ตอนที่ 2213 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (54)
“ก็ได้ อาจารย์เชื่อหนู”
เขาเชื่อเธอแค่เพราะเด็กสาวคนนี้เป็นลูกศิษย์ของเขา
อวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวสบตากันก่อนริมฝีปากของนางจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม “อวิ๋นเซียว พวกเราไปกันเถอะ อีกไม่นานธุระที่นี่ก็จะเสร็จแล้ว…”
ฟู่หรูมองพวกเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ตอนที่เขาได้สติกลับมา คนทั้งสองก็หายไปแล้ว
นักศึกษาทุกคนมีประวัติอยู่ในมหาวิทยาลัย และใบประวัตินี้ก็ต้องเก็บอยู่สักทีหนึ่งแน่นอน ด้วยความแข็งแกร่งของอวิ๋นลั่วเฟิงกับอวิ๋นเซียว พวกเขาก็สามารถเข้ามาในห้องเก็บเอกสารแล้วหาที่อยู่เจออย่างรวดเร็ว
สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือเด็กผู้หญิงคนนั้นจะชื่อหลินฉิง และเป็นเพื่อนบ้านร่วมอพาร์ทเมนท์ของอวิ๋นลั่วเฟิง นางเข้าไปในหมู่บ้านแล้วมุ่งไปที่ที่พักของหลินฉิงทันที
ขณะนั้นเอง ภายในบ้านของหลินฉิงกำลังมีหนังสดเล่นอยู่บนโซฟา
ฝ่ายหญิงมีผมสั้นและสวมตุ้มหูแวววาว เธอมีรูปร่างดีมากและผิวพรรณก็เรียบเนียน แต่ถุงดำใต้ตาบั่นทอนความสวยของเธอ
ฝ่ายชายก็เป็นวัยรุ่นเกเรเหมือนกันที่ทำผมสีทองสะดุดตา เขาคร่อมตัวออกแรงขยับอยู่เหนือฝ่ายหญิงอย่างขะมักเขม้น แผ่นหลังของเขามีเหงื่อเปียกชุ่ม ส่วนเส้นผมก็ยุ่งเหยิงแนบติดอยู่กับหน้าผาก
นานครู่ใหญ่กว่าคนทั้งคู่จะหยุดออกแรง ฝ่ายหญิงนอนอยู่บนตัวของฝ่ายชายแล้วหอบหายใจ แต่ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยแรงปรารถนา
“พี่หวง เงินที่เจ้านายให้เรามาตอนนั้นใกล้จะหมดแล้วนะ ฉันจะไปขู่เขาให้เอาเงินจำนวนหนึ่งมาให้พวกเราอีก”
ชายผมทองที่ถูกเรียกว่าพี่หวงแปลกใจ “เรื่องนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว เธอจะไปขู่เขาให้เอาเงินมาอีกได้ยังไง”
“พี่ต้องไม่รู้เรื่องนี้แน่เลย แต่ตอนที่เขาให้ฉันใส่ร้ายอาจารย์ฟู่หรู ฉันแอบบันทึกเสียงแล้วเก็บไว้ขู่เอาเงินเขาทีหลัง” หลินฉิงอธิบายอย่างร่าเริงโดยมีรอยยิ้มพึงพอบนใบหน้า
ชายผมทองจุดบุหรี่ “เธอมันโหดร้ายจริงๆ ทำแม้กระทั่งใส่ร้ายอาจารย์ที่ช่วยให้เธอได้เข้ามหาวิทยาลัย”
“เหอะ” หลินฉิงแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเยาะเย้ย “เขาก็แค่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินสองสามปี ทั้งหมดก็แค่หมื่นเหรียญ ไม่ใช่บุญคุณยิ่งใหญ่อะไรเลย แต่ว่าเขาเป็นคนโหดร้าย เรารู้จักกันมาหลายปี แต่ตอนที่ฉันถูกคนทวงหนี้ตามล่าและต้องการให้เขาช่วยฉัน เขาก็ไม่ยอมช่วยไม่ว่าฉันจะขอร้องเขายังไง”
ประกายความเกลียดชังพาดผ่านดวงตาของเธอ
“ถ้าเขาช่วยฉัน ฉันก็คงไม่ช่วยคนอื่นใส่ร้ายเขาหรอก พี่ต้องรู้ไว้นะ เจ้านายคนนั้นให้เงินฉันตั้งหลายล้านหยวน! หลังจากที่จ่ายหนี้หลายแสนเหรียญไปแล้ว ฉันก็ยังมีอีกหลายล้านไว้ใช้ มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ไม่รับข้อเสนอนี้”
อย่างไรก็ต้องขอบคุณที่เธอฉลาดและกลัวว่าเจ้านายคนนั้นจะไม่ยอมจ่ายตามตกลง เธอก็เลยฝังหลักฐานที่เขาให้เธอไปใส่ร้ายฟู่หรูเอาไว้แล้วบอกเขาว่าเธอให้หลักฐานกับเพื่อนไปแล้ว ถ้าเจ้านายคนนั้นไม่ยอมจ่ายเงินและต้องการฆ่าปิดปากเธอ หลักฐานก็จะถูกเปิดเผย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เจ้านายคนนั้นให้เงินเธอเพิ่มอีกหนึ่งล้านจากเงินก้อนเดิม!
ทันทีที่เธอนึกถึงความฉลาดของตัวเอง หลินฉิงก็ยิ่งภูมิใจในตัวเอง ส่วนเรื่องใส่ร้ายฟู่หรู เขาทำตัวเองและไม่มีสิทธิ์โทษคนอื่น! ใครบอกให้เขาไม่ยอมให้เธอยืมเงินเพื่อจ่ายหนี้นอกระบบล่ะ!
“เสี่ยวฉิง พี่รู้ว่าเธอมีหลักประกัน ตอนนี้พวกเราสามารถใช้ชีวิตที่เหลือได้อย่างสุขสบายโดยไม่ต้องกังวลแล้ว”
เมื่อได้ยินว่าพวกเขายังสามารถขู่เอาเงินได้อีก ดวงตาของชายผมทองก็เป็นประกายและไม่อาจห้ามแรงปรารถนาและเริ่มกิจกรรมออกแรงอีกครั้ง
เงินทำอะไรได้หลายอย่าง เงินสามารถทำให้คนแทงข้างหลังผู้มีพระคุณ และขายพวกเขาออกไปได้…เงินทำให้คนกลายเป็นบ้า…
ตอนที่ 2214 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (55)
“นั่นใคร”
จู่ๆ หลินฉิงก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างแล้วเงยหน้ามองทันที ภายใต้แสงจันทร์มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมองเธอแล้วยิ้มกว้าง โดยมีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ เธอ ท่าทางของเขาสง่างามและไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง เผยให้เห็นเพียงใบหน้าด้านข้างเท่านั้น แต่แค่ใบหน้าด้านข้างก็ทำให้ตกตะลึงแล้ว
“พวกแกเป็นใคร มาทำอะไรในบ้านฉัน”
หลินฉิงไม่มีเวลามาแปลกใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเสียงของเธอก็สั่น
อวิ๋นลั่วเฟิงโบกโทรศัพท์มือถือในมือแล้วพูดพร้อมรอยยิ้มบางว่า “ฉันบันทึกบทสนทนาเมื่อครู่ของพวกเธอแล้ว ตอนที่เรายังมีเวลา เธอบอกฉันได้ไหมว่าเจ้านายที่เอาเงินปิดปากเธอเป็นใคร”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นความตื่นตระหนกก็พาดผ่านดวงตาที่กำลังหวาดกลัวของหลินฉิง เธอรีบดึงผ้าห่มคลุมร่างกาย “แกเป็นใคร”
รอยยิ้มของอวิ๋นลั่วเฟิงกว้างขึ้น “ฟู่หรูเป็นอาจารย์ของฉัน”
ฟู่หรูเป็นอาจารย์ของฉัน!
ตูม!
ทันใดนั้นใบหน้าของหลินฉิงก็ซีดเผือด และเธอก็เริ่มตัวสั่นยิ่งกว่าเดิม
“แกมาที่นี่เพื่อหาหลักฐานช่วยฟู่หรูงั้นเหรอ ฉันไม่ยอมแน่! ฉันไม่ยอมให้แกได้หลักฐานไปแน่! เร็ว ขโมยโทรศัพท์มันมา!”
ชายที่นอนอยู่บนตัวหลินฉิงตอบสนองทันทีแล้วเอื้อมมือออกมา ร่างกายของเขาไม่มีเสื้อผ้าจึงเผยให้เห็นร่างกายทุกส่วน แต่โชคดีที่อวิ๋นลั่วเฟิงหลับตั้งแต่พริบตาที่เขายืนขึ้นมา
เมื่อเห็นแบบนั้นชายผมทองก็ยิ้มเยาะในใจแล้วพุ่งเข้ามาหาอวิ๋นลั่วเฟิง เขายกมือขึ้นเพื่อขโมยโทรศัพท์ในมือของเธอ
น่าเสียดายที่ก่อนเขาจะได้เข้าใกล้อวิ๋นลั่วเฟิง บุรุษที่ยืนอยู่ข้างๆ คนนั้นก็หันหน้ามาโดยไม่มองอีกฝ่ายก่อนจะระเบิดพลังออกมาจนเกิดเสียงดัง ชายผมทองกระเด็นกลับไปแล้วกระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง
“อ๊าก!” เมื่อเห็นฉากแปลกประหลาด หลินฉิงก็กรีดร้อง “ผี!”
ใครเคยเห็นคนมีชีวิตทำให้คนอื่นกระเด็นถอยหลังโดยไม่ขยับหรือเปล่าล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเลี้ยงผี!
“นายอยากขโมยโทรศัพท์ฉันงั้นเหรอ” รอยยิ้มของอวิ๋นลั่วเฟิงกว้างขึ้น “บอกมาว่าใครเป็นคนใช้ให้เธอใส่ร้ายอาจารย์ของฉัน”
ความคิดของหลินฉิงว่างเปล่าและมึนงงจน เธอเกือบจะเป็นลมเมื่อรู้สึกถึงพลังที่เข้ามาควบคุมเส้นประสาทและทำให้สมองของเธอตื่นตัวอย่างมาก
ความรู้นี้ทำให้หลินฉิงยิ่งหวาดกลัว
“ฉัน…ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ฉันรู้แต่ว่าเจ้านายเป็นผู้หญิง”
ผู้หญิง? อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้ว อาจารย์ไปขัดแย้งกับสตรีตั้งแต่เมื่อไหร่
“ถ้าอย่างนั้นเธอติดต่ออีกฝ่ายได้อย่างไร” อวิ๋นลั่วเฟิงถามอย่างใจเย็น
“ฉันมีวิธีติดต่อเธอ แต่หลังจากที่ฉันติดต่ออีกฝ่ายแล้ว แกจะปล่อยฉันไปไหม” หลินฉิงสั่นตั้งแต่หัวจรดเท้ารวมถึงขาด้วย ปัสสาวะราดลงมาตามง่ามขาแล้วส่งกลิ่นเหม็นออกมา
อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “อาจารย์ให้ทุนเธอเรียนแต่เธอกลับกัดมือที่ให้อาหารแล้วช่วยคนใส่ร้ายเขา บอกฉันสิว่า ฉันจะปล่อยเธอไปได้อย่างไร”
“แก…” ใบหน้าของหลินฉิงซีดเผือด “ถ้าแกไม่ปล่อยฉันไป ฉันจะไม่ช่วยแกติดต่อกับเธอ”
ตอนแรกเธอคิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะหน้าซีดด้วยความกลัวหลังจากที่ได้ยินแบบนี้ แต่รอยยิ้มยังคงอยู่บนใบหน้าของอีกฝ่าย
อวิ๋นลั่วเฟิงจ้องนางแล้วยิ้มบาง “เธอคิดว่าฉันจะหาอีกฝ่ายไม่ได้ถ้าไม่มีเธอเหรอ ฉันก็แค่ไม่อยากเสียเวลามากเกินไป แน่นอนว่าถ้าเธอไม่พูดก็ไม่มีปัญหา ฉันก็แค่ฆ่าเธอทันทีแล้วถือซะว่าแก้แค้นให้อาจารย์”
“ไม่นะ!” ดวงตาของหลินฉิงเต็มไปด้วยความกลัว “การฆ่าคนผิดกฎหมาย! แกฆ่าฉันไม่ได้!”