บทที่ 602 เถ้าแก่เทพธิดา

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 602 เถ้าแก่เทพธิดา

“การแข่งขันประลองการต่อสู้เวทีหมอก?”ฉินเทียนตะลึงแล้วเล็กน้อย พูดอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย“อย่างนั้นครั้งนี้เป็นเมื่อไหร่?”

“เป็นปีนี้เหรอ?”

เฉินเสี่ยวอี้ยิ้มพูด“ตอบถูกแล้ว”

“เถ้าแก่ฉินครั้งนี้คุณมาได้ถูกเวลา การแข่งขันประลองการต่อสู้เวทีหมอกของครั้งนี้ก็อยู่ในปีนี้ อีกทั้งเป็นหลังหนึ่งเดือน”

ยี่สิบปีก่อนจินหู่และเหลิ่งจุ้นอีกทั้งกลุ่มศิลปะการต่อสู้ในประเทศ ก็คือใช้ชื่อของการแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ ได้รับการเชิญมาเข้าร่วมงานประชุมเวทีหมอกอันนี้

คิดไม่ถึงตัวเองจะเจอเข้าแล้ว

ฉินเทียนจู่ ๆ คิดเอาตามนิสัยของเหลิ่งหยุนหลังขณะที่รู้ว่าเรื่องที่พ่อแม่ของหล่อนตายอย่างน่าเวทนามีความซ่อนเร้นอย่างอื่น เพราะอะไรกลับล่าช้าไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร

คงจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับการแข่งขันประลองการต่อสู้เวทีหมอกใช่ไหม

เด็กผู้หญิงคนนี้สรุปแล้วกำลังเล่นอะไร

คิดถึงที่นี่ฉินเทียนยิ่งอยากรีบเจอเหลิ่งหยุน จะต้องหยุดการกระทำของหล่อนที่ทำความตื่นเต้นอะไรมากไปออกมาแน่นอน

เป็นสถานที่ที่พิเศษมาก พอเหลิ่งหยุนทำภัยพิบัติครั้งใหญ่อะไรออกมาเขาเพียงกลัวว่าทั้งวิหารเทพต่างก็ยากที่จะปกป้องหล่อนได้

เฉินเสี่ยวอี้มองฉินเทียนมีอารมณ์ที่แปลกไป พูดเสียงต่ำ“เถ้าแก่ฉิน คุณก็อยากที่จะสัมผัสวิชาหายตัวที่ลึกลับของญี่ปุ่นสักหน่อยใช่ไหม?”

“การประลองแข่งขันวิชาการต่อสู้นี้ ถึงแม้เป็นการปิด ถึงเวลานั้นทั้งเขาต่างก็จะใช้มาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด”

“แต่ใช้ความสัมพันธ์ของพ่อบุญธรรมผม น่าจะสามารถเอาตั๋วผู้ชมมาใบหนึ่งได้”

“ขอแค่คุณดูที่ตำแหน่งผู้ชมอย่างเชื่อฟัง ไม่มีคนจะใส่ใจ”

ฉินเทียนพยักหน้าพูด“เรื่องนี้กลับไปฉันคุยกับเถ้าแก่อูอีกแล้วกัน”

เขามองเหมือนไม่มีเป้าหมาย เดินตามสบายไปด้านหน้า

นี่เป็นถนนของตีนเขา สองด้านข้างมีดอกไม้ต้นไม้แต่ละชนิด เหมือนเป็นระเบียงยาวในแดนความฝันอย่างนั้น

เข้าใกล้ภูเขาด้านนอกทางเขามีวิลล่าพร้อมสวนที่เหมือนโฮมสเตย์เรียงสลับกันมากมาย เอาตามการบ่งบอกของป้ายประตูวิลล่าเหล่านี้ที่มีคือคนอยู่

ที่มีก็เป็นสำนักงานของบริษัท

ไม่ว่ายังไงคนที่สามารถซื้อสวนลานบ้านใหญ่อย่างนี้ได้ ต่างก็มีพลังมากก็ใช่แล้ว

เดินไปสักพักมองเห็นป้ายไม้ชิ้นหนึ่งอยู่ข้างทาง ด้านบนใช้สองตัวอักษรเขียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ ฉินเทียนหยุดฝีเท้าอมยิ้มพูด“สองคำนี้อ่านอะไร?”

เฉินเสี่ยวอี้พูด“ทีมเหลิ่ง”

“นี่คือเวิร์คช็อปทำมือที่เก่งกาจมาก ได้ยินว่าเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างในต่างก็เป็นพี่สาวที่เหมือนกับเทพธิดาอย่างนั้น”

“โดยเฉพาะเถ้าแก่คนนั้น นั่นคือจริง ๆ ……บรึ้ย ๆ !”

เขาเดินตามเส้นทางมองเห็นตึกเล็กหลังหนึ่งที่อยู่ไกล ๆ ในตาผุดสีที่อิจฉามากขึ้นมา

เลียริมฝีปากพูดอย่างเสียดาย“เพียงแค่หล่อนเย่อหยิ่งมากไป”

“ได้ยินว่าคุณชายมากมายมาขอเจอถึงที่ ต่างก็ถูกไล่ออกมาแล้ว”

“เฮ้อ พวกเราคนอย่างนี้กำหนดว่าไม่ใช่อาหารของหล่อน

“เถ้าแก่ฉินพวกเรารีบไปหน่อยเถอะ ไปช้าแล้วสาวน้อยที่ดี ๆ เหล่านั้นของคาบูกิก็ถูกเหมาสนามแล้ว”

ฉินเทียนยิ้มพูด“งั้นความหมายของนาย สาวน้อยข้างในนี้โดยเฉพาะเถ้าแก่ที่บรึ้ย ๆ มากท่านนั้นต้องดีกว่าสาวน้อยเหล่านั้นของคาบูกิแล้ว?”

“นั่นแน่นอน!”

“นั่นสามารถเทียบได้เหรอ!”

“ไม่ใช่ คุณหมายความว่ายังไง?”

“ความหมายของฉันพวกเราต้องเล่น ก็เล่นระดับสูงสักหน่อย”

“ไป ไปเจอเถ้าแก่หญิงที่บรึ้ย ๆ มากท่านนี้”

พูดอยู่เขาเดินตามถนนเล็กมีพุ่มดอกไม้ปกคลุม เดินเข้าไปอย่างมีความสุข

“สัตว์!”เฉินเสี่ยวอี้มีปฏิกิริยากลับมาในพริบตาก็โมโหแล้ว เขาก้าวเข้ามาดึงแขนของฉินเทียนแล้วพูด“คุณบ้าแล้ว!”

“ที่นี่ไม่ใช่ในประเทศ ไม่ใช่สถานที่ที่มีเงินเล็กน้อยก็สามารถมามั่ว ๆ ได้!”

“รีบไป!”

ฉินเทียนยิ้มอย่างเย็นชาพูด“สหายตัวน้อย สงสัยตอนที่นายออกประเทศนานมากแล้ว ภาพความทรงจำที่มีต่อในประเทศก็นานมากแล้ว”

“ไปเถอะ พานายเปิดโลกกว้าง”

มองเห็นสายตาของฉินเทียน หัวใจของเฉินเสี่ยวอี้สั่นเล็กน้อย คิดได้ก็ปล่อยมือแล้ว

เขาเอาฉินเทียนเป็นเศรษฐีใหม่ที่จู่ ๆ ร่ำรวยชนิดนั้นมาตลอด ถึงแม้ภายนอกแกล้งจริงจังมากแต่ต่างก็เป็นคนที่ชอบความสวยงาม

ก่อนหน้านี้เขาต้อนรับมามากมาย ปากพูดอยู่ว่าไม่เอาถึงคาบูกิแล้ว ต่างก็เล่นอย่างไม่อายมากกว่าใคร

ดังนั้นเขาพูดมาตลอดต้องการพาฉินเทียนไปคาบูกิที่จริงในใจไม่ชอบฉินเทียนเล็กน้อย

เวลานี้จู่ ๆ คิดถึงอะไรได้ คนนี้ดูเหมือนไม่เหมือนกับคนอื่น……

ตอนที่ฉินเทียนไม่ได้ตั้งใจก็เปิดเผยกลิ่นไอฆ่าเล็กน้อยออกมาแล้ว เพราะเขารู้สึกถึงเมื่อกี้ที่ภายใต้การดึงตัวเองอย่างฉับพลันของเฉินเสี่ยวอี้เปิดเผยกังฟูที่แอบซ่อนอยู่

ลิงซนคนนี้ภายนอกคิกคัก ที่จริงก็คือปรมาจารย์ที่ไม่เปิดเผยตัวคนหนึ่งล่ะ

เวลานี้มองเห็นใบหน้าของเฉินเสี่ยวอี้เปิดเผยสีที่หวาดกลัว ฉินเทียนจู่ ๆ คิดล้อเล่นกับเขาอีก

“นายรับคำสั่งคุ้มครองฉัน เดี๋ยวมีสถานการณ์อะไรนายต้องยืนออกมา”

“บอกนายอย่างไม่ถือสา ถ้าหากฉันเกิดเรื่องอะไรที่นี่แล้วนายกับพ่อบุญธรรมของนายต่างก็ไม่มีวิธีที่จะแบกรับไหว!”

ฮึเสียงหนึ่ง ก้าวใหญ่หันเดินไปข้างใน

ใบหน้าของเฉินเสี่ยวอี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวทำอะไรไม่ถูก เหมือนทำความผิดใหญ่อะไรแล้วแต่กัดฟัน ยังคงตามขึ้นไปแล้ว

ช่องทางเล็กดอกไม้หนึ่งร้อยเมตร ไม่นานก็เดินมาถึงสุดปลายทางแล้ว

ฉินเทียนยืนเอามือไขว้ข้างหลัง อมยิ้มมองทั้งหมดที่อยู่ด้านหน้า

อาคารไม้ที่เลียนแบบศิลปะโบราณ สภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติดั่งสวรรค์ทำให้จู่ ๆ เอาความหยาบคายหายไป เหมือนกลับไปถึงโลกของคนโบราณที่ซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ปราศจากสิ่งเจือปนนั่น

บนเคาน์เตอร์ พนักงานร้านสองสามคนกำลังยุ่งอยู่

ผู้หญิงยกมวยผมสูงสวมชุดกิโมโน ผู้ชายคือแต่งตัวเป็นหนุ่มเสื้อดำบนใบหน้าของทุกคนมีรอยยิ้มที่อ่อนโยน มองไปแล้วเป็นกลมกลืนมาก

เพียงแต่ตอนที่พวกเขามองเห็นฉินเทียนเอามือไขว้ข้างหลัง รอยยิ้มบนหน้าต่างก็หายไปแล้วที่มีแทนก็คือสีที่ตกตะลึง

ฉินเทียนพูดจาง ๆ ต่อเฉินเสี่ยวอี้“นายไม่ใช่อยากเจอพี่สาวเทพธิดาของที่นี่เหรอ?”

“นายไปบอกพวกหล่อน ก็พูดว่าเจ้าเทพมาแล้ว ให้เถ้าแก่ออกมาต้อนรับ”

“อ๊ะ?”

บนหน้าของเฉินเสี่ยวอี้เขียนเต็มไปด้วยท่าทาง“คุณบ้าแล้ว”

ฉินเทียนพูดอย่างจาง ๆ “ถ้านายไม่ไป ฉันก็บอกพ่อบุญธรรมของนาย นายยั่วยุให้ฉันไปคาบูกิ”

“ผมมาที่นี่คือมีเรื่องสำคัญต้องทำ คุณนี่ไม่ใช่หน่วยงานที่ทำเรื่องไม่ดีเหรอ?

เฉินเสี่ยวอี้มีใบหน้าที่มึนงง

“ตกลง!”

“ถือว่าผมโชคร้ายแล้ว!”

เขากัดฟันแล้ว เดินก้าวใหญ่ไปแล้วด้วยใบหน้าที่ไม่ดีใจ

ถึงเคาน์เตอร์แล้วก็เปลี่ยนท่าทางชนิดหนึ่งแล้วทันที ใช้ภาษาญี่ปุ่นพูดยิ้มคริ ๆ “พี่สาวท่านนี้ ไม่ทราบว่าเถ้าแก่ของพวกคุณอยู่ที่บ้านไหม?”

“เพื่อนของผมอยากเจอหล่อน”

“วางใจไม่มีความหมายอย่างอื่น ก็คือชื่นชมชื่อเสียงจึงเข้ามาเข้าเยี่ยม!”

เขาไม่กล้าเอาตามคำพูดเดิมของฉินเทียน พูดอะไรเจ้าเทพมาแล้ว ให้เถ้าแก่ออกมาต้อนรับ

ชื่นชมในชื่อเสียงจึงมาเข้าเยี่ยม?

ฟังคำพูดของเขาแล้วผู้หญิงชุดกิโมโนสองสามคนยังมีหนุ่มเสื้อดำนั่นมองหน้ากัน ท่าทางเหมือนกำลังพูดนี่คือพวกโง่อะไร?

จากนั้นเหมือนไม่ได้ยิน ก้มหน้าอยู่ยุ่งขึ้นมาอีกครั้ง

เฉินเสี่ยวอี้โมโหมากในใจคิดก็แค่เวิร์คช็อปทำมือหนึ่ง เก่งอะไรเก่ง!

พ่อบุญธรรมของกูยังรู้จักหัวหน้าระดับสูงของเทพลักซ่อนล่ะ!

เขาพูดเสียงหนักอีกครั้ง“ดีมาก!”

“เพื่อนของผมคนนี้เป็นพี่ใหญ่ที่ทำธุรกิจ!เขารู้ว่าสินค้าหัตถกรรมของพวกคุณที่นี่ไม่เลว มีความต้องการที่จะร่วมมือ”

“ผมเตือนพวกคุณอย่าไม่เห็นคุณค่าเจตนาดีของคนอื่น!”

“รีบเอาเถ้าแก่ของพวกคุณเรียกออกมา!”

มองเห็นฝ่ายตรงข้ามยังคงไม่สนใจ นิสัยดุร้ายของเฉินเสี่ยวอี้ได้ถูกกระตุ้นแล้วจริง ๆ

ก่อนหน้านี้พูดโอ้อวดต่อหน้าฉินเทียน พูดว่าที่นี่ไม่มีเรื่องที่เขาทำไม่ได้

ตอนนี้เถ้าแก่เล็ก ๆ คนหนึ่งของเวิร์คช็อปทำมือก็เอาเขาลำบากใจแล้ว งั้นวันหลังเขายังจะอยู่ยังไงล่ะ?

ฉินเทียนยังอยู่ข้างหลังมองอยู่ไม่ไกล

เขากัดฟันแล้ว ทันใดนั้นออกมือ