ถังซีมองใบหน้าสงบนิ่งของฉินซินหยิ่ง และทันใดนั้นก็ตระหนักว่าทำไมเธอจึงไม่เคยมองเห็นธาตุแท้ของฉินซินหยิ่งมาก่อน ไม่ใช่เพราะเธอโง่ แต่เพราะฉินซินหยิ่งเสแสร้งแสดงเก่งเกินกว่าเธอจะจับได้ ไม่ใช่ความผิดของเธอเลยที่คบกับคนทรยศมาตลอด
ถังซีบอกตัวเองว่าต้องไม่โกรธ รักษาสีหน้าเอาไว้ เธอยิ้ม ลากเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามฉินซินหยิ่งออกมานั่ง ก่อนจะมองหน้าฉินซินหยิ่งตรงๆ “คุณฉินบอกฉันไม่ใช่หรือว่า ผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อถังซีหาเรื่องใส่ร้ายฉันเพื่อจะแย่งเฉียวเหลียงไป ฉันก็เลยสืบหาข้อมูลของผู้หญิงคนนี้โดยไม่บอกเฉียวเหลียง… เดาสิว่าฉันรู้อะไรมา ฉันเจอเรื่องบางอย่างที่น่าสนใจมาก คุณอยากฟังเรื่องนี้บ้างไหมล่ะ คุณฉิน”
ฉินซินหยิ่งบอกได้เลยจากหน้าตาถังซี ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีเจตนาดี แน่นอนว่าเธอจะไม่ยอมเสียเวลากับถังซี เธอจึงลุกขึ้น ส่งสัญญาณให้ถังซีออกไป “ไม่ ฉันไม่สนใจ กรุณาออกไป”
ถังซีเอนกายพิงพนักเก้าอี้ เชิดคางขึ้นจ้องมองฉินซินหยิ่งด้วยรอยยิ้ม “ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณ”
ฉินซินหยิ่งหน้าบึ้ง จ้องถังซีอย่างเยือกเย็น “เซียวโหรว ฉันเคยบอกแล้วว่าเป็นเรื่องระหว่างเธอกับถังซี ถ้าเธอมีปัญหากับถังซีก็ไปคุยกันเอง ฉันแค่รับคำสั่งจากถังซี ฉันงานยุ่ง ไม่มีเวลาให้เธอหรอก!”
ถังซียิ้ม เลิกคิ้วมองแล็ปท็อปที่ปิดอยู่บนโต๊ะ ถามว่า “ดูภาพสเก็ตช์งานออกแบบที่ซื้อมาอยู่เหรอ”
ใบหน้าบึ้งตึงของฉินซินหยิ่งเปลี่ยนเป็นนิ่งขึงทันที เธอจ้องหน้าถังซีเขม็งและตะโกนเสียงดังอย่างเยือกเย็น “ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร! ถ้าเธอมาที่นี่เพราะเรื่องขัดแย้งระหว่างเธอกับถังซี ก็กรุณาออกไป ฉันไม่สนใจข้อพิพาทของเธอสองคน ถ้าเธอไม่ออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย!”
“คิดว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะรับคำสั่งจากคุณไหม” ถังซีหัวเราะเยาะ มองหน้าฉินซินหยิ่งซึ่งหลบสายตาเธอ “ฉันเสียใจกับถังซีจริงๆ ที่มีเพื่อนอย่างคุณ คุณขโมยภาพสเก็ตช์งานออกแบบของเธอ และเชิดหน้ายอมรับฉายา ‘นักออกแบบผู้ปราดเปรื่อง’ แล้วตอนนี้ยังมาแทงข้างหลังเธออีก คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ถ้าถังซีรู้ว่าคุณหลงรักผู้ชายที่เธอรัก”
ฉินซินหยิ่งหน้าซีด จ้องถังซีเขม็งทันที และกล่าวอย่างหยาบคาย “ปัญญาอ่อน!”
ฉินซินหยิ่งกำหมัดแน่น จ้องมองถังซีอย่างเยือกเย็น “ฉันจะบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ถังซีจะไม่มีวันเชื่อสิ่งที่เธอพูด และเธอจะไม่มีวันได้พบถังซี! ถังซีจะไม่ยอมพบเธออย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินซินหยิ่ง ถังซีรู้สึกว่าหัวใจเธอเย็นยะเยือกขึ้นจนเป็นน้ำแข็ง ดูเหมือนเธอจะเดาถูก ฉินซินหยิ่งรู้ว่าเธอตายแล้ว และมีส่วนในการตายของเธอ
“ตกลงว่า ฉันจะไม่มีวันได้พบถังซี หรือว่าถังซีจะไม่ยอมพบฉัน” ถังซีถามอย่างใจเย็น ฉินซินหยิ่งรู้สึกสะพรึงกลัวขึ้นมาทันที
เธอนั่งลงสูดลมหายใจลึกๆ “คุณเซียว ฉันไม่ว่าง ช่วยออกไปจากห้องทำงานของฉันด้วย ฉันไม่สนใจความรักสามเส้าของพวกเธอหรอก ถ้าเธอยังไม่ยอมออกไป…”
“จะเป็นยังไงเหรอ!” ถังซีผุดลุกขึ้น เท้าฝ่ามือทั้งสองลงบนโต๊ะ ก้มลงมองฉินซินหยิ่ง “จะฆ่าฉันหรือ เหมือนอย่างที่เธอฆ่าถังซีใช่ไหม”
ฉินซินหยิ่งหน้าซีดเผือดอย่างน่ากลัว เธอรู้สึกว่าดวงตาถังซีคมกล้าและดุดันมาก จนเธอแทบหายใจไม่ออก เธอละสายตามองไปที่อื่นแล้วกล่าวอย่างเยือกเย็น “ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด!”
ถังซียิ้ม จ้องมองฉินซินหยิ่งขณะกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ “เอาละ ในเมื่อคุณไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูด ให้ฉันอธิบายให้ชัดเจนเลยดีกว่า ฉันมาที่นี่เพื่อเตือนให้คุณอยู่ห่างจากเฉียวเหลียง! คุณไม่คู่ควรกับเขาสักนิด! ต่อไปอย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีก ถ้าฉันยังพบว่าคุณพยายามแย่งเขาอีก ฉันจะควักลูกตาคุณ แล้วคุณจะไม่ได้มองเห็นอะไรอีกเลยในโลกใบนี้ อย่ายุ่งกับเฉียวเหลียง! ไม่งั้นฉันจะให้คุณได้รู้ว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนยังไง จากการพยายามแย่งผู้ชายของคนอื่น!”
“เธอคิดว่าจะทำอะไรก็ได้ตามต้องการ โดยมีเฉียวเหลียงหนุนหลังอย่างนั้นหรือ!” ฉินซินหยิ่งผุดลุกขึ้นจ้องมองถังซี ก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ฉันจะบอกเธอให้นะ ชีวิตยังอยู่อีกยาวนาน เรายังไม่รู้เลยว่าใครจะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย!”
ผัวะ!
ถังซีตบหน้าฉินซินหยิ่ง ฉินซินหยิ่งจ้องมองถังซีอย่างตกตะลึง เมื่อเธอกำลังจะตบกลับ ถังซีก็ก้าวถอยหลัง สะดุด และล้มลงกับพื้น ฉินซินหยิ่งรีบปราดเข้ามา กำลังจะทำร้ายถังซี ทว่าประตูห้องทำงานพลันเปิดออก และน้ำเสียงเย็นเยือกของเฉียวเหลียงก็ดังขึ้น “คุณกำลังจะทำอะไร!”
มือฉินซินหยิ่งค้างอยู่กลางอากาศ เธอไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ได้แต่มองหน้าเฉียวเหลียงอย่างสับสน ขณะที่เธอกำลังจะอธิบาย เฉียวเหลียงก็รีบวิ่งเข้าไปหาถังซี พยุงเธอขึ้นมา แล้วจ้องมองฉินซินหยิ่งด้วยท่าทางจะกินเลือดกินเนื้อ พร้อมกับถามอย่างเยือกเย็นว่า “คุณทำอะไรเธอ!”
ถังซีมองเฉียวเหลียงด้วยสายตาละห้อยน่าสงสาร ดวงตาเธอแดงเรื่อ และสะอื้นเบาๆ “อาเหลียง ฉันมาที่นี่เพื่อถามคุณฉินเรื่องคุณถัง แต่เธอโกรธและจะทำร้ายฉัน… คุณก็รู้ว่าฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาล และฉันยังไม่แข็งแรง…”
“โกหกหน้าด้านๆ!” ฉินซินหยิ่งตะโกน “บัดซบที่สุด! เธอตบหน้าฉันก่อน!”
“อะไรนะ” เฉียวเหลียงจ้องหน้าฉินซินหยิ่งด้วยสายตาเย็นชาและถามว่า “คุณหมายความว่าสิ่งที่ผมเห็นตอนนี้คือภาพลวงตางั้นเหรอ”
“เฉียวเหลียง… ฉัน…” ฉินซินหยิ่งมองเฉียวเหลียงด้วยสายตาสุดเศร้า ใบหน้าเธอสวยและดูน่าสงสารเหลือเกิน แต่เฉียวเหลียงไม่แสดงความอ่อนโยนต่อเธอแม้แต่น้อย “คุณฉิน เราอยู่ในบริษัท กรุณาเรียกผมว่าประธานเฉียว”
น้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาฉินซินหยิ่ง เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่างเมื่อเฉียวเหลียงกล่าวว่า “และผมหวังว่าคุณจะไม่พูดถึงหรือแม้แต่เอ่ยชื่อถังซีอีก ผมไม่อยากได้ยินชื่อเธออีกแล้ว! และคุณไม่คู่ควรที่จะพูดถึงเธอ!”
“แล้วคุณล่ะ” ฉินซินหยิ่งคำราม “แล้วเธอล่ะ!” เธอชี้ไปที่ถังซีแล้วตะคอก “ตอนนี้มีแต่ผู้หญิงคนนี้อยู่ในใจคุณ คุณก็เลยปล่อยให้เธอสบประมาทถังซีได้ใช่ไหม ถ้าถังซีรู้ว่าคุณปฏิบัติต่อเธอแบบนี้ ถังซีจะเศร้าแค่ไหน! คุณลืมสิ่งที่ถังซีทำเพื่อคุณไปหมดแล้วใช่ไหม”
“นั่นเป็นเรื่องระหว่างถังซีกับเฉียวเหลียง ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณ! คุณเป็นแค่คนนอก” ถังซีลากเฉียวเหลียงไปข้างหลังเธอ แล้วกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ตอนนี้เฉียวเหลียงเป็นผู้ชายของฉัน ไม่มีใครจะมาแย่งเขาไปได้ ถ้าถังซีมีปัญหาเรื่องนี้ คุณไปบอกให้เธอมาหาฉันโดยตรง คุณไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดเรื่องของถังซีกับเรา!”