ตอนที่ 342 หน้าที่

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 342

หน้าที่

“เร็วอีกๆ”ตั้งแต่ที่ชิงชิวเข้ามาฝึกในกรมทหาร สิ่งเดียวที่ตัวชิงชิวสัมผัสได้คือการฝึกโหด และจำนวนเงินที่ละลายหายไป ตั้งแต่มาที่นี่ชิงชิวก็ได้รับตำราฝึกฝนวิชาสำหรับทหารในกองทัพ พร้อมกับการแจกจ่ายยาที่ทำจากสมุนไพรพิเศษทุกๆวัน ตัวชิงชิวไม่เคยกินสมุนไพรพวกนี้มาก่อนเพราะไม่มีเงินซื้อ แต่ที่นี่กลับแจกฟรีราวกับเป็นเครื่องเคียงอาหารค่ำเสียอย่างนั้น

“ช้าไป แบบนี้ตามไม่ทันหรอก”ครูฝึกที่รับหน้าที่ฝึกชิงชิวโดยเฉพาะเป็นอสูรตนหนึ่งที่มีความเร็วสูงมาก ต่อให้ชิงชิวใช้ท่าเท้าเหยี่ยวเทาท่องลมก็ยังแทบจะตามไม่ทัน

ตูม!! เพราะเร่งความเร็วเกินกว่าที่ตัวเองคุมไหว ร่างของชิงชิวเลยเผลอพุ่งเข้าชนกำแพงเสียอย่างนั้น ไม่ทราบทำไมการฝึกของชิงชิวถึงเน้นไปที่การตามล่าราวกับจะมอบหมายงานตามล่าอะไรสักอย่างให้ชิงชิวก็ไม่ปาน

“ไม่ได้เรื่อง”อสูรผู้ทำหน้าที่ครูฝึกพูดพลางกอดอกมองชิงชิวนิ่ง เพราะเวลาผ่านมา 6 ปีแล้วทำให้อสูรในอาณาจักรไป๋เริ่มเคยชินกับการอยู่ในสภาพมนุษย์แล้ว ต่อให้ไม่คืนร่างเป็นอสูรครูฝึกก็ยังเร็วมากอยู่ดี

“ลุกขึ้นมา แล้วทำซ้ำอีกรอบ”ครูฝึกสั่งพลางเรียกลูกบอลน้ำออกมาสาดใส่ชิงชิว

“ขอรับ”ชิงชิวกัดฟันขึ้นมาพลางวิ่งไล่ตามครูฝึกต่อ ไม่รู้เหมือนกันว่างานที่ท่านแม่ทัพใหญ่ต้องการคืออะไร แต่การฝึก 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาหนักมากทีเดียวสำหรับชิงชิว แต่ถึงอย่างนั้นผลตอบรับก็ดีเกินคาด ไม่ทราบเพราะเคล็ดวิชาฝึกฝนพลังอย่างเคล็ดสองตะวันที่ถูกแจกจ่ายให้เหล่าทหารทุกคนหรือเพราะยาเสริมพลังที่ปรุงมาจากคลังโอสถกันแน่ทำให้ชิงชิวเลื่อนระดับขึ้นมาถึง 2 ขั้นกลายเป็นระดับ 8 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากเร่งอีกหน่อยบางทีชิงชิวอาจจะสามารถเลื่อนเป็นระดับชำระกล้ามเนื้อได้ทันก็ได้

เปรี้ยงๆๆๆ หลังจากฝึกซ้อมทักษะการตามล่าแล้ว ชิงชิวก็ต้องมาฝึกต่อสู้ร่วมกับทหารฝึกหัดคนอื่นๆ เพราะช่วงอายุที่ห่างกันมากทำให้กำลังของชิงชิวค่อนข้างเสียเปรียบ แต่เพราะมันเป็นคนที่มำลังวิญญาณสูงมาแต่แรกทำให้มันไม่เคยถอยให้พวกรุ่นพี่เลย

ตูม!! หอกไม้ในมือของชิงชิวกระแทกดาบไม้ในมือของรุ่นพี่ของมันจนลอยออกไปจากมือ ในกลุ่มทหารฝึกหัดไม่มีใครต้านชิงชิวได้เลย

“ต่อไปข้าเอง”อยู่ๆครูฝึกวิชาต่อสู้ก็เดินเข้ามาพร้อมดาบไม้ในมือ แรงกดดันมหาศาลของอีกฝ่ายทำเอาชิงชิวนึกเสียใจขึ้นมาที่เอาชนะพวกรุ่นพี่ได้

เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆ!! เมื่อต้องต่อสู้กับครูฝึก แน่นอนว่าครูฝึกออมพลังให้เช่นกัน แต่วิชาของครูฝึกกลับรวดเร็วจนน่ากลัว ดาบในมือของมันหวดฟาดใส่ชิงชิวไม่ยั้งทำเอามือของชิงชิวพันกันไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังรักษาร่างกายของมันเอาไว้ได้เพราะวิชาท่าเท้าของมันพิเศษกว่าคนอื่นๆ มันหลบได้เร็วและคล่องตัวอย่างมาก เวลาสู้กับชิงชิวมันรู้สึกเหมือนชิงชิวเลื้อยไปรอบๆตัวไม่มีผิด

เปรี้ยง!!! แต่ถึงอย่างนั้นชิงชิวก็ไม่อาจเอาชนะครูฝึกได้ ไม่นานหอกไม้ในมือของชิงชิวก็โดนกระแทกเข้าอย่างจังจนหลุดมือ

“ทำไมเจ้าถึงใช้หอก”ครูฝึกถามพลางมองหอกที่หล่นอยู่บนพื้นนิ่ง ท่าเท้าของชิงชิวพัวพันได้ดี แต่กลับใช้หอกทำให้ระยะโจมตีห่างออกไป ท่าเท้าที่พิเศษกลับลดประสิทธิภาพลงไปกว่าครึ่ง

“เอ๋ ไม่ใช่ว่าหอกเป็นอาวุธหลักของทหารหรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางเก็บหอกขึ้นมา

“มันก็แล้วแต่คน ข้าเองเวลาสู้รบจริงๆยังใช้ขวานเลย”ครูฝึกตอบพลางเบ่งกล้ามให้ชิงชิวดู

“เอ่อ….”ชิงชิวเอ๋อไปพักหนึ่งพลางมองไปที่ชั้นอาวุธสำหรับฝึกซ้อม มันจำภาพกองทหารถือหอกมาจากสมัยเด็กนึกว่าเวลาสู้กันจริงๆจะเน้นใช้หอกเสียอีก

“เอานี่ไปลอง”ครูฝึกว่าพลางโยนดาบสั้นกับมีดที่ทำจากไม้ไปให้ชิงชิว หากลองใช้สักอันน่าจะเหมาะกว่าหอกแน่ๆ

“ขอรับ”ชิงชิวว่าพลางถือดาบสั้นในมือขวาแล้วถือมีดในมือซ้าย ถึงจะโยนให้เลือกแต่ก็ไม่ได้ห้ามเลือกทั้งสองอย่างนี่นะ

เปรี้ยงๆๆ!! “หวา”ชิงชิวโจมตีใส่ครูฝึกไปได้ไม่กี่ครั้งก็เซล้มไปเองเสียดื้อ ทำเอารุ่นพี่พากันหัวเราะกันยกใหญ่ ท่าทางร่างกายชิงชิวจะชินกับหอกก็เลยยังคุมอาวุธสั้นที่น้ำหนักเบามากไม่คล่อง ยิ่งทำจากไม้แล้วยิ่งเบาจนเหมือนไม่ได้ถืออะไรเลย

“อืม…ตั้งแต่พรุ่งนี้ฝึกด้วยอาวุธนี้ก็แล้วกัน”ครูฝึกว่าพลางมองที่ดาบไม้ของตนเอง เมื่อครู่ชิงชิวเข้ามาโจมตีได้ดีทีเดียว แต่เพราะเหวี่ยงตัวแรงเกินไปเลยล้ม หากคุมแรงและสมดุลได้ ท่าเท้าของชิงชิวจะทำให้วิชาสู้ประชิดตัวของมันน่าสนใจทีเดียว

.

.

“ดีมาก”หลังจากเวลาผ่านไปอีก 2 อาทิตย์ ในที่สุดชิงชิวก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอยเสียที ในการฝึกไล่ล่าชิงชิวเริ่มตามครูฝึกทันแล้ว แม้จะยังจับตัวท่านไม่ได้ แต่ชิงชิวก็ไม่ชนอะไรมั่วซั่ว แถมยังไม่เคยปล่อยครูฝึกหลุดพ้นสายตาอีกต่างหาก แถมวิชาต่อสู้ยังพัฒนาขึ้นมา ตอนนี้ไม่มีใครเอาชนะชิงชิวได้อีกแล้วในเหล่าทหารฝึกหัดทั้งหมด

“พรุ่งนี้ท่านขุนพลจะมารับเจ้า เตรียมตัวเอาไว้”นายทหารสั่งพลางเดินเข้ามาหาชิงชิว ไม่นึกเลยว่าเวลาเดือนเดียวชิงชิวจะพัฒนาเร็วขนาดนี้ ไม่ผิดแน่เจ้าหนูนี่มีแววจะเป็นยอดฝีมือได้ ท่าทางจะฝากความหวังเอาไว้ได้ทีเดียว

ตูม!! ท่านขุนพลยังคงเปิดประตูออกมาแรงๆเช่นเดิม หลังจากนอนพักหนึ่งคืน ชิงชิวก็ถูกจับแต่งกายด้วยเครื่องแบบลำลองของทหารโดยการแต่งกายของทหารจะเป็นเสื้อผ้าสีเขียวเข้มเพราะทหารฝั่งมนุษย์ขึ้นตรงกับตระกูลหลิว สัญลักษณ์บนเสื้อผ้าของพวกมันจึงเป็นสัญลักษณ์ต้นหลิวไปด้วยเช่นกัน

“โอ้ ไม่เลวนี่แค่เดือนเดียวเท่านั้นเอง ตามมาข้าจะเจ้าไปรับตำแหน่ง”ได้ยินเช่นนั้นชิงชิวก็ดวงตาเปล่งประกายออกมาทันที ในที่สุดมันก็ได้เป็นทหารเสียที

“ข้าได้ข่าวว่าเจ้าฝึกหนักทีเดียว ครูฝึกของเจ้าชมเจ้ากันทุกคนเลย”ขุนพลว่าพลางพาชิงชิวเดินผ่านประตูบานใหญ่เข้ามา เพราะชิงชิวอยู่แต่ในค่ายฝึกของกรมทหาร เลยไม่ทราบว่าประตูบานนี้คือที่ไหน แต่จำนวนคนและอสูรที่ทำงานอยู่มีมากมายจริงๆ

“ขอรับ ข้าอยากจะได้งานเร็วๆก็เลยพยายามเต็มที่”ชิงชิวว่าพลางยิ้มออกมา

“ดี แบบนี้ท่านแม่ทัพต้องถูกใจแน่ๆ”ท่านขุนพลว่าพลางตบบ่าของชิงชิวอย่างชอบใจ ไม่นึกว่าเด็กที่มันรับมาเพราะคำสั่งแปลกๆของท่านแม่ทัพจะทำได้ดีขนาดนี้ ออกจะน่าเสียดายไปหน่อยเสียด้วยซ้ำที่ต้องมอบมันให้แม่ทัพ

“ขะ ขอรับ”ชิงชิวหน้าแดงน้อยๆ ขณะเดินตามท่านขุนพลเข้าไปในตัวอาคารขนาดใหญ่

“ท่านแม่ทัพ”เมื่อเดินมาถึงหน้าชายคนหนึ่ง ท่านขุนพลก็ยกมือขึ้นประสานให้ชายหนุ่มท่าทางสง่างาม ในเมื่อท่านขุนพลทำความเคารพและเรียกท่านว่าท่านแม่ทัพแล้วมีหรือจะเป็นอื่นไปได้ อีกฝ่านคือหลิวหลง แม่ทัพแห่งกองทัพมนุษย์นั่นเอง

“ทะ ท่านแม่ทัพ ยินดีที่ได้พบขอรับ”ชิงชิวว่าพลางประสานมืออย่างรวดเร็ว

“อืม..ไม่เลว”แม่ทัพหลิวหลงพูดพลางมองมาทางชิงชิว มันเองก็ได้รับรายงานเรื่องการฝึกของชิงชิวเช่นกัน เรียกได้ว่ามันทำได้เกินคาดอยู่ไม่น้อยเลย

“ตามข้ามา”ได้ยินแม่ทัพหลิวหลงพูดเช่นนั้นชิงชิวก็ไม่ขัด เดินผ่านประตูอีกบานเดินเข้าไปในห้องขนาดใหญ่ที่มีคนนั่งอยู่เต็มไปหมด

“ถวายบังคมพระเจ้าข้า”อยู่ๆทั้งแม่ทัพทั้งท่านขุนพลก็คุกเข่าลงกับพื้นทำเอาชิงชิวที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวได้ทราบเสียทีว่าตนเองถูกพามาที่ไหน มันเหลอหลาอยู่พักใหญ่ก่อนจะคุกเข่าลงเช่นกัน

“นี่นะหรือคนที่ท่านว่า”ไป๋จูเหวินที่นั่งอยู่บนบัลลังก์พูดพลางมองมาทางชิงชิว ดวงตาของมันเปลี่ยนเป็นสีม่วง เขียว และ ทองตามลำดับ ราวกับจะตรวจสอบร่างกายของชิงชิวให้แน่ชัด

“ไม่เลว อายุเท่านี้ก็มีพลังระดับนี้แล้ว ภายภาคหน้ามันต้องเป็นยอดฝีมือแน่ๆ”ไป๋จูเหวินชมพลางยิ้มออกมา ตอนมันอายุ 15 ยังไม่ได้มีพลังระดับนี้เสียด้วยซ้ำ หากเป็นเด็กคนนี้อาจจะทำงานที่มันมอบหมายให้สำเร็จก็ได้

“ขอ ขอรับ….”ชิงชิวยามนี้ไม่ได้ฟังอะไรอีกแล้ว ใครจะไปคิดว่ามันจะโดนพามาอยู่เบื้องหน้าองค์จักรพรรดิ สำหรับชาวอาณาจักรโฮเก่าแล้วท่านเปรียบเสมือนพระเจ้าที่มาโปรดอาณาจักรของตนเลย บอกตามตรงตอนนี้มันประหม่าสุดๆไปเลย

“พระองค์ เด็กคนนี้มีความสามารถพิเศษที่ดีเยี่ยมมากขอรับ”หลิวหลงว่าพลางลุกขึ้นช้าๆ 6 ปีที่ผ่านมานี้ลบความเกลียดชังต่อไป๋จูเหวินในใจมันไปได้มาก ตอนนี้มันนับถือไป๋จูเหวินจนหมดใจและยอมทำงานในฐานะแม่ทัพอย่างขยันขันแข็งทีเดียว

“ความสามารถพิเศษ”ไป๋จูเหวินเลิกคิ้ว เด็กคนนี้ไม่มีพลังอสูร ไม่น่าจะมีความสามารถพิเศษจากอสูรได้นี่นา

“มันมีจมูกที่ดีมากขอรับ มันสามารถตามตัวเจ้าของกลิ่นได้ดีกว่าอสูรสุนัขเสียอีก”ท่านขุนพลเป็นผู้เอ่ยปากตอบเองด้วยความมั่นใจ แน่นอนว่าระหว่างฝึกชิงชิวโดนทดสอบเรื่องความสามารถรับกลิ่นหลายครั้งทีเดียว ผลก็คือทหารที่เป็นเป้าหมายไม่มีใครหนีการตามล่าของชิงชิวได้เลย ต่อให้อีกฝ่ายระดับสูงกว่ามากก็ตาม

“ดี เจ้าชื่อชิงชิวใช่หรือไม่”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางบอกให้ชิงชิวลุกขึ้นยืน มันไม่ชอบให้คนอื่นคุกเข่าคุยกับมันอยู่แล้ว

“ขะ….ขอรับ”ชิงชิวตัวสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองแล้วจึงได้เห็นใบหน้าของไป๋จูเหวินอย่างชัดเจน บอกตามตรงมันแทบจะน้ำตาไหลออกมาเลยทีเดียว

“ข้ามีงานจะมอบหมายให้เจ้า”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีอบอุ่น

“ข้าอยากจะให้เจ้าเป็นองครักษณ์ส่วนตัวของบุตรสาวข้า”ได้ยินเช่นนั้นชิงชิวก็สะดุ้งโหยง องครักษณ์ส่วนตัว…. แบบนั้นมันไม่มีทางไหวแน่ๆ งานแบบนั้นสมควรให้ยอดฝีมือทำไม่ใช่หรือ

“ไม่ต้องห่วง เรื่องคุ้มกันให้เป็นหน้าที่ของไป๋ไป่…หมายถึงอสูรของนางก็พอ เจ้ามีหน้าที่ตามจับตัวลูกสาวข้าไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางเท่านั้น”ไป๋จูเหวินถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ ไป๋หลินตอนนี้อายุ 12 ปีแล้ว ยิ่งโตนางก็ยิ่งซน แถมยังชอบแอบหนีไปเที่ยวคนเดียวอีกต่างหาก บอกตามตรงไป๋จูเหวินปวดหัวกับเรื่องนี้มากทีเดียว