ตอนที่ 1622 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (9)
“เฮ้อ ถึงข้าจะอยากต้อนรับ “แขก” ให้ดี แต่พวกเจ้ากลับรังแกศิษย์ข้า เห็นที ข้าคงคุยด้วยดีๆไม่ได้แล้ว” ชายชราตัวเล็กถอนใจเบาๆ ราวกับเสียใจอยู่ไม่น้อย
[บังอาจเรียกเสี่ยวหย่าของพวกเขาว่า “อีตัว” งั้นหรือ?]
[คนพวกนี้ไม่จําเป็นต้องมีชีวิตอยู่แล้ว]
ในค่ำคืนนั้น การสังหารหมู่นองเลือดได้ดําเนินไปอย่างเงียบเชียบ ไม่มีการต่อสู้ที่รุนแรง ไม่มีการปะทะกันของพลังวิญญาณ พวกคนชุดดําแค่เห็นว่าชายชราตัวเล็กก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ แล้วร่างที่มีหลังค่อมนั้นก็ส่องแสงออกมาเล็กน้อย พอร่างที่เปล่งแสงนั้นหายไปจากสายตา ทุกคนก็พลันรู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งมากจนพวกเขาแทบหายใจไม่ออก
ทันใดนั้น คนชุดดําสิบกว่าคนรวมทั้งผู้ใช้พลังวิญญาณสีเงินที่แข็งแกร่งอีกสองสามคนกระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยโดยที่ยังไม่ทันได้ส่งเสียงร้อง เลือดเนื้อสาดกระจายไปทั่วบริเวณย้อมพื้นภายใต้แสงจันทร์ให้กลายเป็นสีแดง!
เลือดเนื้อโปรยปรายลงมาราวกับฝนที่ตกลงมาบนพื้นก่อให้เกิดเสียงเปาะแปะดังต่อเนื่อง
ซูหย่าและเทียนเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย มองดูชายชราที่ยืนเอามือไพล่หลังอยู่ท่ามกลางฝนเลือด
นั่นคือคนที่ทําให้สิบสองวิหารและเก้าอารามจําต้องหวาดกลัว!
อาจารย์ของพวกเขา!
หลังจากสังหารยอดฝีมือที่แข็งแกร่งไปมากกว่าสิบคนในชั่วพริบตา ชายชราตัวเล็กก็เหยียบไปบนคราบเลือดและเศษเนื้อที่กระจายอยู่เต็มพื้น เขาเดินช้าๆตรงไปที่ซูหย่า ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มซุกซนประดับไว้ ดวงตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่งฉายแววรื่นเริงสนุกสนานขณะมองไปที่ซูหย่าด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“เสี่ยวหย่า อย่าโกรธเลย อาจารย์แก้แค้นให้เจ้าแล้ว มาๆๆ เจ้าไม่ได้ออกจากหอเก็บเหล้ามานาน วันนี้ได้ออกมาทั้งที มาดื่มเป็นเพื่อนอาจารย์หน่อย”
หลังจากทําการสังหารหมู่สร้างพายุฝนเลือดไปหยกๆ ชายชราก็เปลี่ยนกลับไปเป็นคนแก่ขี้เล่นที่ยิ้มแย้ม แล้วชวนลูกศิษย์ตัวเองไปดื่มเหล้า
แต่ซูหย่ามองใบหน้ายิ้มแย้มของชายชรา แล้วเม้มปากอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า
“ไม่ล่ะ ข้าเหนื่อย” พูดจบ ซูหย่าก็หันหลังจากไป ไม่ยอมพูดกับชายชราอีก
ชายชราอ้าปากค้างและทําได้แค่จ้องมองไปยังด้านหลังที่มุ่งมั่นของซูหย่า สายตาของเขาแสดงถึงความสิ้นหวังและหมดหนทาง
“เฮ้อ” ชายชราถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่มีท่าทางก้าวร้าวดุดันหรือภูมิใจเลยแม้แต่น้อย มีเพียงความหงอยเหงาอย่างเดียวเท่านั้น เขาก้มหน้าเล็กน้อยและเดินจากไปพร้อมกับถอนหายใจ ด้านหลังของเขาที่อยู่ภายใต้แสงจันทร์ดูน่าสงสารไม่น้อย
เทียนเจ๋อมองอาจารย์กับศิษย์พี่ของเขาอย่างจนปัญญา [สถานการณ์เป็นแบบนี้มากี่ปีแล้ว?]
[เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตนั่น ศิษย์พี่ยังคลี่คลายปมในใจไม่ได้เลย]
[ในใจอาจารย์ คงหวังไว้มากว่าจะสามารถกลับมาคืนดีกับศิษย์พี่ได้ซินะ]
“เสี่ยวเทียน” ชายชราเดินไปข้างหน้าประมาณ 10 ก้าวก็หยุด
สายตาของเทียนเจ๋อเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที ชายชราเป็นเช่นนี้ทําให้เขารู้สึกสงสารมาก
ชายชราตัวเล็กหันหน้ากลับมามองเทียนเจ๋อ
“ก่อนรุ่งสาง ทําความสะอาดที่นี่ให้เรียบร้อย อย่าทําให้พวกเด็กๆตกใจกลัว อาจารย์จะกลับไปพักผ่อนก่อน” พูดจบชายชราก็หันกลับและเดินจากไปทันที
เทียนเจ๋อรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า
[นี่มันจะปฏิบัติต่างกันมากเกินไปแล้ว!]
[ศิษย์พี่เป็นศิษย์ของท่าน ข้าก็เป็นศิษย์ของท่านเหมือนกันนะ ทําไมถึงโยนงานเหนื่อยงานสกปรกมาให้ข้าตลอดเลย!]
เทียนเจ๋อพลันรู้สึกเสียดายความสงสารที่เขามีให้กับชายชราเมื่อครู่
เขาต่างหากคือคนที่น่าสงสารที่สุด!!