แดนนิรมิตเทพ บทที่ 688
กลับมาถึงวิลล่า ดูเหมือนว่ามู่หรงเค่อเพิ่งจะทำธุระเสร็จ และมีกลุ่มคนเดินออกมาจากวิลล่า

นึกไม่ถึงว่าเฉินโม่จะเห็นคนรู้จักคนหนึ่ง และเธอก็คือเสิ่นหยูปิงที่กลับมาก่อนพวกเขา

เสิ่นหยูปิงเดินตามชายวัยกลางคนสวมชุดสูทสีขาว ร่างกายอ้วนเล็กน้อย และชายคนนั้นคือเสิ่นฉีเซิ่ง ซึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลของมณฑลไห่ซี

“คุณพ่อ!” มู่หรงยานเอ๋อร์เรียกเบา ๆ

มู่หรงเค่อที่เดินออกมาพร้อมกับเหล่าผู้ทรงอิทธิพล เขาแนะนำด้วยรอยยิ้มว่า “ยานเอ๋อร์ลูกสาวของผม ยานเอ๋อร์ยังไม่รีบทักทายพวกคุณลุงอีก!”

มู่หรงยานเอ๋อร์กล่าวทักทายทุกคนว่า “สวัสดีค่ะ คุณลุงทุกท่าน!”

“น้องมู่หรง คุณเลี้ยงลูกสาวได้ดีมาก พวกเราดองเป็นญาติกันดีไหม?” กู้เฟิงซึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งเจียงเป่ยที่มีชื่อเสียงพอ ๆ กับมู่หรงเค่อซึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งเจียงหนาน กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“พี่กู้พูดล้อเล่นแล้ว ยานเอ๋อร์ยังเด็กอยู่ และยังไม่ถึงวัยที่จะแต่งงาน นอกจากนี้ ตอนนี้การแต่งงานแบบคลุมถุงชนกลายเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว เรื่องการแต่งงานของยานเอ๋อร์ ผมให้เธอเป็นคนตัดสินใจเอง” มู่หรงเค่อกล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรัก

กู้เฟิงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาอยากได้มู่หรงยานเอ๋อร์เป็นลูกสะใภ้ของตนเอง “ไม่เป็นไร แล้วผมจะให้ลูกชายที่ไร้ความสามารถตามจีบยานเอ๋อร์ เมื่อถึงเวลานั้น น้องมู่หรงห้ามขัดขวางนะ?”

มู่หรงเค่อยังไม่ทันได้ตอบ เสิ่นหยูปิงที่เดินตามหลังเสิ่นฉีเซิ่ง ก็กล่าวเยาะเย้ยว่า “คุณอากู้ ถ้าอยากจีบคุณหนูมู่หรง เกรงว่าลูกชายของคุณอาคงหมดหวังแล้ว คุณอาไม่เห็นคนที่ยืนอยู่ข้างคุณหนูมู่หรงเหรอ?”

ใช่ว่ากู้เฟิงจะไม่สังเกตเห็นเฉินโม่ เพียงแต่ลูปล่างหน้าตาของเฉินโม่ธรรมดามาก เขายืนอยู่ที่นั่นเหมือนคนเดินสัญจรไปมาเท่านั้น ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของคนอื่นได้

กู้เฟิงมองเฉินโม่ด้วยความสงสัยและถามว่า “คนนี้เป็นคุณชายจากตระกูลไหน?”

เหล่าผู้ทรงอิทธิพลที่เหลือต่างรู้สึกสงสัยเช่นกัน คนที่คุณหนูของตระกูลมู่หรงสนใจ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน!

เสิ่นหยูปิงกล่าวเยาะเย้ยว่า “ได้ยินมาว่าเขาเป็นเพื่อนนักเรียนของคุณหนูมู่หรง เป็นคนบ้านนอกจากอำเภอเล็ก ๆ!”

เธอได้ยินข่าวพวกนี้มาจากฉีหมิงซาน ถ้าเธอรู้สถานะที่แท้จริงของเฉินโม่แล้ว เกรงว่าเธออาจจะเสียใจกับพฤติกรรมโง่เขลาวันนี้ของตนเอง

เสิ่นฉีเซิ่งหัวเราะเยาะ แล้วมองมู่หรงเค่อด้วยสายตาที่รู้สึกมีความสุขกับความโชคร้ายของคนอื่น “น้องมู่หรง คุณควรดูแลลูกสาวตนเองให้ดี อย่าให้ใครก็ไม่รู้ทำให้เธอเสียชื่อเสียง!”

สีหน้าของมู่หรงเค่อเคร่งขรึม มองเสิ่นฉีเซิ่งด้วยความเย็นชา “ขอบคุณสำหรับความหวังดีของพี่เสิ่น ไม่แน่บางทีอาจเป็นลูกสาวของคุณเองที่มองพลาดไป?”

มู่หรงเค่อหัวเราะเยาะอยู่ในใจ พรุ่งนี้ถ้าเห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเฉินโม่แล้ว จะคอยดูว่าเสิ่นฉีเซิ่งยังจะหัวเราะได้อีกไหม?

เมื่อได้ยินประวัติของเฉินโม่แล้ว ทุกคนต่างมองเฉินโม่ด้วยสายตาเหยียดหยาม

“ช่างมันเถอะ ทุกอย่างแล้วแต่วาสนา เรื่องบางอย่างนั้นไม่สามารถบังคับได้!” กู้เฟิงยิ้มเล็กน้อย แล้วพาคนเดินจากไปก่อน

คนที่เหลือก็เดินจากไปเช่นกัน เสิ่นหยูปิงเดินไปอยู่ข้างเฉินโม่ และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คนขี้ขลาด!”

เฉินโม่มองเธอด้วยความเย็นชา และรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

การดูหมิ่นของเสิ่นหยูปิง ทำให้เหล่าผู้ทรงอิทธิพลและผู้ติดตามหัวเราะเยาะเบา ๆ สายตาที่มองเฉินโม่ยิ่งเหยียดหยามมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับสายตาที่มองหมาวัดที่พยายามเด็ดดอกฟ้า

แม้แต่มู่หรงยานเอ๋อร์ก็ยังถูกเหยียดหยาม เธอเป็นนักเรียนมัธยมปลาย เป็นหญิงสาวจากตระกูลใหญ่ แต่กลับประพฤติไม่เหมาะสม หาแฟนที่ฐานะไม่คู่ควรกับตนเอง ซึ่งมันเป็นความอัปยศของตระกูลมู่หรง

มู่หรงยานเอ๋อร์โกรธจนหน้าแดง มองเฉินโม่น้ำตาคลอ เธออยากจะร้องไห้แต่อดกลั้นเอาไว้ เธออยากจะโกรธแต่ก็กังวลว่าเฉินโม่จะไม่พอใจ ท่าทางที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เห็นแล้วน่าสงสารมาก!

มู่หรงเค่อเกลี้ยกล่อมเบา ๆ “ยานเอ๋อร์ ช่างมันเถอะ พวกเขาอยากจะพูดอะไรก็ปล่อยให้พวกเขาพูดไปเถอะ! พ่อเชื่อว่าเฉินโม่จะพิสูจน์ตนเองด้วยความแข็งแกร่ง!”

เฉินโม่เหลือบมองมู่หรงเค่อ ผู้ทรงอิทธิพลแห่งมณฑลเจียงหนานคนนี้ ยังคงมีแผนการอยู่ตลอดเวลา นี่มันเป็นการกระตุ้นให้ตนเองลงมือเคลื่อนไหวใช่ไหม?