เดิมทีเธอนึกว่า หลังจากส้มเปรี้ยวฟื้นขึ้นมา รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ตั้งแต่นี้ไปจะทำตัวดีๆ สงบเสงี่ยมขึ้นบ้าง
ไม่คิดว่าเธอจะคิดเยอะ ประเมินความหน้าหนาของส้มเปรี้ยวต่ำไป
ก็จริง ผู้หญิงชั่วร้ายอย่างส้มเปรี้ยว จะสงบเสงี่ยมเพราะตัวเองได้รับความลำบากได้อย่างไร จะยิ่งบ้าคลั่งมากกว่าเดิมสิถึงจะถูก!
ขณะที่คิด มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเปิดแพลตฟอร์มโซเชียลของส้มเปรี้ยว เห็นความเคลื่อนไหวโพสต์นั้นที่ลาเต้กล่าวถึงแล้ว
ตอนนี้ความเคลื่อนไหวโพสต์นี้ติดเทรนด์ไปแล้ว และการแสดงความเห็นและกดแชร์ก็เพิ่มขึ้นเกินล้าน สื่อขนาดใหญ่หรือพวกแอคปั่นต่างๆ ก็เริ่มใช้ความเคลื่อนไหวนี้พูดเรื่องราวต่างๆ
มายมิ้นท์ทำหน้าบูดบึ้งคลิกดูการแสดงความเห็น เห็นนกกระจอกพวกนั้นปลอบส้มเปรี้ยว ก็รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนอย่างรุนแรง
วิดีโอของเยี่ยมบุญก่อนหน้านี้ ก็ทำให้ส้มเปรี้ยวบริสุทธิ์ไปมากแล้ว ตอนนี้เมื่อความเคลื่อนไหวนี้โพสต์ออกมา ส้มเปรี้ยวก็กลายเป็นเหยื่ออย่างแท้จริง นอกจากคนที่รู้สันดานส้มเปรี้ยว หรือไม่ก็คนที่ไม่คุ้นเคยกับส้มเปรี้ยว ก็ไม่มีใครหัวเราะเยาะที่ส้มเปรี้ยวโดนคนรังแก ทุกคนรู้สึกเห็นอกเห็นใจเธอ สงสารเธอ
ต้องบอกเลยว่า สมแล้วที่ส้มเปรี้ยวคือลูกสาวเยี่ยมบุญ วิธีการทำให้บริสุทธิ์เหมือนกันไม่มีผิด
“เฮอะ……” มายมิ้นท์หัวเราะเยาะ ไม่ได้อ่านการแสดงความเห็นเหล่านี้มากมาย กดออกแพลตฟอร์มโซเชียลของส้มเปรี้ยว แล้วกดเข้าของตัวเอง
เพิ่งคลิกเข้าไป เสียงสั่นตึ๊งๆ ทุกประเภทก็ดังขึ้นต่อเนื่อง โทรศัพท์ค้างแล้ว ใช้เวลานาทีกว่าถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
เห็นการแสดงความเห็นที่จดหมายส่วนตัวสีแดงจำนวนมากกว่าเก้าสิบเก้าข้อความ หัวใจมายมิ้นท์ก็หนักอึ้ง
เธอกดเปิดจดหมายส่วนตัวก่อน เห็นคำด่าอันชั่วร้ายต่างๆ นานาในจดหมายส่วนตัว รวมถึงอีโมจิก้าวร้าว นอกจากเธอมีสีหน้าตึงเครียดแล้ว ก็ไม่ได้ประหลาดใจมากเท่าไร เธอเดาได้นานแล้ว
ไม่อย่างนั้น เธอคงไม่กดเข้าแพลตฟอร์มโซเชียลตัวเองหรอก
เพราะความเคลื่อนไหวโพสต์นั้นของส้มเปรี้ยว ใส่ความว่าเธอให้คนไปรังแกส้มเปรี้ยวโดยตรง แน่นอนว่าชาวเน็ตพวกนี้ก็เชื่อ จากนั้นก็รีบมาโจมตีเธอในแพลตฟอร์มโซเชียลเธอ
ขณะที่คิด มายมิ้นท์ก็คลิกเครื่องหมายบวกที่อยู่ตรงกลางสุดของหน้าจอ และโพสต์ความเคลื่อนไหวหนึ่ง
สิ่งที่เธอโพสต์ธรรมดามาก คือประโยคหนึ่ง: ฉันไม่ได้ให้ใครไปทำร้ายส้มเปรี้ยว ไม่ผิดก็ไม่จำเป็นต้องแก้ข่าว @ส้มเปรี้ยว
ชาวเน็ตจำนวนมากอยู่หน้าแฟลตฟอร์มอินเทอร์เฟสของมายมิ้นท์ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้จึงเห็นความเคลื่อนไหวนี้ของมายมิ้นท์อย่างรวดเร็ว
เห็นมายมิ้นท์บอกว่าตัวเองไม่ได้ลงมือทำส้มเปรี้ยว ชาวเน็ตพวกนี้ไม่มีใครเชื่อสักคน กลับด่ารุนแรงขึ้น เพิ่มแอคหลุมบางส่วนเพื่อปั่นกระแส แค่ภายในระยะเวลาสั้นๆ สองสามนาที พื้นที่แสดงความเห็นของเธอก็มีการแสดงความเห็นนับพัน ล้วนเป็นคำด่าทั้งนั้น
มายมิ้นท์เห็นว่าเป็นเช่นนี้ จึงกัดปากอย่างอดไม่ได้ สุดท้ายก็หงุดหงิดจริงๆ ออกจากแพลตฟอร์มโซเชียล ถ้าตาไม่มองเราก็ไม่เห็นมัน
ในเวลานี้ โทรศัพท์เธอก็ดังขึ้นมา
มายมิ้นท์เหลือบมองอย่างหงุดหงิด เป็นเบอร์แปลกของท้องถิ่น
มายมิ้นท์ลังเลสักพัก แล้วรับสาย “ใครคะ?”
“ไม่ทราบว่าใช่คุณมายมิ้นท์ไหม?” เป็นเสียงผู้หญิงคนหนึ่ง
“ฉันเองค่ะ!” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วตอบกลับ
เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยินมายมิ้นท์ยอมรับว่าเป็นตัวเองแล้ว เสียงก็กลายเป็นตื่นเต้นมาก “สวัสดีค่ะคุณมายมิ้นท์ ฉันมาจากสื่อสแลคเวฟมีเดียนะคะ สำหรับเรื่องที่คุณส้มเปรี้ยวกล่าวในเน็ตว่าเธอถูกคุณรังแก เป็นแผนของคุณ คุณคิดยังไงคะ?”
ได้ยินคำพูดนี้ มายมิ้นท์ก็กำโทรศัพท์แน่น สีหน้าแย่ขึ้นมา “คุณรู้เบอร์โทรศัพท์ฉันได้ยังไง?”
ผู้หญิงคนนั้นตะลึงก่อน จากนั้นก็เมินคำถามเธอทันที พูดเร่งเร้าอย่างใจร้อน “คุณมายมิ้นท์ คุณตอบคำถามฉันก่อนดีกว่า คุณให้คนไปรังแกสบประมาทคุณส้มเปรี้ยวจริงๆ ใช่ไหม?”
มายมิ้นท์ทำหน้าเย็นชา วางสายทันที
นักข่าวประเภทนี้ตอบสนองไม่ได้หรอก ถ้าตอบสนองไป นักข่าวคนนี้ก็จะถามไม่จบไม่สิ้น และคำถามก็จะยิ่งเจ้าเล่ห์ขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นไม่จำเป็นต้องพูดต่อไป
และเพื่อไม่ให้นักข่าวคนนี้โทรมาอีก ประธานมายมิ้นท์บล็อกเบอร์เมื่อครู่นี้ทันที
แต่เมื่อมายมิ้นท์เพิ่งบล็อกเบอร์ไป โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นหมายเลขท้องถิ่นแปลกๆ เหมือนเดิม
มายมิ้นท์เดาว่าอาจจะเป็นผู้หญิงคนเมื่อกี้เปลี่ยนเบอร์แล้วโทรมา ไม่ก็นักข่าวคนอื่น
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงกดวางทันที แล้วบล็อกมัน!
แต่นี่ยังไม่จบ ในเวลาต่อมาก็มีเบอร์แปลกโทรมาอย่างต่อเนื่อง มีชาวเน็ตบางส่วนส่งข้อความด่าด้วย ทำให้มายมิ้นท์จิตใจเหนื่อยล้า
เธอนึกอยากปิดเครื่องอยู่หลายครั้ง แต่นึกถึงคู่ค้าและลูกค้าจะโทรมาหาเป็นครั้งคราว จึงทำได้แค่อดทน ปล่อยให้คนพวกนี้โทรศัพท์และส่งข้อความมา ไม่เห็นมันก็พอแล้ว
“ประธานมายมิ้นท์!” เลขาซินดี้เดินเข้ามาด้วยสีหน้าร้อนรน
มายมิ้นท์เบิกตากว้าง “เกิดอะไรขึ้น?”
“ประธานมายมิ้นท์ ใต้ตึกบริษัทมีชาวเน็ตมาเยอะมาก ส่งพวกใบมีดกับพวงหรีดจำนวนมากให้กับคุณ……” เลขาซินดี้แอบเหลือบมองเธอ แล้วตอบเสียงเบา
สีหน้ามายมิ้นท์เย็นชาลง ในใจโกรธเคืองและคับข้องใจอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น สุดท้ายก็ต้องทนกับคำด่าและสาปแช่งพวกนี้
เห็นมายมิ้นท์ตัวสั่นเล็กน้อย ซินดี้ก็ถามอย่างเป็นห่วง “ประธานมายมิ้นท์ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”
มายมิ้นท์ส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไร เธอไปสั่งรปภ.จับตัวคนที่ส่งพวงหรีดพวกนั้นมาให้หมด แล้วส่งไปสถานีตำรวจ!”
“ได้ค่ะ” ซินดี้ตอบทันที จากนั้นก็นึกอะไรบางอย่างได้ พูดขึ้นอีกครั้ง “นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องค่ะ ในเน็ตโวยวายกันรุนแรงมาก ตอนนี้ตลาดหลักทรัพย์ของเทนเดอร์กรุ๊ปเราตกอย่างรุนแรง ประธานเตชิตเพิ่งแจ้งมา บอกว่าให้ประธานมายมิ้นท์รีบแก้ไขปัญหาพวกนี้ให้เร็วที่สุด ไม่งั้นก็ส่งอำนาจบริหารครึ่งหนึ่งในมือให้กับเขา”
“เตชิต!” มายมิ้นท์ทุบโต๊ะด้วยความโกรธ “ตอนนี้ตลาดหลักทรัพย์ของเทนเดอร์กรุ๊ปผันผวน เขาดีจังนะ ไม่คิดจะทำให้ตลาดหลักทรัพย์มั่นคง คิดแต่จะแย่งอำนาจ!”
“นั่นสิคะ” เลขาซินดี้พยักหน้าด้วยความแค้นร่วมกัน แต่วินาทีต่อมา เธอโกรธเคืองอีกครั้ง “แต่คราวนี้ผู้บริหารระดับสูงจำนวนมากสนับสนุนประธานเตชิต ยังไงแล้วเรื่องครั้งนี้มันเล็งไปที่ประธานมายมิ้นท์จริงๆ พวกเขาคิดว่าเพราะคุณก่อเรื่องเลยทำให้เทนเดอร์กรุ๊ปเป็นแบบนี้ พวกเขาเลยหารือการจัดประชุมผู้ถือหุ้น ตัดสินใจอีกครั้งว่าคุณเหมาะสมที่จะควบคุมอำนาจบริหารครึ่งหนึ่งนั้นได้ไหม”
มายมิ้นท์อ้าปาก ไม่พูดอะไรชั่วคราว
เพราะเธอปฏิเสธไม่ได้ ว่าการตกต่ำของตลาดหลักทรัพย์ในเทนเดอร์กรุ๊ปครั้งนี้ มันมีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเธอจริงๆ
ถึงแม้เธอไม่ได้ลงมือทำกับส้มเปรี้ยว แต่ส้มเปรี้ยวให้เธอเป็นแพะรับบาปโดยตรง เธอยังไม่มีวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
นอกจากการันต์จะเดินออกมายอมรับ ยังไงแล้วเขาต่างหากที่เป็นคนร้ายตัวจริง
ขณะที่คิด มายมิ้นท์ก็บีบสันจมูก พูดด้วยเสียงค่อนข้างเหนื่อยล้า “ฉันรู้แล้ว เธอไปบอกเตชิต ฉันจะแก้ไขมันให้เร็วที่สุด!”
“ค่ะ” ซินดี้มองเธออย่างเป็นห่วง ก่อนหันตัวแล้วเดินจากไป
มายมิ้นท์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาการันต์
แต่เชื่อมโทรศัพท์ติด แต่ไม่มีใครรับสายเลย ทำให้หัวใจมายมิ้นท์จมสู่ก้นบึ้งทันที
เขาจงใจไม่รับ หรือว่ากำลังยุ่งอยู่กันแน่?
มายมิ้นท์ขมวดคิ้วแน่น นิ้วขยับเล่นบนโต๊ะทำงานอย่างไม่สบายใจ
ทันใดนั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
มายมิ้นท์นึกว่าการันต์เห็นเธอโทรไป แล้วโทรกลับ ทำหน้าดีใจรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
แต่หลังจากเห็นเบอร์ที่โทรมาคือทามทอย ความดีใจบนใบหน้าเธอก็แข็งทื่อทันที สุดท้ายก็ถอนหายใจอย่างหดหู่ แล้วรับสาย
ในเวลาเดียวกัน ณ บริษัทตระกูลนวบดินทร์
เปปเปอร์เพิ่งประชุมเสร็จ เดินออกมาจากห้องประชุม ผู้ช่วยเหมันตร์เดินเข้ามาด้วยใบหน้าจริงจัง “ประธานเปปเปอร์ คุณมายมิ้นท์เกิดเรื่องแล้วครับ”
“เรื่องอะไร?” เปปเปอร์หยุดฝีเท้า ถามอย่างเร่งรีบ
ผู้ช่วยเหมันตร์ดันแว่นแล้วตอบกลับ “ส้มเปรี้ยวโพสต์ความเคลื่อนไหวบนเน็ต บอกว่าเธอโดนคนรังแก ซึ่งคุณมายมิ้นท์เป็นคนปลุกปั่นให้ทำ ชาวเน็ตก็เชื่อกันหมด รีบทยอยกันไปด่าคุณมายมิ้นท์อย่างโจ่งแจ้งบนแพลตฟอร์มโซเชียลของคุณมายมิ้นท์ ถึงขนาดส่งใบมีดและพวงหรีดไปสาปแช่งคุณมายมิ้นท์ที่เทนเดอร์กรุ๊ปด้วย และสื่อพวกนั้นก็ไปดักล้อมคุณมายมิ้นท์ที่เทนเดอร์กรุ๊ปด้วย”