ตอนที่ 948 ถึงกับช็อก
สองวันต่อมา ชุยอี้ผิงทั้งสองคนก็ออกไปเข้าร่วมทำกิจกรรมทุกวัน ในขณะที่หยางโปก็อยู่บ้านฝึกบำเพ็ญเพียรคนเดียว
ในระหว่างวันไม่สามารถใช้กระจกแสงจันทร์ได้ หยางโปจึงฝึกฝนได้ช้าลงมาก เขาหยิบโสมคนพันปีออกมา หั่นออกชิ้นเล็กๆ แล้วใส่เข้าไปในปากของเขา ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่าพลังไหลเวียนออกมาราวกับน้ำที่ไหลริน
การฝึกบำเพ็ญขั้นหยิ่นชี่ สิ่งสำคัญคือต้องอาศัยการสะสมของพลัง โสมคนพันปีสามารถทำให้วงจรการฝึกของหยางโปสั้นลงได้
หลูตงซิงมาหาทุกคืน เขานำปัญหาที่เขาครุ่นคิดมาทั้งวันมาตั้งคำถาม ทางด้านหยางโปก็ได้ตอบคำถามไปอย่างละเอียด คำถามทั้งหมดที่เขาถามมานับวันก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ
สองวันต่อมา หยางโปรู้สึกว่าหลูตงซิงเกือบพร้อมที่จะฝึกซ้อมแล้ว ดังนั้นจึงพาเขาไปที่วิลล่าที่อยู่เขตชานเมือง
บ้านของหยางโปที่เขตชานเมืองอยู่ในทำเลที่ดีมาก มันล้อมรอบไปด้วยภูเขาและแม่น้ำและมีพลังเติมเต็มมากเพียงพอ เขานำสมุนไพรจำนวนมากมาด้วย โสมคนพันปีมีฤทธิ์แรงเกินไป จำเป็นต้องทำให้มีภาวะความเป็นกลาง
หยางโปจัดการกับหลูตงซิงเรียบร้อย เพื่อให้เขาได้สัมผัสถึงพลังอย่างลึกซึ้ง จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องครัวและใส่สมุนไพรลงในหม้อทีละอย่าง จากนั้นก็นำรากของโสมพันปีที่เขาเตรียมไว้ใส่ลงไป
เมื่อกลับมาถึงที่ห้อง หยางโปได้กำชับกับหลูตงซิงไปอีกครั้งและพูดถึงข้อควรระวังทั้งหมดให้ฟังอีกรอบ หลังจากที่หลูตงซิงท่องตามซ้ำอีกรอบ หยางโปถึงได้วางใจ
ทั้งสองมาถึงวิลล่าในตอนเช้า กระทั่งเที่ยงจนได้กลิ่นที่เข้มข้นจากหม้อตุ๋นยาโชยมา หยางโปถึงได้ดับไฟและยกหม้อตุ๋นยาตรงไปยังห้องที่หลูตงซิงอยู่
อวี่เหวินเคยให้สูตรยากับเขาไว้เมื่อก่อนหน้านี้ หยางโปถือหม้อตุ๋นยา และเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่คุกกรุ่นอยู่ข้างในได้ดี พลังพวกนี้ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวจนอยู่ไม่สุข
เมื่อนำยาเข้ามาในห้องแล้ว ก็ทำการเทลงในชามยื่นให้หลูตงซิง จากนั้นหยางโปถึงได้กำชับไปว่า
” ร้อนสักหน่อยนะ แต่คุณต้องดื่มรวดเดียวให้หมด ! ”
หลูตงซิงรับชามมาถือไว้ และหันไปพยักหน้าให้หยางโป เขาหายใจเข้าลึกๆและเงยหน้าขึ้นดื่มน้ำซุปหมดในรวดเดียว
“ กลั้นหายใจเอาไว้ ! ” หยางโปพูดด้วยเสียงอันดัง
หลูตงซิงหลับตา และทำตามที่หยางโปบอก เขาสัมผัสได้ถึงพลังและดูดซับพลังเข้าไป
หยางโปยืนอยู่ด้านข้าง เขาสามารถสัมผัสได้ว่า มีพลังที่หนาแน่นเคลื่อนไหวอยู่บนตัวหลูตงซิง
แต่พลังนี้ไม่คงที่ บางทีก็แข็งแกร่งบางทีก็อ่อนแอ เวลานี้หลูตงซิงก็ดูดซับพลังได้ยากเช่นกัน
จากนั้น หลูตงซิงก็เหมือนถูกโจมตีอย่างหนัก ใบหน้าแดงก่ำ เส้นเลือดบวมปูดขึ้นบนหน้าผาก ร่างกายสั่นเทา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด !
“ ทำใจให้สงบ ! ” หยางโปตะคอกใส่ด้วยเสียงอันดัง มือข้างหนึ่งตบลงไปตรงกลางกะโหลกศีรษะ !
พอถูกตบเข้า หลูตงซิงก็ดูเหมือนจะระบายออก ใบหน้าที่แดงก่ำก็ค่อยๆสงบลงและฟื้นตัว พลังงานที่รายล้อมอยู่นอกกายของเขา ค่อยๆคงที่และถูกเขาดูดซับเข้าไป…
หยางโปถึงได้โล่งใจ “ สำเร็จก้าวแรกแล้ว ต่อจากนี้ก็จะดีขึ้นมาก ”
หยางโปที่นั่งอยู่ด้านข้าง รอคอยอย่างอดทน แต่เมื่อนั่งไปได้เพียงครู่หนึ่ง หยางโปก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พอแนบหูฟัง ก็มีเสียงดังกรอบแกรบเข้าหูมา
หยางโปรีบลุกขึ้นทันที เปิดประตู และเดินออกไป จู่ๆเขาก็ตกตะลึง เขาคิดไม่ถึงว่าจะเห็นหนู
งู กระต่ายป่า และแมลงต่างๆอยู่ทั่วห้อง !
หนูพวกนี้วิ่งวุ่นไปมารอบๆห้อง วิ่งไปทั่วทุกมุมห้อง ขณะที่งูก็ขดตัวอยู่บนโซฟา พอเจอกับหนู
ไม่ต้องถามเลย ในระหว่างนั้นแมลงจำนวนมากก็กระโดดโลดเต้นไปมาไม่หยุด !
พอหยางโปเปิดประตู แมลงพวกนี้ ต่างพากันหันหน้ามาทางเขาเกือบพร้อมๆกัน ราวกับว่าเขาเปิดกล่องแพนดอร่าออกมาอย่างนั้น !
จากนั้น ก็ดูเหมือนว่าสัตว์ตัวเล็กๆเกือบทั้งหมดจะวิ่งกรูกันมาทางเขา !
ถึงแม้หยางโปจะมีกำลังที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตเล็กๆพวกนี้
เขาก็ยังคงรู้สึกตกใจกลัว เขาจึงรีบปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว
“ ปัง ! ปัง ! ปัง ! ”
จู่ๆประตูไม้ของห้องก็ถูกกระแทกเสียงดัง หยางโปจินตนาการออกได้เลยว่าสัตว์ตัวเล็กๆพวกนั้นคงชนประตูไม้เข้ามาอย่างแรงในเวลานี้ !
หยางโปรู้สึกแปลกใจ เขาจึงรีบมองไปที่หน้าต่างด้านนอก หน้าต่างมีงูและหนอนปีนป่ายขึ้นมาเต็มไปหมด ดูน่าขยะแขยงมาก !
นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?
หยางโปแปลกใจมาก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ !
หยางโปมองดูภายในห้องอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่มีใครอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานาน แต่มันก็ได้รับการทำความสะอาดอย่างสะอาดหมดจดอยู่ตลอดเวลา ไม่มีทางมีของที่จะมากระตุ้นสัตว์พวกนี้ได้
หรือว่าเป็นเพราะการฝึกฝนของหลูตงซิง ?
แต่เมื่อมองลงไปที่โถทรายสีม่วงที่วางอยู่บนพื้นมาตลอดทั้งคืน หยางโปก็รู้ทันทีว่าเป็นเพราะโสมคนพันปี ! ต้องเป็นโสมคนพันปีแน่ๆที่ดึงดูดสิ่งมีชีวิตเล็กๆพวกนี้มา !
หยางโปรู้ว่าโสมคนพันปีมีพลังที่ไม่ธรรมดาอยู่ ถ้าหลูตงซิงอาศัยเพียงการฝึกฝนด้วยตัวเอง
และคิดที่จะเข้ามาในเส้นทางนี้ เกรงว่าอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน แต่เวลานี้ เมื่อมาพึ่งพิงผลของโสมคนพันปี เขาจึงสามารถเข้ามาในเส้นทางนี้ได้ และมันก็สามารถที่จะดึงดูดสิ่งมีชีวิตน้อยๆพวกนั้นที่อยู่ข้างนอกเข้ามาได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติเช่นกัน
ประตูไม้ถูกกระแทกเสียงดังปังปัง เสียงข้างนอกก็ดังขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน หลังจากที่หลูตงซิงฝึกฝนอยู่พักหนึ่ง ก็ลืมตาขึ้นและเห็นสภาพนอกหน้าต่าง เขาถึงกับตกใจและรีบถอยหลังหนีทันที
“ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ” หลูตงซิงตกใจจนหน้าถอดสี เขาหันไปถามหยางโปทันที
หยางโปชี้ไปทางหม้อตุ๋นยาที่วางอยู่บนโต๊ะชาด้านข้าง “ เป็นเพราะสิ่งนี้น่ะ ! ”
หลูตงซิงหันกลับไปมองหมอตุ๋นยา “ หมอตุ๋นยางั้นเหรอ ? ”
“ เพราะโสมคนพันปีที่อยู่ข้างใน ! ” หยางโปตอบ
ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น เสียงชนประตูก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ หยางโปถึงกับได้ยินเสียงไก่ตัวผู้
เป็ดและเสียงสุนัข ที่นี่ยิ่งดูคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ
“ พวกเราจะทำยังไงกันดี ? ” หลูตงซิงค่อนข้างพะว้าพะวัง ถึงมันจะไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต
แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตเล็กๆพวกนี้มันก็ยังทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี
หยางโปหัวเราะร่า “ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะโยนหม้อตุ๋นยานี้ออกไปข้างนอก จากนั้นพวกเราก็วิ่งพรวดกันออกไปก็พอ ! ”
หลูตงซิงเหลือบมองไปทางหน้าต่าง พื้นที่ตรงนั้นถูกครอบครองไว้หมดแล้ว มันปิดบังแสงอาทิตย์ด้านนอกจนหมด ทำให้ในห้องดูค่อนข้างที่จะมืดสลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ตอนนี้ก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว
หลูตงซิงพยักหน้า หายใจเข้าลึกๆ “ นายโยนมันออกไปเลย ! ”
หยางโปยืนอยู่หลังประตู จากนั้นก็ปลดล็อค และดึงประตูห้องออกอย่างแรง !
“ เพล้ง ! ”
ด้านนอกประตูมีกองงู แมลง และหนูจำนวนมากเล็ดลอดเข้ามาในห้องขณะที่ประตูเปิดออก !
ศัตรูธรรมชาติในอดีตพวกนี้ ดูเหมือนจะมีเป้าหมายเดียวกันในเวลานี้ ต่างพากันทยอยหลั่งไหลเข้ามาในห้อง !
ถึงแม้หยางโปจะเตรียมใจไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้
ก็ยังยืนนิ่งอึ้งไปอยู่พักหนึ่ง เขาแกว่งมือ และโยนหม้อตุ๋นยาออกไปไกล ! เมื่อหันกลับมาเห็น
หลูตงซิงตกใจนิ่งอึ้งอยู่กับที่ เขาก็ตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังว่า “ วิ่งเร็วเข้า ! วิ่งออกไป ! ”
เมื่อหลูตงซิงได้ยินเสียงตะโกนของหยางโป ก็รีบเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าหยางโปรีบวิ่งพรวดออกไปแล้ว เขาจึงรีบวิ่งตามออกไป !
ทันทีที่หม้อตุ๋นยาถูกโยนออกไป ทิศทางของสัตว์ตัวเล็กๆในที่เกิดเหตุก็เปลี่ยนทิศทางไปอย่างกะทันหัน พวกมันต่างทยอยกันไปทางหม้อที่ถูกโยนทิ้งไป ทำให้หยางโปทั้งสองคนมีโอกาสที่จะหลบหนี พวกเขาเหยียบงูและแมลงใต้เท้า และวิ่งหนีออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
หลังจากวิ่งออกไปไกลมาก หยางโปถึงได้หันกลับมามอง หลูตงซิงวิ่งเหยาะตามมาช้าๆ
เขาหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้า
หลูตงซิงชี้ไปที่รองเท้าของหยางโป “ รองเท้าของนายเต็มไปด้วยเลือดแล้ว ! ”
หยางโปก้มหน้าลงมอง สะบัดรองเท้าที่อยู่บนเท้าเขวี้ยงออกไป และอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้
“ คงต้องขายวิลล่าหลังนี้ทิ้งซะแล้ว ”