บทที่ 1772+1773

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 1772 ความคับข้องใจของเธอ

ตี้ฝูอีส่ายหน้า เหตุผลข้อนี้เขาก็อยากรู้มากเช่นกัน!

การปรากฏตัวของนางราวกับปาฏิหาริย์โดยแท้! จวบจนยามนี้เขายังไม่ค่อยอยากเชื่อเลยว่าเป็นเรื่องจริง…

กู้ซีจิ่วหลุบตาต่ำ “อันที่จริง…ข้าอยู่ข้างกายท่านตลอด”

หา? ตี้ฝูอีงงงันในทันใด เลิกคิ้วมองนาง

“ข้าเห็นท่านอุ้มสังขารนั้นของข้าตระเวนไปทั่ว มองเห็นท่านพูดคุยกับสังขารนั้น มองเห็นท่านแกะสลักหุ่นไม้ของข้านับไม่ถ้วน…ยามนั้นข้านึกว่าท่านทำไปเพื่อคืนชีพให้หลานจิ้งเคอ ในใจอึดอัดยิ่งนัก…ตอนนั้นข้าอยากแยกจากท่าน ไม่พบเจอท่านอีกต่อไป แต่ข้าแยกจากไปไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้อยู่ข้างกายท่านตลอด อยู่ที่นั่นอย่างทรมานใจนัก”

น้ำเสียงกู้ซีจิ่วค่อนข้างแหบพร่า ขนตาที่หลุบลู่ไหวระริกเล็กน้อย

นิ้วมือตี้ฝูอีกำเข้ากัน ข่มความปรารถนาจะรั้งนางเข้ามากอดเอาไว้ “ขอโทษนะ…”

กู้ซีจิ่วส่ายหัวนิดๆ “เริ่มแรกข้านึกว่ามีสาเหตุมาจากสังขารนั้น นึกว่าตัวเองที่อยู่ในสภาพวิญญาณแยกจากร่างเดิมไม่ได้ ภายหลังข้าถึงได้ทราบว่าไม่ใช่…มีวันหนึ่งที่ออกไปทำธุระด้านนอกแล้วไม่ได้นำสังขารนั้นไปด้วย ผลคือข้าพบว่าข้าลอยอยู่รอบกายท่านตลอด แยกห่างจากท่านได้ไม่เกินยี่สิบลี้…ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ข้าแยกจากไปไม่ได้คือท่าน ห่วงอาลัยของข้าก็คือท่าน…”

หัวใจของตี้ฝูอีทั้งฝาดเฝื่อนทั้งอบอุ่น “ซีจิ่ว…”

“ยามนั้นข้านึกว่าในใจของท่านมีผู้อื่นอยู่ ทว่ายังคงปล่อยวางท่านไม่ได้ ต้องการติดตามอยู่ข้างกายท่าน…ว่ากันตามจริงแล้ว ตัวข้าเองก็รู้สึกว่าน่าขายหน้าอย่างยิ่งเช่นกัน ไม่มีศักดิ์ศรีเลยสักนิด แต่ข้าควบคุมตัวข้าไม่ได้เลย…”

เสียงกู้ซีจิ่วชะงักไปครู่หนึ่ง “หลังจากข้าติดตามอยู่ข้างกายท่านได้ไม่กี่วัน ในที่สุดก็พบว่าผู้ที่ท่านต้องการคืนชีพให้มิใช่หลานจิ้งเคอ แต่เป็นข้า…ท่านไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นข้าดีใจมากแค่ไหน ปีติยินดีจนอยากจะหมุนอยู่รอบตัวท่านตลอด…”

จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็โผเข้าใส่ร่างเขา!

ตี้ฝูอีตัวแข็งทื่อทันที จะผลักนางออกก็ไม่เหมาะอีก ตะลึงงันไปชั่วขณะหนึ่ง มือน้อยๆ ของกู้ซีจิ่วก็ยื่นสอดเข้ามาในสาบเสื้อของเขา….

ประเจิดประเจ้อ!

หยกนภาอยากจะปิดตานัก ไม่นึกเลยว่าจู่ๆ เจ้านายผู้เคร่งขรึมเป็นการเป็นงานของมันจะใจกล้าได้เช่นนี้

ทว่ากู้ซีจิ่วกลับไม่ได้ลวนลามตี้ฝูอี มือน้อยๆ ของเธอยื่นสอดเข้าไปในมิติเก็บของของเขา หยิบตุ๊กตาไม้มากมายนับไม่ถ้วนออกมาจากด้านใน…

ตุ๊กตาไม้เหล่านั้นคือรูปสลักของกู้ซีจิ่ว ทุกตนล้วนสมจริงดุจมีชีวิตค อากัปกริยาแตกต่างกันไป

กู้ซีจิ่วชูพวกมันขึ้นสูง “ข้าได้เห็นท่านแกะสลักสิ่งเหล่านี้ทุกวัน ข้าทราบว่าท่านเสียใจยิ่งนัก และปวดใจยิ่งนัก…ข้าก็ค่อนข้างโกรธท่านเช่นกัน เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าท่านชอบข้าถึงเพียงนี้ เหตุใดต้องผลักไสข้า? เหตุใดต้องทำร้ายข้า? บีบให้ข้าแยกจากท่านทำไม? ยามนั้นไม่ว่าข้าจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ตกเลย…”

จู่ๆ หยกนภาที่อยู่ด้านข้างก็สอดปากเข้ามา ‘เจ้านาย วันนั้นในโรงเตี๊ยมที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ทำอาหารไว้หนึ่งโต๊ะ ท่านก็มาอยู่ด้านข้างด้วยใช่ไหม? แถมยังฉกกุ้งไปด้วย…’

กู้ซีจิ่วถลึงตามองมันแวบหนึ่ง “เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีกหรือ?! ยามนั้นข้านึกว่ามีกระแสจิตติดต่อกับเจ้าได้ พยามจะคุยกับเจ้าสุดชีวิต เจ้ายังตกใจจนเผ่นแน่บอยู่เลย!”

หยกนภาหดตัว ‘ข้านึกว่าผีหลอก เป่าลมหนาวยะเยือกใส่ร่างข้านี่นา…’

ตี้ฝูอีถอนหายใจพลางเอ่ย “อันที่จริงยามนั้นข้าก็สัมผัสได้เช่นกันว่าเจ้าอยู่ข้างกายข้า แต่ไม่ว่าจะเรียกวิญญาณอย่างไรก็เรียกเจ้าไม่ได้เลย…”

กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “บางทีตัวข้าในยามนั้นอาจไม่นับว่าเป็นวิญญาณ ตัวข้าเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าตอนนั้นเป็นสิ่งใด สัมผัสถึงร่างกายของตนไม่ได้เลย บางทีศาลระลึกคุณความดีที่ท่านสร้างให้อาจจะมีประโยชน์…”

—————————————————————

บทที่ 1773 ความคับข้องใจของเธอ 2

กู้ซีจิ่วส่ายหัว “บางทีตัวข้าในยามนั้นอาจไม่นับว่าเป็นวิญญาณ ตัวข้าเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าตอนนั้นเป็นสิ่งใด สัมผัสถึงร่างกายของตนไม่ได้เลย บางทีศาลระลึกคุณความดีที่ท่านสร้างให้อาจจะมีประโยชน์ ข้าค่อยๆ มีประสาทสัมผัสทั้งห้าขึ้นมา ค่อยๆ สัมผัสและควบคุมร่างกายของตนเองได้แล้ว ยามนั้นในใจข้ามีความสุขยิ่งนัก คิดว่าถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ คงมีสักวันที่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าท่าน พูดคุยกับท่านได้ ยามนั้นข้าติดตามอยู่ข้างกายท่าน เห็นท่านทุกข์ตรมถึงเพียงนั้น ในใจข้าก็ทรมานยิ่งนักเช่นกัน เพียงแต่กลับรู้สึกว่าท่านสมควรโดนแล้ว ใครใช้ให้ท่านทำข้าเสียใจล่ะ? ข้าถึงขั้นที่คิดว่าเป็นแบบนี้ต่อไปก็ไม่เลวเหมือนกัน สามารถเฝ้ามองท่านได้ตลอดเวลา ท่านมองไม่เห็นข้า ต่อให้ข้านอนอยู่ในอ้อมอกท่านท่านก็ไม่รู้…”

“ยามนั้นข้าฝึกฝนไปอย่างช้าๆ ในใจคิดว่าถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปข้าจะฟื้นคืนชีพได้ เพียงแต่ระยะเวลาจะยืดยาวไปอีกหน่อย ไม่แน่ว่าอาจต้องใช้เวลาถึงร้อยแปดสิบปี…” น้ำเสียงกู้ซีจิ่วต่ำพร่าลงไป “ตอนนั้นข้านึกไปว่าวันหน้าพวกเรายังมีเวลาอีกเนิ่นนาน ยังสามารถอืดอาดยืดยาด…ขอเพียงให้ข้าได้อยู่ข้างกายท่าน ต่อให้เป็นผีข้าก็ยอม ไม่นึกเลย…”

“ไม่นึกเลยว่าจู่ๆ ข้าก็ถูกขังไว้ในศาลบูชาแห่งนั้น ออกไปไม่ได้อีก!” กู้ซีจิ่วชี้นิ้วหนึ่งไปทางศาลทูตสวรรค์กู้ที่อยู่ไม่ไกลหลังนั้น “วันนั้นข้ามาที่ศาลบูชาแห่งนี้พร้อมกับท่านชัดๆ ใจลอยไปเพียงประเดี๋ยวเดียว ก็พบว่าท่านพาสังขารนั้นหายไปแล้ว ข้าถูกทิ้งไว้!”

หยกนภามีเครื่องหมายอัศเจรีย์ติดกันสามอันบนใบหน้า ‘เจ้านาย ข้านึกออกแล้ว ดูเหมือนนับจากวันนั้นมา ข้าก็สัมผัสถึงการคงอยู่ของท่านไม่ได้อีกเลย ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ใช้สารพัดเวทวิชาเพื่อค้นหาท่านอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่ตลอด ซ้ำยังทำข้าวของนุ่มฟูบางเบามากมายเพื่อล่อให้ท่านออกมาหยิบด้วย ยามนั้นเขาราวกับวิกลจริตไปแล้ว ทำอาหารโต๊ะใหญ่ทุกวัน ลมพัดมาคราหนึ่งก็นึกว่าท่านมาแล้ว…ที่แท้ท่านก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่อย่างไร้สาเหตุนี่เอง ทำไมท่านไม่ไปตามหาพวกเราล่ะ? อันที่จริงวันนั้นท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่ในเมืองนี้ทั้งวันเลยนะ…’

กู้ซีจิ่วปรายตามองมันแวบหนึ่ง “เจ้านึกว่าข้าไม่อยากไปตามหาหรือไง? ข้าถูกกักบริเวณไว้ที่นี่!”

“เกิดอะไรขึ้น? ผู้ใดกักบริเวณเจ้า?” นัยน์ตาตี้ฝูอีคมปลาบขึ้นมา

กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “ไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน ศาลเจ้าแห่งนี้มีเขตแดนหนึ่งเพิ่มขึ้นมา ซ้ำยังกักขังเฉพาะข้าด้วย ชาวบ้านธรรมดาเข้าออกได้ตามอัธยาศัย มีแต่ข้าคนเดียวที่ไม่ได้ ไม่อาจออกห่างศาลแห่งนี้ได้เกินสามลี้ ยังมีเสียงที่แยกเพศไม่ออกอีกเสียงหนึ่งพูดพล่ามอยู่ข้างหูข้าด้วย…”

เธอเล่าเหตุการณ์ตอนที่เธอถูกขังไว้ที่นี่ เมื่อได้ยินกู้ซีจิ่วพูดถึงผู้ถ่ายทอดบัญชาสวรรค์อันใด ตี้ฝูอีก็ปรายตามองหยกนภาแวบหนึ่ง

หยกนภาหดตัว ‘ไม่ใช่ข้า!’

ตี้ฝูอีเอ่ยอย่างเยียบเย็น “รู้ว่าไม่ใช่เจ้า เจ้าไม่มีความสามารถเช่นนี้”

หยกนภาพูดไม่ออกเลย

กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปากนิดๆ สายตาร่อนลงบนใบหน้าตี้ฝูอี “ข้าได้ทราบจากปากคำของเสียงนั้นว่าข้าคือว่าที่เทพศักดิ์สิทธิ์องค์ใหม่ จะต้องเข้าแทนที่ท่าน!”

น้ำเสียงเธอสั่นพร่าเล็กน้อย “จะอย่างไรข้าก็นึกไม่ถึงเลยว่าระหว่างข้ากับท่านจะอยู่รอดได้เพียงหนึ่งคนเท่านั้น…พอทราบเรื่องนี้ปฏิกิริยาแรกของข้าคืออะไรรู้ไหม? ข้าไม่อยากคืนชีพแล้ว! ข้าไม่ต้องการแทนที่ท่าน! ข้ายอมอยู่ในสภาพนี้ต่อไป…”

ตี้ฝูอีพลันปวดใจ เขาย่อมทราบดีว่าความจริงนี้มีผลกระทบต่อนางมากมายนัก “ซีจิ่ว การล่วงลับของข้าถูกกำหนดไว้ก่อนแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะคืนชีพหรือไม่ข้าล้วนไร้หนทาง…”

กู้ซีจิ่วพยักหน้า “ใช่ เสียงนั้นก็บอกข้าแบบนี้เหมือนกัน จากนั้นมันก็บอกว่าอีกสามสิบแปดปีให้หลังข้าถึงจะคืนชีพได้…ส่วนท่านจะล่วงลับไปในอีกสี่เดือนให้หลัง…”

———————————————————–