ทันทีที่ถังซีกลับถึงบ้าน เซียวเจี่ยนกับเซียวหงอี้ก็รีบเข้ามาหาเธอ เซียวเจี่ยนมองร่องรอยฟกช้ำบนข้อมือถังซีแล้วขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น เซียวจิ่งบอกพี่ทางโทรศัพท์ว่าเธอถูกลู่กวงสยงลักพาตัว เขาพูดจริงหรือ”
ถังซียิ้ม ซ่อนมือไว้ด้านหลัง แล้วกล่าวเบาๆ ว่า “อย่าเสียงดังค่ะ ถ้าคุณปู่ได้ยินท่านจะเป็นห่วง”
เซียวหงอี้ขมวดคิ้วถามว่า “ทำไมลู่กวงสยงถึงลักพาตัวลูกไป ลูกกับ…”
“หนูทะเลาะกับลู่เสี่ยวจิง ลูกสาวของเขาวันนี้ค่ะ” ถังซีมองไปทางห้องทานอาหาร “หนูหิวจังเลย ยังเหลืออาหารอยู่บ้างไหมคะ”
เซียวเจี่ยนพยักหน้า สั่งให้ลิลลี่เตรียมอาหารให้ถังซี และถามเธอว่า “เขาลักพาตัวเธอเพราะเรื่องแค่นี้เหรอ!”
“โหรวโหรว เป็นเพราะลูกกับ…” เซียวหงอี้มองถังซีด้วยท่าทางตื่นเต้น เธอมีความสัมพันธ์เกินกว่าธรรมดากับเฉียวเหลียงใช่ไหม เขารู้ว่าเฉียวเหลียงกับเซียวจิ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน ถ้าลูกสาวเขาคบหากับเฉียวเหลียงผ่านทางเซียวจิ่งล่ะ… น่าจะเป็นการดีกว่าสำหรับโหรวโหรวที่จะแต่งงานกับเฉียวเหลียงแทนหลิวเฉิงอวี่
ถังซียิ้ม “หนูกับใครเหรอคะ” ถังซีมองไปทางห้องหลินหรูและเล่าด้วยรอยยิ้ม “ตอนนั้นที่มีครูคนหนึ่งหาเรื่องใส่ร้ายหนูที่โรงเรียน เพราะเซียวจิ้นหนิงสั่ง หนูขอให้พี่จิ่งมาที่โรงเรียน บังเอิญพี่จิ่งอยู่กับเฉียวเหลียง เขาก็เลยพาเฉียวเหลียงมาด้วย บางทีลู่เสี่ยวจิงอาจเล่าเรื่องนี้ให้พ่อเธอฟัง ลู่กวงสยงก็เลยคิดว่าหนูมีความสัมพันธ์พิเศษกับเฉียวเหลียง และมาลักพาตัวหนู”
ถังซียิ้มอย่างน่าสงสาร “นี่คือโชคร้ายที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับหนูเลย หนูคิดว่าหนูควรไปไหว้พระขอพรที่วัด ขับไล่ความโชคร้ายให้ออกไปจากตัวหนูแล้วล่ะค่ะ หนูประสบอุบัติเหตุครั้งแล้วครั้งเล่า หนูจะไม่สงสัยเลย ถ้าอยู่ๆ ตอนนี้หนูจะถูกผีเข้า”
เซียวหงอี้หน้าตึงขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินถังซีพูดถึงเซียวจิ้นหนิง เขาไม่รู้ว่าจะพูดยังไง ได้แต่หัวเราะเจื่อนๆ อย่างทำตัวไม่ถูก “อ๋อ พ่อเข้าใจแล้ว หนูไปอาบน้ำ ทำแผลก่อนดีกว่า จะได้ลงมาทานอาหาร”
ถังซีพยักหน้า เดินไปที่ห้องหลินหรู “หนูขอไปหาแม่ก่อนนะคะ”
เซียวเจี่ยนมองตามหลังถังซี แล้วร้องเรียกเซียวหงอี้ว่า “พ่อครับ เรามาคุยอะไรกันหน่อยสิครับ”
เซียวหงอี้หันไปมองเซียวเจี่ยน เห็นลูกชายกำลังเดินออกไปข้างนอก เซียวหงอี้ขมวดคิ้วแต่ก็ยังตามไป เซียวเจี่ยนยืนอยู่ที่สนาม จุดบุหรี่แล้วหันกลับมามองเซียวหงอี้เป็นเชิงเชิญชวน เซียวหงอี้ส่ายศีรษะ “พ่อต้องดูแลแม่ของลูก พ่อสูบบุหรี่ไม่ได้”
เซียวเจี่ยนเก็บกล่องบุหรี่ แล้วสูบเข้าไปครั้งหนึ่ง เซียวหงอี้ขมวดคิ้ว “ลูกเครียดเรื่องงานหรือ”
เซียวเจี่ยนส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ครับ ผมอยากคุยกับพ่อเรื่องอื่น”
เซียวหงอี้อดทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอีกไม่ได้ เขาถามว่า “เรื่องอะไร”
เซียวเจี่ยนพ่นควันออกมา และก้มมองรองเท้าตัวเอง “ผมหวังว่าพ่อจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องการแต่งงานของโหรวโหรว น้องเพิ่งเข้าเรียนปีที่หนึ่งในโรงเรียนมัธยมปลายและยังเด็กเกินไป บริษัทเราไม่ได้ต้องการหุ้นส่วนทางธุรกิจใดๆ และผมก็จัดการบริษัทเองได้ เพราะฉะนั้นพ่อครับ ผมหวังว่าเราจะมีบ้านที่อบอุ่นและสุขสบายให้โหรวโหรว ไม่ใช่กรงขังที่มีแต่เรื่องกดดัน พ่อกำลังบีบบังคับให้น้องอยากไปจากบ้านเราด้วยการทำแบบนี้”
“ลูกพูดถึงเรื่องอะไร!” สีหน้าเซียวหงอี้สลดลง “พ่อไปกดดันน้องเมื่อไหร่ พ่อไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งกับการแต่งงานของน้อง โอเคไหม โหรวโหรวไม่ได้ชอบเฉิงอวี่ เพราะฉะนั้นพ่อจะไม่บังคับให้น้องแต่งงานกับเฉิงอวี่”
“ดีแล้วครับ” เซียวเจี่ยนกล่าว แล้วเงยหน้าขึ้นมองเซียวเหยา ซึ่งจู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นในสนาม เซียวเหยาเข้ามาทักทายคนทั้งสอง เซียวหงอี้ทักตอบเก้อๆ และถามว่า “เซียวเหยา มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
เซียวเหยามองบุหรี่ในมือเซียวเจี่ยน “ผมอยู่แถวนี้มาสักพักหนึ่งแล้วครับ คุยโทรศัพท์และสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกครู่หนึ่ง กำลังยุ่งกันอยู่หรือเปล่าครับ”
“ไม่หรอก” เซียวหงอี้ตบไหล่เซียวเหยา “ลุงได้ข่าวมาว่าเธอได้เลื่อนยศเป็นผู้พันแล้วหรือ เก่งมาก เธอเก่งกว่าพ่อของเธอกับลุงเสียอีก”
เซียวเหยายิ้ม ไม่พูดอะไร เซียวเจี่ยนดับบุหรี่ก่อนจะถามเซียวเหยาว่า “นายทานข้าวเย็นแล้วหรือยัง”
เซียวเหยาส่ายศีรษะ “ยัง”
เซียวเจี่ยนเดินนำเข้าไปในบ้าน ขณะกล่าวว่า “โหรวโหรวกับฉันก็ยังไม่ได้ทานเหมือนกัน เดี๋ยวทานด้วยกันนะ”
เซียวหงอี้กล่าวว่า “โหรวโหรวไปอาบน้ำ คงต้องรอสักครู่ พวกเธอคุยกันไปก่อน ลุงจะไปดูคุณป้า” ก่อนจะจากไป
เซียวเหยามองหน้าเซียวเจี่ยนและขมวดคิ้ว “นายมีบุหรี่ไหม”
เซียวเจี่ยนเลิกคิ้ว ส่งบุหรี่ให้เซียวเหยา “ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนนายไม่สูบบุหรี่”
“ฉันสูบเวลาคิดถึงอะไรบางอย่าง” เซียวเหยารับบุหรี่มา และมองเซียวเจี่ยน “มีไฟแช็กไหม”
เซียวเจี่ยนหยิบไฟแช็กออกมาส่งให้เซียวเหยา เซียวเหยาจุดบุหรี่สูบเข้าไปครั้งหนึ่ง พ่นควัน มองขึ้นไปบนท้องฟ้าไกลออกไป “ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนนายก็ไม่ค่อยสูบเหมือนกัน”
เซียวเจี่ยนกล่าวว่า “ช่วงที่ผ่านมานี้ฉันสูบบ่อยมาก จนเกือบจะติดอยู่แล้ว” ว่าแล้วเขาก็จุดบุหรี่ให้ตัวเองอีกมวนหนึ่ง “ช่วงนี้ฉันมีเรื่องหนักใจมากเหลือเกิน เลยสูบบุหรี่แทบทุกวัน” เขามองหน้าเซียวเหยาซึ่งดูเหมือนมีบางสิ่งในใจเหมือนกัน “นายล่ะ มีเรื่องอะไรกวนใจอยู่หรือ”
เซียวเหยามองหน้าเซียวเจี่ยน แล้วจู่ๆ ก็ยิ้มออกมา จากนั้นก็เอนกายพิงเสาหินอ่อน ใช้นิ้วเคาะเถ้าบุหรี่สีแดง “ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีโอกาสคุยกับนายดีๆ แบบนี้”
เซียวเจี่ยนก็ยิ้ม แล้วพ่นควันบุหรี่ นิ้วโป้งซ้ายของเขาเกี่ยวกระเป๋ากางเกง อีกสี่นิ้วเคาะเบาๆ บนต้นขา กล่าวว่า “ใช่ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราไม่เคยเป็นมิตรกันเลยเวลาเจอกัน และดูเหมือนจะแย่ลงไปอีกหลังจากโหรวโหรวกลับมา ฉันก็คิดไม่ถึงว่าเราจะได้มาสูบบุหรี่ด้วยกัน และคุยกันอย่างสงบเหมือนในคืนนี้” เขามองหน้าเซียวเหยา “บอกฉันหน่อยสิว่าเรื่องอะไรที่กวนใจนาย” เขาพ่นควันและมองหน้าเซียวเหยาอีกครั้ง “ในสายตาคนอื่น อาชีพการงานของนายประสบความสำเร็จอย่างมาก แล้วสำหรับเรื่องความรัก… ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งตกหลุมรักนายหัวปักหัวปำ แล้วยังมีอะไรที่ทำให้นายไม่สบายใจอีกหรือ”
เซียวเหยาชะงัก แล้วส่ายศีรษะ “หว่านอีเป็นคนดี ฉันไม่อยากให้เธอมาเสียเวลา ฉันรู้สึกกับเธอเหมือนเป็นน้องสาว ไม่เคยรู้สึกเป็นอย่างอื่นเลย อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลยดีกว่า พี่ชาย”
เซียวเจี่ยนเลิกคิ้วมองเซียวเหยา “นายไม่ชอบเฮ่อหว่านอีเหรอ” จากนั้นเขาก็ส่ายศีรษะและยิ้ม “ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่าผู้ชายคนไหนจะไม่ชอบผู้หญิงอย่างเธอ”
เซียวเหยาถอนหายใจ ขยับยืนตัวตรงแล้วดับบุหรี่ “เข้าไปข้างในกันเถอะ โหรวโหรวน่าจะเสร็จแล้ว เธอยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ในวันนี้ ที่ฉันมานี่ก็เพื่อจะปลอบใจเธอ”
“เซียวเหยา” ขณะที่เซียวเหยากำลังเดินไปที่ประตู จู่ๆ เซียวเจี่ยนก็เรียกเขา เซียวเหยาหยุดและหันกลับมามอง เซียวเจี่ยนก็ดับบุหรี่เหมือนกัน แล้วโยนก้นบุหรี่ลงถังขยะ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเซียวเหยา ถามว่า “ทำไมโหรวโหรวถึงถูกลักพาตัว เธอถูกลักพาตัวเพราะเฉียวเหลียงใช่ไหม”
เซียวเหยาชะงัก จ้องหน้าเซียวเจี่ยนอย่างใช้ความคิด แล้วยิ้มออกมาทันที “คำถามนี้นายควรไปถามโหรวโหรวเองดีกว่า”