ควีนได้ตัดสินใจแล้ว จอนห์ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เขาจึงทำได้เพียงประนีประนอม
“ถ้างั้นพี่จะต้องสัญญากับฉัน ว่าจะไม่ให้เงินพวกเขามากแล้ว และไม่ว่าพวกเขาขออะไรก็จะไม่ซื้อให้พวกเขาอีก!” จอนห์กำชับไว้กับควีน
พ่อแม่ของพวกเขารับเงินจากควีนมากเกินแล้วไปในหลายปีที่ผ่านมา ในถิ่นทุรกันดารอย่างบ้านเกิดวันเวลาของพวกเขานับว่าร่ำรวยมากแล้ว
บ้านของเขาและควีนที่เมืองเจสเวิร์ดเทาเท่เป็นคนให้ ไม่มีแรงกดดันในการซื้อบ้านหรือกู้เงิน แต่ควีนกลับไม่มีเงินเก็บมากมายในมือ ให้พ่อแม่ไปหมด บางส่วนเธอให้เองบ้างและมีบางส่วนให้เพราะพวกเขาใช้ข้ออ้างต่างๆมาขอไป
ข้ออ้างแต่ละอย่างก็ห่วยมาก แต่ควีนยังคงให้
จอนห์ก่อนหน้านั้นก็เคยเกลี้ยกล่อมเธอแล้ว แต่ควีนพูดอย่างว่างเปล่าว่าเธอไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมายขนาดนั้น
แต่ตอนนี้…
จอนห์กลับรู้สึกไม่ดีในใจ ช่วงชีวิตที่เหลือควีนอาจไม่มีวันรักผู้ชายคนอื่นอีก
เคยครอบครองผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างโซเมน จะมองคนอื่นอีกครั้งได้ยังไง?
ถ้าเธอต้องการใช้ชีวิตอยู่คนเดียว เธอก็ต้องเก็บเงินไว้ให้ตัวเอง เพราะงั้นจอนห์จึงพูดเกลี้ยกล่อมควีนอย่างไม่ยอมหยุด
“ฉันเข้าใจแล้ว” ควีนพยักหน้าตกลง
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอได้จ่ายเงินให้พ่อแม่ของเธอมากพอแล้วกับครอบครัวของเธอ ต่อจากนี้เธอจะมีชีวิตที่ดีเพื่อตัวเอง
เธอมองไปยังท้องน้อยของเธออย่างเงียบ ๆ ยังไงแล้ว เธอก็มีเป้าหมายที่จะสู้ต่อไปแล้ว
หลังจากเตือนเสร็จ เทาเท่และจอนห์ต้องกลับไป แต่หลินจือยังอยู่ต่อ หนึ่งคือค่อยคุยกับควีน สองคือช่วย ควีนเก็บกระเป๋าและจัดของ
เทาเท่ไม่ได้พูดถึงความหงุดหงิดที่มีต่อโซเมน เพราะเดิมเขาวางแผนที่จะใช้เวลาที่เหลือกับหลินจือโดยเฉพาะตอนกลางคืน เขาอยากทานมื้อเย็นกับหลินจือ
สรุปเพราะควีนเลยกลายเป็นอย่างนี้ เขาจึงต้องปล่อยหลินจือไว้กับควีน
หลังจากส่งเทาเท่และจอนห์กลับไปแล้ว หลินจือก็เริ่มช่วยจัดกระเป๋าเดินทางของควีน
ควีนไม่ต้องอยากสร้างปัญหาให้กับหลินจือ แต่หลินจือกดเธอลงบนเตียงให้เธอนั่งและพักผ่อน ควีนทั้งซึ้งใจทั้งไม่มีทางเลือก
เธอครึ่งพิงที่หัวเตียง เธอมองไปที่หลินจือที่กำลังช่วยจัดกระเป๋าของเธออย่างตั้งใจ พูดเสียงเบาอย่างรู้สึกผิด”ฉันรู้ พวกเธอกลัวว่าฉันจะเสียใจ”
“อันที่จริงฉันบอกไปแล้ว ฉันเตรียมพร้อมสำหรับความเจ็บปวดแล้วถึงคบกับเขา จุดจบในวันนี้ก็อยู่ในความคาดหมายของฉันเหมือนกัน เพราะงั้นพวกเธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฉันมาก”
แค่เธอไม่เคยคิดว่าจะมีเด็กคนนี้ แค่ไม่คิดว่ามันจะเจ็บปวดขนาดนี้
หลินจือหยุดงานในมือ มองไปที่เธอที่แสร้งทำเป็นสงบและถอนหายใจ “เธอรู้ไหมว่าต่อมาทำไมฉันถึงไม่ห้ามให้เธอรักษาร่างกายก่อนค่อยไป”
ควีนไม่เข้าใจ: “ทำไม?”
“เพราะฉันคิดถึงความรู้สึกตอนนั้นที่ฉันตัดสินใจหย่า” หลินจือมองที่ควีนอย่างลึกซึ้ง “เพราะงั้น ฉันก็รู้ว่าเธอรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหนในใจ”
“ควีนเธอไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งต่อหน้าฉัน อึดอัดก็แค่พูดออกมา ไม่ก็ร้องไห้หน่อยก็ดี”
หลินจือพูดจี้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงที่สุดในใจเธอ ควีนยังตะลึงงัน จากนั้นน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
หลินจือเดินไปที่เตียงและนั่งลง ยกมือขึ้นกอดควีน ควีนพิงบนไหล่ของเธอร้องไห้น้ำตาไหลอย่างกับสายฝน: “หลินจือฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเจ็บแบบนี้ หัวใจของฉันแตกสลายเหมือนกับไม่ใช่ของฉันแล้ว ”
“ฉันเข้าใจความรู้สึกนี้” หลินจือปลอบโยนเธอเบาๆ
หลังจากที่เธอทิ้งใบหย่าให้กับเทาเท่ เธอก็ไปกอดร้องไห้กับนานิ
“ร้องเถอะ ร้องออกมาในใจก็จะรู้สึกดีขึ้นแล้ว”
ควีนกอดหลินจือและร้องไห้ออกมา
เธอสามารถเดินออกจากหมู่บ้านบนเขาที่ยากจนทีละขั้น เธอสามารถโดดเด่นในสถานที่ทำงานที่โหดร้ายเช่นสนามรบกลายเป็นมือขวาของเทาเท่ เธอสามารถเติบโตได้ภายใต้มือของพ่อแม่ที่ใจร้ายและโหดเหี้ยมเช่นนั้น เธอคิดเสมอว่าเธอมีจิตใจที่เข้มแข็ง
ไม่คิดเลยว่าใจที่เข้มแข็งแค่ไหน ก็ไม่สามารถสู้รักที่ไม่สิ้นสุด
ผู้ชายที่เธอรักไม่รักเธอ ช่างเป็นการรับรู้ที่เจ็บปวดอะไรขนาดนี้
ควีนร้องไห้หนัก ดวงตาก็แดงก่ำ แต่อารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
หลินจือยังคงช่วยเธอจัดกระเป๋าเดินทาง ในขณะที่ควีนหยิบคอมพิวเตอร์ไปที่เตียง รีบจัดการงานที่อยู่บนเธอ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการส่งมอบงานต่อ
เมื่อใกล้เวลามื้อเย็น หลินจือก็ช่วยควีนจัดของใกล้เสร็จ
ควีนไม่ได้คิดจะเอาของไปมากมาย เอาเพียงเสื้อผ้าทั่วไปและของใช้จำเป็นที่จำเป็นในชีวิตประจำวันก็พอแล้ว กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่สองใบก็เพียงพอแล้ว ควีนวางแผนที่จะซื้อของอื่นๆ หลังจากไปถึงเมืองG
“งั้นมื้อเย็นเรากินที่นี้กัน ฉันทำอาหารที่เธอชอบให้” หลินจือเสนออย่างจริงใจ “เรารู้จักกันทั้งที ถือซะว่าเลี้ยงส่งก็แล้วกัน”
“เธอไม่เหนื่อยเหรอ?” ควีนรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย หลินจือช่วยเธอจัดกระเป๋าเดินทางมาครึ่งวันแล้ว ตอนนี้ก็กำลังจะทำอาหารอีก
หลินจือยิ้มส่ายหัว: “ไม่เหนื่อย แค่เก็บกระเป๋าเอง และการทำอาหารเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับฉัน เดี๋ยวฉันก็ทำเสร็จ”
ช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมาที่เธอแต่งงานกับ เทาเท่ควีนปฏิบัติต่อเธอเอย่างดี และควีนเคยช่วยเธอไว้หลายอย่าง หลินจือไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรให้ควีนได้บ้าง ดังนั้นเธอจึงหาของกินมาแสดงความขอบคุณ
“ก็ได้ งั้นฉันสั่งผักให้เขาส่งขึ้นมา”
ควีนหยิบโทรศัพท์มือถือมาซื้อผักแล้วให้ส่งมาที่บ้าน หลินจือก็ได้รับสายจากเทาเท่เช่นกัน
เทาเท่ชวนหลินจือทางโทรศัพท์: “ทานมื้อเย็นด้วยกันไหม”
หลินจือบอกความจริง: “คืนนี้ฉันจะกินที่นี่ที่กับควีนเพื่อเลี้ยงส่งเธอ”
เทาเท่ถามโดยตรงว่า “ฉันไปด้วยได้ไหม”
ทันทีที่ เทาเท่ได้ยินก็รู้ว่า หลินจืออยากถือโอกาสกินด้วย เขาไม่ได้สิทธิอย่างนี้มานานแล้ว
หลินจือปฏิเสธ: “คืนนี้เป็นการรวมตัวของสาว ๆ ของพวกเรา คุณไม่เหมาะที่จะมาที่นี่”
ก่อนหน้านี้เมื่อซานารู้ว่าควีนจะไปจากเมืองเจสเวิร์ดในวันพรุ่งนี้ ก็โทรมาเพื่อแสดงความห่วงใยและความอาวรณ์ และเธอยังบอกด้วยว่าเธอจะมาเยี่ยมควีนหลังเลิกงาน หลินจือและควีนวางแผนที่จะกินข้าวด้วยกันกับซานา เพราะงั้น เทาเท่ผู้ชายคนนึงมาที่นี่ ไม่เหมาะจริงๆ
เทาเท่ผู้ถูกปฏิเสธเจ็บปวดใจ: “ถ้าอย่างนั้นพวกเธอกินเถอะ”
หลินจือฟังแกถึงความขุ่นเคืองในน้ำเสียงของเขา แต่ก็ทำได้เพียงทำให้เขาขุ่นเคืองต่อไป
และความสัมพันธ์ปัจจุบันของพวกเขา เธอไม่ต้องการกินมื้อเย็นหรือพบเขา
ซานามาหลังเลิกงาน บางทีอาจเป็นเพราะอาชีพของเธอคือจิตแพทย์ ซานาอบรมณ์สอนควีน: “ทำไมถึงต้องตกหลุมรักผู้ชาย ผู้หญิงอย่างเรา การรักตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด รักผู้ชายที่ไร้สาระที่รู้จักหวงแหนแบบนั้นไปทำไม”
“หาพวกเขาเมื่อมีความต้องการก็พอแล้ว เมื่อไม่ต้องการจะไปที่ไหนก็ให้พวกเขาไป”
หลินจือหัวเราะ ค่อยผสมไส้เกี้ยวและพูดว่า “เธอคิดอย่างนี้ตั้งแต่แรกเลยหรอ ถึงนอนกับไวท์ ”
ซานากางมือ: “ใช่ ฉันไม่คิดว่าจะนอนกับเขาครั้งเดียวกลับนอนจนได้ความผิดมา เลยทำให้เขามาหาเรื่องฉันทุกวัน”
ถ้ารู้ว่าไวท์ดูไม่ออกขนาดนี้ เธอคงไม่ไปแหย่เขาตั้งแต่แรกแล้ว