ตอนที่ 2239 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (3)
“ได้” หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นลั่วเฟิงยอมรับคำขอของอวิ๋นชูเทียน “เจ้าสามารถไปขอความช่วยเหลือจากเนี่ยนเฟิงได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น”
“ขอบคุณเจ้าคะ ท่านแม่” นางเปิดเผยรอยยิ้มงดงามราวกับภาพวาดขณะที่ใบหน้าของนางคล้ายกับพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่งดงามยิ่งกว่าจันทร์เพ็ญ
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่รบกวนการเกี้ยวพากันของพวกท่านแล้ว ไปก่อนนะเจ้าคะ” นางโบกมือแล้วหายไปจากสวนอย่างรวดเร็วราวกับสายลม
อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองไปยังทิศทางที่อวิ๋นชูเทียนหายไปและส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “เด็กคนนี้นี่…”
“เฟิงเอ๋อร์” เสียงของอวิ๋นเซียวทุ้มแหบ ขณะที่สายตาของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์อ่อนโยน “นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วตั้งแต่ที่พวกเรา…”
อวิ๋นลั่วเฟิงชะงักไปครู่หนึ่งและตอนที่นางได้สติกลับมา นางก็ถูกบุรุษที่ดูชั่วร้ายคนนี้ยกตัวขึ้นแล้วเขาก็ก้าวยาวๆ ไปยังด้านหลังสวน
…
หลังจากที่อวิ๋นชูเทียนได้รับคำอนุญาตจากอวิ๋นลั่วเฟิง นางก็กลับไปที่ห้องเพื่อเก็บของเงียบๆ โชคร้ายอย่างเดียวของนางก็คืออวิ๋นเนี่ยนเฟิงกลับมาจากข้างนอกแล้ว นางเงียบอยู่นานก่อนจะหยิบพู่กันขึ้นมาแล้วเขียนจดหมายทิ้งไว้ก่อนจะออกเดินทาง
ระยะทางระหว่างตระกูลจวินกับนครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ไม่ได้ไกลและนางก็มาถึงที่นั่นภายในครึ่งวัน เมื่อเห็นพืชพรรณพฤกษาที่คุ้นเคยภายในนครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ นางก็นึกถึงฉากตอนที่นางอายุสี่ปีจนทำให้นางกำหมัดแน่น แล้วดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา
แต่ว่า…นครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ในวันนี้รื่นเริงมาก และคนส่วนใหญ่ก็มีรอยยิ้มประดับใบหน้า
อวิ๋นชูเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วข่มความโกรธในใจเอาไว้ นางคว้าคนที่เดินผ่านไปอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะถามว่า “ข้าถามได้หรือไม่ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นในนครจักรพรรดิแห่งสวรรค์งั้นหรือ”
ตอนที่คนเดินถนนผู้นั้นตั้งท่าจะโกรธก็ต้องชะงักเมื่อเขาเห็นหญิงงดงามที่ยืนอยู่ตรงหน้า จึงตอบอย่างตะกุกตะกักว่า “แม่…แม่นาง ช่วงนี้…ไม่นานมานี้องค์หญิงรองกับนายน้อยของจวนเจ้าเมืองกำลังจะหมั้นกัน ทุกคนเลยเฉลิมฉลอง เพราะองค์หญิงรองไม่ได้แค่งดงามและจิตใจดี แต่นางยังสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ”
เมื่อพูดถึงองค์หญิงรอง อาการพูดตะกุกตะกักของเขาก็หายไปและคำพูดของเขาก็ฟังชัดขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ
ทุกคนในนครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ชื่นชอบองค์หญิงรองคนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะนาง ทั่วทั้งเมืองก็คงถูกฝังอยู่ภายใต้โรคระบาดตั้งแต่เมื่อสิบปีที่แล้ว
อวิ๋นชูเทียนยิ้มเยาะ นางค่อยๆ หลับตาลง ผ่านไปครู่หนึ่งนางก็ลืมตาขึ้น ไม่นานรอยยิ้มเกรี้ยวกราดก็ปรากฏบนริมฝีปากของนาง
“องค์หญิงรอง โอวหยางเยว่…”
ถ้าโอวหยางเยว่คนนี้ไม่ได้รับทักษะมาเพราะการโกงล่ะก็ นางจะมีฐานะอย่างทุกวันนี้ได้อย่างไร อวิ๋นชูเทียนกลับมาเพื่อทำลายความสุขของนาง และเปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของนางต่อหน้าทุกคน!
“เจ้ารู้หรือไม่ว่างานแต่งงานจัดขึ้นที่ไหน” คนเดินถนนจ้องหญิงสาวงดงามดุจภาพวาดตรงหน้าอย่างโง่งม “พระราชวังไถ่เหอ”
…
การแต่งงานขององค์หญิงรองเป็นงานที่ทุกคนต่างเฉลิมฉลองร่วมกัน
หญิงสาวที่สวมรัดเกล้ารูปวิหคเพลิงและสวมชุดแต่งงานสีแดงเดินเข้ามาในห้องโถงช้าๆ ภายใต้สายตาของขุนนางและเหล่าทหาร ภายในพระราชวังไถ่เหอเต็มไปด้วยคำอวยพร ภายในมือของนางมีปลายข้างหนึ่งของลูกไหมพรหมสีแดง และปลายอีกด้านหนึ่งก็อยู่ในมือของบุรุษหล่อเหลามากผู้หนึ่ง
รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่มและเขาก็มีสายตาอ่อนโยน ทว่าภายใต้ความอ่อนโยนนี้ก็ไร้ความรู้สึกอย่างที่ไม่มีใครจับสังเกตได้
จักรพรรดิโอวหยางสวินและจักรพรรดินีหลี่ซินเจิ้งนั่งอยู่ด้านบน แล้วมองคู่รักด้วยรอยยิ้มกว้างเต็มใบหน้า
“หนึ่ง คำนับฟ้าดิน!”
เจ้าบ่าวและเจ้าสาวก้มศีรษะคำนับฟ้าและดิน
“สองคำนับบิดามารดา!”
“บ่าวสาวคำนับซึ่งกันและกัน!”
โอวหยางเยว่ทำตามเสียงชี้นำของขันทีแล้วหันไปช้าๆ ก่อนจะก้มศีรษะอีกครั้งเมื่อเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่กำลังจะเป็นสามีของนาง
ตอนที่ 2240 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (4)
“สุดท้าย ส่งบ่าวสาวเข้า…”
ก่อนที่จะพูดจบ จู่ๆ เสียงหนักแน่นก็ดังมาจากด้านนอกพระราชวังไถ่เหอ องครักษ์ที่ถูกส่งไปดูด้านนอกก็กระเด็นไปกระแทกกับฝูงชนอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง
“ทหาร!” สีหน้าของโอวหยางสวินเปลี่ยนไปแล้วตะโกนอย่างเคร่งเครียด “จับมือสังหารให้ได้!” การที่กล้ามาสร้างปัญหาในพระราชวังก็เท่าว่ารนหาที่ตายแล้ว!
ทันทีที่องครักษ์เหล่านั้นขยับ ชุดคลุมสีชมพูที่ดูราวกับดอกท้อที่กำลังร่วงโรยก็ลอยเข้ามาในประตู ภาพนี้งดงามมากจนพวกเขาไม่อาจละสายตาได้…
หญิงสาวมีใบหน้าอ่อนเยาว์ และใบหน้าจันทร์ครึ่งเสี้ยวของนางก็งดงามยิ่งกว่าจันทร์เพ็ญ
องครักษ์กลุ่มหนึ่งล้อมนางเอาไว้ ทว่านางก็ทำราวกับว่าไม่สนใจการโอบล้อมของพวกเขาขณะยังทำสีหน้านิ่งเฉย ริมฝีปากของนางยกขึ้นเล็กน้อยด้วยความขบขัน
“เจ้าเป็นใคร!” ย้อนกลับไปตอนที่อวิ๋นชูเทียนจากไปนางอายุแค่สี่ปี และตอนนี้ก็ผ่านไปสิบปีแล้ว เช่นนั้นโอวหยางสวินจะรู้ว่านางเป็นบุตรสาวของเขาได้อย่างไร
อวิ๋นชูเทียนหัวเราะเบาๆ และใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม
“ข้าลืมอดีตของตัวเองไปหมดแล้ว แต่ตอนนี้ข้าคืออวิ๋นชูเทียน ถ้าข้าต้องพูดอะไรเพื่ออธิบายตัวตน ก็คงเป็นเด็กผู้หญิงที่ถูกมัดไว้กับต้นไม้ตามคำสั่งของเจ้าเพื่อให้โดนเผาทั้งเป็น!”
พรึบ!
โอวหยางสวินยืนขึ้นด้วยความกลัว ขณะที่สีหน้าของเขาซีดเผือด
สิบปีที่แล้วอวิ๋นชูเทียนควรจะถูกเผาจะตายในนครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ แต่ในช่วงเวลาสำคัญก็มีมังกรปรากฏขึ้นแล้วพาตัวนางไป! เรื่องนี้…กลายเป็นฝันร้ายของโอวหยางสวินอยู่หลายปี แต่ตอนนี้ต้นกำเนิดของฝันร้ายปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งอย่างนั้นหรือ
“เป็นเจ้า!” โอวหยางสวินยกผ้าคลุมหน้าบนรัดเกล้าวิหคเพลิงของนางขึ้นแล้วจ้องไปที่ใบหน้าคล้ายดอกท้อของอวิ๋นชูเทียนอย่างเย็นชา นางกำหมัดแน่น “เจ้า…กลับมาแล้วจริงๆ หรือ”
“เจ้าผิดหวังที่ข้ากลับมางั้นหรือ” อวิ๋นชูเทียนยิ้มบางขณะที่ก้มมองโอวหยางเยว่ด้วยดวงตาที่มีความเย็นเยียบอยู่ภายใน “หรือว่าเจ้ากลัวอะไร”
“เจ้า…” โอวหยางเยว่ใกล้จะคลั่งเพราะความโกรธ แต่นางก็ฝืนระงับอารมณ์ของตัวเองเพราะนางอยู่ในที่สาธารณะและมีคนจับจ้องอยู่มากมาย “ข้าคิดมาตลอดว่าเจ้าถูกมังกรกินไปแล้ว ข้าได้ยินว่าเผ่ามังกรมีนิสัยชอบกินมนุษย์และเดินทางไปทั่วเพื่อตามหาคนที่เป็นขยะ นี่เป็นเหตุผลที่ข้าตะลึงเมื่อเห็นเจ้าปรากฏตัว เจ้าหนีรอดจากเผ่ามังกรได้อย่างไร”
คำพูดของนางต้องการจะสื่อว่าพรสวรรค์แต่กำเนิดของอวิ๋นชูเทียนเป็นขยะและไม่มีทางเกี่ยวข้องกับเผ่ามังกร พวกเขาแค่ต้องการกินนางเลยใช้กำลังจับตัวนางไป
ตอนนี้นางกลับมาแล้วไม่ใช่เพราะเผ่ามังกรปล่อยนาง…แต่แค่เป็นเพราะนางหนีออกมาได้เพราะโชคช่วย
“เจ้าอยากจะพูดอะไรก็ตามใจ” อวิ๋นชูเทียนยักไหล่ “หลังจากข้ามาที่นี่วันนี้ ข้าก็จะไม่ไปไหนจนกว่าจะได้ทำลายเจ้า”
หลังจากที่นางพูดจบ นางก็หันไปมองเจ้าบ่าวแล้วกะพริบตา “รสนิยมเจ้าแย่มาก เจ้ามาชอบสตรีแบบโอวหยางเยว่ได้อย่างไร”
เมื่อเห็นรอยยิ้มงดงามและสดใส หวังเฮ่าเทียนก็หน้าแดง หัวใจของเขาเต้นรัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“ข้าไม่ได้อยากแต่งงานกับนาง ท่านพ่อบังคับข้า” ไม่ใช่เพราะเขารสนิยมไม่ดีแน่นอน!
“หวังเฮ่าเทียน!” โอวหยางเยว่เดือดดาล
ในฐานะองค์หญิงของราชวงศ์ การแต่งงานกับบุตรชายเจ้าเมืองก็เท่ากับการมอบฐานะและความมั่งคั่งให้พวกเขา และเพื่อยอมให้พวกเขาได้ปืนขึ้นสู่อีกขั้นของสังคม แต่ผลคือเขากลับกล้าพูดแบบนี้ออกมาต่อหน้าสาธารณะงั้นหรือ
“เมื่อปีนั้นเจ้าสามารถหนีจากเหตุการณ์เลวร้ายได้ แต่เจ้าก็กล้ากลับมาที่นครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ของพวกเรา ช่างอวดดีเหลือเกิน!” โอวหยางสวินลุกขึ้นยืนอย่างโมโหและฟาดมือลงบนโต๊ะ “ทหาร จับเด็กผู้หญิงคนนั้น!”
“พ่ะย่ะคะ!”