโดนกระทำ

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 234 ตีตราเป็นเจ้าของ

 

 

           “หึ” เจียงมู่เฉินทำเสียงเย็นแสดงความไม่พอใจ “ทั้งโลกไม่ได้มีแค่นายคนเดียว ถ้าฉันอยากสบาย ก็มีคนอื่นยินดีด้วยอยู่แล้ว อีกอย่างคุณชายอย่างฉันก็ไม่ชอบโดนจับกดด้วย นายตายไป ฉันจะได้หาคนมาให้ฉันจับกดพอดี”

 

 

           ยิ่งคิดเจียงมู่เฉินยิ่งอดจะขบกรามไม่ได้ เขาเป็นผู้ชายแมนๆ อยู่ดีๆ อย่าว่าแต่โดนซือเหยี่ยนทำลายความเป็นชายเลย ยังมาโดนจับกดแบบนั้นอีก

 

 

           ‘คิดๆ แล้ว เขาก็อยากร้องไห้ ทำไมสายตาเขาดีขนาดนี้นะ’

 

 

           คนตั้งมากมายไม่เลือก ต้องมาเลือกคนที่ไม่มีทางจะยอมอยู่เป็นเบี้ยล่างใครอย่างซือเหยี่ยน

 

 

           “คุณกล้าเหรอ นอกจากผม คุณจะไปหาใครไม่ได้ทั้งนั้น” ซือเหยี่ยนเพียงพลิกฝ่ามือก็กดทับร่างเจียงมู่เฉินเอาไว้

 

 

           เจียงมู่เฉินจ้องมองใบหน้าของเขา ฮึดฮัดกัดเขาเข้าไปคำหนึ่ง “นายคิดจะปีนกำแพงแล้ว ยังไม่ให้ฉันไปหาอีกเหรอ นี่นายไม่ค่อยจะมีเหตุผลเกินไปไหม”

 

 

           “ผมไม่ปีนกำแพง คุณเองก็ไปหาคนอื่นไม่ได้”

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกราม “ฉันเป็นผู้ชายคนนึง วันๆ โดนจับกดก็ช่างเถอะ นายแม่งยังคิดจะปีนกำแพง ในโลกนี้มีเรื่องดีขนาดนี้ไหม”

 

 

           ซือเหยี่ยนก้มหน้ามองคนใต้ร่าง ดวงตาสีดำขลับทอประกาย เขามองเจียงมู่เฉินอย่างจริงจัง “งั้นให้ผมโดนคุณจับกดครั้งหนึ่ง?”

 

 

           เจียงมู่เฉินมองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อใจ พูดแบบนี้มาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว โดนซือเหยี่ยนหลอกมาทุกครั้ง โดนหลอกมาหลายครั้งขนาดนี้ ถ้าเขายังไม่เข็ดหลาบ เขาก็เป็นคนโง่จริงๆ แล้ว

 

 

           “นายเห็นว่าคุณชายโง่จริงๆ ใช่ไหม” ซือเหยี่ยนคนหยิ่งยโสโอหังขนาดนี้ จะมาสมัครใจยอมนอนให้โดนจับกดได้อย่างไร

 

 

           ซือเหยี่ยนโน้มตัวลงมากัดใบหูเจียงมู่เฉิน “ผมจริงจัง” กว่าเขาจะตัดสินใจยอมให้เจียงมู่เฉินเปลี่ยนกลับเป็นรุกได้ครั้งหนึ่งไม่ใช่ง่ายๆ

 

 

           เจียงมู่เฉินกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง พูดอย่างไม่สนใจ “ช่างเถอะ ตอนนี้ฉันไม่สนใจเรื่องจะจับกดอะไรนายแล้ว”

 

 

           ซือเหยี่ยนไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่แล้ว “คุณไม่สนใจผม คุณคิดจะสนใจใคร”

 

 

           “นายยุ่งอะไรฉัน ฉันชอบจะสนใจใคร ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”

 

 

           ซือเหยี่ยนทำไขสือกะพริบตาปริบๆ “คุณเป็นแฟนผมนะ ต้องเกี่ยวกับผมอยู่แล้วสิ” 

 

 

           “นายยังรู้ว่าฉันเป็นแฟนนายอยู่เหรอ ตอนขุดหลุมฝังกลบฉัน ทำไมไม่คิดถึงสักนิดว่านายยังมีแฟนหนุ่มรูปงามที่ทั้งหล่อทั้งรวยทั้งฉลาดและสง่าผ่าเผยคนหนึ่งอยู่”

 

 

           ซือเหยี่ยนได้ยินคำพรรณนามากมายขนาดนี้ของเขา ก็อดจะยิ้มหัวเราะออกมาไม่ได้

 

 

           เจียงมู่เฉินถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่ง “น่าขำเหรอ”

 

 

           ซือเหยี่ยนไม่อดกลั้น พยักหน้ารับ “น่าขำนิดหน่อย”

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกรามมองใบหน้าที่ปรากฏรอยยิ้มบางๆ อย่างตามใจตัวเอง สุดท้ายก็ใช้ฟันกัดคางเขาหนักๆ แรงๆ จนเห็นเป็นรอยฟันชัดเจน

 

 

           ซือเหยี่ยนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ยกมือขึ้นลูบรอยฟันบนคางของตัวเอง “คุณกัดจนเป็นแบบนี้ จะยังให้ผมออกไปอีกเหรอ”

 

 

            เจียงมู่เฉินจ้องเขม็ง “ทำไม นายไม่พอใจเหรอ”

 

 

           ซือเหยี่ยนยกมุมปากขึ้น “คุณจงใจถูกไหม” เขาใช้มือถูรอยฟันบนคางเบาๆ “ทำไม อยากแสดงอำนาจสิทธิ์ขาดเหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินกัดฟัน “ฉันแทบอยากจะเขียนบนหน้านายว่าฉันเป็นเจ้าของ ให้นายวันๆ ไม่กล้าออกไปเจ้าชู้ไม่เลือกหน้ากับใครข้างนอก”

 

 

           ‘ยังเป็นแก๊งมังกรครามที่รับมือยากนั่นอีก…’

 

 

ซือเหยี่ยนอดจะเลิกคิ้วไม่ได้ เขาเอ่ยเตือนเล็กน้อย “เฉินเฉิน คุณลืมไปแล้วหรือเปล่า สองวันก่อนคุณเพิ่งจะปีนกำแพงสำเร็จมา”

 

 

           หลังจากเฉินเฉินของเขาทำสงครามเย็นกับเขา ก็ไม่พูดไม่จาไปกอดกับคนอื่น ถ้านับกันจริงๆ แล้ว กำแพงนี้เป็นเจียงมู่เฉินที่ปีนไปได้ไกลกว่า

 

 

           ‘เขายังไม่ได้รับความเป็นธรรมเลยนะ’

 

 

           เจียงมู่เฉินได้ยินเขาเอ่ยถึงเรื่องของซังจิ่งขึ้นมา ใจก็แป่วนิดหน่อยอย่างบอกไม่ถูก นับกันแบบนี้ดูเหมือนว่าเขาจะปีนกำแพงไปก่อนจริงๆ

 

 

           ‘แต่ว่า’

 

 

           “ฉันไม่ได้ขึ้นเตียงกับคนอื่น แล้วดูนาย กล้าเปิดห้องถอดเสื้อผ้าเล่นกันกับคนอื่นสดๆ ร้อนๆ ต่อหน้าต่อตาฉัน” เจียงมู่เฉินกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “ฉันกำลังคิดว่าฉันเองก็ต้องไปเล่นกับซังจิ่งแบบนี้สักครั้งดีไหม ถึงจะได้เสมอกันกับนาย”

 

 

       

 

 

ตอนที่ 235 ชอบโดนกระทำ

 

 

           ทันทีที่ซือเหยี่ยนได้ยินเขาพูดขนาดนี้ก็รีบคว้าตัวคนเข้ามากอดไว้แนบอกทันที “ไม่ได้ เรื่องบนเตียงคุณเล่นได้แค่กับผมเท่านั้น”

 

 

           เจียงมู่เฉินยกเท้าถีบใส่ “ทีนายแม่งยังไปเล่นกับคนอื่น ซือเหยี่ยนนายเป็นจอมเผด็จการหรือไง แม่งไม่ฟังเหตุผลกันเลย”

 

 

           พอคิดถึงภาพเฉินเฉินของเขาไปเล่นถอดเสื้อผ้ากับคนอื่น เพียงเสี้ยวเวลานัยน์ตาซือเหยี่ยนก็ดำดิ่งหยั่งลึกแผ่รังสีความโกรธเกรี้ยวที่ค่อยๆ คุกรุ่น

 

 

           แค่คิด เขาก็ระเบิดลงแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเวลาเห็นกับตาตัวเอง

 

 

           เขากอดกกคนในอ้อมกอดแน่น “ต่อไปมีแค่พวกเราสองคนเล่นกันเองได้เท่านั้น ดีไหม”

 

 

           เจียงมู่เฉินแกะมือเขาออกอย่างเสียแรงเปล่า ไม่ว่าอย่างไรอยู่ในมือเจ้าหมอนั่นก็เหมือนโดนฉาบปูน แกะอย่างไรก็แกะไม่หลุด

 

 

           แกะจนสุดท้ายเขาโมโหจนกัดฟันกรอด เล็งคางที่เขายังทิ้งรอยฟันเอาไว้ แล้วกัดเข้าไปหนักๆ แรงๆ คำหนึ่ง

 

 

           ซือเหยี่ยนเจ็บ แต่ก็เอ่ยต่ออย่างติดตลก “ถ้าคุณกัดต่อไปแบบนี้ เดี๋ยวสักพักเลือดออก คนที่เห็นใจก็คือคุณอยู่ดี”

 

 

           “นายเจ็บของนาย มาเกี่ยวอะไรกับฉัน ถึงยังไงคุณชายก็กัดอย่างมีความสุขดีออก”

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นเขาพูดขนาดนี้ก็รีบเอียงขวาให้ทันที “มา คุณมากัดอีกคำ”

 

 

           เจียงมู่เฉินรู้สึกว่าคนคนนี้ค่อนข้างจะชอบโดนกระทำทีเดียว กัดเขาเดี๋ยวเดียวไม่ได้ ยังจะต้องให้เข้าไปกัดเขาต่ออีก

 

 

           “นายเพี้ยนไปแล้วเหรอ ไม่มีอะไรจะมาให้ฉันกัดทำไม”

 

 

           ซือเหยี่ยนเจ้าหมอนี่หน้าไม่อายเกินไปแล้ว มองเขาด้วยสีหน้าท่าทางอ่อนโยนอีก “คุณมีความสุขไม่ใช่เหรอ ผมก็อยากให้คุณมีความสุขมากยิ่งขึ้นหน่อยไง”

 

 

           ‘เชี่ยแม่ง…คิดไม่ถึงว่าเขาจะใช้ความอ่อนโยนที่หน้าไม่อายนี้มาจู่โจมตัวเอง’

 

 

           ‘ดันใช้กับตัวเองได้ดีเป็นพิเศษด้วยซะงั้น…’

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกราม รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่เลย

 

 

           “ไปให้พ้น ฉันกัดอีกสองคำ นายก็อย่าคิดจะออกไปข้างนอกเลย” จ้องมองใบหน้าที่มีรอยฟันเขม็ง ทั้งยังไม่กลัวคนอื่นจะหัวเราะเยาะเขาอีก

 

 

           “ไม่เป็นไร ที่คุณกัด เป็นเกียรติของผม”

 

 

           ‘…เป็นเกียรติ? เป็นเกียรติกับผีนายสิ’

 

 

           เจียงมู่เฉินเลือดขึ้นหน้า รู้สึกว่าตัวเองเมื่อเทียบกับซือเหยี่ยนแล้ว วางตำแหน่งในกระดานหมากรุกต่ำเกินไปจริงๆ เขานั่งห่อเ**่ยวอยู่บนโซฟาอย่างสิ้นหวัง

 

 

           ซือเหยี่ยนเข้าไปกัดเขาคำหนึ่ง “อะไรกัน ตัดใจกัดผมไม่ลงเหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกรามยิ้มเยาะ “คุณชายกลัวว่ากัดเข้าไปแล้วจะอดไม่ได้จนกัดนายตายไปซะก่อน” สายตาเขาจับจ้องที่เส้นเลือดใหญ่ของซือเหยี่ยน เปล่งแสงอย่างเงียบๆ

 

 

           ซือเหยี่ยนลูบคอไป พลางครุ่นคิดปัญหานี้ของเจียงมู่เฉินด้วยท่าทีจริงจัง เขาเอ่ยเสนอแก้ไข “ไม่งั้น…เปลี่ยนที่กัดมั้ย”

 

 

           เจียงมู่เฉินเงยหน้ามองเขา

 

 

           ซือเหยี่ยนจับมือของเขาขึ้นมาลูบ “กัดตรงนี้เป็นไง”

 

 

           ‘……บัด ซบ บัด ซบ’

 

 

           “ในที่สุดฉันก็มองนายเข้าใจแล้ว นายแม่งอาศัยช่วงล่างเดินสินะ เมื่อก่อนทำไมไม่รู้เลยว่าหัวสมองนายมีแต่เรื่องแบบนี้เต็มไปหมด เสียแรงที่ฉันเชื่อว่านายเป็นพ่อพระมาโดยตลอด” เจียงมู่เฉินโมโหจนระเบิดลง “พ่อพระกับน้องสาวนายสิ นายแม่งเป็นสัตว์ตลอดหัวจรดเท้า”

 

 

           เจียงมู่เฉินหดมือเข้า ฝ่ามือร้อนจนน่าตกใจ ครั้งที่แล้วใช้แรงงานมือจนเกินเส้นขีดความอดทนเขาแล้ว ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะมาโหยหาริมฝีปากสีเชอร์รี่ของเขา

 

 

           ‘เป็นสัตว์สินะ เป็นสัตว์ที่น่าไม่อายประชาชีด้วย’

 

 

           ซือเหยี่ยนทำหน้าซื่อตาใส ถอนหายใจ “เฉินเฉิน คุณอยู่ต่อหน้าผม ถ้าผมไม่คิดอะไรเลย เกรงว่าคุณจะต้องอกหักแล้ว”

 

 

           คนอื่นอยากให้เขาคิดแบบนี้ด้วย เขาก็ไม่เต็มใจด้วยทั้งนั้น ใจจดใจจ่อสำรวจแต่บนร่างกายของเจียงมู่เฉิน เขารักเดียวใจเดียวมาก โอเคไหม

 

 

           เจียงมู่เฉินโดนเขาตอกกลับหน้าหงาย จู่ๆ ก็ไม่พูดจา รู้สึกว่าซือเหยี่ยนพูดถูกต้องมาก แต่ว่า…ถูกต้องแล้วมีประโยชน์อะไร  ถูกต้องแล้วก็ต้องเบลอภาพในหัวทุกวันเหรอ

 

 

           ซือเหยี่ยนกดมือไว้แน่น “ถ้าไม่ได้ ผมไปลองดูกับซูเตอร์แล้วกัน เขาต้องยินดีให้ความร่วมมือกับผมเป็นพิเศษแน่ๆ”

 

 

           เสียงขบกรามลอยอยู่ในห้องทำงาน เจียงมู่เฉินมองเขาด้วยท่าทีดุร้าย “นายกล้าไปก็ลองดู”