ถังซีออกจากบ้านเฉียวเหลียงหลังจากฝังเข็มให้เฉียวอวี่ซินเสร็จ การที่เห็นถังซีกลับไปด้วยความเศร้าอย่างสุดซึ้งทำให้เฉียวอวี่ซินเป็นห่วงเธอมาก หลังจากอาหกพาถังซีออกไปเฉียวอวี่ซินก็โทรหาเฉียวเหลียง เฉียวเหลียงฟังมารดาด้วยอาการหน้านิ่วคิ้วขมวด และยกมือให้สัญญาณพักการประชุม เขาเดินออกจากห้องประชุมเพื่อไปพูดปลอบใจเฉียวอวี่ซินให้สงบลง ก่อนจะโทรหาถังซี แต่เธอไม่ได้รับสาย
ถังซีตัดสายเฉียวเหลียงแล้วโยนโทรศัพท์ลงข้างตัว เงยหน้ามองอาหก ถามว่า “อาหก คุณคิดว่านายน้อยของคุณเป็นคนยังไง”
เมื่อได้ยินคำถามนี้ อาหกก็นั่งตัวตรงทันทีด้วยความกระวนกระวาย และร้องไห้อยู่ในใจ ‘คุณถังครับ คุณไม่รู้หรือว่าเขาเป็นคนยังไง ผมกำลังขับรถอยู่นะครับ โปรดอย่าถามคำถามแปลกๆ แบบนี้เลย ถ้าเราประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ นายน้อยก็จะขุดร่างผมขึ้นมาจากหลุมศพแล้วเฆี่ยนๆๆๆ! ‘
แม้เขาจะเกือบร้องไห้อยู่แล้ว แต่ก็ยังดูสงบนิ่ง เขายิ้มและตอบว่า “นายน้อยเป็นคนเด็ดขาด และไม่ประนีประนอมครับ”
ใบหน้าถังซีนิ่งขึงทันที เธอเม้มปากแน่นและเค้นเสียงออกมา “คุณก็รู้ว่าฉันไม่ได้ถามคุณเรื่องนี้”
รถซึ่งขับมาเรื่อยๆ จู่ๆ ก็เร่งความเร็วแล้วเลี้ยวเข้าจอดริมถนนทันที ถังซีซึ่งนั่งอยู่บนเบาะหลังถูกเหวี่ยงไปข้างหน้า จนศีรษะเธอเกือบชนเบาะหน้า เธอทรงตัวกลับมานั่งอย่างเดิมและมองหน้าอาหกจากทางกระจกมองหลัง อาหกตัดสินใจเด็ดเดี่ยว ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันไปมองถังซี “คุณถังครับ คุณอยากรู้อะไรเกี่ยวกับนายน้อยของเรา ผมจะบอกคุณทุกอย่างที่ผมรู้!”
ถังซีหัวเราะเบาๆ อย่างกระอักกระอ่วน รู้สึกเหมือนเธอกำลังบ้าคลั่ง เธอเริ่มผิดปกติตั้งแต่เมื่อวาน จะมีใครรู้จักเฉียวเหลียงดีไปกว่าเธออีกหรือ
ทำไมเธอถึงถามคำถามโง่ๆ นี้กับคนอื่น เฉียวเหลียงเป็นคนยังไงอย่างนั้นเหรอ
เขาไม่ได้เป็นยังไงเลย นอกจากเป็นคนบ้าที่สามารถเสี่ยงชีวิตเพื่อเธอ!
เมื่อคิดเช่นนี้ถังซีก็บอกกับตัวเองว่าอย่าหลงไปกับความคิดที่ยุ่งเหยิงวุ่นวาย ทำไมเธอถึงกลายเป็นคนหวาดระแวงเกินไป และมีแต่ความไม่แน่ใจ หลังจากกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เธอเคยเป็นคนกล้าที่จะรักหรือเกลียดชังเสมอ ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะรักเพียงเพราะเธอเคยตายไปแล้วครั้งหนึ่งอย่างนั้นหรือ ทำไมล่ะ เธอกลับมามีชีวิตด้วยตัวตนที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง เธอควรหวงแหนโอกาสนี้ และรัก ตามที่หัวใจเธอปรารถนาไม่ใช่หรือ
ถังซีเอนหลังและหลับตา “ขับรถต่อไปเถอะ”
อาหกมองถังซีอย่างงุนงง ถังซีแง้มเปลือกตามองเขา “อ้าว ทำไมล่ะ”
อาหกสตาร์ตรถทันที ถังซีลืมตาขึ้น อาหกซึ่งแอบสังเกตถังซีจากกระจกมองหลัง จู่ๆ ก็ถามเธอขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “คุณถัง คุณสบายดีใช่ไหมครับ”
ถังซีอดยิ้มไม่ได้เมื่อเธอเห็นความหวาดกลัวในสายตาอาหก “คุณบอกฉันได้ไหม ว่ามีผู้หญิงคนไหนในหลงเซี่ยวบ้างที่หลงรักนายน้อยของคุณ”
โอ มีมากมายเลยครับ! เจ้าหน้าที่หญิงหลายคนถึงกับทะเลาะกันเพื่อแย่งนายน้อย!
แต่อาหกก็คงไม่บอกเรื่องนี้กับถังซี เขาหัวเราะเบาๆ มองถังซีจากทางกระจกมองหลังและกล่าวว่า “คุณถังครับ คุณพูดเรื่องอะไร คุณรู้ไหมครับว่านายน้อยของเราเย็นชากับผู้หญิงขนาดไหน ไม่มีหญิงสาวคนไหนชอบเขาหรอกครับ ใครจะกล้า”
ถังซียิ้ม แล้วคำรามเบาๆ อย่างไม่เชื่อ “จริงหรือ”
อาหกรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “จริงๆ ครับ จริงๆ คุณมั่นใจได้เลยครับ คุณถัง…”
“แล้วที่เฉียวกรุปล่ะ”
อาหกมองถังซีในกระจกมองหลัง และกะพริบตาปริบๆ “ว่ายังไงนะครับ”
“มีผู้หญิงคนไหนบ้างไหมในเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป ที่ชอบนายน้อยของคุณ”
อาหกอึ้ง “…” โอ… ผมอยากลาออก! ทำไมการรับใช้คุณถังถึงได้ยากลำบากกว่าการรับใช้นายน้อยอย่างนี้!
เขาเคยคิดว่านายน้อยเป็นบ้า ที่เดินทางไปตามหมู่เกาะแปซิฟิกเพื่อค้นหาคุณถัง แต่เขาไม่เคยคาดคิดว่าคุณถังจะบ้าคลั่งกว่านายน้อยมาก! เขาอยากจะลาออก!
ถังซียิ้ม “ไปเฉียวกรุป”
“ฮะ?”
ถังซีมองหน้าอาหก “นายน้อยของคุณไม่ได้กลับไปที่เฉียวกรุปหรือ ไปหาเขาสิ”
“ไปหานายน้อยหรือครับ”
ถังซีมองหน้าอาหก อาหกพยักหน้า จากนั้นก็เหยียบคันเร่ง พาถังซีไปที่เฉียวกรุปด้วยความเร็วสูงสุด
ถังซีสวมหมวกและหน้ากากแล้วลงจากรถ อาหกรีบตามเธอไป พนักงานที่เฉียวกรุปเกือบทุกคนรู้จักอาหก จึงไม่มีใครขัดขวางพวกเขาตอนที่เข้าไปในลิฟต์ ถังซีเดินเข้าลิฟต์และกดไปที่ชั้นยี่สิบหก เมื่อเห็นเช่นนี้อาหกก็มีสายตาประหลาดใจ เขากะพริบตาปริบๆ ถามว่า “คุณถังครับ เราจะไปชั้นเจ็ดสิบสองไม่ใช่หรือครับ”
“ทำไมเราถึงจะไปชั้นเจ็ดสิบสอง” ถังซีมองหน้าอาหกยิ้มๆ “แผนกออกแบบอยู่ที่ชั้นยี่สิบหกไม่ใช่เหรอ”
“ทำไมเราถึงจะไปที่แผนกออกแบบล่ะครับ” ห้องทำงานนายน้อยอยู่ที่ชั้นเจ็ดสิบสองนี่นา
“แน่นอน ฉันก็จะไปคุยกับใครคนหนึ่งน่ะสิ” ถังซียิ้ม แล้วดวงตาเธอก็เย็นเยียบขึ้นมา เธอไม่เคยต่อสู้เพื่อเฉียวเหลียง แต่จากนี้ไปเธอจะปกป้องความรักของเธอ
อาหกติดตามถังซีไปยังชั้นยี่สิบหก พนักงานที่แผนกออกแบบรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นถังซีในหน้ากากและหมวก มีคนกำลังจะเข้ามาขวางเธอ แต่แล้วก็เห็นผู้ช่วยท่านประธานอยู่ข้างๆ เธอ เขาจึงหยุดและมองดูคนทั้งสองด้วยสายตาสงสัยแทน ถังซีเดินเข้าไปในแผนกออกแบบ มองไปรอบๆ แล้วหันกลับไปมองอาหก “ห้องทำงานฉินซินหยิ่งอยู่ไหน”
“ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะครับ” อาหกรู้สึกว่าหัวใจเขาเต้นระทึกอย่างแรง ด้วยความสัตย์จริง เขาไม่เคยกลัวอะไรเท่าตอนนี้มาก่อน แม้กระทั่งเวลาที่อยู่ในภารกิจเสี่ยงอันตรายที่ผ่านๆ มา ตอนนี้เขารู้สึกว่าคุณถังกำลังจะเปิดศึกกับฉินซินหยิ่งครั้งใหญ่!
ถังซีเหลือบมองอาหก ซึ่งในทันทีนั้นก็รู้สึกว่ากระดูกสันหลังเขาเย็นวาบขึ้นมา และรีบชี้ไปที่ห้องทำงานฉินซินหยิ่ง ถังซียิ้ม ส่งเสียงตอบรับในลำคอ ก่อนจะหันไปทางห้องทำงานฉินซินหยิ่ง อาหกมองตามถังซีและรีบตามเธอไป แต่ถังซีผลักประตูเปิด ก้าวเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว จนประตูเกือบกระแทกจมูกอาหก เมื่อเห็นผ้าม่านถูกดึงปิดลง อาหกก็รีบส่งข้อความไปหานายน้อยทันที แล้วยืนเฝ้าอยู่เงียบๆ ที่หน้าประตูห้องทำงานฉินซินหยิ่ง และกันทุกคนให้อยู่ห่างจากบริเวณนั้น
ฉินซินหยิ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เปิดแฟ้มข้อมูลดูด้วยมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อเห็นภาพสเก็ตช์งานออกแบบอันสวยงามเธอก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ แต่ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็เปิดออกอย่างฉับพลัน เธอขมวดคิ้วกระแทกแล็ปท็อปปิดทันที แล้วเงยหน้าขึ้นมอง เธอกำลังจะหลุดปากด่าออกมา เมื่อเห็นถังซีกำลังถอดหมวกและหน้ากาก ก่อนจะจ้องหน้าเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ฉินซินหยิ่งตกใจ แต่ไม่นานเธอก็ตั้งสติได้ และมองหน้าถังซีอย่างเฉยเมย “คุณเซียว มีอะไรหรือ”