ตอนที่ 260 เขาเป็นแฟนของผม / ตอนที่ 261 เริ่มจะยอมรับเขาแล้ว

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 260 เขาเป็นแฟนของผม

 

 

           “ครั้งนี้ผมเองเป็นฝ่ายหาร่องรอยของซือเหยี่ยนเจอ พูดโน้มน้าวใจเขาให้กลับมากับผม” ซูเตอร์ยิ้มหัวเราะ “อาเรย์ อาวางใจเถอะ ซือเหยี่ยนเขาไม่มีอะไรอย่างอื่นหรอกครับ”

 

 

           เรย์มอนขมวดคิ้ว ยังคงไม่ค่อยวางใจ แต่เห็นท่าทีของซูเตอร์ก็ทำได้แค่พยักหน้า “โอเค นายก็อย่าคิดมากด้วย ไปพักผ่อนก่อนเถอะ หลังจากนี้ยังมีเรื่องอีกไม่น้อยที่ต้องจัดการ”

 

 

           ซูเตอร์พยักหน้า “งั้นอาเรย์ ผมขอตัวก่อนนะครับ”

 

 

           เขาออกจากโถงทางเข้า ก่อนจะกลับห้องไป ก็แวะไปที่ห้องของซือเหยี่ยนก่อน เขายืนอยู่หน้าประตู เคาะประตูเรียก “เหยี่ยน ฉันเอง”

 

 

           “อืม” ซือเหยี่ยนเอ่ยรับเสียงต่ำ ถึงได้เปิดประตูเข้าไป

 

 

           “คือว่าฉันอยากมาดูว่ากำลังพักผ่อนอยู่หรือเปล่า วันนี้เหนื่อยมากแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ” รอยยิ้มนิดๆ ของซูเตอร์ดูเหมือนไม่มีพิษภัยอะไรมากมาย

 

 

           ซือเหยี่ยนเปลี่ยนไปสวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ สบายๆ ทรงผมดูยุ่งๆ นิดหน่อย ดูเหมือนว่าควรจะเพิ่งลุกจากเตียงขึ้นมา

 

 

           สายตาซูเตอร์จับจ้องตรงหน้าอกของซือเหยี่ยนที่เผยออกมาให้เห็น มองค้างอยู่อย่างนั้นไม่อาจหักใจจากไปได้อยู่พักหนึ่ง

 

 

           “ผมสบายดีทุกอย่าง คุณซูเป็นยังไงบ้าง”

 

 

           “อาการบาดเจ็บของพ่อฉันค่อนข้างสาหัส จำเป็นต้องพักผ่อนอย่างสงบ” เอ่ยถึงซูแวน เขาดูเหมือนค่อนข้างจะช่วยอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ซูเตอร์ยื่นมือไปจับมือของซือเหยี่ยนไว้ “เหยี่ยน ยังดีที่เวลานี้นายอยู่ข้างกายฉัน ไม่งั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้วจริงๆ”

 

 

           ซือเหยี่ยนชักมือกลับมา เอ่ยปลอบใจ “วางใจเถอะ คุณซูต้องไม่เป็นไรแน่นอน”

 

 

           โดนซือเหยี่ยนปฏิเสธอีกครั้ง เขาเองก็ไม่มีอะไรไม่สบายใจ ถึงอย่างไรซือเหยี่ยนก็เลิกกับเจียงมู่เฉินแล้ว ตอนนี้ปฏิเสธเขาก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรไม่ช้าก็เร็วสักวัน ซือเหยี่ยนต้องมาคบกับเขาจนได้

 

 

           “งั้นเหยี่ยน นายพักผ่อนดีๆ ล่ะ ฉันขอตัวกลับไปก่อน ไม่รบกวนนายแล้ว”

 

 

           ซือเหยี่ยนพยักหน้า “อืม โอเค”

 

 

           เพียงไม่นานซูเตอร์ก็หมุนตัวหันกลับเดินออกไป หลังจากซือเหยี่ยนมองตามแผ่นหลังของเขาไปจนลับตา ก็ปิดประตูใส่กลอนลงทันที

 

 

           …… 

 

 

           เช้าวันต่อมา มีเสียงอึกทึกโครมครามดังไปทั่วทั้งโถงทางเข้า ซือเหยี่ยนเดินออกมาจากห้องพักที่อยู่ด้านหลังก็ได้ยินเสียงคนกำลังพูดคุยกัน

 

 

           “ในที่สุดนายก็กลับมาแล้ว อารองเอาแต่คิดถึงนาย”

 

 

           ซูเวลล์ อารองของซูเตอร์

 

 

           ซูเตอร์ยิ้มหัวเราะ “หลายวันมานี้ลำบากอารองแล้ว แต่ว่าตอนนี้ผมก็กลับมาแล้ว มีเรื่องอะไรก็จะพยายามแบ่งเบาภาระช่วยอารอง วันหน้าจะได้ไม่ต้องรบกวนอารองมากเกินไป”

 

 

           ซูเวลล์ฉีกยิ้มมุมปาก แต่ในแววตากลับไม่มีรอยยิ้มเลยแม้แต่น้อย

 

 

           ซือเหยี่ยนดูสถานการณ์แล้วเดินเข้ามาจากด้านหลัง ซูเตอร์เห็นซือเหยี่ยนก็รีบเอ่ยเรียกทันที “เหยี่ยน ท่านนี้คืออารองของฉันเอง”

 

 

           “คุณซูเวลล์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”

 

 

           ซูเวลล์หรี่ตาลง “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

 

 

           ตอนนั้นซือเหยี่ยนเป็นบอดี้การ์ดให้ซูเตอร์ พวกเขาต่างก็รู้เรื่องนี้ดีเป็นธรรมดา ตอนนั้นซือเหยี่ยนได้ช่วยชีวิตของซูแวนไว้ เพื่อเป็นการขอบคุณเขา ซูแวนจึงถามว่าเขาต้องการจะมาอยู่แก๊งมังกรครามด้วยหรือเปล่า

 

 

           สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซือเหยี่ยนก็มาอยู่เป็นบอดี้การ์ดของซูเตอร์ แต่ที่ซือเหยี่ยนต่างจากคนรอบข้างคนอื่นๆ คือเขาเป็นอิสระ ถ้าอยากจะมาอยู่ในแก๊งมังกรครามก็มาได้เลย

 

 

           ถ้าอยากจะไป เมื่อไหร่ก็ไปได้ทั้งนั้น คนในแก๊งมังกรครามไม่ว่าจะระดับชั้นไหนต่างก็เข้าไปก้าวก่ายไม่ได้

 

 

           ดังนั้น หลังจากที่ซือเหยี่ยนเดินออกไปจากแก๊ง ก็ไม่มีใครเคยไปตามหาซือเหยี่ยน

 

 

           เพียงแต่คิดไม่ถึง ว่าหลายปีมานี้เขาจะกลับมาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญแบบนี้จนได้

 

 

           “ผมพาเขากลับมาเองแหละครับ อารอง ตอนนี้สถานการณ์ในแก๊งมังกรครามไม่มั่นคง ผมอยากให้เหยี่ยนมาปกป้องอยู่ข้างกายผมเหมือนกับเมื่อก่อน อีกอย่างผมเองจำเป็นต้องให้เขาช่วยทำให้สถานการณ์มั่งคงด้วยครับ”

 

 

           ซูเวลล์ขมวดคิ้ว “ซูเตอร์ นายเป็นลูกชายคนเดียวของพี่ใหญ่ การที่นายเข้าควบคุมดูแลงานในแก๊งเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าถึงยังไงซือเหยี่ยนก็เป็นคนนอก จะให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับแก๊งมังกรครามได้ยังไง”

 

 

           ซูเตอร์มองซือเหยี่ยนแวบหนึ่ง รีบเอามือคล้องแขนของเขาไว้ “อารองยังไม่รู้ ว่าเขาเป็นแฟนของผม เข้ามาช่วยผมก็เรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว”

 

 

 

 

ตอนที่ 261 เริ่มจะยอมรับเขาแล้ว

 

 

           ซูเวลล์สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย “เจ้าเตอร์ นี่นายหมายความว่าไง”

 

 

           “เมื่อก่อนผมก็ชอบซือเหยี่ยนมาตลอด เพียงแต่ว่าต่อมาเขามีเรื่องทำให้ต้องจากไป ดังนั้นหลายปีมานี้ผมจึงเอาแต่ตามหาเขา ครั้งนี้ที่ออกจากแก๊งมังกรครามไปก็เพื่อตามหาเขา จะว่าไปครั้งนี้ผมโชคดีใช้ได้เลยครับ” ซูเตอร์มองซือเหยี่ยนอย่างอ่อนโยน ยิ้มไป อธิบายไป

 

 

           “นาย” ซูเวลล์ถอนหายใจ “นายทำได้ยังไง…เฮ้อ”

 

 

           สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไร สะบัดแขนเสื้อเดินออกไป

 

 

           หลังจากซูเตอร์เห็นซูเวลล์เดินจากไปแล้ว เขาก็รีบปล่อยมือลงมองซือเหยี่ยนอย่างซื่อๆ “ขอโทษนะ ฉันก็แค่ไม่อยากให้อารองเพ่งเล็งนาย ถึงได้พูดแบบนี้ ฉันไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น นายอย่าโกรธฉันเลยนะ”

 

 

           ซือเหยี่ยนเก็บมือเข้าไป ลูบบริเวณที่โดนซูเตอร์จับจนยับ เอ่ยเสียงเรียบ “ไม่เป็นไร”

 

 

           ซูเตอร์นัยน์ตาลุกวาว ถึงแม้ว่าซือเหยี่ยนจะยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย แต่คำพูดที่เขาพูดเมื่อกี้นี้หมายความว่าไง

 

 

           ‘ถือว่าซือเหยี่ยนกำลังเริ่มจะยอมรับเขาแล้วใช่ไหม’

 

 

           หลังจากกลับแก๊งมังกรครามมาแล้ว เรื่องงานมากมายทั้งหมดนั้นส่งไว้ในมือของซูเตอร์ แล้วซือเหยี่ยนเองก็ห่างกายซูเตอร์ไม่ได้ไปโดยปริยาย ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไร ทั้งสองคนก็จะเป็นเงาตามตัวกันอยู่เสมอ

 

 

           เดิมทีเรย์มอนยังรู้สึกว่ามีบางที่ที่ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ แต่เห็นความต้องการอันแรงกล้าของซูเตอร์แล้ว สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ จำใจต้องรับปาก

 

 

           เพียงแต่ว่าจิตใจที่คอยระแวดระวังที่มีต่อซือเหยี่ยนของเรย์มอนไม่เคยวางลงได้มาจนถึงตอนนี้ ยังแอบจับจ้องซือเหยี่ยนอยู่เสมอ

 

 

           เพียงแต่ว่ามีซูเตอร์ขวางอยู่ จึงไม่ได้แสดงออกมาชัดเจนขนาดนั้น

 

 

           เบื้องหน้าซูเวลล์มอบงานมากมายส่งให้ซูเตอร์ มีหลายเรื่องที่ตัวเองไม่ออกหน้าอีก แต่ความเป็นจริงแล้วงานที่เขาส่งออกมาก็แค่ดูเสมือนความเป็นจริง กลับเป็นเรื่องที่ไม่มีความหมายอะไร

 

 

           แต่เรื่องที่สำคัญพวกนั้น ทั้งหมดยังควบคุมอยู่ในมือของเขา

 

 

           ซูเตอร์รู้ว่าอารองคนนี้ใจไม่ไปทางเดียวกันกับพ่อเขา เพียงแต่ว่าติดขัดอยู่ที่ยังหาหลักฐานที่ชัดเจนไม่ได้มาเสมอ จึงจำใจต้องรักษาความสงบที่เบื้องหน้าไปชั่วคราวก่อน

 

 

           ถึงอย่างไรซูเตอร์ก็เป็นลูกคนเดียวของซูแวน เติบโตมาอยู่ในแก๊ง ทั้งยังมีเรย์มอนคอยช่วยเหลือ ถ้าต้องมาเทียบกับซูเวลล์จริงๆ กลับไม่ได้ห่างชั้นกันเท่าไหร่นัก

 

 

           ซูเวลล์เห็นซูเตอร์กลับมา ในใจก็กระวนกระวายนิดหน่อย เลี่ยงไม่ได้ที่อยากจะลงมือให้เร็วที่สุด จะได้ไม่รอจนอิทธิพลฝั่งซูเตอร์ใหญ่โต ถึงเวลานั้นเขาจะลงมือก็ไม่มีโอกาสอะไรแล้ว

 

 

           คนในตระกูลซูล้วนคดในข้องอในกระดูกด้วยกันทั้งสิ้น

 

 

            ……

 

 

           “คืนนี้จะไปไหน” เฉิงฉีมองเจียงมู่เฉิน “ไม่คิดจะกลับไปเร็วหน่อยเหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินกุมขมับ “อย่าเลย ช่วงนี้แม่ฉันกำลังหาเรื่องนัดดูตัวให้ฉันอยู่ ขืนกลับไปเร็วโดนจับไว้ต้องพูดอีก”

 

 

           “เมื่อก่อนก็ยังดีๆ กันอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆ ถึงอยากจะนัดดูตัวให้นายได้”

 

 

           เจียงมู่เฉินหัวเราะ ดื่มเหล้าเข้าไปอึกหนึ่ง ไม่ได้อธิบายอะไร

 

 

           ‘จะเพราะอะไรได้ กลัวเขาจะรักผู้ชายเข้าอีกไง’ ดังนั้นถึงอยากจะรีบหาแฟนที่เป็นผู้หญิงให้เขา รีบแต่งงานมีลูก แก้ไขเรื่องในใจเธอก็เท่านั้นเอง

 

 

           “แต่ว่าช่วงนี้นายดูแปลกไปจริงๆ นะ ช่วงหนึ่งนายไม่ได้มาที่นี่เลย แล้วช่วงนี้ทำไมถึงมาได้ทุกวัน”

 

 

           “เอาเป็นว่าฉันค้นพบแล้ว ว่าชีวิตแบบอิสระตามใจตัวเองเข้ากันกับฉันมากกว่า”

 

 

           เฉิงฉีเห็นเขาดื่มเหล้าเข้าไปไม่น้อยแค่เพียงแป๊บเดียว ก็ค่อนข้างเป็นห่วงจึงหยุดมือของเจียงมู่เฉินไว้ “พอเถอะ นายดื่มไปเยอะแล้ว ดื่มอีกจะเมาแล้วนะ”

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มแล้วดึงมือของเขาออก “วางใจเถอะ เมาได้ก็ดีแล้ว” เขาต่างหากที่กลัวจะเมาไม่ไหว

 

 

           มั่วไป๋เดินเข้านายเยี่ยมาแวบแรกก็เห็นเจียงมู่เฉินก้มหน้าก้มตาดื่มเหล้าอยู่ตรงนั้น เขาขมวดคิ้วเดินเข้าไปหยุดเจียงมู่เฉิน “เสียสติไปแล้วหรือไง นายดูว่านายดื่มไปเท่าไหร่แล้ว”

 

 

           เฉิงฉีมองมั่วไป๋แวบหนึ่ง ทั้งยังมองความสัมพันธ์ของเขาและเจียงมู่เฉิน แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

 

           “นายกับมู่เฉินเฉินเขา”

 

 

           มั่วไป๋เอ่ยเสียงต่ำ “เพื่อน”

 

 

           เฉิงฉีกับมั่วไป๋ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของมั่วไป๋และเจียงมู่เฉิน เขากำลังเตรียมจะพูดก็เห็นเจียงมู่เฉินยื่นมือฉุดมั่วไป๋ให้เข้าไปหาอย่างกะทันหัน