ตอนที่ 238 คบกับผู้ชายกากเดน / ตอนที่ 239 เรือล่ม

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 238 คบกับผู้ชายกากเดน 

 

 

           เจียงมู่เฉินขลุกตัวอยู่บนโซฟานุ่ม กินไปด้วย บ่นกับมั่วไป๋ไปด้วย ยังพูดกันไปได้ไม่เท่าไหร่ ที่ประตูบานใหญ่ก็มีเสียงคนตบประตูดังขึ้นมาต่อเนื่อง 

 

 

           เจียงมู่เฉินมองมั่วไป๋อย่างจริงจัง “ช่วงนี้หรือว่านายจะถือโอกาสตอนที่ฉันไม่อยู่ ไปยืมเงินกู้ดอกเบี้ยสูงอะไรมา คนเขาเลยมาทวงเงินนายตอนนี้” 

 

 

           “ฉันดูเหมือนคนยืมเงินกู้ดอกเบี้ยสูงเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินครุ่นคิดอย่างจริงจังสักพัก ก่อนส่ายหัว “นายเองไม่ได้ขาดเงิน ไม่ถึงกับต้องไปยืมเงินกู้ดอกเบี้ยสูงมา” 

 

 

           เสียงตบประตูดังสนั่นขึ้นมาเป็นระลอกต่อกันอีกครั้ง 

 

 

           “หรือว่านายไปเล่นกับความรู้สึกของเด็กหนุ่มที่ไหนมา คนเขาถึงได้ทุ่มเทมาหานายถึงที่” 

 

 

           มั่วไป๋มุมปากกระตุก ไม่ค่อยอยากจะพูดกับเจียงมู่เฉินแล้ว ลุกยืนขึ้นเดินไปเปิดประตู 

 

 

           เขายื่นมือไปเปิดประตูมาก็เห็นไป๋จิ่งยืนฟุ้งซ่านอยู่หน้าประตู “มีคนอยากฆ่าผม” เขาเพิ่งจะเตรียมฟ้องก็เห็นเจียงมู่เฉินที่อยู่ข้างๆ มั่วไป๋ 

 

 

           เขาตะลึงงันอยู่ครู่หนึ่ง “ทำไมที่นี่ก็มี…” พูดจบก็ตบประตู แล้วปิดประตูไป 

 

 

           มั่วไป๋หันกลับมามองเจียงมู่เฉินแวบหนึ่ง ทั้งสองคนอดจะกระตุกมุมปากพร้อมกันไม่ได้ 

 

 

           เขาเปิดประตูมาอีกครั้ง ไป๋จิ่งยังยืนอยู่ที่เดิม เขากะพริบตาเอ่ยถาม “เจียงมู่เฉินที่ผมเพิ่งเห็นเมื่อกี้นี้เป็นภาพหลอนใช่ไหม” 

 

 

           มั่วไป๋ฉุดคนให้เข้ามา ปิดประตูเสร็จสรรพอย่างคล่องแคล่วว่องไว “นายไปถามเองดูว่าเขาใช่ภาพหลอนหรือเปล่า” 

 

 

           …ไป๋จิ่งยังไม่ได้สติกลับมาจากโลกที่ซือเหยี่ยนเตรียมจะใช้เชือกรัดคอเขาตาย เขากวาดสายตามองเจียงมู่เฉินแวบหนึ่ง แล้วกลับมามองมั่วไป๋ รีบสวมกอดมั่วไป๋ทันที 

 

 

           “ซือเหยี่ยนของเขาอยากฆ่าผม” 

 

 

           เจียงมู่เฉินเลิกคิ้ว “โอ้ วันนี้เขาถึงเพิ่งจะอยากฆ่านายเหรอ” 

 

 

           “หืม?” หรือว่าเมื่อก่อนซือเหยี่ยนเคยพูดกับเจียงมู่เฉินว่าอยากจะฆ่าเขา 

 

 

           “ทนอยู่กับนายมาได้นานขนาดนี้โดยไม่ลงมือฆ่านาย ซือเหยี่ยนของฉันช่างเป็นเซียนจริงๆ ถ้าฉันเป็นเขา นายควรจะตายไปตั้งนานแล้ว จะยังมาขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ จนถึงตอนนี้ได้เหรอ” 

 

 

           ไป๋จิ่ง “= : =” 

 

 

           มั่วไป๋กุมขมับ สองคนนี้ไม่มีใครปกติสักคน เขาแกะมือที่โอบรัดเขาอย่างแน่นสนิทของไป๋จิ่ง ไป๋จิ่งเจ้าหมอนี่แรงเยอะเกินไปจริงๆ จะแกะมือออกอย่างไรก็แกะไม่ออก สุดท้ายทำได้แค่โดนเขากอดอยู่แบบนี้ 

 

 

           มั่วไป๋นั่งอยู่บนโซฟาเอนซบพิงร่างของไป๋จิ่ง เอ่ยถามเสียงต่ำ “ทำไมซือเหยี่ยนถึงอยากจะฆ่านายเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินดื่มกาแฟไป พลางเอ่ยอย่างเฉยเมย “จะเพราะอะไรได้อีก ก็เพราะเขามันเป็นกากเดนไง”  

 

 

           …ไป๋จิ่งโมโหแล้ว อะไรก็ว่าเขาเป็นกากเดน คนดีศรีศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดจะใช่กากเดนที่ไหนกัน 

 

 

           “พอเถอะ นายไม่ต้องพูดแล้ว” มั่วไป๋กวาดสายตามองเจียงมู่เฉินแวบหนึ่ง 

 

 

           เจียงมู่เฉินยักคิ้ว ดื่มกาแฟอย่างจริงจัง 

 

 

           ไป๋จิ่งมองเจียงมู่เฉินด้วยท่าทียั่วยุไปแวบหนึ่ง มีมั่วไป๋ของเขาอยู่ มั่วไป๋ถึงทำใจเห็นตัวเองโดนเจียงมู่เฉินรังแกไม่ได้ 

 

 

           ไป๋จิ่งแนบใบหน้าคลอเคลียใบหน้าของมั่วไป๋ 

 

 

           มั่วไป๋สีหน้าดำคร่ำเครียด ท่าทางของเขาเหมือนกำลังคลอเคลียหมาอยู่ไม่มีผิด นี่หมายความว่าไง เขาเอามือผลักไป๋จิ่งให้ถอยหลังอย่างไม่ลังเล 

 

 

           เจียงมู่เฉินเอาแต่พินิจมองพวกเขาสองคนอยู่ครู่ใหญ่ เขาเลิกคิ้ว เอ่ยถาม “พวกนายทำกันแบบนี้ไม่ค่อยถูกนะ” 

 

 

           ไป๋จิ่งเด้งตัวออกมา “ไม่ถูกยังไง มั่วไป๋ตกลงยอมคบกับฉันแล้ว กอดสักหน่อยผิดตรงไหน” 

 

 

           “นายคบกับผู้ชายกากเดนจริงๆ เหรอ”  

 

 

           “นายนั่นแหละผู้ชายกากเดน” ไป๋จิ่งโต้แย้งเงียบๆ 

 

 

           เจียงมู่เฉินไม่สนใจเขา สายตาของเขามองมาแต่ที่มั่วไป๋ ไป๋จิ่งสำหรับเขาแล้วเป็นเพียงอากาศธาตุอย่างไรอย่างนั้น มองไม่เห็นโดยสิ้นเชิง 

 

 

           “อืม ฉันรับปากเขา” มั่วไป๋พยักหน้า 

 

 

           “เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่” 

 

 

           “ช่วงที่นายไม่อยู่” มั่วไป๋เอ่ยตอบเสียงต่ำ “ฉันคิดดูแล้ว ลองกับเขาดูได้ แต่ตอนนี้พวกเรายังอยู่ในช่วงทดลองใช้” 

 

 

           “ไม่ช้าก็เร็วจะสามารถเลื่อนขั้นเป็นตัวจริงได้” 

 

 

           คำพูดนี้ของไป๋จิ่งถูกทั้งสองคนนี้มองข้ามไปอย่างเงียบๆ… 

 

 

           “นายยังทดลองใช้กับเขาอยู่เหรอ เขามีอะไรน่าทดลองใช้ ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรงทั้งหมด อีกอย่างหน้าตาเจ้าชู้แบบนี้ ไม่แน่ว่าจะยังมีโรคพูดโกหก พูดไม่น่าเชื่อถืออะไรอีกด้วยนะ” 

 

 

            

 

 

ตอนที่ 239 เรือล่ม 

 

 

           เจียงมู่เฉินเข้าไปใกล้ “ต้องการให้ฉันแนะนำหมอให้นายหรือเปล่า นายไปตรวจดูสักหน่อยไหม” 

 

 

           เขากอดมั่วไป๋ให้ห่างจากเจียงมู่เฉิน “นายมาที่นี่ทำไม” 

 

 

           เจียงมู่เฉินรู้สึกสดชื่นแล้ว คิดไม่ถึงว่าไป๋จิ่งจะถามเขาว่ามาที่นี่ทำไม 

 

 

           “ฉันยังไม่ได้ถามนายด้วยซ้ำว่ามาที่นี่ทำไม นายยังไม่กระดากใจถามฉันอีกเหรอ” 

 

 

           “ฉันมาดูแลหัวใจไม่ได้เหรอ ตอนนี้พวกเราคบกันโดยชอบธรรมอย่างเปิดเผย” 

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะ “คุณชายก็มาดูแลหัวใจไม่ได้เหรอ” เขาเข้าไปกอดมั่วไป๋ไว้ ทำเสียงจิ๊จ๊ะ หอมแก้มมั่วไป๋ “ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันเองก็จะจีบมั่วไป๋…ให้เขาคบผู้ชายกากเดนแบบนายสู้ฉันเก็บเขาไว้ดีกว่า” 

 

 

           “นายจีบมั่วไป๋เหรอ แล้วซือเหยี่ยนล่ะ จะรักสามเส้า เราสามคนเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินลูบคาง คิดทบทวนอย่างจริงจังพักหนึ่ง รู้สึกว่าความคิดนี้ไม่เลวทีเดียว เขากอดมั่วไป๋ดวงตาลุกวาว “เป็นไง นายกับฉัน คุณชายจะดูแลนายอย่างดีเลย” 

 

 

           ไป๋จิ่งเห็นสถานการณ์ดูท่าจะไม่ดี จึงรีบส่งข้อความหาซือเหยี่ยน  

 

 

           [คุณชายน้อยของนายอยากจะปีนกำแพง ถ้านายไม่สนใจอีก เขาจะหนีไปกับคนอื่นแล้ว] 

 

 

           ซือเหยี่ยนนั่งอยู่ในห้องทำงาน เห็นข้อความนี้ ก็เลิกคิ้วในทันใด  

 

 

           [ที่ไหน] 

 

 

           ตอนที่ไป๋จิ่งเอาที่อยู่ส่งให้ซือเหยี่ยน ซือเหยี่ยนก็อยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว มุ่งหน้าไปยังจุดหมายพร้อมรังสีอำมหิต 

 

 

           ‘เจียงมู่เฉินอยากจะปีนกำแพงเหรอ’ 

 

 

           ‘ขอเพียงมีเขาอยู่ ไม่มีทาง’ 

 

 

           …… 

 

 

           เจียงมู่เฉินยังไม่รู้ว่ามีใครบางคนแอบคาบข่าวไปฟ้องให้อีกคนตามมาแล้ว เขายังทำหน้าตาอยากได้กอดแขนมั่วไป๋อยู่ “ยอมตกลงกับคุณชายโอเคไหม คุณชายอ่อนโยน เอาใจใส่ อะไรๆ ก็ดีกว่าผู้ชายกากเดนคนนั้นใช่ไหม” 

 

 

           ไป๋จิ่งได้ยินคำพูดนี้ยิ่งโกรธจนหน้ามืดตามัว แต่พอคิดว่าใช้เวลาอีกไม่นาน ก็จะมีคนมาสั่งสอนเขาแทนตัวเองแล้ว คิดมาแบบนี้ในใจก็สบายขึ้นแล้ว 

 

 

           ไป๋จิ่งกระชับมือแน่นขึ้น “นายอย่าหมายปองมั่วไป๋ของฉันเลย” 

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะ “นายอย่าลืมสิ ว่านายก็คือช่วงทดลองใช้ ยังไงก็ตกรอบได้ ยังจะมามั่วไป๋อะไรของนายอีก เรียกซะสนิทกันจริงๆ” 

 

 

           ไป๋จิ่งขบกราม ครุ่นคิดอย่างจริงจังว่าตอนเช้าเขากินยาไม่เขย่าขวดมาหรือเปล่าถึงได้คิดจะพูดโน้มน้าวซือเหยี่ยนแบบนั้น 

 

 

           ‘ควรจะเลิกๆๆๆ แบบนี้ไม่เลิกกันแล้ว จะเก็บไว้ฉลองปีใหม่เหรอ’ 

 

 

           พวกเขาสองคนทะเลาะกันจนทำให้มั่วไป๋ปวดหัว ทำหน้าเย็นชานั่งอยู่ตรงกลาง โดนพวกเขาดึงไปดึงมา พออีกนิดเดียวใกล้จะระเบิดอารมณ์ออกมา มือถือของไป๋จิ่งก็สั่นขึ้นมา 

 

 

           เขาหยิบออกมาอ่านก็เห็นสองคำนี้ 

 

 

           [เปิดประตู] 

 

 

           แผนร้ายฉายสะท้อนในแววตาไป๋จิ่งขึ้นมาวาบหนึ่ง เขาจูบมั่วไป๋แล้วรีบกระโดดหนี “นายอย่ามาจูบมั่วไป๋ของฉันตามใจชอบสิ”  

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกราม ไม่ให้จูบ เขากลับจะจูบ เขากอดมั่วไป๋ไว้แล้วจูบเข้าไปหนักๆ แรงๆ ไป๋จิ่งเหลือบมอง เมื่อได้เวลาเหมาะก็เปิดประตูทันที 

 

 

           ซือเหยี่ยนยืนอยู่หน้าประตูเห็นเจียงมู่เฉินที่กอดจูบมั่วไป๋แล้ว เส้นเลือดตรงขมับก็อดจะกระตุกขึ้นมาไม่ได้ 

 

 

           เจียงมู่เฉินเพิ่งจะจูบเสร็จ ก็พูดเกทับเสียงสูงกับไป๋จิ่ง “จูบฉันก็จูบแล้ว นายจะว่าอะไร…ฉัน…ล่ะ…” 

 

 

           ซือเหยี่ยนมุมปากกระตุกแล้วกระตุกอีก สีหน้าดำดิ่งในอารมณ์เพียงเสี้ยวนาที 

 

 

           เจียงมู่เฉินรู้สึกหนาวๆ ที่คอจึงรีบเงยหน้าขึ้นมาทันที ยามสายตามองเห็นใบหน้าดำคร่ำเคร่งของซือเหยี่ยนก็ตะลึงงันไปในชั่วพริบตา… 

 

 

           เขามองดูมือตัวเองที่กอดมั่วไป๋ไว้ พลางคิดว่าเมื่อครู่นี้ตัวเองทำอะไรลงไป จากนั้นก็เด้งตัวจากโซฟามายืนตัวตรงราวกับทหารอย่างไรอย่างนั้น “นาย…นาย…นายมาได้ยังไงกัน” 

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มเยาะ “อะไรกัน คุณจะปีนกำแพงหนีไปแล้ว ผมจะไม่มาได้ยังไง” 

 

 

           เจียงมู่เฉิน “…” 

 

 

           มั่วไป๋ “…” 

 

 

           ไป๋จิ่งลำพองใจ มาเล่นกับฉัน นายมันยังเด็กไป ใครใช้ให้นายมากอดมาจูบเมียฉัน ตอนนี้เรือล่มแล้วล่ะสิ