ตอนที่ 2241 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (5)
องครักษ์กลุ่มนั้นชักอาวุธออกมาแล้วโจมตีอวิ๋นชูเทียน
สีหน้าของหวังเฮ่าเทียนเปลี่ยนไปทันทีขณะที่เขารีบพูดว่า “แม่นางชูเทียน ระวัง!”
แต่ว่าฉากต่อมาก็ทำให้ทุกคนหวาดกลัวจนถึงขั้นที่หัวใจพวกเขาเกือบหยุดเต้น หญิงสาววาดแขนเสื้อยาวของนางไปรอบๆ และสายลมแผ่วก็แผ่ออกไป ไม่ต้องพูดถึงการทำร้ายนาง องครักษ์เหล่านั้นไม่สามารถเข้าใกล้นางได้ด้วยซ้ำ
ทันทีที่พวกเขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าว พวกเขาก็จะถูกผลักกลับมาขณะที่นางสะบัดแขน ถ้าพวกเขาใช้กำลังฝ่าเข้าไป พวกเขาก็จะเริ่มเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด
“ผู้อาวุโสชั้นสูงเหล่านั้นจะออกจากการปิดด่านฝึกพลังฌานมื่อไหร่” สีหน้าของโอวหยางสวินมืดครึ้มแล้วเขาก็ถามขึ้น
เด็กผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นอกจากผู้อาวุโสภายในราชวงศ์สองสามคนนั่นแล้วก็น่าจะไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้
ไม่ว่าองครักษ์จำนวนมากแค่ไหนจะพุ่งเข้าไป หรือแม้แต่แม่ทัพก็ไม่สามารถแตะต้องแม้แต่ชายเสื้อของนางได้
“กราบทูลฝ่าบาท ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งเดือนก่อนที่เหล่าผู้อาวุโสจะออกจากการปิดด่านฝึกพลังฌานพ่ะย่ะค่ะ ยิ่งไปกว่า พวกเขาบอกว่าพวกเราห้ามรบกวนพวกเขาเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีคนหนึ่งปาดเหงื่อที่หน้าผากขณะที่พูดดเวยตัวสั่นๆ
“ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งเดือนงั้นเหรอ” สีหน้าของโอวหยางสวินมืดครึ้ม เด็กผู้หญิงคนนี้น่าจะโชคดีได้เคล็ดวิชาบางอย่างข้างนอกนั่นแล้วทำให้ความแข็งแกร่งของนางเพิ่มขึ้นหลายขั้น ตอนนี้พวกเขาต้องเอาใจนาง แล้วหลังจากที่เหล่าผู้อาวุโสออกมาจากการปิดด่านฝึกพลังฌาน ก็ค่อยให้พวกเขาจบชีวิตนาง!
เมื่อคิดได้แบบนี้ โอวหยางสวินก็กำหมัดแน่นแล้วตะโกนอย่างเคร่งเครียดว่า “ทุกคนหยุดโจมตี!”
หลังจากเขาพูดจบองครักษ์เหล่านั้นที่ล้อมอวิ๋นชูเทียนก็กระจายตัวออกแล้วรอคำสั่งของโอวหยางสวินอย่างภักดี
เมื่อเห็นองครักษ์จำนวนมากนอนตายอยู่บนพื้น ริมฝีปากของโอวหยางสวินก็กระตุก เขาเสียทรัพยากรไปมากเพื่อฝึกองครักษ์พวกนี้ แต่ดูตอนนี้…ครึ่งหนึ่งของพวกเขาก็พบกับความตายแล้ว!
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วฝืนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ซินเอ๋อร์ ก่อนหน้านี้ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้น…ในเมื่อเจ้ากลับมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะสั่งให้นางกำนัลทำความสะอาดตำหนักที่มารดาเจ้าเคยอยู่”
“อย่างที่ข้าเคยบอกไปแล้ว ข้าลืมชื่อก่อนหน้านี้ของข้าไปแล้ว ตอนนี้ข้าสกุลอวิ๋นและชื่ออวิ๋นชูเทียน”
โอวหยางสวินเปลี่ยนสีหน้า “ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังเป็นบิดาโดยสายเลือดของเจ้า และข้าก็ยกโทษให้กับความผิดพลาดก่อนหน้านี้ของเจ้าแล้ว แต่เจ้าก็ยังอยากเปลี่ยนชื่อของตัวเองงั้นหรือ”
ริมฝีปากของนางยกขึ้นแล้วตอบกลับว่า “ข้ามีบิดาคนเดียวและท่านพ่อก็ชื่ออวิ๋นเซียว”
อวิ๋นเซียว? โอวหยางสวินขมวดคิ้ว ชื่อนั้นฟังดูคุ้นหูมาก และเขาก็เหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่ง แต่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงใบหน้าใครเข้ากับชื่อนี้ไม่ได้เลย…
“อวิ๋นชูเทียน!” โอวหยางเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ในเมื่อเสด็จพ่อยอมอภัยให้เจ้าแล้ว ข้าจะพูดอะไรได้อีก เจ้ามีจิตใจชั่วร้ายตั้งแต่ยังเด็กและยังพยายามวางยาพิษข้าด้วย ตอนนี่เจ้าอายุมากขึ้น เจ้าก็ยิ่งชั่วร้ายยิ่งขึ้นและสังหารองครักษ์พวกนี้!”
แต่ว่าก็ไม่มีใครเห็นว่าอวิ๋นชูเทียนใช้วิธีใดจบชีวิตพวกเขา มีแต่หลังจากที่พวกเขาได้สติกลับมาถึงพึ่งเห็นว่าองครักษ์เหล่านั้นนอนตายอยู่บนพื้น…
แน่นอนว่าคำพูดของโอวหยางเยว่ก็พูดให้หวังเฮ่าเทียนได้ยิน เพื่อให้เขาได้รู้ว่าอวิ๋นชูเทียนเป็นคนอย่างไร!
นางกล้าพูดได้อย่างไรว่าหวังเฮ่าเทียนตาบอดที่มาแต่งงานกับนาง กลับกันคนที่หลงรักสตรีชั่วร้ายแบบอวิ๋นชูเทียนต่างหากที่ตาบอด!
อวิ๋นชูเทียนหัวเราะอย่างเหยียดหยามขณะที่เดินเข้าไปหาโอวหยางเยว่ช้าๆ นางเชิดคางขึ้นเล็กน้อยแล้วมองอีกฝ่ายอย่างดูถูก “โอวหยางเยว่ พี่หญิงรองสุดที่รักของข้า ดูเหมือนว่าเจ้าจะลืมไปแล้วว่าความจริงเบื้องหลังการวางยาพิษเมื่อตอนนั้นเป็นอย่างไร ข้าเป็นคนวางยาพิษเจ้าจริงๆ หรือว่าเจ้าเป็นคนขโมยผลงานของข้าแล้วใส่ร้ายข้ากันแน่” เสียงของนางไม่ได้เบาแม้แต่น้อย ประชาชนและทหารทุกคนได้ยินกันหมดว่านางพูดว่าอะไร
ตอนที่ 2242 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (6)
สีหน้าของโอวหยางสวินดูไม่ได้เอามากๆ “เจ้าหมายความว่าเยว่เอ๋อร์เป็นคนใส่ร้ายและขโมยผลงานเจ้าอย่างนั้นหรือ เมื่อปีนั้นเจ้าอายุแค่ห้าปีแล้วเจ้าจะรู้เรื่องอะไรได้อย่างไร วิธีรักษาเป็นความคิดของเยว่เอ๋อร์แต่เจ้ากลับชั่วร้ายและใส่ร้ายนาง!
“ข้าขี้เกียจจะเถียงกับเจ้าแล้ว” ดวงตาสดใสของอวิ๋นชูเทียนแลดูซุกซน “แต่ว่าในเมื่อเจ้าขอให้ข้าอยู่ในตำหนักที่เสด็จแม่ของข้าเคยอยู่ เจ้าหมายถึงเจ้าจะเนรเทศข้าไปอยู่ตำหนักเย็นงั้นหรือ”
โอวหยางสวินตะลึง เขาลืมไปได้อย่างไรว่าเด็กผู้หญิงคนนี้กับมารดาของนางอาศัยอยู่ในตำหนักเย็น
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าต้องการอะไร”
“ข้ารู้สึกว่าตำหนักชิงหลานที่โอวหยางเยว่อยู่ดูสวยดี เหตุใดเจ้าไม่ยกให้ข้าล่ะ”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าตัวเองพูดอะไรออกมา” โอวหยางสวินกัดฟัน “นั่นเป็นตำหนักของเสด็จพี่หญิงรองของเจ้า! เจ้าคู่ควรที่จะอยู่ที่นั่นหรืออย่างไร”
พรึบ!
ทันทีที่โอวหยางสวินพูดจบ กระบี่ยาวเย็นเยียบก็พาดอยู่บนลำคอของเขา นางเคลื่อนไหวเร็วมากจนโอวหยางสวินไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว…
เขาแปลกใจ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาสังเกตว่าบุตรสาวของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากมายเพียงใด และคงมีแค่ผู้อาวุโสสองสามคนเท่านั้นที่ต่อกรกับนางได้
“ยกตำหนักชิงหลานให้ข้า ไม่อย่างนั้นสิ่งที่รอเจ้าอยู่ก็มีเพียงแต่ความตายเท่านั้น!” นางกำลังยิ้มแต่น้ำเสียงของนางเย็นชามากจนทำให้โอวหยางสวินตัวสั่น
“ปล่อยเสด็จพ่อนะ ข้าจะยกตำหนักชิงหลานให้เจ้าเอง!” สีหน้าของโอวหยางเยว่ดูซีดเล็กน้อยขณะที่นางกำหมัดแน่น เล็บของนางจิกเข้าไปในฝ่ามือโดยไม่รู้ตัว
“เจ้าไม่ได้ยกให้ข้า ข้าได้มาด้วยความแข็งแกร่งของข้าเอง” อวิ๋นชูเทียนถอนกระบี่ของนางออกมาแล้วยิ้มอย่างเหยียดหยาม นางได้ตำหนักนี้มาด้วยพลังของตัวเอง ดังนั้นโอวหยางเยว่มีสิทธิ์อะไรมาพูดว่ายกให้นาง
“ข้าหิวแล้ว” อวิ๋นชูเทียนบิดขี้เกียจ “จำไว้ว่าต้องเตรียมอาหารให้ข้า โอวหยางเยว่ ถ้าเจ้าอยากจะวางยาพิษข้า เจ้าจะลองก็ได้ ท่านพ่อและท่านแม่ของข้าให้ข้าอาบน้ำในอ่างสมุนไพรตั้งแต่ยังเด็ก และตัวข้าก็สามารถต้านพิษได้”
อวิ๋นชูเทียนพูดถึงเจตนาของโอวหยางเยว่จนทำให้อีกฝ่ายหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายและขายหน้า หลังจากพูดจบอวิ๋นชูเทียนก็เดินออกจากพระราชวังไป
“แม่นางชูเทียน รอข้าก่อน” หวังเฮ่าเทียนถอดชุดแต่งงานของเขาออกแล้วตั้งใจจะตามนางออกไป
โอวหยางเยว่ยิ่งวิตกแล้วดึงแขนเสื้อของหวังเฮ่าเทียนเอาไว้ “เจ้าคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไร”
“ไม่มีอะไรพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมก็แค่ไม่อยากแต่งงานอีกต่อไปแล้ว”
ตอนแรกเขาก็ไม่ได้อยากแต่งงานแต่บิดาของเขาจัดงานแต่งงานครั้งนี้โดยไม่ถามความคิดเห็นของเขา งานแต่งงานครั้งนี้เป็นงานสมรสพระราชทานและเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ไม่ได้มีคนที่ชอบ และการแต่งงานกับใครสักคนก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขา แต่ว่า…ทันทีที่อวิ๋นชูเทียนก้าวเข้ามาในพระราชวังไถ่เหอ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่ารักแรกพบเป็นอย่างไร!
ใช่แล้ว เขาตกหลุมรักอวิ๋นชูเทียนตั้งแต่แรกพบ! ตอนแรกเขาก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับโอวหยางเยว่อยู่แล้ว
ความแข็งแกร่งของหวังเฮ่าเทียนมีมากกว่าโอวหยางเยว่ เขาผลักนางแล้ววิ่งออกไป โอวหยางสวินตะลึง และในที่สุดเขาก็ได้สติหลังจากที่หวังเฮ่าเทียนจากไป
ตอนนั้นเองท่ามกลางสายตาประชาชนและเหล่าทหาร โอวหยางเยว่ก็รู้สึกอับอายมากจนอยากจะหาหลุมเข้าไปหลบอยู่ในนั้น ขณะที่ความเกลียดชังในตัวอวิ๋นชูเทียนเองก็เพิ่มมากขึ้น
เจ้าเมืองเป็นคนแรกที่ได้สติแล้วเอ่ยปากขออภัย “ฝ่าบาท กระหม่อมล้มเหลวในการสั่งสอนบุตรชายของกระหม่อม กระหม่อมจะรีบพาเขากลับมา”
โอวหยางสวินถอนหายใจแล้วโบกมือเพื่อสั่งให้เจ้าเมืองถอยออกไป
…
ภายในสวนหลวงมีหญิงสาวคนหนึ่งแย้มยิ้มอย่างงดงามน่าหลงใหล ใบหน้าของนางเป็นสีชมพูระเรื่อด้วยความอารมณ์ดี ดวงตาของนางโค้งจนกลายเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
“แม่นางชูเทียน” หวังเฮ่าเทียนรีบไล่ตามหลังมาแล้วตะโกนขึ้น
อวิ๋นชูเทียนหยุดฝีเท้าแล้วมองหวังเฮ่าเทียนอย่างสับสน “เหตุใดเจ้าถึงมาตามหาข้า”