ตอนที่ 281 ตัวตนของเฉียวเหลียง

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ถังซี “…ฉันแค่รู้วิธีตกแต่งบาดแผล…”

 

 

“จริงหรือ แต่ผมคิดว่าทักษะทางการแพทย์ของคุณยอดเยี่ยม” ฉู่หลิงมองหน้าถังซีแล้วหรี่ตาลง “แพทย์ประจำตัวผมตรวจดูแผลแล้วบอกว่า แม้แต่เขาเองก็คงไม่สามารถผ่าตัดให้สมบูรณ์ได้อย่างนี้ แต่คุณทำได้ในห้องน้ำของร้านอาหาร และช่วยชีวิตผมไว้ได้”

 

 

ในเวลานั้นเขาเกือบหมดสติเพราะความเจ็บปวด ไม่รู้ว่าหญิงสาวใช้อะไรทำการผ่าตัดให้เขา… เป็นอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารใช่หรือเปล่า

 

 

เมื่อเห็นสายตาหวาดระแวงของหญิงสาวคนนี้ ฉู่หลิงก็คิดว่าเขาน่าจะเดาถูกต้อง ทันทีนั้นเขาก็เบิกตาโต ลุกขึ้นยืนจ้องหน้าถังซี “ตอนนั้นคุณใช้อะไรผ่าตัดให้ผม มีดสเต๊กใช่ไหม”

 

 

ถังซีนิ่ง “…” ฉันไม่มีวันบอกคุณหรอก ฮ่า ฮ่า!

 

 

ถังซีหดตัวเข้าไปอยู่หลังเฉียวเหลียงในฉับพลัน เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว ห้ามฉู่หลิงไม่ให้เข้ามา พร้อมกับกล่าวอย่างเย็นชาว่า “นายน้อยฉู่ เธอช่วยชีวิตคุณไว้นะ! คุณแสดงกิริยาไม่สุภาพต่อเธออย่างนี้ได้ยังไง”

 

 

ลู่หลีก็ยิ้มเช่นกัน เขาเลิกคิ้วขึ้นมองฉู่หลิง “นายน้อยฉู่ อย่าเป็นแบบนี้สิ ถ้าคุณหนูเซียวไม่ช่วยคุณไว้ ป่านนี้คุณคงจะกลายเป็นฝุ่นเถ้าไปแล้ว จะได้มาเป็นเจ้าของกลุ่มธุรกิจการเงินขนาดใหญ่อย่างนี้และสนุกกับชีวิตแบบนี้เหรอ”

 

 

ฉู่หลิงเหลือบตามองเฉียวเหลียง และพบว่าเขากำลังปกป้องผู้หญิงคนนี้ ทันใดนั้นเขาก็เบิกตาโตอีกครั้ง “คุณกับเธอมีความสัมพันธ์ต่อกันยังไง”

 

 

ถังซีกะพริบตาปริบๆ เฉียวเหลียงโอบแขนรอบเอวถังซี “คุณคิดว่ายังไงล่ะ นายน้อยฉู่”

 

 

ฉู่หลิงหรี่ตาลง เขาเดาออกว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่คืออะไร! ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรออกขึ้นมาบางอย่าง เขายืดตัวตรงเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ ถามเฉียวเหลียงว่า “บริษัทนี้เป็นของเธอใช่ไหม”

 

 

ถังซียิ้ม “ใช่ เป็นของฉัน ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คุณต้องตอบแทนบุญคุณฉัน จริงไหม”

 

 

ฉู่หลิงเหลือบมองถังซีซึ่งแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ลู่หลีไม่ได้แนะนำตัว ถังซีก็ไม่ได้ถามว่าเขาเป็นใคร สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอตอนนี้คือโน้มน้าวฉู่หลิง เธอไม่คาดคิดเลยว่าชายหนุ่มที่เธอช่วยให้รอดชีวิตในวันนั้น จริงๆ แล้วคือฉู่หลิง อัจฉริยะทางการค้า!

 

 

ฉู่หลิงหัวเราะเย้ยหยันและจ้องหน้าเฉียวเหลียง “หมายความว่า คุณยืนยันว่าผมต้องอยู่ที่นี่ เพื่อบริหารจัดการบริษัทให้ผู้หญิงคนนี้เหรอ”

 

 

เฉียวเหลียงคำราม “สองปี ผมจะไม่ห้ามคุณไม่ว่าคุณจะไปไหน ภายในสองปี”

 

 

“คุณรู้ไหมว่าผมทำรายได้ได้มากเท่าไรในเวลาสองปี!” ฉู่หลิงตะคอก “คุณจะเอาตัวผมขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของคุณมาที่นี่ แล้วให้ผมมอบเวลาสองปีของผมให้พวกคุณอย่างนี้น่ะเหรอ”

 

 

เฉียวเหลียงกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “คุณจะปฏิเสธก็ได้”

 

 

“ฮ่าๆ ผมเพิ่งซ่อนตัวจากคุณได้เดือนเดียว คุณก็บุกทะลวงโรงงานผมไปหลายแห่ง ถ้าผมปฏิเสธผมจะเอาตัวรอดได้ไหม” ฉู่หลิงรู้สึกว่าหลงเซี่ยวนี่ช่างเต็มไปด้วยกลุ่มคนเถื่อนที่ชอบแทงข้างหลัง และเขาตัวคนเดียว อ่อนแอเกินกว่าจะรับมือกับคนเหล่านี้ได้ บัดซบที่สุด!

 

 

เฉียวเหลียงถามว่า “ถ้างั้นคุณจะเลือกอย่างไหน”

 

 

“ตกลง แค่สองปีเท่านั้นนะ ตราบใดที่คุณ…”

 

 

“แน่นอน” เฉียวเหลียงขัดจังหวะก่อนที่เขาจะพูดจบ “แต่ภายใต้เงื่อนไขว่าเดอะควีนต้องก้าวสู่การเป็นแบรนด์หรูระดับโลกภายในสองปีนะ ถ้าคุณทำไม่ได้ผมคิดว่าคุณก็ไม่จำเป็นต้องมี ‘หลิงเวิลด์’ อีกต่อไป เข้าใจนะ”

 

 

ฉู่หลิงจ้องหน้า “คุณขู่ผมเหรอ”

 

 

เฉียวเหลียงโอบถังซีไว้ในอ้อมแขนและนั่งลง ขณะกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ไม่นี่ นายน้อยฉู่ ผมกำลังเจรจากับคุณ”

 

 

ท้ายที่สุดฉู่หลิงก็ตกลงรับทำงานให้เดอะควีนเป็นเวลาสองปี และสัญญากับเฉียวเหลียงว่าเขาจะทำให้เดอะควีนก้าวสู่การเป็นแบรนด์หรูระดับต้นๆ ก่อนเขาจะจากไป เขาจ้องมองคนทั้งสามด้วยสีหน้าบึ้งตึง แล้วเดินออกจากบริษัท บอกกับพวกเขาว่าอีกสามวันเขาจะกลับมาเริ่มงาน และก่อนหน้านั้นอย่ารบกวนเขา

 

 

ถังซีมองตามหลังฉู่หลิงซึ่งเห็นได้ชัดว่าโกรธมาก และตะโกนตามไปว่า “ประธานฉู่ ให้เราเลี้ยงอาหารค่ำคุณได้ไหม”

 

 

ฉู่หลิงหรี่ตาลง หันกลับมาจ้องถังซี “หุบปาก!”

 

 

ถังซีหัวเราะและมองตามฉู่หลิงเดินออกไป จากนั้นเธอก็หันไปหาเฉียวเหลียง ส่งสัญญาณให้เขาแนะนำลู่หลีให้เธอรู้จัก

 

 

เฉียวเหลียงมองใบหน้ายิ้มแย้มแล้วลูบผมเธอ ก่อนจะหันไปหาลู่หลี “นี่ลู่หลี เพื่อนสนิทผม”

 

 

ลู่หลีมองถังซีด้วยรอยยิ้ม ลุกขึ้นจับมือกับเธอ “ผมได้ยินเรื่องราวของคุณมากมาย ในที่สุดก็ได้มีโอกาสพบตัวจริง ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมลู่หลี เรียกผมว่าหลี หรือวิลสันก็ได้”

 

 

ถังซียิ้มแล้วยื่นมือไปจับมือลู่หลี “เรียกฉันว่าซีซีก็ได้ค่ะ”

 

 

ลู่หลีชะงัก ส่งสายตาเป็นคำถามไปที่เฉียวเหลียงอย่างรวดเร็ว ฝ่ายหลังยิ้ม บอกเขาว่า “เรียกเธอว่าเซียวโหรวก็ได้”

 

 

ลู่หลียิ้ม “อาหย่วนรบเร้าจะให้ผมพาเขามาด้วย ถ้าคุณไปประเทศ M แวะไปหาเขาด้วยก็แล้วกัน ส่วนเราเดี๋ยวคืนนี้ทานอาหารค่ำกันนะ ตอนเที่ยงผมมีธุระบางอย่างต้องไปทำ อยู่ทานอาหารกลางวันกับพวกคุณไม่ได้”

 

 

ถังซีชอบท่าทางเป็นสุภาพบุรุษของลู่หลี เธอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ดีใจที่ได้พบกันนะคะ แต่ฉันว่าไม่สุภาพเลยที่จะเรียกคุณว่าอาลี่ ถ้าคุณอนุญาต ฉันขอเรียกว่าพี่หลู่ได้ไหม”

 

 

ลู่หลีพยักหน้าแล้วยิ้ม “ได้สิ เรียกผมแบบนั้นก็ได้ ผมอยากมีน้องสาวมานานแล้ว รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีน้องสาวที่ฉลาดและสวยอย่างคุณ”

 

 

ถังซีคิดว่าลู่หลีเป็นคนพูดจาสุภาพนุ่มนวล เธอบอกเช่นกันว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีพี่ชายเช่นลู่หลี

 

 

หลังจากมองตามลู่หลีเดินออกไป ถังซีก็นั่งลงบนโซฟา มองเฉียวเหลียงที่เงียบไป เธอเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ยังไงล่ะคะ หลงเซี่ยวน่ะ”

 

 

เมื่อเห็นสายตาเธอ เฉียวเหลียงก็หัวเราะ เดินเข้ามาขยี้ผมเธอ “ใช่ หลงเซี่ยว ผมเป็นหนึ่งในเจ้าของ อีกสองคนคือลู่หลีกับหลินหย่วน หรือที่เราเรียกกันในชื่อวิลสันกับเจสซ์ และอาหกเรียกพวกเขาว่าคุณเจ็ดกับคุณเก้า”

 

 

ถังซีอ้าปากค้าง เฉียวเหลียงถอนหายใจ “เอาละ ผมยอมรับว่าที่ผมสามารถขับไล่ลู่กวงสยงออกจากเฉียวกรุปได้อย่างง่ายดายเมื่อห้าปีก่อน ก็เพราะผมมีหลงเซี่ยวกรุปหนุนหลัง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงเอาชนะได้อย่างรวดเร็ว ที่ลู่หลีมาที่นี่ครั้งนี้ก็เพื่อช่วยจัดการเรื่องบางอย่าง”

 

 

ถังซีมองหน้าเฉียวเหลียง เขาถอนหายใจอีก “ถึงแม้เฉียวกรุปจะทรงอิทธิพล แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกรุม ถ้าต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้หลายฝ่ายในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นผมต้องใช้หลงเซี่ยวกรุปเข้ามาเบี่ยงเบนความสนใจคนพวกนั้น ถ้าเฉียวกรุปสามารถจัดการกับบริษัทเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วทันเวลา วงการธุรกิจของเมือง A จะเกิดการปรับเปลี่ยนใหม่ครั้งใหญ่”

 

 

ถังซีเม้มริมฝีปากมองหน้าเฉียวเหลียง แล้วถามว่า “คุณช่วยตอบคำถามฉันข้อหนึ่งได้ไหม”

 

 

เฉียวเหลียงมองตาเธอ “ได้สิ อะไรเหรอ”