บทที่ 290 ระงับไม่ให้ขึ้นเทรนด

รักหวานอมเปรี้ยว

“ว่าไงนะ?” สีหน้าเปปเปอร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย กลิ่นอายรอบตัวมืดมนขึ้นมาทันที

ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาก็ถามอีกครั้ง “ตอนนี้มายมิ้นท์เป็นยังไงบ้าง?”

“คุณมายมิ้นท์อยู่ที่ห้องทำงานตลอดไม่ได้ออกไปไหน สื่อกับชาวเน็ตพวกนั้นก็เลยไม่ได้ทำอันตรายคุณมายมิ้นท์ แต่ผมว่าจิตใจของคุณมายมิ้นท์ ต้องเกิดผลกระทบแน่เลย” ผู้ช่วยเหมันตร์พูด

เปปเปอร์หรี่ตาอย่างเย็นชา “นายรีบไปเปิดโปงนักแสดงเลวๆ พวกนั้น ระงับข่าวที่เกี่ยวกับมายมิ้นท์บนเน็ตไว้ แล้วก็จดพวกแอคปั่นที่มุ่งร้าย รวมถึงชาวเน็ตที่ด่ามายมิ้นท์แรงๆ ไว้ให้หมด”

เขาจะคิดบัญชีกับคนพวกนี้ภายหลัง!

“เข้าใจแล้วครับ!” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า แล้วรีบไปทำตามคำสั่ง

เปปเปอร์คลำโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง โทรหามายมิ้นท์ “สวัสดีค่ะ เลขหมายที่คุณเรียกกำลังอยู่ระหว่างการใช้งาน ได้โปรดโทรใหม่อีกครั้ง……”

กำลังอยู่ระหว่างการใช้งาน?

เปปเปอร์ขมวดคิ้ว

ตอนนี้เธอกำลังคุยโทรศัพท์กับใคร?

ในหัวสมองเปปเปอร์มีใบหน้าพวกลาเต้ราเม็งแวบเข้ามา ยิ่งคิดสีหน้าก็ยิ่งย่ำแย่

สุดท้ายเขาก็เก็บโทรศัพท์ เดินไปที่ลิฟต์

เขาเป็นห่วงเธอ

ไปดูด้วยตัวเองดีกว่า!

ณ เทนเดอร์กรุ๊ป มายมิ้นท์เห็นเบอร์เปปเปอร์โทรเข้ามา ดวงตามีความประหลาดใจเคลื่อนผ่านไป ไม่นานมันก็หายไป

เธอพอจะรู้ว่าทำไมเขาถึงโทรมา

เขาคงเห็นข่าวพวกนั้นในอินเทอร์เน็ตล่ะมั้ง

“มายมิ้นท์ คุณยังอยู่ไหม?” ปลายสายโทรศัพท์ ทามทอยไม่ได้ยินเสียง จึงเอ่ยเรียก

มายมิ้นท์เอาโทรศัพท์แนบหูอีกครั้ง “ฉันยังอยู่ ขอโทษที เมื่อกี้มีสายเข้า”

“ใครอ่ะ?” ทามทอยถามอย่างสงสัย

ดวงตามายมิ้นท์หลบหลีก “ใครสักคนที่ไม่สำคัญ ไม่ต้องสนใจ”

“ก็ได้” ทามทอยยักไหล่ และไม่ได้สงสัยคำพูดเธอ พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ในเมื่อการันต์เป็นคนทำส้มเปรี้ยว ก็ต้องให้เขาออกหน้ามาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณ ไม่งั้นเรื่องนี้แก้ไขยากมาก”

“ฉันรู้” มายมิ้นท์พยักหน้า “เมื่อกี้ฉันโทรหาการันต์แล้ว แต่ไม่มีคนรับ”

“เขาน่าจะกำลังผ่าตัดให้ใครสักคนอยู่ ต่างประเทศมีผู้ป่วยนักการเมืองเป็นเนื้องอกในสมอง รู้ว่าให้การันต์ผ่าตัดให้ จะมีอัตราสำเร็จในการผ่าตัดสูงมาก ก็เลยมาจากต่างประเทศโดยเฉพาะ เวลาผ่าตัดก็คือวันนี้ พวกพ่อฉันก็อยู่โรงพยาบาลด้วย และเวลาผ่าตัดนี้ก็ยาวนานมาก ไม่มีทางเสร็จได้ภายในสิบกว่าชั่วโมง” ทามทอยพูดขึ้น

มายมิ้นท์ก็เชิดหน้าขึ้นมาอย่างเข้าใจทันที “งี้นี่เอง”

เมื่อครู่นี้เธอกังวลมากๆ ว่าการันต์จงใจไม่รับสายเธอ

ในเมื่อไม่ได้จงใจ งั้นเธอก็วางใจแล้ว

“แต่ฉันต้องรอสิบกว่าชั่วโมง เขาถึงจะออกมาช่วยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ฉันได้งั้นเหรอ?” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วสวย

สิบกว่าชั่วโมง เรื่องราวมันต้องหมักหมมจนไปถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้แน่ๆ

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือ เตชิตอาจจะต้องการให้เธอมอบอำนาจบริหารโดยไม่รอถึงสิบกว่าชั่วโมง

ทามทอยถอนหายใจ “ถูกต้อง ตอนนี้คุณทำได้แค่รอ แต่ฉันช่วยคุณระงับพวกอุปสรรคบนเน็ตก่อนได้นะ ให้คุณได้มีเวลาพักหายใจ ทำให้หุ้นเทนเดอร์กรุ๊ปมั่นคงก่อน……เอ๋?”

จู่ๆ เขาก็เห็นอะไรบางอย่าง จึงรีบกะพริบตาสองสามครั้งด้วยความประหลาดใจ

“เกิดอะไรขึ้น?” มายมิ้นท์ถามอย่างสงสัย

ทามทอยยื่นหน้าไปหน้าจอคอมพิวเตอร์ มั่นใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้มองผิด ก็กลืนน้ำลายแล้วพูดขึ้น “มายมิ้นท์ มีข่าวดี ข่าวบนเน็ตที่เกี่ยวกับคุณมันหายไปเยอะมาก คุณสั่งให้คนไประงับเหรอ?”

“เปล่านะ?” มายมิ้นท์ส่ายหน้า

ทามทอยขมวดคิ้วขึ้นมา “งั้นก็แปลกแล้ว เมื่อกี้ฉันเห็นในเน็ตโวยวายกันดุเดือดอยู่เลย ตอนนี้หายไปรวดเดียวเกือบหมด ต้องมีคนไประงับมัน คุณบอกไม่ใช่คุณ งั้นจะเป็นใครล่ะ? คงไม่ใช่ลาเต้ กับน้องชายคนนั้นของคุณหรอกนะ?”

“เป็นไปไม่ได้!” มายมิ้นท์ส่ายหน้าอย่างมั่นใจ “ที่ลาเต้มีสื่อไปหาเยอะมากเหมือนกัน เขายุ่งกับการจัดการสื่อพวกนั้นอยู่ ไม่มีเวลาช่วยฉันระงับข่าวหรอก ส่วนราเม็ง วันนี้เขามีงานถ่ายแบบรูปแบบปิด ตอนนี้คงไม่รู้ว่าฉันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เลยไม่มีทางเป็นเขาเหมือนกัน”

“ไม่ใช่ราเม็ง ไม่ใช่ลาเต้ งั้นจะเป็นใครล่ะ หรือว่า……” ทามทอยนึกถึงใครคนหนึ่ง สีหน้าก็กลายเป็นหนักอึ้งขึ้นมา

มายมิ้นท์ก็คิดได้เหมือนกัน ริมฝีปากแดงขยับ ค่อยๆ พ่นคำออกมาสามคำ “นายเปปเปอร์”

ต้องเป็นเขาแน่ๆ เมื่อครู่นี้เขาโทรหาเธอด้วย

“ฉันก็สงสัยว่าเป็นเขา ความเป็นไปได้สูงด้วย มายมิ้นท์ ถ้าเป็นเปปเปอร์จริงๆ คุณจะให้อภัยเขาเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า?” ทามทอยถามหยั่งเชิง

มายมิ้นท์ผลุบตาลงแล้วพูดเสียงเรียบ “ไม่ นี่มันคนละเรื่อง”

ทามทอยได้ยินคำพูดนี้ก็ยิ้มทันที “งั้นก็ดีๆ”

มายมิ้นท์แค่รู้สึกแปลกๆ “คุณเป็นเพื่อนเปปเปอร์ไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่อยากให้ฉันให้อภัยเปปเปอร์ล่ะ?”

“อ่าคือ……” ดวงตาทามทอยมองไปทางอื่นอย่างร้อนตัว หัวเราะอย่างรู้สึกผิดสองที “ก็คือ ฉันช่วยเรื่องเหตุผลไม่ได้ช่วยเพื่อน เมื่อก่อนเขาทำกับคุณเกินไป ฉันไม่สนับสนุนเขาอยู่แล้ว”

“งั้นเหรอ? คุณเป็นคนใจกว้างดี” มายมิ้นท์พยักหน้า

ทามทอยเห็นเธอเชื่อ ก็โล่งอกทันที

“เอาล่ะทามทอย ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว” มายมิ้นท์นวดขมับ

ทามทอยตอบอืม “ได้ มีอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอด ฉันช่วยคุณได้เต็มที่ แล้วก็ต้องระวังตัวให้มากๆ ห้ามเผชิญหน้าติดต่อกับชาวเน็ตและสื่อพวกนั้น พวกมันบ้าคลั่งกันหมด จะทำร้ายคุณได้ง่ายๆ คุณปกป้องตัวเองให้ดี อย่าได้รับบาดเจ็บ”

“ไม่ต้องห่วง” ได้ยินคำกำชับจากเขา มายมิ้นท์ก็ยิ้ม

วางสายไป เธอก็วางโทรศัพท์ลง วางมือบนเมาส์ ค้นหาข่าวที่เกี่ยวกับเธอในเน็ต

พบว่าเป็นอย่างที่ทามทอยพูดจริงๆ ข่าวของเธอถูกระงับไปแล้ว ค้นหาเจอแค่ไม่กี่อันเท่านั้น การแสดงความเห็นและการแชร์หลายแสนแต่เดิมที ก็หายไปหมดแล้ว แทนที่ด้วยข่าวฉาวของดาราในวงการบันเทิง

ใครนอกใจ ใครเป็นเมียน้อย ใครเลี่ยงภาษีและอื่นๆ

ไม่พูดถึงเธอแล้ว เหล่าชาวเน็ตก็มองออกว่าดาราพวกนั้นกำลังเป็นตัวบังหน้าให้เธอ

แต่เป็นตัวบังหน้าแล้วยังไง ข่าวฉาวดาราพวกนี้ ก็ดึงดูดความสนใจเหล่าชาวเน็ตได้จริงด้วย เกิดสงครามด่ารอบใหม่อินเทอร์เน็ตทันที

เป้าหมายที่โดนด่าเปลี่ยนจากมายมิ้นท์เป็นดาราเหล่านั้น

“ฟู่……” มายมิ้นท์ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่มองลงไป เห็นสื่อสิบกว่าบริษัทลดลงไปครึ่งหนึ่งทันที ก็รู้ว่าสื่อเหล่านั้นที่ออกไป คงไปสัมภาษณ์ดาราเหล่านั้นแล้ว

มันทำให้เธอโล่งอกอย่างช่วยไม่ได้ และมีเวลาหาวิธีทำให้ตลาดหลักทรัพย์มั่นคง

ณ โรงพยาบาล ส้มเปรี้ยวนั่งกินผลไม้บนเตียงผู้ป่วยอย่างอารมณ์ดี

นึกถึงสิ่งที่ตัวเองเห็นในเน็ตเมื่อครู่นี้ ชาวเน็ตพวกนั้นใช้วาจารุนแรงต่อมายมิ้นท์ ก็หัวเราะดีใจออกมาอย่างอดไม่อยู่

ชาวเน็ตพวกนั้นมันโง่จริงๆ แค่ความเคลื่อนไหวโพสต์เดียวของเธอ พวกมันก็เชื่อกันหมดว่าที่เธอโดนรังแก มายมิ้นท์เป็นคนทำ

แต่เพราะพวกมันโง่ จุดประสงค์ของเธอถึงได้สำเร็จล่ะนะ เธออยากให้มายมิ้นท์โดนตราหน้าว่ากระทำผิด ให้กำจัดมันไม่ได้

เธอจะโดนคนพวกนั้นทำให้เสื่อมเสีย แต่มายมิ้นท์ยังไม่โดนอะไรได้ยังไง!

เธอไม่ยอม มายมิ้นท์ก็เลยต้องตกนรกไปกับเธอ!

แต่มายมิ้นท์ก็โง่เหมือนกัน ไม่คิดว่าจะโพสต์วิจารณ์ว่าไม่ผิดก็ไม่จำเป็นต้องแก้ข่าวอะไรนั่นบนอินเทอร์เน็ต ตอนนี้ใครไม่รู้คงคิดว่าไม่ผิดก็ไม่ต้องแก้ข่าวคำนี้คือความหมายเชิงลบไปแล้ว

ดาราหลายคนในวงการบันเทิงเมื่อถูกเปิดโปงความชั่วร้ายก็โพสต์คำเหล่านี้ สุดท้ายก็ถูกตบหน้า ดังนั้นเหล่าชาวเน็ตจึงเชื่อว่าไม่ผิดก็ไม่ต้องแก้ข่าวนั่นแหละแปลกประหลาด

ในเวลานี้ ประตูห้องผู้ป่วยถูกใครบางคนเปิด ใบหน้าซูบผอมเหลืองแค่เห็นก็รู้แล้วว่าขาดสารอาหารชะโงกหน้าเข้ามาจากด้านนอก เรียกส้มเปรี้ยว “น้อง”