ตอนที่ 382 ความจริงที่น่าตกใจ / ตอนที่ 383 ที่แท้ความจริงก็เป็นแบบนี้

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 382 ความจริงที่น่าตกใจ 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยได้ยินแล้วก็พยักหน้า หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาผู้ช่วย ขอให้เขาตรวจสอบทุกอย่างก่อนที่เฉิงเฮ่าจะไปต่างประเทศ รวมถึงตรวจสอบเรื่องหลังจากที่เฉิงเฮ่าไปต่างประเทศแล้ว 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเห็นเผยหนานเจวี๋ยที่ไม่มีทีท่าจะจากไป จึงรินน้ำให้เขาอีกแก้ว เพื่อประโยชน์ในการเป็นหุ้นส่วนของพวกเขาสองคน จึงไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ของกันและกันตึงเครียดจนเกินไป 

 

 

           “เขาเพิ่งแย่งการเสนอราคาจากบริษัทของผม เรื่องนี้คุณน่าจะรู้มั้ง ผมรู้สึกว่าเป้าหมายที่เขากลับมาไม่ธรรมดาแน่” ท่าทางของเผยหนานเจวี๋ยเปลี่ยนเป็นกำลังพินิจพิเคราะห์ 

 

 

นึกถึงเรื่องที่ฉู่อีอีหายตัวไปอย่างแปลกประหลาดและบริษัทของตัวเองก็เสียธุรกิจใหญ่เพราะเขา ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเฉิงเฮ่าไม่ใช่คนธรรมดา เป้าหมายในการกลับมาที่นี่ของเขาจะต้องไม่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน 

 

 

ฉู่เจียเสวียนได้ยินเผยหนานเจวี๋ยแล้วไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่เริ่มจมอยู่ในความคิดเช่นกัน 

 

 

ในสมองนึกถึงตอนที่เจอเฉิงเฮ่ากับฉู่อีอีพลอดรักกันริมถนนคราวก่อน สองคนราวกับว่ากำลังคุยอะไรกันอยู่ หรือว่าเฉิงเฮ่าจะกลับมาเพราะฉู่อีอี? 

 

 

ฉู่เจียเสวียนคาดเดาอยู่ในใจไม่หยุด อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากผู้ช่วยของเผยหนานเจวี๋ยได้รับคำสั่งของเขาแล้ว ก็เริ่มสืบข้อมูลขณะที่เฉิงเฮ่าอยู่ในประเทศ 

 

 

แม้ว่าเขาจะแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าทำไมเผยหนานเจวี๋ยถึงให้เขาสืบเรื่องเฉิงเฮ่าอีก แต่ว่าในเมื่อเขาสั่งให้สืบแล้ว เขาก็ต้องสืบ เขาไม่ควรสงสัยในคำสั่งของเจ้านาย  

 

 

เขานำข้อมูลที่สืบได้ก่อนหน้านี้เข้าระบบคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ไม่ช้าก็สืบเรื่องของเฉิงเฮ่าขณะที่อยู่ในประเทศเจอ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าขณะที่เฉิงเฮ่าอยู่ในประเทศนั้นได้คบหากับฉู่อีอีจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เผยหนานเจวี๋ยก็คบกับฉู่อีอีไม่ใช่เหรอ 

 

 

ผู้ช่วยตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาเผยหนานเจวี๋ย ในหัวกำลังคิดว่าจะบอกเรื่องที่เพิ่งสืบเจอให้เขาฟังอย่างไร 

 

 

เผยหนานเจวี๋ยกับฉู่เจียเสวียนสองคนนั่งอยู่บนโซฟาด้วยความเคยชิน ไม่มีใครพูดอะไร จู่ๆ เสียงริงโทนดังขึ้นกะทันหัน เผยหนานเจวี๋ยรีบรับทันที 

 

 

“สืบเจอแล้วเหรอ” เผยหนานเเจวี๋ยถาม ฟังอารมณ์ในน้ำเสียงไม่ออก 

 

 

 “ประธานเผย เจอแล้วครับ แต่ว่า…” ผู้ช่วยไม่รู้จริงๆ ว่าควรเอ่ยปากอย่างไร ถ้าปล่อยให้เขารู้เรื่องนี้เขาจะยอมรับมันได้อย่างไร 

 

 

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็หาข้อมูลของเฉิงเฮ่าแล้วแต่ก็หาเรื่องนี้ไม่เจอ ทำไมคืนนี้จึงหาได้เร็วแบบนี้ หรือว่าก่อนหน้านี้มีใครเข้ามายุ่มย่าม? 

 

 

ระหว่างกำลังครุ่นคิด เสียงที่มืดมนของเผยหนานเจวี๋ยก็ดังขึ้น “พูด” 

 

 

ผู้ช่วยสูดหายใจลึก รู้ดีว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องบอกเรื่องนี้กับเผยหนานเจวี๋ย ฉะนั้นจึงเล่าข้อมูลที่สืบได้ทั้งหมดให้กับเผยหนานเจวี๋ยฟัง 

 

 

ยิ่งฟังสีหน้าของเผยหนานเจวี๋ยยิ่งดูไม่ได้ แววตาก็ยิ่งมืดมนลงทุกที 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนนั่งอยู่อีกทางหนึ่ง มองสีหน้าของเผยหนานเจวี๋ยที่ยิ่งน่าเกลียดขึ้นทุกที คิ้วก็ขมวดตามไปด้วย เขาเป็นอะไรไปกันแน่ ทำไมสีหน้าของเขาถึงเปลี่ยนเป็นน่ากลัวแบบนี้ 

 

 

           ถ้าหากเป็นฉู่เจียเสวียนเมื่อก่อน เห็นสีหน้าของเขาแบบนี้ คิดว่าจะต้องกลัวอย่างมากแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ เธอเปิดใจกว้างต่อเขา และไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด 

 

 

           หลังจากที่เผยหนานเจวี๋ยวางหูแล้ว ฉู่เจียเสวียนจึงเอ่ยปาก “เป็นไงบ้าง ทำไมคุณถึงทำหน้าน่ากลัวแบบนั้นล่ะ? 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเงยหน้ามองดูฉู่เจียเสวียน ความรู้สึกซับซ้อนวูบผ่านแววตา เรื่องนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดกับเธออย่างไรดี 

 

 

           “ตอนที่เฉิงเฮ่ายังอยู่ในประเทศเขาเคยเสพยา เพราะว่าถูกคนรายงานก็เลยต้องออกนอกประเทศ ส่วนฉู่อีอีก็มีความสัมพันธ์แบบชู้สาวกับเขา พอออกไปเมืองนอกแล้ว เฉิงห่าวยังเป็นบุคคลอันตรายอันดับหนึ่ง ชอบเสพยา แถมยังค้าขายอาวุธด้วย แต่ว่าแปลกมาก ก่อนหน้านี้ข่าวพวกนี้ ทั้งๆ ที่ผมให้หยางฮุยสืบมาครั้งนึงแล้ว แต่ว่าตอนนั้นสืบไม่เจออะไร ทำไมครั้งนี้ถึงสืบเจอเร็วแบบนี้” 

 

 

 

 

 

       ตอนที่ 383 ที่แท้ความจริงก็เป็นแบบนี้ 

 

 

           เหตุผลที่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้มีเพียงสองอย่าง ข้อหนึ่ง คือเขาเข้ามายุ่มย่ามตั้งแต่แรก ข้อสอง คือเขาตั้งใจเผยแพร่ข่าวนี้ออกมา 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินเผยหนานเจวี๋ยแล้ว คิ้วขมวดกัน เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าเฉิงเฮ่าจะเป็นบุคคลอันตราย ฉู่อีอีคบกับคนแบบนี้ได้อย่างไร 

 

 

           คนที่ประหลาดใจที่สุดก็คือเผยหนานเจวี๋ย ในหัวใจของเขา ฉู่อีอีคือคนที่จิตใจดีงามมาตลอด แต่ว่าตอนนี้ เมื่อรู้ว่าเธอเคยคบกับเฉิงเฮ่าแล้ว ความประทับใจอันดีทั้งหมดที่มีต่อเธอดูเหมือนจะพังทลายลงโดยพลัน 

 

 

           ในหัวอดไม่ได้ที่จะนึกถึงตอนที่เธอกลับมา กอดเขาและร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก ใบหน้าที่ระแวดระวังเปี่ยมไปด้วยความกลัว สภาพของเธอแบบนั้นซีดขาวราวกับกระดาษ 

 

 

           ที่แท้ทั้งหมดนี้เป็นเพียงวิธีการที่เธอใช้เพื่อหลอกเขาเท่านั้น 

 

 

           แม้ว่าฉู่เจียเสวียนจะประหลาดใจมากที่ฉู่อีอีทำเรื่องมากมายขนาดนั้นร่วมกันกับเฉิงเฮ่า แต่ว่าเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว และเมื่อเห็นสีหน้าของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่เจียเสวียนก็รู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยรับไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ด้วยกันแล้ว เขาก็ควรเชื่อเธอ 

 

 

           “เขาเป็นคนที่คุณรัก คุณควรจะเชื่อเขา” ฉู่เจียเสวียนมองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมเอ่ย น้ำเสียงมีความแน่วแน่ 

 

 

           ในเมื่อเขารักฉู่อีอีมากขนาดนั้น ก็ควรจะเชื่อในตัวเธอ แทนที่จะปฏิเสธเธอจากข้อมูลที่สืบพบ 

 

 

           สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เหยียบย่ำความสุขของเธอจึงเดินมาถึงทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เหรอ 

 

 

           ตั้งแต่ตอนที่ฉู่อีอีหาเรื่องฉู่เจียเสวียนในลานจอดรถ เผยหนานเจวี๋ยก็พบว่าฉู่อีอีเปลี่ยนไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ในใจของเขากลับพร่ำบอกเสมอว่าเขาต้องเชื่อเธอ แต่เธอกลับทำรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไร้เหตุผลมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งเธอยังหลอกเขาหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้มันยากที่เขาจะเชื่อเธออีกแล้ว 

 

 

           “ฉู่อีอีคือคนที่คุณรัก และเขาก็รักคุณ ฉันดูออกว่าเขาจริงใจกับคุณ ฉะนั้นไม่ว่าในอดีตฉู่อีอีจะเคยทำอะไร คุณก็ควรเลือกที่จะให้อภัย เอาล่ะ ดึกมากแล้ว คุณกลับไปเถอะ ฉันก็จะพักผ่อนแล้ว” ฉู่เจียเสวียนมองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมพูดขับไล่ 

 

 

           เธอไม่ได้พูดเพื่อฉู่อีอี เธอเพียงแค่รู้สึกว่าฉู่อีอีจริงใจต่อเผยหนานเจวี๋ย แม้ว่าตอนนั้นเธอจะใช้วิธีการที่ผิด แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นเป็นอดีตไปแล้ว และเธอไม่อยากจะสนใจเรื่องของพวกเขาอีก 

 

 

           ได้ยินฉู่เจียเสวียนแล้ว เผยหนานเจวี๋ยยกมือขึ้น เหลือบมองเวลาบนนาฬิกาข้อมืออาร์มานี่รุ่นลิมิเต็ด ดึกขนาดนี้แล้ว เขาควรจะไปแล้วจริงๆ 

 

 

           คิดถึงตรงนี้ เผยหนานเจวี๋ยก็ลุกขึ้นยืนทันทีโดยไม่ลังเล เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉู่เจียเสวียน “ดูแลตัวเองให้ดี” พูดจบ ก็ไปจากวิลล่าของฉู่เจียเสวียน 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ที่ระเบียง มองดูรถของเผยหนานเจวี๋ยที่ยิ่งไกลออกไป ไม่เพียงแต่รู้สึกน่าขัน แต่เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมคืนนี้เผยหนานเจวี๋ยถึงพูดเรื่องพวกนี้กับเธอ 

 

 

           ช่างเถอะ ช่างเขาประไร ถึงอย่างไรตอนนี้พวกเขาสองคนก็ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ แล้ว ระหว่างเขากับฉู่อีอีจะเป็นอย่างไรนั้นก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ทำไมเธอต้องเดือดร้อนแทนน้องสาวด้วย 

 

 

           เธอเดินมาถึงทุกวันนี้ได้อย่างยากลำบาก เธอจะไม่ยอมให้ตัวเองเข้าไปพัวพันใดๆ กับเผยหนานเจวี๋ยอีก 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่ในรถ นึกถึงท่าทีที่ฉู่เจียเสวียนมีต่อเขาในคืนนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าฉู่เจียเสวียนเปลี่ยนไปมาก สามปี ในสามปีนั้น เธอเจอเรื่องอะไรมาบ้าง ถึงทำให้เธอเปลี่ยนไปจนสว่างสดใสกว่าดวงดาวเสียอีก? 

 

 

           ตอนนั้นถ้าหากเขาไม่ปล่อยมือ ไม่บังคับให้เธอหย่ากับเขา ก็จะไม่เป็นอย่างทุกวันนี้ใช่ไหม 

 

 

           แต่ว่านั่นกลายเป็นอดีตไปแล้ว เขาไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ระยะหลังนี้เขามักจะเริ่มหวนรำลึกถึงอดีต รำลึกถึงวันเวลาที่อยู่ด้วยกันกับฉู่เจียเสวียน