ตอนที่ 250 ซูแวนโดนลอบทำร้าย / ตอนที่ 251 เริ่มลงสนาม

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 250 ซูแวนโดนลอบทำร้าย

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นว่าตัวเองแกล้งจนเขาเดือดพล่านแล้ว ก็รีบคลี่คลายสถานการณ์ “คืนนี้กลับไป คุณขยับเอง ถ้าคุณตกลง ผมถึงจะปล่อยมือ”

 

 

           เจียงมู่เฉินกัดฟันกรอด ไม่พูดจา

 

 

           เขามองดูท่าทางของซือเหยี่ยน ทำนองว่าถ้าเขาไม่เอ่ยปากยอมตกลงก็จะทำมันตรงนี้เลย เจียงมู่เฉินขบกรามแรงๆ อยู่ครู่ใหญ่ “ตกลง คุณชายตกลงแล้ว ยังไม่โอเคเหรอ”

 

 

           เขาอยากจะร้องไห้เสียจริงๆ โดนซือเหยี่ยนขุดหลุมฝังกลบอยู่เรื่อยๆ แบบนี้ จะดีจริงๆ เหรอ

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นว่าในที่สุดเขาก็เอ่ยปากออกมา ถึงได้ก้มหน้าลงไปจูบเขาอย่างดุเดือด ถึงได้ปล่อยมือออกจากเจียงมู่เฉินไป เจียงมู่เฉินโดนเขาจูบจนหางตาแดงก่ำ ซือเหยี่ยนเห็นนัยน์ตาทอประกายแสงแวววาวของเขา กล้ามตรงท้องน้อยก็เกิดหดเกร็งขึ้นมา แทบอยากจะโผเข้าหาโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว

 

 

           เจียงมู่เฉินถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่งด้วยอารมณ์รุนแรง รีบเช็ดหางตาที่ยังคงปริ่มน้ำ ก่อนใช้มือยันกายขึ้นมาจากโต๊ะ

 

 

           “เข้ามา” ซือเหยี่ยนเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ

 

 

           ข้างนอกเงียบสักพักหนึ่งถึงเปิดประตูเข้ามา ผู้ช่วยของซือเหยี่ยนยืนอยู่หน้าทางเข้า “ประธานซือครับ คุณซูมาแล้วครับ”

 

 

           เจียงมู่เฉินเลิกคิ้ว เป็นอย่างที่คิดไว้เจอซูเตอร์อยู่ข้างหลังของเขา คิดไม่ถึงว่าจะมาบังเอิญเจอซูเตอร์จนได้

 

 

           เขาเบนสายตามาจดจ่อที่ซือเหยี่ยน เชิดหางตาใส่ แสดงท่าทีบ่งบอกว่าให้อีกฝ่ายชี้แจงมาด้วย

 

 

           ซือเหยี่ยนยื่นมือดึงเขามาอยู่บนเก้าอี้ด้านข้าง จากนั้นมองผู้ช่วยแล้วพยักหน้า “เชิญเขาเข้ามา”

 

 

           ตั้งแต่เข้ามานาทีนั้นดวงตากลมโตของซูเตอร์ก็เอาแต่จับจ้องมาที่เจียงมู่เฉินตลอด เขายืนรออยู่ข้างนอกตั้งนานก็ไม่เปิดประตูสักที พวกเขาสองคนปิดตายอยู่ข้างในห้องทำเรื่องอะไรกัน มองปราดเดียวก็รู้ได้

 

 

           ยิ่งไปกว่านั้นคือหางตาที่แดงก่ำและริมฝีปากที่ยังคงบวมแดงของเจียงมู่เฉิน…

 

 

           ซูเตอร์กำหมัดแน่น เขารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างซือเหยี่ยนและเจียงมู่เฉิน แต่ว่าพอมาเห็นพวกเขายังคงเหมือนเดิมอยู่แบบนี้ ในใจก็รู้สึกโกรธแค้นยากเกินจะทนไหว

 

 

           ไม่ช้าก็เร็วสักวันเขาจะเอาความอับอายขายหน้าทั้งหมดบนตัวเขาทยอยส่งคืนให้เจียงมู่เฉินทีละนิดๆ ให้โดนแผดเผาทั้งเป็น

 

 

           ถึงเวลานั้น ซือเหยี่ยนก็จะเป็นของเขาได้โดยไม่มีเจียงมู่เฉินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยตลอดไป

 

 

           เจียงมู่เฉินนั่งลงอยู่ตรงนั้น กวาดสายตามองซูเตอร์โดยไม่ระวัง เขาอยากรู้จริงๆ ว่าวันนี้ซูเตอร์มาเพราะเรื่องอะไรอีก

 

 

           “เหยี่ยน ฉันมาหานายมีเรื่องจะคุยส่วนตัวกับนายสองคน สะดวกไหม”

 

 

           ซือเหยี่ยนมองเจียงมู่เฉินที่อยู่ข้างกายแวบหนึ่ง เห็นเขายิ้มเยาะเยือกเย็นมองตัวเอง ซือเหยี่ยนรู้ความหมายของเจียงมู่เฉินอย่างไม่มีทางเลี่ยง

 

 

           “เฉินเฉินเขาไม่ใช่คนนอก ไม่เป็นไร”

 

 

           ซูเตอร์กำหมัดด้วยความไม่ยินดี “เรื่องนี้เกี่ยวกับแก๊งมังกรคราม ฉันคิดว่าคุณชายเจียงหลบเลี่ยงไปจะดีกว่า”

 

 

           ดึงเรื่องแก๊งมังกรครามออกมาจนได้ นี่ถ้ายังไม่ออกไปอีกไม่ใช่จะว่า ‘เขาไม่รู้จักกาลเทศะ’ หรอกใช่ไหม

 

 

           เจียงมู่เฉินลุกยืนขึ้นปัดเสื้อผ้าอย่างช้าๆ ทั้งยังจัดเสื้อเชิ้ตที่โดยซือเหยี่ยนทำเสียทรง “ในเมื่อเป็นเรื่องภายในของคุณซู ฉันก็ไม่ยุ่งด้วยแล้ว วันหลังจะได้ไม่เกิดเรื่องอะไรมาก็มาสงสัยฉันเป็นทำความลับรั่วไหล”

 

 

           เขามองซือเหยี่ยนแวบหนึ่ง “ฉันไปก่อนนะ คืนนี้ก็กลับบ้านเร็วหน่อยแล้วกัน” เขาหรี่ตาใส่ซือเหยี่ยน “เลยเวลาไม่รอนะ”

 

 

           เขาพูดจบก็กวาดสายตามองซูเตอร์ด้วยใบหน้าแต้มรอยยิ้ม จากนั้นถึงได้เดินจากไป

 

 

           ความเดือดดาลฉายสะท้อนในแววตา มาแสดงอำนาจสิทธิ์ขาดต่อหน้าเขา คิดว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะยอมให้เหรอ

 

 

           เจียงมู่เฉินไร้เดียงสาเกินไปแล้ว

 

 

           ซือเหยี่ยนรอจนเจียงมู่เฉินเดินออกไปแล้ว ถึงได้เบนสายตามามองซูเตอร์ “เป็นไรไป แก๊งมังกรครามเกิดเรื่องอะไรเหรอ”

 

 

           “พ่อฉันโดนคนลงมือลอบสังหาร ได้รับบาดเจ็บสาหัส หวังให้ฉันกลับไป” เขาเองก็เพิ่งรู้ข่าวเมื่อเช้านี้ เมื่อคืนระหว่างทางกลับบ้าน ซูแวนโดนลอบยิง กระสุนเข้าที่หัวใจ

 

 

           “ถ้างั้นคุณก็ควรจะกลับไป แก๊งมังกรครามและพ่อคุณต้องการคุณมากนะ”

 

 

           

 

 

           ตอนที่ 251 เริ่มลงสนาม

 

 

           “ฉันอยากให้นายไปเป็นเพื่อนฉันด้วยกัน พ่อฉันโดนลอบทำร้ายกะทันหัน ตอนนี้ในแก๊งต้องวุ่นวายมากแน่ๆ ฉันกลับไปเวลานี้ต้องไม่สงบแน่ๆ” เขามองซือเหยี่ยน “ฉันรู้ว่าวันนั้นฉันเอาแต่ใจตัวเองเกินไป ฉันผิดเอง หลายวันมานี้ฉันพิจารณาตัวเองอยู่ตลอด ดังนั้นนายอย่าถือสาฉันเลยได้ไหม”

 

 

           นิ้วมือซือเหยี่ยนเคาะที่โต๊ะเบาๆ “ผมเป็นคนนอก ไปปรากฏตัวด้วยกันกับคุณ ไม่ดีมั้ง”

 

 

           ซูเตอร์รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “นายอยู่ข้างฉันมาตั้งนาน ตลอดมาฉันเชื่อนายมาก ครั้งนี้ฉันกลับไปก็ยากจะรับประกันว่าจะไม่มีใครอยากจะลอบฆ่าฉัน ดังนั้นฉันอยากจะขอร้องให้นายกลับไปด้วยกันกับฉัน ช่วยฉันสักครั้งนะ…รอฉันกลับไปทำให้สถานการณ์สงบนิ่งมั่นคงได้แล้ว นายก็กลับมาได้ทันทีเลย ฉันสัญญาฉันรับประกันว่าต่อไปจะไม่มาหานายอีก”

 

 

           นัยน์ตาซือเหยี่ยนฉายแววบางอย่าง เขาครุ่นคิดนิดหน่อย

 

 

           ซูเตอร์เห็นท่าทีของเขาดูอ่อนลงบ้างแล้ว ก็เอ่ยต่อ “ตอนนั้นพ่อฉันช่วยนายอยู่ไม่น้อย ตอนนี้พ่อฉันตกอยู่ในอันตราย นายไม่คิดจะไปช่วยท่านสักหน่อยจริงๆ เหรอ”

 

 

           “ซูเตอร์ เรื่องนี้คุณให้ผมคิดทบทวนสักหน่อยจะได้ไหม”

 

 

           “เหยี่ยน ฉันบินกลับอเมริกาเที่ยวบินตอนเช้า ฉันหวังว่าฉันขอร้องอ้อนวอนนายแล้ว นายจะกลับไปกับฉันได้” ใบหน้าซูเตอร์แสดงความขอร้อง

 

 

           ซือเหยี่ยนถอนหายใจ “ได้ ผมจะไตร่ตรองดูอย่างจริงจัง”

 

 

           “เหยี่ยน ฉันต้องการนายมากจริงๆ”

 

 

           หลังจากซูเตอร์ออกไป นัยน์ตาที่เจืออารมณ์ที่ต่อสู้ขัดแย้งกันเมื่อครู่นี้ก็แปรเปลี่ยน เขาวิดีโอคอลติดต่อกับไมเคิลโดยพลัน

 

 

           “ซูแวนโดนลอบทำร้ายจริงๆ เหรอ” ไมเคิลรับสายก็เปิดประเด็นเรื่องซูแวนทันที

 

 

           ไมเคิลพยักหน้า “ฉันกำลังจะเตรียมติดต่อนายพอดีเลย เมื่อคืนนี้ซูแวนโดนลอบทำร้ายทำร้ายกะทันหัน”

 

 

           “รู้ไหมว่าใครทำ”

 

 

           “ซูเวลล์”

 

 

           ซือเหยี่ยนขมวดคิ้ว “เขาลงมือกะทันหันรวดเร็วขนาดนี้เลยเหรอ” เขาคิดว่าตามนิสัยของซูเวลล์แล้วยังต้องรอไปอีกสักช่วงเวลาหนึ่ง ทำไมจู่ๆ ถึงมาลงมือเวลานี้ได้

 

 

           “สถานการณ์โดยละเอียด ฉันเองก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้เพราะเรื่องที่ซูแวนถูกยิง ทำให้ในแก๊งมังกรครามวุ่นวายไปหมด ฉันคิดว่าในเมื่อซูเวลล์กล้าลงมือ ต้องเป็นการเตรียมจะปิดเกมแน่ๆ หรือบางทีอีกแป๊บเดียวเขาก็จะไปขั้นต่อไปแล้ว”

 

 

           “ซูเตอร์ให้ฉันกลับไปแก๊งมังกรครามด้วยกันกับเขา”

 

 

           “เขามาหานายจริงๆ เหรอ แล้วนายตัดสินใจยังไง จะมากับเขา?” ไมเคิลขมวดคิ้วเล็กน้อย “เพียงแต่ว่าถ้านายปรากฏตัวออกมา นายจะหลุดพ้นจากน้ำขุ่นๆ นี้ไม่ได้แล้วนะ ถึงเวลานั้นนายก็จะติดร่างแหอยู่ในการต่อสู้แสนวุ่นวายนี่ไปด้วย”

 

 

           เขาเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “เพราะฉะนั้น นายต้องคิดดีๆ แล้ว”

 

 

           ซือเหยี่ยนเงียบไม่พูดจาไปสักพัก “ฉันเคยคิดไว้ ในเมื่อการชิงชัยนี้มีขึ้นมาแล้ว ฉันจะได้อาศัยซูเตอร์ลงสนามนี้พอดี…ถึงแม้ว่าตอนนี้ซูแวนจะถูกยิง แต่หลายปีมานี้เขาเองก็มีคนสนิทที่ซูเวลล์สยบไม่ไหว ถ้ารวมซูเตอร์กลับไป ถึงตอนนั้นซูเวลล์ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะครอบครองแก๊งมังกรครามได้โดยสมบูรณ์…เพราะฉะนั้น ฉันตัดสินใจจะลงสนามนี้ ช่วยซูเวลล์สักตั้ง”

 

 

           “แล้วนายเคยคิดหรือเปล่า ว่าต่อหน้า นายเป็นคนของซูเตอร์ แต่ลับหลัง แอบช่วยซูเวลล์ ถ้าซูเวลล์ทำสำเร็จจริงๆ ถึงเวลานั้นซูเวลล์ก็จะไม่มีทางปล่อยนายไป”

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มหัวเราะ “วางใจเถอะ ฉันวางแผนนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว ครั้งนี้ก็คิดซะว่าฉันไปจบเรื่องราวชดเชยที่ตอนนั้นฉันจากไปกะทันหันก็แล้วกัน…แก๊งมังกรครามมีชีวิตอยู่มาได้หลายปีขนาดนี้ ก็ควรจะสิ้นสุดลงได้สักที”

 

 

           ไมเคิลหัวใจบีบคั้น คิดถึงเรื่องหนึ่งที่เป็นไปไม่ได้ เขาอ้าปากเอ่ยถามด้วยความสองจิตสองใจ “นายจะบอกว่าตั้งแต่ต้นจนจบ นายไม่ได้ทำเพื่อโค่นล้มซูเตอร์ ไม่ได้ทำเพื่อรักษาตำแหน่งให้ซูเวลล์ได้ขึ้นใช่ไหม”

 

 

           “เป้าหมายของฉันมีเพียงแค่อย่างเดียว คือปฏิบัติภารกิจการแฝงตัวเป็นสายลับในตอนนั้นให้สำเร็จ ถอนรากถอนโคนแก๊งมังกรครามให้หมด”

 

 

           “ดังนั้น นายเตรียมจะ…ติดต่อพวกเขาเหรอ”