สีหน้าของเย่เซิ่งเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก ราวกับว่าถูกฟ้าผ่า เขาผู้ที่ไม่เคยแสดงความสุขและความโกรธแค้นบนใบหน้ามาโดยตลอด เสียอารมณ์ไปชั่วขณะ
ซือซือถูกลักพาตัวไป!
องครักษ์เงาที่ปกป้องซือซือ ถูกฆ่าตายทั้งหมด!
แม้แต่หัวหน้าทีมซูหลง ก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะเสียชีวิต!
ทีมงานเล็กๆ นั้น มีองครักษ์เงาถึงสี่คนเลยทีเดียว!
ในตอนนี้ พวกเขากลับตายกันทั้งหมดกันเหรอ!
ใครกัน ที่มีความกล้าขนาดนี้ กล้าโจมตีองครักษ์เงางั้นเหรอ?
แต่ตอนนี้ เย่เซิ่งเทียนไม่มีเวลาที่จะไปคิดมากขนาดนั้น ข่าวข้อนี้ มันน่าตกใจมากเหลือเกิน!
การเปลี่ยนสีหน้าอย่างกะทันหันของเย่เซิ่งเทียน และเสียมารยาทที่ผิดปกติ ทำให้หลี่หลาน หวางซีและหลันรั่วรั่วต่างพากันตกใจไปด้วย
“เซิ่งเทียน เป็นอะไรเหรอ?”
หวางซีรู้สึกกังวลอย่างไม่มีเหตุผล เรื่องที่สามารถทำให้เย่เซิ่งเทียนเสียมารยาทได้ขนาดนี้ และแม้กระทั่งสามารถบอกว่าได้ตื่นตระหนกนั้น ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างแน่นอน
“มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!”
หลี่หลานถามอย่างเร่งรีบว่า
เมื่อเห็นแม่ยายและภรรยาถามอย่างเป็นห่วง เย่เซิ่งเทียนก็รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ และหัวใจของเขาก็กระตุกอย่างแรง ราวกับว่าถูกคนอื่นแทงเข้าไปด้วยมีด
แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถทำให้พวกเขากังวล พวกเขาไม่สามารถทนต่อแรงกระตุ้นที่ซือซือถูกพรากไป
อีกอย่าง ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครจับตัวซือซือไป!
สมองของเย่เซิ่งเทียนมึนไปครู่หนึ่ง สงบสติอารมณ์ ฝืนรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย และปลอบโยนว่า “ไม่มีอะไร ผมจะไปรับซือซือแล้ว อืม คืนนี้ผมขอพาซือซือออกไปทานข้าวกับเพื่อนรบของผม คุณแม่ ซีเอ๋อร์ ไม่ต้องรอผมแล้ว”
หลังจากพูดอย่างนั้น เย่เซิ่งเทียนออกจากบ้านเหมือนดั่งหนีตาย
หัวใจของหวางซีเต้นแรงโดยไม่ตั้งใจ และเธอขมวดคิ้ว โดยรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่ได้คิดมาก
“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม?”
หลี่หลานบ่นไปคำหนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงหวางซี แม้เธอก็รู้สึกว่าเย่เซิ่งเทียนต้องปิดอะไรแน่นอน
มิฉะนั้นด้วยทัศนคติที่ไม่มีความตื่นเต้นของเย่เซิ่งเทียนในเวลาธรรมดา เขาจะดูเสียมารยาทเช่นนี้ได้อย่างไร?
และในเวลานี้ หลังจากที่เย่เซิ่งเทียนออกจากบ้านไป มีรถออฟโรดรออยู่ข้างนอกแล้ว
เกาเจี๋ยขับรถไปด้วยและกล่าวด้วยความสำนึกผิดว่า “เจ้าเทพ นี่เป็นความผิดพลาดของเราเอง”
เย่เซิ่งเทียนส่ายหัวด้วยใบหน้าที่เย็นชา “มันไม่เกี่ยวกับพวกคุณหรอก พวกมันมุ่งเป้ามาที่ฉันต่างหาก สถานการณ์ทางซูหลงเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”
เกาเจี๋ยเช็คน้ำตาของเธอและพูดว่า “เขาเพิ่งสิ้นลมหายใจไป เขาบอกว่า ฝ่ายตรงข้ามส่งคนมาสองคน และแข็งแกร่งมาก พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะสู้กลับเลย ซูหลงเพิ่งบุกทะลุพญาบู๊ได้ไม่นาน อีกฝ่ายอย่างน้อยก็มีความแข็งแกร่งระดับนายพลหรือราชาบู๊ ”
นักบู๊ อาจารย์บู๊ ปรมาจารย์ ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ พญาบู๊ ราชาบู๊หรือนายพล เซียนบู๊หรือราชาสงคราม เทพบู๊หรือเทพสงคราม นี่คือการแบ่งแยกระดับความแข็งแกร่งของโลกบู๊ในปัจจุบัน
ในทุกระดับ ต่างมีความแตกต่างขนาดใหญ่
ซูหลงเป็นหัวหน้าทีมองครักษ์เงาเล็กนั้น ความแข็งแกร่งอยู่ในระดับพญาบู๊ สามารถถูกคนอื่นฆ่าได้อย่างง่ายดาย!
องครักษ์เงาที่เย่เซิ่งเทียนสร้างขึ้นเป็นการส่วนตัว ทุกคน ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะอยู่ในระดับของปรมาจารย์เป็นต้นไป!
มันคือหน่วยรบพิเศษที่เหนือคน และราชารบที่เหนือคน
แต่ในตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าตาย!
ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะสู้กลับ!
ฝ่ายตรงข้ามอย่างน้อยก็อยู่ในระดับนายพลหรือราชาบู๊ !
“ยังมีเบาะแสอะไรอีกไหม?”
หัวใจของเย่เซิ่งเทียนเจ็บเหมือนโดนมีดแทง คนพวกนั้นล้วนเป็นคนที่ตัวเองคัดเลือกออกมาในอดีต และพวกเขาแต่ละคนก็เป็นชายผู้กล้าหาญที่เคยหลั่งเลือด!
ในสนามรบที่อันตรายขนาดนั้น พวกเขารอดชีวิตมาได้ แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกฆ่าตายอยู่ในประเทศต้าเซี่ย!
เย่เซิ่งเทียนจะไม่รู้สึกปวดใจได้อย่างไร!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อีกฝ่ายยังจับตัวซือซือไปอีก!
เย่เซิ่งเทียนคิดไม่ออกจริงๆ ว่า เด็กอายุยังไม่ถึงสี่ขวบคนหนึ่ง จะไปทำให้ใครขุ่นเคืองกันแน่!
อีกฝ่ายต้องมาเพราะเขา แต่อีกฝ่ายไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา ก็เลยใช้วิธีที่น่ารังเกียจแบบนี้ และลงมือกับเด็กคนหนึ่ง!
คลั่งไคล้จริงๆ!!
“ฝังซูหลงและคนอื่นๆ ให้ดี และตอบแทนทางครอบครัวของพวกเขาเป็นอย่างดี!”
“เปิดใช้งานระบบข้อมูลทั้งหมด และค้นหาไอ้สารเลวสองคนนั้น และผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาทันที! ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร ฉันก็จะทำให้พวกเขาตายอย่างน่าอนาถ!!”