ตอนที่ 359 ไทเฮาเรียกพบ
ไทเฮาไม่ชอบสะใภ้อย่างนางนางก็รู้ ครั้งก่อนทำเอานางโกรธจนป่วย นางจึงได้กลับมากับเฝิงเยี่ยไป๋ เพราะกลัวว่าจะทำเอานางโกรธเป็นอะไรไปอีก ไฉนครั้งนี้ถึงยังเรียกนางไปอีกเล่า อยู่ในสายตาของนางไม่อึดอัดหรือ
ซั่งเซียงปรนนิบัตินางชำระร่างกายจนเสร็จ วุ่นวายกันในห้องอยู่พักใหญ่ รอให้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว นางก็เห็นหงอวี้ที่ยืนตรงอยู่ในโถงใหญ่ด้วยความรู้สึกที่เป็นกังวล
“คารวะพระชายา”
อยู่ในวังเวลาเจอนาง หงอวี้ไม่เคยทำความเคารพเลย วันนี้จู่ๆ กลับทำความเคารพให้นาง เฉินยางตกใจ รีบให้นางลุกขึ้น “กูกูไม่ต้องมากพิธี อย่างไรเสียก็เป็นคนข้างกายไทเฮา ชนชั้นห่างกันนัก ทำเช่นนี้กลับทำเอาข้าเสียมารยาทแล้ว”
หงอวี้กลับเกรงใจนัก “บ่าวก็คือบ่าว เมื่อพบเจ้านายก็ควรจะทำความเคารพ ท่านรับไว้ได้”
เฉินยางรู้สึกอยู่ตลอดว่านางกำลังสะท้อนอะไรบางอย่างอยู่ นางคิดอยู่นานก็คิดไม่ออก จึงยิ้มผ่านไป “วันนี้ไม่รู้ว่ากูกูมีเรื่องใหญ่ใดจะมาแจ้ง ไทเฮามีรับสั่งอันใดหรือ”
หงอวี้ก้มศีรษะพูดว่า “ไทเฮาได้ยินเรื่องที่พระชายาตั้งครรภ์ เมื่อคืนดีใจจนไม่หลับทั้งคืน วันนี้เช้าก็ให้บ่าวมารับพระชายาเข้าวัง พระนางชอบให้มีลูกหลานเต็มบ้าน บ่าวไม่เห็นไทเฮาดีใจเช่นนี้มานานแล้ว”
ก็เป็นเรื่องปกติที่ไม่ได้แปลกนัก เพียงแต่เฉินยางก็รู้สึกประหลาดใจ ท้องของนางยังไม่โตเลย ต่อให้ข้างในมีเด็กแล้วจะอย่างไร นางก็มองไม่เห็น จ้องมองตัวเองแล้วก็โมโหอีก นี่ไม่ใช่เป็นการหาความหงุดหงิดใส่ตัวหรือ
คิดคือคิด หน้าก็ยังต้องให้ ขอเพียงนางไม่หงุดหงิดใส่ตน ให้นางดูเสียเล็กน้อยก็ไม่เสียหายอะไร และไม่ต้องให้หงอวี้กล่อมอีก นางก็ตกลงอย่างง่ายดาย
ซั่งเหมยซั่งเซียงติดตามด้วย เฉาเต๋อหลุนส่งพวกนางถึงหน้าประตู ท่านอ๋องเพิ่งจะออกไป ไทเฮาก็มารับคนติดๆ พอคิดดูดีๆ แล้วก็รู้สึกผิดสังเกต เพียงแต่ที่ใดที่ผิดสังเกตนั้นก็บอกไม่ถูก เขาก็ไม่กล้าขวางคนของไทเฮาไว้ ได้แต่มองส่งพวกนางไปด้วยสายตา ในใจก็เริ่มรู้สึกไม่สงบมากขึ้น
ระหว่างทางเฉินยางหวาดระแวงอยู่ตลอด นึกถึงหงอวี้เมื่อครู่พูดว่าไทเฮาได้ยินข่าวที่นางตั้งครรภ์แล้วนั้นดีใจมาก คิดว่าคงจะไม่หาเรื่องนาง ต่อให้นางใช้ไม่ได้อย่างไร ในท้องก็ยังมีลูกของเฝิงเยี่ยไป๋อยู่ คงจะไม่ให้นางยืนระเบียบอยู่ตลอด หรือโบยตีนางบ่อยๆ กระมัง
ในวังช่างอึดอัดเสียเหลือเกิน ไม่มีความเป็นมิตรเลย แม้ว่าชีวิตในวังจะหรูหราทั้งชีวิต เพียงแต่ผู้หญิงทั้งวังล้วนล้อมอยู่รอบพระวรกายฮ่องเต้ที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว วังหลังมีหญิงงามสามพันคน หากจะต้องไปเยี่ยมทีละคน ไม่กินไม่ดื่มก็ต้องใช้เวลาอยู่หลายวัน พอคิดได้เช่นนี้แล้ว ซ่งจูหลี่หรูพวกนางแต่งเข้ามาในจวนท่านอ๋องกลับยังดีเสียกว่า ไม่เช่นนั้นเข้าไปอยู่ในวังแล้ว พระพักตร์ฮ่องเต้ก็ไม่ได้พบ ไม่ใช่ว่าน่าเสียใจยิ่งกว่าหรือ
พอคิดได้เช่นนี้ นางกลับรู้สึกโล่ง ตอนแรกต่างคนต่างก็มีชีวิตตัวเองอยู่แล้ว ชีวิตของพวกนางเป็นเช่นนี้ ที่นางช่วยได้ก็คือพูดแทนพวกนางให้เฝิงเยี่ยไป๋เท่านั้นแล้ว
ระหว่างทางไปวังก็ราบรื่น ซั่งเหมยซั่งเซียงจะมาประคองนาง นางไม่ให้ พวกนางเครียดเกินไปแล้ว เฝิงเยี่ยไป๋ก็ด้วย นางไม่ใช่เด็กสามขวบเสียหน่อย ถูกคนหามซ้ายหามขวา เหมือนดั่งไปลานประหารเช่นนั้น นางเดินเองได้ ก้าวทีละก้าวได้อย่างมั่นคงนัก
มาถึงตำหนักฉือหนิง เฉินยางตามอยู่ข้างหลังน่าอวี้ติดๆ ระเบียบมารยาทมิอาจลืม กำลังจะย่อตัวเคารพ เสียงอ่อนโยนของไทเฮาที่อยู่บนเก้าอี้ก็ลงมา “ไม่ต้องแล้ว หงอวี้ รีบประคองเจ้านายของเจ้านั่งลง”
——
ตอนที่ 360 ความสัมพันธ์แม่กับลูกสะใภ้
พอเป็นเช่นนั้น กลับทำเอาเฉินยางรู้สึกกังวลขึ้นมา นางเงยหน้ามองไทเฮาด้วยความงุนงง แล้วถูกหงอวี้ประคองนั่งลงตรงตำแหน่งเก้าอี้รองประธาน
บนหน้าไทเฮาประดับรอยยิ้มอบอุ่น ไม่มีความเข้มงวดที่ไม่ชอบนางก่อนหน้านี้ พอยิ้มเช่นนี้แล้ว ก็ดูเป็นท่านยายที่ใจดี ในใจเฉินยางรู้สึกอบอุ่น ก็ยิ้มขึ้นมา “ขอบพระทัยไทเฮา”
“ควรจะให้เจ้านั่งอยู่แล้ว อยู่ต่อหน้าข้า ไม่ต้องมากพิธี” นางหันศีรษะไปสั่งหงอวี้ “ยกน้ำเดินลมปราณที่ต้มให้พระชายาออกมา… ก่อนที่เจ้าจะมาก็วางทิ้งไว้ให้เย็นลงแล้ว มาดื่มตอนนี้กำลังพอดี ไม่ลวกปาก”
เฉินยางรีบลุกขึ้นแล้วกล่าวขอบพระทัย ไทเฮาบ่นนางว่า “นั่งดีๆ พวกเราเป็นแม่กับลูกสะใภ้กัน ไม่ต้องมีระเบียบมากมายเช่นนั้น”
แม่กับลูกสะใภ้? เป็นแม่กับลูกสะใภ้กันเสียตั้งแต่เมื่อใด ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนางหรือ ก่อนหน้านี้ยังจะให้เฝิงเยี่ยไป๋หย่ากับนางอยู่เลย มาตอนนี้กลายเป็นแม่กับลูกสะใภ้กันระเบียบมารยาทก็ไม่ต้องสนใจแล้ว นี่ก็คือแม่ได้ดีเพราะลูกหรือ เพราะลูกในท้องของนาง จึงปฏิบัติกับนางดีขึ้นแล้ว?
เฉินยางฟังคำของนางนั่งกลับลงไป รับน้ำถ้วยนั้นมาดม ก็ขมวดคิ้ว ก็ไม่รู้ว่าข้างในมีสมุนไพรอะไร เพียงแต่ไม่ทำร้ายคนแน่นอน เกรงว่าคงจะเอาสมุนไพรบำรุงทั้งหลายต้มรวมกันเสียทีเดียวกระมัง
นางดมแล้วยังฉุนเลย ให้นางดื่มอีก นางรู้สึกดื่มไม่ค่อยลง
ไทเฮากล่อมนางอยู่ข้างๆ “ดื่มเสียเถิด ตอนนั้นข้าก็ผ่านมาเช่นนี้ ดีต่อเจ้า ก็ดีต่อลูกในท้องของเจ้า พวกเจ้าแม่ลูกดีแล้ว ข้าถึงจะดี”
ด้วยความหวังดีของไทเฮา และท่าทีที่มีต่อนางนั้นดีขึ้น เฉินยางไม่อาจไม่ไว้หน้าไทเฮา นางจึงกลั้นหายใจแล้วดื่มลงไปรวดเดียว
รสชาติที่เข้าปากไม่ต้องคิดก็รู้ได้ นางกดหน้าอกเอาไว้ ความรู้สึกคลื่นไส้พุ่งขึ้นมา ข้างมือมีชา ยามนี้ก็ไม่สนระเบียบอะไรนั่นแล้ว นางเปิดฝาแล้วดื่มทันที แก้วหนึ่งดื่มลงไป ก็ดีขึ้นมาเสียหน่อย
ไทเฮาไม่ค่อยพอใจกับการตอบสนองของนางนัก ขมวดคิ้วพูดว่า “นี่ล้วนเป็นยาหมอหลวงซ่งชิวจื้อแห่งสำนักหมอหลวงที่เชี่ยวชาญวิชาสตรีสั่ง บำรุงมาก ตอนนี้เจ้าตั้งครรภ์อยู่ วันหลังยาบำรุงนี้ยังต้องดื่มทุกวัน เจ้าเลี้ยงร่างกายดีแล้วหลานของข้าถึงจะแข็งแรง”
ความอบอุ่นที่เพิ่งเกิดขึ้นในใจของเฉินยางดับลงในทันที ไทเฮามีท่าทีอย่างไรต่อนางนางยังไม่รู้อีกหรือ จู่ๆ ก็ดีกับนางเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะลูกในท้องของนางหรือ หรือจะเปลี่ยนนิสัยแล้ว?
นางก้มศีรษะลงด้วยความผิดหวัง อย่างไรเสียหลังจากนี้ก็ไม่ต้องอยู่ในสายตาของนาง จะดื่มหรือไม่นางก็ไม่รู้ เพียงยาที่เฝิงเยี่ยไป๋ให้นางดื่มนั้นก็ทรมานพอแล้ว หากยังมาอีกถ้วย นางเกรงว่าจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงวันที่ลูกคลอด
ไทเฮาเหมือนดั่งมองทะลุหัวใจได้ ตอนที่นางแอบดีใจอยู่นั้น ไทเฮาเล่นเล็บ และสร้างความตื่นตัวให้นางว่า “อีกเดี๋ยวเรียกคนกลับไปเก็บเสื้อผ้าเจ้ามา ช่วงที่เจ้าตั้งครรภ์อยู่หลายเดือนนี้ก็ตามข้ามาอยู่ในวังเสียเถิด ผู้หญิงตั้งครรภ์แรกไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะร่างกายเจ้าอ่อนแอ ในวังมีหมอหลวง เรียกแล้วมาได้ทุกเมื่อก็สะดวกเสียหน่อย อีกอย่าง สามีเจ้ายุ่งนัก กลับไปแล้วยังต้องเป็นห่วงเจ้า เป็นเช่นนี้นานๆ จะเหนื่อยเอาได้ เจ้าอยู่ข้างกายข้า มีข้าคอยดูแลอยู่ ย่อมสบายใจกว่าอยู่ที่จวนอ๋อง”
ที่แท้ก็หวังสิ่งนี้อยู่ กลับมีเฝิงเยี่ยไป๋อยู่ นางอยากจะเจอหน้าหลาน จึงฉวยโอกาสลงมือก่อน ก่อนที่หลานจะคลอดออกมาก็จองเอาไว้ เพื่อจะได้ไม่ต้องถึงเวลาอยากเจอหน้าหลานยังต้องผ่านด่านลูกชาย ลูกชายไม่ถูกกับนาง ย่อมทำให้นางไม่พอใจ จะได้เจอหน้ายากยิ่งกว่าปีนขึ้นฟ้า ดังนั้นถึงได้คิดวิธีเช่นนี้ออกมา