ตอนที่ 317 หากมียาเช่นนั้นเจ้าก็ควรจะกิน / ตอนที่ 318 ท่านยอมทิ้งตำแหน่งอ๋องหรือ

ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง

ตอนที่ 317 หากมียาเช่นนั้นเจ้าก็ควรจะกิน

 

 

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋ได้ส่งคนแอบเฝ้าติดตามเฉินยางอยู่จริง เรื่องที่เขาต้องทำมีอยู่มาก ไม่อาจอยู่กับนางได้ตลอดเวลา แต่ก็ไม่วางใจ จึงได้แต่ส่งคนปกป้องนาง เพียงแต่เรื่องจับแมวนี้กลับทำเอาเขาประหลาดใจ ผู้ชายหยาบกร้านเช่นนี้ ปีนต้นไม้จับแมว คิดอย่างไรก็รู้สึกประหลาด

 

 

เพียงแต่ที่น่าดีใจคือนางไม่ได้แสดงออกว่ารังเกียจนัก อย่างน้อยก็รู้ว่าเขากำลังปกป้องนางอยู่ รู้ผิดชอบชั่วดีเช่นนี้ดีที่สุดแล้ว เขาวางแมวอยู่ในอ้อมกอดของนาง จากนั้นก็กอดนางเอาไว้ ในใจเกิดความรู้สึกอิ่มเอมขึ้นมาทันที

 

 

เมื่อก่อนรู้สึกว่าชีวิตยิ่งมีสีสันก็ยิ่งดี ไม่ได้เจอคนที่สามารถฝากหัวใจเอาไว้ได้ แทบอยากจะเปลี่ยนผู้หญิงที่อยู่ข้างกายไม่ซ้ำแต่ละวัน วันๆ ไม่อยู่ในบ้าน เล่นที่สามารถเล่นได้เสียให้หมด ชีวิตสั้นนัก ต้องรีบหาความสุข ใครจะรู้ว่าตัวเองจะตายเสียวันใด! ยามนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว หัวใจมีที่พักพิง ไปถึงที่ใดก็คิดถึงบ้าน ยามนี้เพิ่งได้รู้สึกตัวว่าชีวิตที่รื่นรมย์เหล่านั้นล้วนเสียเปล่า แต่งงานมีภรรยาอุ่นเตียงไว้ กังวลก็เพียงแค่ชีวิตจะอยู่อย่างไร ไม่ต้องมีกลอุบายมากมายเช่นนี้ กลับบ้านไปได้ดื่มชาอุ่นจากมือนางได้เห็นรอยยิ้มบนหน้านางก็เพียงพอแล้ว หากมีลูกอีกคนหนึ่ง เช่นนั้นชีวิตของเขาก็สมบูรณ์แล้ว ถือว่าไม่เสียชาติเกิดมา

 

 

เฉินยางยังคงซื่อบื้อ ความรู้สึกของเขาที่ซ่อนอยู่ในใจไม่พูดออกมา สำพังให้นางเดาก็เดาไม่ออกแน่แท้ เพียงแต่นางชอบเฝิงเยี่ยไป๋ที่เป็นเช่นนี้ ไม่โมโห พูดจาไพเราะ ไม่มีท่าทางแข็งกร้าวดั่งปกติ ดูแล้วก็สบายใจนัก

 

 

เขาวางศีรษะไว้บนบ่านาง ลมหายใจเป่าที่หูนางเบาๆ ทั้งจั๊กจี้ทั้งร้อน เฉินยางนึกถึงเว่ยหมิ่นขึ้นมาอีกครั้ง นางเกาหูแล้วถามเขาว่า “ไฉนช่วงนี้เว่ยหมิ่นถึงไม่มาเช่นกันแล้ว”

 

 

เว่ยหมิ่น? วันก่อนเขาให้เฉาเต๋อหลุนไปจวนท่านหญิงอยู่นั้น ได้ยินว่าทั้งสองคนช่วงนี้ทะเลาะกัน คนใช้บอกว่าจวิ้นหม่าอยากได้ลูก ท่านหญิงบอกว่าไม่อยากมี จากนั้นจวิ้นหม่ารู้สึกเสียหน้าจึงโกรธ บอกจะไป ถูกท่านหญิงลากกลับมาอีก ยามนี้ทั้งสองคนใครก็ไม่สนใคร นำพาพวกคนใช้อย่างพวกเขาพลอยถูกลูกหลงไปด้วย

 

 

เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนนางก็ใช่ว่าจะเข้าใจ จึงเลือกหลักคิดสำคัญเล่าให้นางฟังจะได้เข้าใจง่าย เขาพูดว่า “เว่ยหมิ่นอยู่บ้านปั้นลูกกับเหลียงอู๋เย่ว์อยู่เลย ก่อนที่เด็กจะคลอดออกมา นางก็จะไม่มาแล้ว”

 

 

เฉินยางอ้าปากกว้างร้อง “อ๋อ” ออกมา “เช่นนั้นแล้วไม่ใช่ว่าข้าจะไม่ได้เจอนางปีหนึ่งเลยหรือ ไม่เช่นนั้นข้าไปเยี่ยมนาง ให้ท่านหมออิ๋งโจวจัดยาที่ทำให้มีลูกได้เร็วๆ ที่จริงแล้วเหลียงอู๋เย่ว์น่าสงสารยิ่งนัก ทุกครั้งที่ข้าเห็นเขา ก็รู้สึกเขาน่าสงสารอย่างบอกไม่ถูกนัก

 

 

“เจ้าคิดว่าท่านหมออิ๋งโจวรักษาได้ทุกโรคเลยหรือ นั่นเป็นปัญหาของผู้หญิง อิ๋งโจวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องนี้นัก หาเขาใช้ไม่ได้ อีกอย่าง หากมียาเช่นนั้นอยู่จริง ก็ควรเป็นเจ้าที่จะต้องกิน” เขานวดท้องที่แบนราบของนาง “ครั้งที่แล้วขู่เจ่ามา ข้ายังคุยกับเขาอยู่เลย เขาบอกว่าชะตาข้าจะต้องมีทั้งลูกชายลูกสาว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มนัก เจ้าว่าท้องเจ้ายามนี้จะมีแล้วหรือไม่ ช่วงนี้รู้สึกไม่สบายหรือไม่ พรุ่งนี้ข้าจะให้เฉาเต๋อหลุนหาหมอหญิงมาดูเจ้า ข้ามั่นใจในความสามารถของตัวเองอยู่”

 

 

ยิ่งพูดยิ่งเหลวไหล เฉินยางปัด ‘กรงเล็บสุนัข’ ของเขาออก สีหน้าหวาดระแวง “พวกนางบอกว่าคลอดลูกเจ็บยิ่งนัก เจ็บเจียนตายเช่นนั้น ท่านแม่ของข้าก็ตายยามที่คลอดข้าออกมา หน้าของนางข้าก็ยังไม่เคยเห็นเลย”

 

 

——

 

 

ตอนที่ 318 ท่านยอมทิ้งตำแหน่งอ๋องหรือ

 

 

 

 

เฉินยางพอพูดถึงแม่ของนางก็คิดถึงพ่อของนางขึ้นมา พ่อของนางลำบากมากเกินไป เลี้ยงดูนางมาด้วยความยากลำบาก แต่สุดท้าย นางยังไม่ทันได้แสดงความกตัญญูด้วยก็ต้องไปอยู่กับคนอื่น ไปเป็นคนของครอบครัวอื่นเสียแล้ว อนาคตข้างหน้ามีแค่วันปีใหม่เท่านั้นที่จะสามารถกลับไปได้ครั้งหนึ่ง พอนึกถึง นางก็บุ้ยปาก น้ำตาก็กลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว ร่วงหยดลงมาใส่หลังมือของเฝิงเยี่ยไป๋

 

 

อยู่ดีๆ ทำไมถึงร้องไห้เสียเล่า เขาจับนางให้หันกลับมาเผชิญหน้า ผู้หญิงพอถึงจุดนี้ พอน้ำตาไหลอะไรก็ไม่ชัดเจน ในมือไม่มีผ้าเช็ดหน้าเลย เขาจึงทำได้เพียงเอาแขนเสื้อไปเช็ดน้ำตาให้นาง ไม่เคยคิดเลยว่ายิ่งเช็ดน้ำตาจะยิ่งเยอะ ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ได้ยินนางพูดออกมาด้วยความน้อยใจ “ข้าช่างอกตัญญูเหลือเกิน พ่อของข้าเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับข้า ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยทำอะไรให้ข้ารู้สึกน้อยใจ ตอนนี้ข้ากลับไม่สามารถแสดงความกตัญญูอยู่ข้างกายเขา และก็ไม่รู้ว่าพ่อของข้าจะเป็นอย่างไรบ้าง”

 

 

นางไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น นางถูกคนที่บ้านสอนคุณธรรมของสตรีมาตั้งแต่เล็ก ถูกเตรียมตัวให้ออกเรือนตั้งแต่เกิด พ่อของนางไม่ได้ร้องขออะไรอื่นกับนางเลย ของแค่นางมีความสุขก็พอ นางใช้ชีวิตง่ายๆ ตามใจนาง ตั้งแต่เล็กจนโตนางนั้นไม่เคยห่างกับพ่อของนางเลย เขาคิดไม่ถึงเลยว่าพอพูดถึงมีลูกแค่ประโยคเดียวจะทำให้นางมีปฏิกิริยาตอบกลับมาเยอะขนาดนี้ รีบพูดปลอบไปว่า “ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรเลย ไม่คุ้มกับที่ต้องร้องไห้หนักขนาดนี้ ใครบอกว่าเจ้าไม่กตัญญูกัน พ่อของเจ้ารู้ดีว่าในใจของเจ้าคิดถึงเขา เขายังจะต้องดีใจด้วยซ้ำ”

 

 

 “เพื่อข้า ทั้งชีวิตนี้พ่อข้าใช้ชีวิตอย่างลำบากมาก จนถึงตอนนี้ท่านพ่อยังไม่ได้แต่งงานใหม่ แต่ก่อนตอนข้าอยู่ ยังมีคนคอยคุยเป็นเพื่อนกับเขาแก้กลุ้ม ต่อมาข้าไม่อยู่แล้ว เขาคนเดียวจะต้องลำบากขนาดไหน ปากเขาไม่พูดออกมา แต่ความจริงแล้วข้ารู้หมด แม้ว่าหน้าตาจะบอกว่าไม่ให้ข้าไม่ว่าจะเกิดอะไรก็อย่ากลับบ้าน แต่ในใจกลับอยากให้ข้ากลับไปมากกว่าใคร ข้า…” นางหยุดพักเล็กน้อย “ข้าสามารถรับพ่อข้ามาอยู่ด้วยจะได้ไหม ให้เขามาอยู่กับเราได้หรือไม่”

 

 

พ่อตาอาศัยอยู่ด้วยหรือ นอกจากลูกเขยแต่งเข้าแล้ว ก็ไม่เคยได้ยินว่ามีใครทำอย่างนี้มาก่อน สามีภรรยาเขาอยู่ด้วยกันดีๆ คิดไม่ถึงว่าจะรับพ่อตามาอยู่ด้วย รู้สึกไม่เป็นอิสระ จะบอกว่าเขาไม่กตัญญูก็ไม่ใช่ พ่อนะ พ่อตาก็เป็นพ่อ เป็นพ่อก็ต้องเลี้ยงดูดีๆ พอถึงตอนนั้นค่อยจัดการหาบ้านสักหลังให้พ่อตาอยู่ ย้ายมาอยู่อย่างมีหน้ามีตา แล้วค่อยให้คนใช้ร้อยกว่าคนมาคอยปรนนิบัติ ถ้าหากรู้สึกว่าชีวิตตอนแก่เหงา ในเมืองมีผู้หญิงสวยๆ ให้เลือก เลือกคนไหนได้คนนั้น ขอเมียสิบคนเก้าคนกลับจวนมาปรนนิบัติ ไม่มีอะไรทำก็เล่นกับนก เลี้ยงปลา ฟังเพลง ในบ้านมีผู้หญิงเอวสวยมาเต้นไปด้วยดื่มเหล้าไปด้วยเต็มไปหมด วันเวลาแบบนี้ ยังมีอะไรที่จะสุขสบายไปกว่านี้ได้อีก

 

 

แต่ความจริงภายในใจลึกๆ แล้วกลับไม่สามารถพูดกับนางได้ พูดออกมาเดี๋ยวโดนหาว่าเขาไม่ปกติ พาท่านพ่อของนางไปในทางไม่ดี ช่างลำบากใจจริงๆ มองเห็นนางร้องไห้ เขากลับไม่มีวิธีการอะไรเลย นอกเสียจากปลอบใจ

 

 

ปลอบไปก่อน ที่เหลือ รอวันที่กลับไปหรู่หนานก่อนแล้วค่อยวางแผนก็ยังไม่สาย พอคิดได้อย่างนี้ ก็พูดปลอบขึ้นว่า “พ่อเจ้าก็คือพ่อข้า เจ้าอยากแสดงความกตัญญูต่อพ่อนั้นไม่ผิด แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน ถ้าตอนนี้รับพ่อของเจ้ามา ไม่เท่ากับว่ายกมือป้อนอาหารเข้าปากฮ่องเต้เองหรอกหรือ รอสักพักก่อน รอให้ทางนี้สงบลงก่อน แล้วเราค่อยกลับหรู่หนาน พอถึงตอนนั้นจะไปกตัญญูกับท่านพ่ออย่างไรก็ได้ วันเวลาข้างหน้ายังอีกยาวไกล เรื่องแค่นี้เอง มองแง่ดีหน่อย ไม่ต้องร้องไห้แล้ว ร้องไห้จนหน้าลายหมดแล้ว”

 

 

นางหยุดร้องไห้ ในตายังมีน้ำคลออยู่ ถามเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ท่านยอมทิ้งตำแหน่งอ๋องหรือ”