“จ-เจ้า… น-นี่… เจ้าได้โอสถเขตปฐพีมาจากที่ไหน” ไป่ลี่ฮัวมั่นใจว่านิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยไม่ได้มันมาจากการประมูล ในเมื่อพวกเขาไม่ได้ประมูลแม้แต่สักเม็ด
ซูหยางยิ้มและกล่าวว่า “ก็อย่างที่ท่านรู้เป็นอย่างดีแล้วตอนนี้ ข้ามีความสัมพันธ์เป็นอย่างดีกับหวางชูเหริน”
“เจ้ากำลังบอกข้าว่าเธอให้โอสถเขตปฐพีเม็ดหนึ่งแก่เจ้าในขณะที่พวกเราทั้งหมดต้องจ่ายสุดตัวเพื่อเม็ดหนึ่งงั้นรึ กระทั่งตระกูลซียังต้องจ่ายสำหรับมัน เจ้าคาดว่าข้าจะเชื่อว่าเจ้าได้รับมาฟรีเม็ดหนึ่งงั้นรึ”
“มิเพียงแต่ข้าได้รับมาฟรี แต่ข้าก็ยังรู้จักนักปรุงยาที่อยู่เบื้องหลังเม็ดยาเหล่านี้อีกด้วย” ซูหยางกล่าว
เมื่อไป่ลี่ฮัวได้ยินคำพูดของเขา ดวงตาเธอก็โตขึ้นด้วยความตกใจ เธอยืนขึ้น “เจ้ารู้จักกับนักปรุงยาที่ปรุงเม็ดยาเหล่านี้รึ ใครกัน”
“ทำไมข้าต้องบอกท่านในขณะที่กระทั่งหวังชูเหรินยังมิต้องการที่จะเปิดเผยมัน” ซูหยางส่ายหน้า “อย่างไรก็ตามข้าต้องการให้โอกาสท่านที่จะได้พบกับเขา บางทีอาจจะถึงขั้นสานสัมพันธ์ฉันเพื่อนกับเขาด้วย”
“จริงรึ เจ้าต้องการอะไรจากข้า”
“จริงแล้วง่ายดายยิ่ง ข้าต้องการให้สำนักหงส์สวรรค์ของเจ้าและนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยของข้าร่วมเป็นพันธมิตรกัน”
“…”
ไป่ลี่ฮัวขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“เจ้าเอาจริงรึ เจ้าต้องการให้สำนักหงส์สวรรค์ของข้า สำนักระดับสูงไปร่วมเป็นพันธมิตรกับนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยของเจ้าที่ใกล้ล่มสลายแล้วงั้นรึ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…” ซูหยางพลันระเบิดเสียงหัวเราะ “ใครกันที่ใกล้ล่มสลาย อีกครั้งนะรึ ข้าจักยอมให้ท่านได้รู้ว่านิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยของข้าอยู่ในฐานะที่แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้”
“แม้ว่ามันจะเป็นความจริงที่พวกเรามีศิษย์เพียงประมาณร้อยคน แต่ก็เป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่เราจะกลายเป็นสำนักระดับสูงและอยู่ในจุดสูงสุดของยุทธภพ”
หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ ไป่ลี่ฮัวก็กล่าวว่า “ถ้าเพิกเฉยกับความเย่อหยิ่งและความฝันอันเป็นไปไม่ได้ของเจ้าในตอนนี้ การเป็นพันธมิตรจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนักปรุงยานี้อย่างไร”
“ทุกสิ่ง” ซูหยางยิ้มและกล่าวต่อว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าทำไมนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยยังคงยืนอยู่ได้แม้ว่าจะถูกหมายหัวจากนิกายล้านอสรพิษ นั่นก็เป็นเพราะว่ามีผู้ฝึกเทพยุทธปกป้องนิกายของพวกเราอยู่ในตอนนี้”
ไป่ลี่ฮัวลืมตาโต ดูเหมือนว่าไม่อยากเชื่อ
“จ-เจ้ามีเซียนปกป้องนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยอย่างนั้นรึ และเขาก็เป็นนักปรุงยาที่อยู่เบื้องหลังโอสถเขตปฐพีด้วยอย่างนั้นรึ” เธอถามด้วยเสียงสั่นสะท้าน
“ถูกต้องแล้ว เซียนคนนี้มาจากที่ห่างไกลและได้ผ่านเขตอัมพรวิญญาณไปนานแล้ว กระทั่งเขตราชันย์วิญญาณในตำนานที่ได้รับการกล่าวขานว่ามิอาจบรรลุถึงได้”
“ป-ป-เป็นไปไม่ได้” ไป่ลี่ฮัวล้มลงไปอยู่บนเก้าอี้ด้านหลังด้วยท่าทางงงงัน
“นั่นจะเป็นไปได้หรือไม่ ท่านจักพบเห็นก็ยามเมื่อท่านร่วมเป็นพันธมิตรกับพวกเรา”
“…”
ไป่ลี่ฮัวกัดฟันและพูดขึ้นว่า “ทำไมเซียนจึงไปอยู่ในสถานที่เช่นนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยเมื่อมีที่อื่นอีกมากมายที่เหมาะสมกว่า จะเป็นอย่างไรถ้าเจ้าเพียงแค่โกหกข้าให้ร่วมเป็นพันธมิตรและมิได้มีเซียนอยู่อย่างแท้จริง”
“แม้ว่าเราอาจจะมิเป็นสำนักที่น่าประทับใจที่สุด แต่ก็ต้องเป็นบางสิ่งที่พิเศษเฉพาะสำหรับพวกเราที่ต้องใจเซียน อีกอย่างทำไมข้าจึงต้องผายลมกับสถานการณ์แบบนี้ นั่นย่อมมิมีประโยชน์อะไรกับพวกเราแม้แต่น้อย อีกอย่างท่านก็ยังคงสามารถตัดการเป็นพันธมิตรหลังจากที่เรียนรู้ความจริงได้”
หลังจากที่ครุ่นคิดชั่วขณะ ไป่ลี่ฮัวก็ถามว่า “ข้าสามารถพบกับเซียนนักปรุงยาก่อนที่ข้าจะตัดสินใจหรือไม่”
ซูหยางพยักหน้า “เซียนในตอนนี้พักอยู่ในนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย ถ้าท่านต้องการจะพบกับเขา ท่านจักต้องรอจนหลังการแข่งขันระหว่างภูมิภาค”
“อย่างไรก็ตามถ้าท่านร่วมเป็นพันธมิตรกับเรา ซูหยินจักก็ยังคงเป็นศิษย์ของสำนักหงส์สวรรค์แม้ว่าจะเป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย เธอมิต้องจากไปแต่ประการใด”
ไป่ลี่ฮัวหรี่ตาขณะเดียวกันเธอก็ตระหนักถึงจุดนี้เช่นกัน
“โอ อีกอย่างหนึ่ง” ซูหยางพลันกล่าวขึ้น “ตราบเท่าที่ท่านเป็นพันธมิตรกับพวกเรานิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย เราจักให้โอสถเขตปฐพีแก่สำนักหงส์สวรรค์ของท่านเม็ดหนึ่งทุกเดือน”
“ว่ากระไร” ไป่ลี่ฮัวอุทานดังลั่น
“นี่เป็นสิ่งที่เซียนได้ตัดสินใจแล้ว ดังนั้นข้าจึงยอมให้ท่านรู้ได้ตอนนี้”
“โอสถเขตปฐพีเม็ดหนึ่งทุกเดือน…” ไป่ลี่ฮัวไม่อยากเชื่อหูของตนเอง
นั่นมันดีมากแล้วถ้าพวกเธอสามารถซื้อโอสถเขตปฐพีหนึ่งเม็ดทุกปี หรือกระทั่งทุกสิบปี แต่นี่พวกเธอจะสามารถได้รับโอสถเขตปฐพีทุกเดือนอย่างหรูหรางั้นหรือ และทั้งหมดนี้ก็เพียงแค่พวกเธอร่วมเป็นพันธมิตรกับนิกายกุสุมาลพ้นพิสัยงั้นหรือ กระทั่งต่อให้พวกเธอต้องล่วงเกินนิกายล้านอสรพิษและผู้ทรงอิทธิพลอื่น นั่นก็ยังคุ้ม
“และเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจของข้า ข้าจักทิ้งโอสถเขตปฐพีเม็ดนี้ไว้ให้ท่าน” ซูหยางกล่าวขณะที่เขาผลักขวดเม็ดยาไปยังไป่ลี่ฮัว ผู้ที่ยากจะสามารถเก็บความตื่นเต้นของตนเองไว้ได้
“แน่นอนว่า ถ้าท่านต้องการที่จะร่วมเป็นพันธมิตรกับพวกเรานิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยในตอนนี้ เช่นนั้นข้าจักให้โอสถเขตปฐพีให้กับท่านเป็นสองเม็ดแทนที่จะเป็นหนึ่งเม็ดในเดือนหน้า”
“…จริงแล้วเจ้าเป็นคนที่พยายามจะล่อลวงข้าแบบนี้รึ” ไป่ลี่ฮัวไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะกับความพยายามของเขาหรือโกรธที่เขามองเธอต่ำไปดี
หลังจากที่จ้องมองไปที่โอสถเขตปฐพีชั่วขณะ จากนั้นไป่ลี่ฮัวก็พูดขึ้นว่า “ออกไปข้างนอกก่อนสักครู่ในขณะที่ข้าพูดกับผู้อาวุโสสำนัก ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นเจ้าสำนักแต่การตัดสินใจนี้ใหญ่เกินไปที่จะตัดสินใจด้วยตัวข้าเอง”
ซูหยางพยักหน้า “ตามสบาย” เขากล่าวขณะที่ออกไปจากห้อง
“ผู้อาวุโสสำนัก เข้ามาที่ห้องของข้าตอนนี้” ไป่ลี่ฮัวตะโกนยามเมื่อซูหยางออกไปแล้ว
ไม่นานหลังจากนั้นผู้อาวุโสสำนักทุกคนก็เข้ามารวมตัวกันในห้อง
แน่นอนว่าพวกเธอทั้งหมดต่างก็จ้องมองซูหยางขณะที่พวกเธอผ่านเขาไป สายตาของพวกเธอพูดได้ว่า “เจ้าทำอะไรอีกตอนนี้”