ตอนที่ 283 หนูคือเซียวโหรวมาตลอดไม่ใช่หรือ

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

เฉียวเหลียงชื่นชอบท่าทางมั่นใจของถังซีเวลาทำงานมาก ในเวลานี้เธอดูโดดเด่นแพรวพราว ไม่มีอะไรจะบดบังหรือกลบรัศมีอันเจิดจ้าของเธอได้

 

 

 

 

เฉียวเหลียงพาถังซีไปที่บ้านเขาเพื่อฝังเข็มให้เฉียวอวี่ซิน ถังซีเล่าเรื่องการออกแบบและงานของเธอให้เขาฟังระหว่างทาง เธอพูดอย่างตื่นเต้นราวกับไม่มีอะไรยากสำหรับเธอ เฉียวเหลียงเอื้อมมือไปขยี้ผมเธอและเลิกคิ้วขณะกล่าวว่า “คุณดูมีความสุขจริงๆ”

 

 

ถังซีพยักหน้า ดวงตาเธอเปล่งประกาย “ใช่ค่ะ ฉันมีความสุขมาก” เธอจับมือเฉียวเหลียงและยิ้มตาหยีเมื่อกล่าวว่า “เอ็มไพร์กรุปก่อตั้งโดยคุณปู่ แม้ว่าจะเป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องเข้าไปบริหาร แต่จริงๆ แล้วฉันไม่ชอบงานบริหาร สิ่งที่ฉันอยากทำคือการออกแบบ ในฐานะทายาทเอ็มไพร์กรุปฉันไม่สามารถปิดหูปิดตาเลือกอาชีพนักออกแบบแทนตำแหน่งผู้บริหารบริษัทได้ แต่ตอนนี้…” ถังซีหยุดครู่หนึ่ง และหันไปมองหน้าเฉียวเหลียง “ถึงฉันจะกลับไปหาคุณปู่ไม่ได้ แต่ฉันก็รักท่านได้ด้วยตัวตนอื่น และได้ทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ”

 

 

เฉียวเหลียงเงียบลง เขากุมมือเธอไว้แล้วเอ่ยเสียงต่ำ “เด็กโง่”

 

 

ถึงแม้คุณจะรักและห่วงใยคุณปู่ของคุณต่อไปได้ด้วยตัวตนของเซียวโหรว แต่คุณก็ยังคงเศร้า เพราะไม่สามารถไปอยู่กับคุณปู่ในฐานะหลานสาว ที่ท่านรักใคร่เอ็นดูมาตั้งแต่เกิดและเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาได้อีกต่อไป ผมรู้ว่าเป็นความเจ็บปวดมากแค่ไหนสำหรับคุณ และผมช่วยอะไรไม่ได้เลย แม้จะรู้สึกเสียใจไปกับคุณด้วยก็ตาม… นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกหมดหนทาง และทุกข์ใจที่สุด…

 

 

ถังซียิ้ม เงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียง “ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้เสมอ บางทีคุณปู่อาจรับฉันเป็นหลานสาวของท่านอีกคนก็ได้นะ ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันก็จะกลับไปอยู่กับท่านได้”

 

 

เฉียวเหลียงยิ้ม มองถังซีอย่างสิ้นหวังแล้วส่ายศีรษะ “คุณรู้ไหมว่าคุณปู่คุณเกลียดผมมากแค่ไหน ถึงแม้ท่านจะไม่แสดงออกให้เห็น และไม่โทษผมเลยตอนที่ผมได้พบท่านคราวที่แล้ว แต่ผมรู้ว่าท่านต้องสาปแช่งผม ถึงแม้ท่านจะยิ้มให้ผมก็ตาม เพราะฉะนั้นผมรู้ว่าท่านไม่มีทางยอมรับแฟนใหม่ของผมเป็นหลานสาวท่านแน่”

 

 

ถังซีจ้องหน้าเฉียวเหลียง เม้มปากแน่น “ถึงแม้สิ่งที่คุณพูดจะเป็นความจริง แต่คุณช่วยกรุณาอย่าดีดฟองสบู่ของฉันแตกได้ไหม”

 

 

“ผมไม่อยากให้คุณผิดหวัง” เฉียวเหลียงเหลือบมองถังซี “ยิ่งเราคาดหวังมากเท่าไร เราจะยิ่งผิดหวังมากเท่านั้น…”

 

 

“เอาละๆ ก็ได้!” ถังซีรีบขัดจังหวะเฉียวเหลียงไม่ให้เขาพูดจนจบ แล้วหันไปมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างรถ หลังจากนั้นก็ยกมือส่งสัญญาณให้เขาจอดรถ “ถึงแล้ว ส่งฉันไว้แล้วคุณไปทำธุระของคุณเถอะ ฉันจะฝังเข็มให้คุณป้า แล้วจะให้อาหกไปส่งกลับบ้าน คุณโทรหาฉันเมื่อถึงเวลาไปทานอาหารค่ำกับลู่หลีก็แล้วกัน” เฉียวเหลียงนำรถเข้าจอด และถังซีลงจากรถ

 

 

เฉียวเหลียงมองตามถังซี ลดกระจกหน้าต่างลง “ผมจะให้อาหกรอคุณอยู่ที่นี่ แล้วเขาจะไปส่งคุณที่…”

 

 

“ตกลง…” ถังซีหันหลังเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่หันกลับมามอง เฉียวเหลียงมองตามหลังเธอ สีหน้าเขาเข้มขึ้น หางตาอาหกหรี่ลง พระเจ้า… ทำไมต้องเป็นเขาอีกแล้ว นายน้อยถูกคุณถังเมินใส่แล้วจะมาระบายความโกรธใส่เขาไหม! ไม่มีทาง! เขาจะไม่ยอมทน!

 

 

ถังซีเสียบบัตรเปิดประตู จากนั้นก็ปิดประตูแล้วเอนหลังพิง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีฟ้าเจิดจ้า ดวงตาเธอเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

 

 

“อาเหลียง คุณรู้ไหม ฉันอยากให้คุณปู่รู้ว่าหลานสาวที่รักของท่านยังมีชีวิตอยู่มากแค่ไหน ฉันไม่อยากให้ท่านต้องเจ็บปวดจากการสูญเสียหลานสาวอีกต่อไปแล้ว ฉันไม่อยากให้ศัตรูของเอ็มไพร์กรุปลอยนวลจากความผิด แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือฉันไม่อยากทำให้คุณผิดหวัง

 

 

“งานออกแบบ… ใช่ ฉันชอบการออกแบบมาก แต่งานออกแบบไม่ใช่สิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตฉัน ก่อนหน้านี้สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชีวิตฉันมีเพียงคุณปู่และคุณ แต่ตอนนี้… มีคนอีกมากมายที่มีความสำคัญต่อฉัน… รวมถึงครอบครัวของฉัน และเพื่อนๆ ซึ่งดีต่อฉันมากๆ

 

 

“สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับฉันไม่ใช่สิ่งใดเลย แต่คือผู้คนรอบๆ ตัวฉัน”

 

 

“สวัสดีจ้ะ โหรวโหรว” เสียงเฉียวอวี่ซินทำให้ถังซีตื่นจากภวังค์ เธอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเฉียวอวี่ซินกำลังพยายามฝึกเดินอยู่ที่สนามหญ้า ด้วยความช่วยเหลือจากคนรับใช้หลายคน

 

 

อากาศไม่ร้อนในช่วงกลางเดือนตุลาคมของเมือง A การอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ในเสื้อยืดแขนสั้นนั้นกำลังดีทีเดียว นอกจากนี้ยังมีร่มกันแดดกางอยู่บนสนามหญ้าอีกด้วย ถังซีปรับอารมณ์ให้ร่าเริง แล้วเดินเข้าไปหาเฉียวอวี่ซินด้วยรอยยิ้ม ช่วยนางทำกายบริหาร จากนั้นก็พยุงนางไปนั่งที่เก้าอี้ “คุณป้าฟื้นตัวเร็วจังเลยค่ะ”

 

 

เฉียวอวี่ซินพยักหน้า มองลงไปที่ขาตนเอง แล้วความรู้สึกทุกอย่างก็ตื้นตันขึ้นมาในหัวใจ “ป้าคิดว่าป้าจะลุกขึ้นมายืนอีกครั้งไม่ได้เสียแล้ว คิดว่าป้าต้องกลายเป็นตอไม้ของตระกูลเฉียวที่น่าหัวเราะ และใช้ชีวิตอย่างเจ็บปวดไปตลอดกาล…” นางจับมือถังซีและยิ้ม “แต่เป็นเพราะหนู โหรวโหรว ตอนนี้ป้ารู้สึกมีความหวัง”

 

 

ถังซียิ้มแล้วเม้มริมฝีปาก เฉียวอวี่ซินมองเธอก่อนจะถอนหายใจ “ป้ารู้ว่าเรื่องระหว่างหนูกับอาเหลียงไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็น แต่ป้าจะไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสองคน ป้าแค่หวังว่าทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป ป้าบอกได้เลยว่าหนูสองคนรักกันมาก และพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อกันและกัน แต่ป้าเห็นความเหนื่อยล้าในสายตาของทั้งคู่ในบางครั้ง นั่นไม่ใช่เพราะหนูสองคนไม่ได้รักกันมากพอ แต่หนูรักกันมากเกินไป ทำให้พวกหนูรู้สึกเหนื่อย…”

 

 

เฉียวอวี่ซินหยุดพูดทันทีเมื่อสังเกตเห็นว่าถังซีร้องไห้ นางรีบเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ถังซี และกล่าวอย่างห่วงใย “โหรวโหรวอย่าร้องไห้ ถ้าหนูมีอะไรในใจระบายออกมาให้ป้าฟังได้นะจ๊ะ ป้าผ่านอะไรมามากมาย บางทีอาจให้คำแนะนำได้บ้าง”

 

 

ถังซีส่ายศีรษะ “คุณป้าคะ แค่เรื่องบางอย่างระหว่างเฉียวเหลียงกับหนูน่ะค่ะ คุณป้าคงช่วยไม่ได้ เราไม่ได้ทะเลาะกัน หนูแค่…รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติระหว่างเรา… หนูไม่รู้จะพูดยังไง… หนูแค่รู้สึกไม่สบายใจ… หนูไม่รู้ว่าอะไรที่กำลังรบกวนหนู… หนู…” ถังซีส่ายหน้า จะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เงียบไป เม้มริมฝีปากแล้วเอ่ยออกมาอีกครั้ง “บางที… ที่หนูรู้สึกแบบนี้… อาจเป็นเพราะตอนนี้หนูคือเซียวโหรว”

 

 

เฉียวอวี่ซินสับสนเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เธอเพิ่งจะมาเป็นเซียวโหรวอย่างนั้นหรือ นางมองถังซีและเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “แต่หนูก็คือเซียวโหรวมาตลอดไม่ใช่หรือจ๊ะ”

 

 

ถังซีตกอยู่ในความเงียบ เธอคือเซียวโหรวมาตลอดอย่างนั้นหรือ

 

 

เป็นเพราะใครๆ คิดว่าเธอคือเซียวโหรวมาตลอดใช่ไหม อะไรๆ ถึงได้เป็นแบบนี้