ตอนที่ 219 เธอไม่ใช่ภรรยาผม / ตอนที่ 220 เฉียวซือมู่ผู้ไม่ยอมแพ้

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 219 เธอไม่ใช่ภรรยาผม  

 

 

 

 

 

เธอถูกสายตาดุจสัตว์ป่าของเขาจับจ้องจนใจสั่น แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้กล้าโต้ตอบเขากลับไป “คุณแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ และเจ้าสาวก็ไม่ใช่ฉันด้วย ฉันคิดว่าถึงคุณจะไม่ได้เอ่ยปากกับฉันเอง แต่มันก็มีความหมายเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ฉันก็ต้องรู้ตัวและออกไปจากชีวิตคุณเอง ฉันคิดว่าคุณจะดีใจเสียอีกที่เห็นฉันวางตัวได้ถูกกาลเทศะแบบนี้” 

 

 

เธอพยายามปั้นหน้าเฉยเมยเพราะไม่อยากให้เขามีความหวังแม้แต่น้อย จิ้นหยวนจ้องเธอตาเขม็ง ดวงตาคมกริบดุจมีดแหลมคมของเขาจับจ้องเธอนิ่งจนเธอชักหวั่นใจ 

 

 

“นี่คุณกำลังหึงผมอยู่เหรอ?” เขาเอ่ยสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงออกมา เธอยิ้มเยาะ “คุณกำลังพูดเล่นอยู่ใช่ไหม? คุณเป็นเมฆบนฟ้า แต่ฉันเป็นแค่โคลนตม ในที่สุดคุณก็ได้คู่ครองที่คู่ควรกับคุณ แล้วฉันจะไปหึงคุณในฐานะอะไรไม่ทราบ?” 

 

 

คำพูดของเธอเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยถากถาง จนเขารู้สึกเจ็บแปลบในอก “สาวน้อย อย่าพยายามยั่วโทสะผม” 

 

 

แววตาเขาอันตรายเกินไปแล้ว เธอเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าพูดอะไรอีก 

 

 

ทันใดนั้น เธอสัมผัสถึงไออุ่นร้อนเหนือศีรษะ เธอเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย แต่กลับถูกเขาใช้แรงดึงตัวเธออย่างแรง ตัวเธอแนบกับอกแกร่งของเขา เขาฝังจุมพิตลึกซึ้งลงบนศีรษะเธอ 

 

 

“สาวน้อย ความอดทนของผมมีขีดจำกัด ต่อไปห้ามหนีผมไปไหนอีกนะ” เขาเอ่ยอย่างทอดถอนใจอยู่ข้างหูเธอ 

 

 

ไม่มีความโกรธ ไม่มีการทะเลาะ และไม่มีการใช้กำลังใดๆ จิ้นหยวนใช้วิธีที่เธอคาดไม่ถึงละลายหัวใจเธอสำเร็จ 

 

 

เธอยืนแน่นิ่งอยู่ในอ้อมกอดเขา ดวงตาร้อนผ่าวเหมือนจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก 

 

 

“ได้ยินหรือเปล่า คุณต้องเชื่อผม กลับไปกับผม เข้าใจไหม?” 

 

 

เธอค่อยๆ เอ่ยขึ้น “แล้วหลังจากนั้นล่ะคะ? ให้ฉันเป็นคนรักของคุณ แล้วถูกเรียกว่าเมียน้อยอย่างนั้นเหรอคะ? จากนั้นคอยหลบอยู่แต่ในบ้านเพราะไม่กล้าออกไปไหน หรือไม่ก็ไม่ทันระวังตัวถูกคนอื่นจับได้อย่างนั้นเหรอคะ?” เธอชะงักเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้นใหม่ “ชีวิตแบบนั้นจะไปมีความหมายอะไรล่ะคะ?” 

 

 

เฉียวซือมู่พูดเรื่องที่ตัวเองอาจจะพบเจอด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจนทำให้แววตาของจิ้นหยวนสงบลงได้สำเร็จ 

 

 

เขาดันกายเธอออกจากอกเพื่อให้เธอมองเขาได้ถนัด “นี่คุณพูดจริงใช่ไหม?” 

 

 

เธอมองเขาอย่างไม่เกรงกลัวสักนิด “แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะคะ?” 

 

 

ฟ้าฝนลมพายุก่อตัวขึ้นในดวงตาของจิ้นหยวนทันที “สาวน้อย ผมคิดว่าหลังจากผ่านเรื่องราวต่างๆ ไปนานขนาดนี้แล้วคุณจะเห็นความดีของผมขึ้นมาบ้าง แต่ดูเหมือนว่าผมจะคิดผิดไป ความรักความทะนุถนอมที่ผมมีให้คุณมันเปล่าประโยชน์จริงๆ” 

 

 

เขากวาดสายตามองห้องโกโรโกโสในสายตาของเขาแวบหนึ่ง “ตอนที่คุณอยู่กับผม คุณอยากได้อะไรก็ได้อย่างนั้น แม้แต่ฐานะผมก็ให้คุณได้ แต่คุณกลับหนีผมไป” สีหน้าของเขาเย็นยะเยือก ทันใดนั้น เขานึกถึงชื่อที่เธอเรียกตอนเปิดประตูทันที “อย่าบอกนะว่าคุณมีผู้ชายคนใหม่แล้ว?” 

 

 

เฉียวซือมู่มองหน้าเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “นี่คุณพูดเหลวไหลอะไรกัน ฉันไปมีผู้ชายคนใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” 

 

 

“แล้วเมื่อกี้คุณเรียกชื่อใคร?” จิ้นหยวนบีบคั้นอย่างหนัก 

 

 

“นั่นมันชื่อเจ้านายฉันต่างหากเล่า!” เธอตะโกนใส่หน้าเขา 

 

 

“อย่างนั้นเหรอ?” จิ้นหยวนยิ้มเย็นมุมปาก “แล้วเป็นเจ้านายแบบไหนล่ะ เจ้านายที่บริษัท หรือว่า…” 

 

 

“คุณ… คุณพูดให้มันดีๆ นะ!” เฉียวซือมู่โกรธจนหน้าแดงจัด จ้องเขาตาเขม็ง “จิ้นหยวน คุณแยกแยะให้มันชัดเจนด้วยนะ คุณแต่งงานแล้ว และฉันจะไม่มีวันยอมเป็นเมียน้อยคุณ เพราะฉะนั้น ตอนนี้ฉันขอเลิกกับคุณอย่างเป็นทางการ ฉันไม่ได้มีผู้ชายคนอื่น หรือต่อให้มีจริง มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!” 

 

 

เฉียวซือมู่สองมือเท้าสะเอว ดวงตาเป็นประกายวูบวาบเพราะความโกรธ ประกายวูบวาบนั้นยั่วใจจิ้นหยวนเหลือเกิน 

 

 

เปลวไฟในใจเขาปะทุขึ้นอีกครั้งจนเขาแทบจะไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด แต่เขาก็ได้ยิน “คำพูดทรยศหักหลัง” ของเธอเต็มสองหู 

 

 

“คุณพูดว่าอะไรนะ? ไหนพูดอีกครั้งซิ?” เขาหรี่ตาแคบ เอ่ยถามเสียงเย็นยะเยือก 

 

 

“ฉันบอกว่า” เธอเห็นสีหน้าอันตรายของเขาแล้วหดตัวเล็กน้อย แต่ยังคงรวบรวมความกล้าเอ่ยออกไป “บอกว่า ฉันเลิกกับคุณแล้ว คุณกลับไปหาภรรยาของคุณซะ ฉันก็จะไปหาแฟนของฉัน ต่างคนต่างแยกย้าย!” 

 

 

เธอเพิ่งเอ่ยจบพลันเห็นเขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ เธอยังไม่ทันได้ตั้งสติ ทันใดนั้น เธอรู้สึกร่างกายเบาหวิว พอก้มหน้าลงดูถึงรู้ว่าเขาช้อนร่างเธอขึ้นอุ้มเอาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องนอน 

 

 

“คุณ… คุณจะทำอะไรน่ะ? ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ!” 

 

 

จิ้นหยวนปั้นหน้าเย็นชา ไม่อยากได้ยินคำพูดบาดหูจากปากเล็กๆ ของเธออีก เขาอธิบายตรงๆ “เธอไม่ใช่ภรรยาผม เพราะผมไม่เคยแตะต้องตัวเธอ” 

 

 

หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขา เธอเบิกตาโตด้วยความประหลาดใจ พลันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขาด้วยความแปลกใจและความฉงนสนเท่ห์ 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 220 เฉียวซือมู่ผู้ไม่ยอมแพ้  

 

 

 

 

 

สำหรับเฉียวซือมู่แล้ว แรงสะเทือนนี้ส่งผลกระทบใหญ่หลวงราวกับฝันไป เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ 

 

 

“ตอนนี้กี่โมงแล้ว? โทรศัพท์มือถือของฉันล่ะ?” 

 

 

เฉียวซือมู่มองไปทางหน้าต่างถึงรู้ว่าตัวเองนอนสายจนตะวันโด่งแล้ว เธอตะลึงนิ่งอึ้งราวถูกสวรรค์ลงโทษ โอ้ พระเจ้า! นี่เธอกับจิ้นหยวนเล่นผีผ้าห่มทั้งคืนจนลืมไปเลยว่าวันนี้ต้องไปทำงาน 

 

 

โทรศัพท์มือถือล่ะ? ต้องรีบโทรศัพท์ไปลางานก่อน 

 

 

เธอกระวีกระวาดคลำหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองบนเตียง แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า เฉกเช่นเดียวกับร่างกายที่เปล่าเปลือยของตัวเองในยามนี้ ที่ไม่มีอะไรเลย 

 

 

จิ้นหยวนทนดูไม่ไหวอีกต่อไป เขาพลิกตัวหยิบโทรศัพท์มือถือที่ตกอยู่บนพื้นเพราะถูกเจ้าของหมางเมินทั้งคืนขึ้นมายื่นให้เธอ “อยู่ตรงนี้” 

 

 

เธอถอนหายใจโล่งอก ยื่นมือรับโทรศัพท์มือถือมาดูแล้วถึงกับหน้าเสีย บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือปรากฎข้อความว่ามีสายที่ไม่ได้รับถึงห้าสาย สองสายจากเอลลี่ อีกสามสายจากคริส 

 

 

คราวนี้เธอตายแน่ 

 

 

เธอกำโทรศัพท์มือถือแน่นพลางสูดหายใจลึก สมองเริ่มประมวลว่าควรจะสรรหาข้ออ้างอะไรมาแก้ตัวดี 

 

 

จิ้นหยวนมองดูเฉียวซือมู่ที่สติแตกกระเจิงแล้วรู้สึกหงุดหงิดมาก 

 

 

เขาชักไม่ชอบขี้หน้าเจ้านายของเธอที่เขายังไม่เคยเห็นหน้าขึ้นมาเสียแล้วสิ จะว่าไปแล้ว ครั้งนี้เขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะต้องพาตัวเธอกลับไปให้ได้ เพราะฉะนั้น ไม่มีงานให้ทำก็ไม่ต้องทำ แบบนี้ตรงใจเขาพอดี 

 

 

เฉียวซือมู่กำลังกัดริมฝีปากแน่นอย่างใช้ความคิด จู่ๆ จิ้นหยวนก็ยื่นมือออกมาแย่งโทรศัพท์มือถือในมือเธอไป จากนั้นวางมันลงบนหัวเตียงราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเอ่ยกับเธอ “นี่คุณคิดจะกลิ้งอยู่บนเตียงทั้งวันหรือไง?” 

 

 

เธออ้าปากอยากจะบอกกับเขาว่าให้เขาคืนโทรศัพท์มือถือให้เธอ แต่พอมองหน้าเขาแล้วกลับพูดอะไรไม่ออกเสียอย่างนั้น 

 

 

 แม้สีหน้าเขาจะเรียบเฉย แต่เธอดูออกว่าเขากำลังไม่พอใจมาก 

 

 

เธอกัดริมฝีปากแน่น ก็ได้ เดี๋ยวเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วค่อยโทรก็ได้ แต่ว่า… 

 

 

เธอถลึงตาใส่จิ้นหยวน “คุณออกไปก่อน ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า” 

 

 

“ที่รัก ไม่ต้องอายหรอกน่า คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อคืนเราสองคน…” 

 

 

“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!” ใบหน้าเธอร้อนผะผ่าวขึ้นมาอีกครา เธอใช้ผ้าห่มห่อตัวเอาไว้แล้วกระโดดลงจากเตียง ขืนยังต่อปากต่อคำกับเขาต่อ มีหวังเธอต้องเป็นโรคหัวใจแน่ 

 

 

เธอรีบวิ่งเท้าเปล่าเข้าไปในห้องน้ำ จิ้นหยวนที่นอนเอนกายอยู่ตรงหัวเตียงได้แต่ส่ายศีรษะน้อยๆ 

 

 

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมาดู เห็นเบอร์โทรศัพท์ของคริสที่ไม่ได้รับสายทันที ชื่อของคนคนนี้คุ้นหูมาก เขาหรี่ตาแคบ หวนนึกถึงชื่อที่เธอเรียกตอนเปิดประตูเมื่อคืน 

 

 

ผู้ชายคนนี้… 

 

 

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา ติดต่อลูกน้องอย่างรวดเร็ว หลังจากสั่งงานเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงรีบเก็บโทรศัพท์มือถือของตัวเองเข้าที่ ขณะเดียวกัน เสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออกพอดี เฉียวซือมู่ที่มีสีหน้าเขินอายเดินออกมาจากห้องน้ำ 

 

 

เธอเอ่ยขึ้น “ฉันจะโทรศัพท์ แล้วเดี๋ยวจะออกไปทำงาน คุณกลับไปได้แล้ว” 

 

 

จิ้นหยวนไม่เพียงไม่กลับ หากแต่ยังเดินเข้าไปหาเธอแล้วจ้องมองเธอนิ่ง “คุณจะกลับไปกับผมดีๆ หรือจะให้ผมมัดตัวคุณกลับไป เลือกเอา” 

 

 

เธอลอบถอนหายใจพลางก้าวเท้าถอยหลังหนีหนึ่งก้าว ชายตามองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ทำแบบนั้นมันผิดกฎหมายนะ ฉันจะแจ้งความข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว!” 

 

 

เอ่ยจบหมายพุ่งตัวชนประตู แต่กลับถูกเขารั้งตัวเธอเอาไว้อย่างง่ายดาย “อย่าไปเลยนะ ที่รัก ผมกล้ารับประกันว่าคุณไม่มีทางออกจากประตูบานนี้ได้หรอก” 

 

 

เธอพยายามดิ้นรนออกจากวงแขนแข็งแรงของเขาแต่กลับไร้ผล จึงได้แต่ตะเบ็งเสียงร้องโวยวาย “จิ้นหยวน คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่กลับไปกับคุณ คุณปล่อยฉันนะ” 

 

 

เธออยู่ที่นี่ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว ทำไมต้องไปเป็นนกน้อยในกรงทองของเขาอีก ไม่ไป! 

 

 

จิ้นหยวนจับแขนเธอแน่น สีหน้าถมึงทึง “ผมให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย คุณจะไม่กลับไปกับผมจริงๆ ใช่ไหม?” 

 

 

เธอกัดฟันกรอด “ใช่ ฉันไม่กลับ ไม่กลับ ฉันไม่อยากเป็นเมียน้อยคุณ ไม่ว่าคุณแต่งงานกับเธอเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม เรื่องที่เธอเป็นภรรยาของคุณมันก็เป็นความจริง ฉันไม่อยากเป็นคนทำลายชีวิตแต่งงานของพวกคุณ”