ตอนที่ 949 ช่วยผู้อื่นให้พ้นจากอันตราย
หลูตงซิงหันหลังกลับมาดู อดไม่ได้ที่จะหัวเราะฮ่าๆเสียงดัง “ มันก็แค่บ้านพักตากอากาศเองไหม ?นายวางใจส่งมอบบ้านพักตากอากาศหลังนี้ให้ฉันเถอะ ฉันจะตกแต่งใหม่แล้วประกาศขายให้ เดี๋ยวกลับไปฉันจะมอบให้นายอีกหลังหนึ่ง ”
หยางโปส่ายหน้า “ ไม่ต้อง เพราะยังไงซะผมก็มาไม่บ่อย ”
หลูตงซิงยื่นมือออกไปห้ามเขาไว้ “ ไม่ต้องเกรงใจ วันนี้ฉันอารมณ์ดี ไม่มีปัญหาใดๆทั้งนั้น ”
หยางโปหันไปมองหลูตงซิง และพยักหน้าให้ จากนั้นก็ตอบตกลง บ้านพักตากอากาศแค่หลังเดียวสำหรับหลูตงซิงแล้ว ไม่ได้มีความกดดันอะไร
หยางโปกำลังจะถามรายละเอียดกับหลูตงซิง จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พอเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
ก็ทำเอาหยางโปถึงกับตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าคนที่โทรมาจะเป็นโจวซิน
หยางโปเดามาตลอดว่าโจวซินได้รับการแนะนำผ่านมาจากเยว่จวิ้นเหยา แม้แต่ครั้งแรกที่เจอกัน โจวซินยังพูดติดตลกเลยว่าเขามีเนตรเซียนทะลุมิติ เวลานั้นทำเอาหยางโปตกใจมาก แต่แน่นอนว่าภายหลังเขาก็ได้รู้ว่าโจวซินไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ได้
หลังจากรับสาย ก็ได้ยินเสียงโจวซินดังมาตามสายว่า ” หยางโป คุณอยู่ที่ไหน ? มาช่วยผม
เร็วเข้า ! ”
หยางโปตกตะลึงไปทันที “ เกิดเรื่องอะไรขึ้น ? ”
อีกฝ่ายหนึ่งดูเหมือนจะเงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นก็ได้ยินน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ” ศิษย์พี่หยาง คุณยังจำผมได้ไหม ? ” หยางโปตะลึงไปครู่หนึ่ง ” เสวียนจง ? เกิดอะไรขึ้น ? ” เสวียนจงยิ้ม
” ศิษย์พี่หยาง ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ผมก็ใช่ว่าจะกักตัวโจวเต๋าโยวเอาไว้นะ แต่เขาอยู่ที่นี่กับผมมานานแล้ว กินดื่มอาหารและเหล้าชั้นดีทุกวัน มองหาแต่ผู้หญิงที่สวยที่สุด ถึงกับหลับนอนกับดาราดังที่เป็นตัวท็อปอันดับสองคนหนึ่ง เรื่องพวกนี้ผมไม่คิดอะไรมากเลย ! ”
“ แต่เขาเรียนรู้นิสัยแย่ๆจากลูกน้อง และหนีไปเสี่ยงโชคเล่นการพนัน จนเสียเงินห้าสิบล้าน
เถ้าแก่ของเขามาหาถึงที่ชุมนุมยุทธภพ เขาให้ผมไปใช้หนี้ให้ ศิษย์พี่หยาง คุณก็น่าจะรู้ดี
ชุมนุมยุทธภพเป็นของทุกคน ทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมดก็มีไม่ถึงห้าสิบล้าน ในกรณีแบบนี้
จะให้ผมไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายหนี้ให้ ? ”
หยางโปถือโทรศัพท์แนบหูฟังที่เสวียนจงเล่ารายละเอียดให้ฟัง ด้วยใบหน้าที่แปลกใจ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าโจวซินจะกลายเป็นเหมือนนักต้มตุ๋นพเนจรและทำเรื่องพวกนี้ออกมาได้
แต่ยังไงซะ หยางโปก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที เพราะเขารู้สึกว่าเรื่องนี้อาจไม่ง่ายขนาดนั้น โจวซินอาจจะชอบเล่นสนุกไปบ้าง แต่ไม่น่าจะไปยืมเงินห้าสิบล้านมาได้ !
“ อีกฝ่ายให้จ่ายหนี้เมื่อไหร่ ? ” หยางโปถาม
เสวียนจงหัวเราะ “ ไม่เป็นไร ศิษย์พี่หยาง แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อสักครู่ผมโทรหาประธานโจว ของกรีนกรุ๊ปแล้ว แค่คุณเอ่ยปากเท่านั้น เขาก็จะส่งเงินมาให้ ”
หยางโปขมวดคิ้ว “ ไม่ต้องแล้วล่ะ วันนี้ผมจะไปรับเขา ”
เสวียนจงตกตะลึงทันที ” ศิษย์พี่หยาง คุณไม่จำเป็นต้องมาด้วยตนเอง ” ” ไม่เป็นไร วันนี้ผมจะไปถึงค่ำหน่อยนะ ในเมื่ออีกฝ่ายมาขอเงิน คงไม่ทำร้ายโจวซินเช่นกัน คุณช่วยผมดูหน่อยนะ ”
หยางโปเอ่ยปากขอร้อง
เสวียนจงรีบตกลงทันที
หลูตงซิงค่อนข้างที่จะรู้สึกแปลกใจ “ เกิดอะไรขึ้น ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น ? ”
หยางโปอธิบายเรื่องนี้ให้ฟังเล็กน้อย แต่หลูตงซิงกลับรู้สึกโกรธมาก “ เรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของเสวียนจงแน่ๆ แม้ว่าโจวซินจะรักสนุกไปหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้คุ้นเคย ถ้าไม่มีใครชักนำเขาไป
เขาก็จะไปปนเปื้อนกับสิ่งพวกนี้ได้ยังไง ”
หยางโปพยักหน้าตอบรับ แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก “ คุณช่วยโทรไปจัดการรถให้คันหนึ่งนะ ผมจะไปที่หยูหาง ”
“ พวกเราไปด้วยกันนี่แหละ ” หลูตงซิงกล่าว
พอพูดจบ หลูตงซิงก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรออก
ไม่นาน คนขับก็ขับรถมาหา จากนั้นทั้งสองก็ขึ้นรถ หลูตงซิงที่เพิ่งจะดึงดูดพลังเข้าไปภายในร่างกาย ก็เลยดูค่อนข้างที่จะตื่นเต้น แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้า ก็มีอาการตามหลังมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยเผลอหลับไปในตอนที่นั่งอยู่ในรถ
หยางโปใจลอย อยากจะโทรหาเยว่จวิ้นเหยา แต่กลับติดต่อไม่ได้
ในขณะที่ลังเลอยู่นั้น เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากเยว่จวิ้นเหยา
“ ฉันเป็นอาจารย์ของเยว่จวิ้นเหยา คุณคือหยางโปใช่ไหม ! ”
เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเสียงของผู้หญิงที่ดังตามสายมา น้ำเสียงที่นุ่มนวลและอ่อนโยน
ฟังดูแล้วเหมือนผู้หญิงวัยยี่สิบกว่าๆ หยางโปเข้าใจมาตลอดว่าอาจารย์ของเยว่จวิ้นเหยาน่าจะอายุสี่ห้าสิบปี เช่นเดียวกับอาจารย์หญิงพวกนั้นที่อยู่ในซีรีย์ ที่ค่อนข้างมีนิสัยที่โหดร้าย แต่คิดไม่ถึงว่าน้ำเสียงอาจารย์จะเด็กขนาดนี้ !
“ ใช่ผมหยางโป สวัสดีอาจารย์หญิง ! ” หยางโปกล่าวทักทาย
“ อืม ! ” อาจารย์หญิงขานรับ “ หยางโป เมื่อไม่กี่วันก่อน ศิษย์พี่ของจวิ้นเหยาลงเขาไปที่หยูหางเพื่อตามหาคุณ ช่วงนี้ไม่มีข่าวคราวเลย จู่ๆฉันก็เกิดฉุกคิดขึ้นมาได้ เลยทำการทำนาย พบว่าเขาตกอยู่ในอันตรายอยู่ช่วงนี้ เขาอยู่ห่างจากคุณไม่ไกล ถ้าคุณพอมีเวลา ไปช่วยเขาสักครั้งสักหน่อยนะ ! ”
หยางโปรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าอาจารย์ของเยว่จวิ้นเหยาจะเก่งกาจมากแบบนี้
แต่ยังไงซะ เขาก็ไม่ได้ลังเลพูดไปอย่างรวดเร็ว “ อาจารย์หญิงโปรดวางใจ ตอนนี้ผมกำลังอยู่ระหว่างทางแล้ว คงจะได้เจอเขาเร็วๆนี้ ”
อาจารย์หญิงพยักหน้า “ โจวซินเป็นศิษย์ของยุทธภพ เขาเติบโตมาบนเขากับเยว่จวิ้นเหยาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าจะฉลาดเพียงน้อยนิด แต่ยังไม่มีประสบการณ์มากพอ ดังนั้นก็ยังต้องขอให้คุณช่วยดูแลเขาด้วย อย่าให้เขาได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางโลก ”
เวลานั้นหยางโปก็ค่อนข้างที่จะลังเลใจ แต่เขายังไม่ได้อธิบาย พูดแค่ว่า “ ผมจะดูแลเขาให้เอง ”
หยางโปเดินทางออกจากบ้านพักตากอากาศ ก็เป็นเวลาบ่ายกว่าแล้ว ตอนที่มาถึงที่นี่เขาและ
หลูตงซิงยังไม่ได้กินข้าวกันเลย แต่พวกเขาก็ยังไม่หิวเช่นกัน
จนถึงห้าหกโมงเย็น รถที่ขับมาก็มาถึงหยูหาง มาถึงถิ่นของชุมนุมยุทธภพ
เมื่อมาถึงชุมนุมยุทธภพ หยางโปก็มองเห็นรางรถไฟชิ้นนั้นวางอยู่ด้านนอก ร่องรอยบนนั้นก็ยังคงชัดเจนอยู่มาก หลูตงซิงที่เดินตามเขามา ได้กระซิบเสียงเบาว่า ” เข้ามาที่นี่สองครั้ง
แต่รู้สึกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย ! ”
หยางโปหัวเราะ บ่งบอกว่าความเข้าใจก่อนหน้านี้หลูตงซิงไม่เคยเข้าวงการนี้มาก่อน
เขาจึงรู้สึกกังวลมาก แต่ท้ายที่สุดก็เข้ามาในวงการนี้แล้วในตอนนี้ ในที่สุดเขาก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว
ทั้งสองยืนอยู่หน้าประตู แต่ก่อนที่จะเคาะประตู ประตูก็ดันเปิดออกก่อน เสวียนจงเดินออกมาแสดงความเคารพ ” ศิษย์พี่หยาง ต้องขออภัยด้วยจริงๆ รบกวนคุณแล้วครั้งนี้ ” หยางโปพยักหน้าให้เล็กน้อยและมองไปที่ด้านหลังเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ ” แล้วโจวซินล่ะ ? ”
” เขากำลังพักผ่อนอยู่ ” เสวียนจงกล่าว
หยางโปขมวดคิ้วและเหลือบมองเข้าไปข้างใน “ พักผ่อน เขาทำเรื่องอะไร ทำไมถึงได้เหนื่อยขนาดนี้ ? ”
เสวียนจงหัวเราะ ” ศิษย์พี่หยาง ชายหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยพลังก็มักจะทำในสิ่งที่คนหนุ่มสาวควรทำเสมอ ”
“ ผมจะไปดูเขาหน่อย ” หยางโปพูด
เสวียนจงทำหน้าปั้นยาก เขาหันไปมองหยางโป “ ศิษย์พี่หยาง เกรงว่ามันจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นะ ”
“ ไม่มีอะไรที่ไม่สะดวก พวกเราไปดูกันเถอะ ! ” หยางโปกล่าว
เสวียนจงอ้าปาก แต่กลับไม่ได้พูดอะไรมาก ทำได้เพียงเดินนำหน้าเข้าไปข้างใน
หยางโปเดินตามเสวียนจงเข้าไป ชุมนุมยุทธภพไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ยังคงเงียบสงบอย่างกับอยู่ในป่าไผ่
ในไม่ช้า เสวียนจงก็พาหยางโปไปที่ห้องหนึ่งทางด้านข้าง เขาชี้เข้าไปข้างใน “ เขาอยู่ข้างใน ”
เสวียนจงยืนอยู่ที่นั่น และชี้เข้าไปข้างในเท่านั้นแต่กลับไม่ได้เดินเข้าไปข้างใน
หยางโปขมวดคิ้ว เขาเหลือบมองเข้าไปข้างในด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งขรึม