ตอนที่ 238 ภูเขาไม่มาหาฉัน ฉันก็จะไปหาภูเขา / ตอนที่ 239 ฝันดี

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 238 ภูเขาไม่มาหาฉัน ฉันก็จะไปหาภูเขา 

 

 

[เซ่าเชิน คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ] ถังโจวโจวขมวดคิ้วแน่น เธอไม่รู้ว่าถ้าลั่วเซ่าเชินเห็นคำถามนี้แล้วจะคิดถึงเรื่องเมื่อกลางวันไหม แล้วถ้าเขาไม่สนใจเธออีก เธอควรจะทำอย่างไร 

 

 

ไม่ได้! ถังโจวโจว เธอต้องตั้งสติ ภูเขาไม่มาหาฉัน ฉันก็จะไปหาภูเขา ถังโจวโจวคิดว่า ตอนนี้เธอจะฟุ้งซ่านไม่ได้ เธอต้องอดทนไว้ 

 

 

ลั่วเซ่าเชินอ่านข้อความของถังโจวโจวแล้ว ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น เขาปิดตาลง ไม่อยากมองไปที่หน้าจออีก เมื่อพูดถึงคุณแม่ลั่วขึ้นมา ความสุขเมื่อครู่นี้ทั้งหมดของลั่วเซ่าเชินพลันหายไป หลังจากนี้คุณแม่ลั่วจะขัดขวางเขากับถังโจวโจวไม่ให้อยู่ด้วยกันจนถึงที่สุด ประหนึ่งเป็นภูเขาลูกใหญ่ที่ทั้งสองคนจะข้ามผ่านไปไม่ได้ 

 

 

ลั่วเซ่าเชินไตร่ตรองดูอีกครั้ง ทำไมจู่ๆ วันนี้คุณแม่ลั่วถึงตกบันได เขาคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตอนนั้นมีคนยืนอยู่สามคน คุณแม่ลั่ว ถังโจวโจว และเมิ่งชิงซี 

 

 

เมิ่งชิงซียืนอยู่กับถังโจวโจว ตอนนั้นสีหน้าของถังโจวโจวตกใจมาก มือไม้สั่นไปหมด ส่วนสีหน้าของเมิ่งชิงซีก็รู้สึกเหมือนเสียใจมาก เธอมองถังโจวโจวด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ 

 

 

ลั่วเซ่าเชินยกมือขึ้นปิดตา ไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้อีก ไม่ว่าถังโจวโจวจะเป็นคนทำหรือไม่ ในใจเขาก็เชื่อเสมอว่าถังโจวโจวไม่ใช่คนอย่างนั้น เขาตัดสินใจแล้วไม่ใช่หรือ ฉะนั้นก็ไม่ควรคิดเรื่องนี้ให้กวนใจอีก 

 

 

ถังโจวโจวรออยู่นานแล้วลั่วเซ่าเชินก็ยังไม่ตอบข้อความกลับมา ดูท่าลั่วเซ่าเชินคงจะโกรธเธอจริงๆ ถังโจวโจวถอนหายใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกมาก ทำไมตอนนี้กลายเป็นว่าเธอถูกอิทธิพลของเมิ่งชิงซีควบคุมทุกอย่างไว้ได้หมด 

 

 

ถังโจวโจวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นาน แต่ตอนนี้เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว คุณแม่ลั่ว คุณพ่อลั่ว แม่นมจ้าว ลั่วเซ่าเชิน และเมิ่งชิงซี ต่างก็เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่าเธอเป็นคนทำ และไม่ว่าถังโจวโจวจะมีอีกกี่ร้อยปาก ก็คงไม่พอใช้แก้ตัว 

 

 

ฉันควรจะทำยังไงดี ถังโจวโจวไม่อยากห่างจากลั่วเซ่าเชิน แต่ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ลั่วคงเกลียดเธอหนักมากกว่าเดิม หากผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว ถังโจวโจวคิดว่าด้วยการกระทำของเมิ่งชิงซีในครั้งนี้ ไม่แน่ว่าคุณพ่อคุณแม่ลั่วอาจจะทำให้เมิ่งชิงซีได้อยู่ด้วยกันกับลั่วเซ่าเชินสมใจก็เป็นได้ 

 

 

แล้วทุกคนก็จะอยู่กันอย่างมีความสุข เธอกลัวว่าแม้แต่ลั่วเซ่าเชินก็จะเห็นด้วยกับความคิดนี้ ถังโจวโจวคิดไปถึงว่าปกติลั่วเซ่าเชินกับเธอชอบทะเลาะกัน แล้วก็มีหลายครั้งที่เขาก็ไม่ยอมให้เธอ 

 

 

“ถังโจวโจว เธอคิดอะไรอยู่ เมื่อกี้เธอเพิ่งบอกตัวเองไม่ใช่หรือว่าจะไม่ยอมแพ้ แล้วยังจะคิดเรื่องแย่ๆ อีกทำไม เธอต้องรวบรวมสติ ห้ามท้อถอยเด็ดขาด” 

 

 

หลังจากถังโจวโจวให้กำลังใจตัวเองแล้ว ก็ส่งข้อความหาลั่วเซ่าเชินอีก 

 

 

[เซ่าเชิน ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณไม่อยากเจอฉัน แต่ฉันก็เป็นห่วงสุขภาพคุณแม่ คุณบอกฉันหน่อยได้ไหมคะ] 

 

 

[เซ่าเชิน แล้วลั่วอิงล่ะ เธอคิดถึงฉันไหม] 

 

 

[เซ่าเชิน ตอนฉันไม่อยู่ คุณก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ นอนดึกให้น้อยลง ดื่มกาแฟให้น้อยลง มันไม่ดีต่อสุขภาพ] 

 

 

เสียงแจ้งเตือนดังไม่หยุด ลั่วเซ่าเชินเห็นถังโจวโจวส่งข้อความมาเรื่อยๆ ใจที่แข็งเป็นหินก็ค่อยๆ อ่อนยวบลง ซึ่งเดิมทีหัวใจของลั่วเซ่าเชินก็ไม่ได้เย็นชาต่อถังโจวโจวอยู่แล้ว 

 

 

[คุณแม่ฟื้นแล้ว] 

 

 

[ลั่วอิงถามอยู่ตลอดว่าเมื่อไรคุณจะกลับมา] 

 

 

[คุณเองก็ดูแลตัวเองด้วย อย่าเดินเท้าเปล่า ใส่รองเท้าด้วย] 

 

 

เนื่องจากถังโจวโจวเป็นคนขี้ลืม เธอกลับไปอยู่ที่บ้านอย่างนี้ เขาไม่มีโอกาสดูแลเธอเหมือนเคย ไม่รู้จะป่วยไปอีกไหม แล้วคุณแม่ถังจะใส่ใจเธอถึงจุดนี้เหมือนเขาไหม ลั่วเซ่าเชินคิดแล้วก็กังวลเล็กน้อย 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 239 ฝันดี 

 

 

           เมื่อเห็นข้อความที่ลั่วเซ่าเชินตอบกลับมา ถังโจวโจวก็อดถอนหายใจอย่างโล่งอกไม่ได้ ในที่สุดลั่วเซ่าเชินก็สนใจเธอ ถังโจวโจวกลิ้งตัวอย่างมีความสุขบนเตียงไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของเธอ 

 

 

ก๊อกๆๆ “โจวโจว ลูกกำลังทำอะไรอยู่ แม่เข้าไปได้ไหม” คุณแม่ถังเคาะบอกถังโจวโจวก่อน หลังจากคุณแม่ถังถามจบก็เปิดประตูเข้ามาเลย 

 

 

โชคยังดี ตอนที่คุณแม่ถังเรียกถังโจวโจว เธอก็หยุดกลิ้งไปมาแล้ว เธอรีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วตรงขอบเตียง ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย 

 

 

“โจวโจว เมื่อกี้ลูกทำอะไรอยู่น่ะ” คุณแม่ถังเห็นว่าผมของถังโจวโจวยุ่งเหยิง จึงมองถังโจวโจวอย่างสงสัย ในมือถือจานผลไม้เข้ามา ก่อนจะวางไว้ให้บนโต๊ะเครื่องแป้ง 

 

 

“รีบมากินผลไม้เร็ว แม่ทำมาให้” 

 

 

“โอ้โฮ แม่ช่างดีกับหนูจริงๆ” 

 

 

ถังโจวโจวตรงเข้าไปจูบแก้มของคุณแม่ถัง คุณแม่ถังลูบแก้มดูว่าไม่มีน้ำลายแล้วก็บ่นออกมา “เอาละๆ อายุเท่าไรแล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็กอยู่อีก รีบเอาหน้าออกไปเลย กินผลไม้ให้เสร็จแล้วก็นอนซะ แม่ไปก่อนล่ะ” 

 

 

“แม่คะ หนูรักแม่ที่สุดเลยนะ” เมื่อถังโจวโจวเห็นว่าคุณแม่ถังออกจากห้องไปแล้ว เธอก็ตรงไปล็อกห้องไว้ทันที หลังพิงประตู เมื่อครู่เธอตกใจแทบแย่ ถ้าคุณแม่ถังได้เห็นท่าทางดีใจของเธอ คงจะต้องถามไม่เลิกแน่ๆ 

 

 

“เฮ้อ โชคดีที่ฉันไหวตัวทัน” ผลไม้ทั้งหมดในจานบนโต๊ะเครื่องแป้งมีไม้จิ้มฟันปักอยู่ ถังโจวโจวจึงหยิบมากินทีละชิ้นๆ แอปเปิลแสนหวานนี้ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะกินแล้วกินอีก 

 

 

ถังโจวโจวจัดการผลไม้ให้หมดลงได้อย่างรวดเร็ว แต่เธอก็ยังไม่ลืมลั่วเซ่าเชิน เธอขึ้นไปนอนบนเตียงอีกครั้งแล้วส่งข้อความต่อ 

 

 

[เซ่าเชิน คุณนอนหรือยังคะ] 

 

 

ความรู้สึกแบบนี้ดีมากเลย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าเธอกับลั่วเซ่าเชินกำลังจีบกันอยู่ ทั้งสองคนส่งข้อความหากันและกัน แม้ว่าความจริงเธอกับลั่วเซ่าเชินจะแต่งงานกันแล้วก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่ได้เริ่มต้นเหมือนอย่างคู่รักทั่วไปที่ได้ใกล้ชิดกันมาก่อน 

 

 

สิ่งที่เรียกว่า ‘ความใกล้ชิด’ นี้ของถังโจวโจว หมายถึงจิตใจไม่ใช่ร่างกาย 

 

 

[ยัง คุณมีอะไรอีกเหรอ] 

 

 

ถังโจวโจวเห็นข้อความนี้ก็คิดว่าลั่วเซ่าเชินคงเริ่มรำคาญแล้ว เธอจึงรีบตอบกลับไป 

 

 

[เปล่าค่ะ ฉันแค่อยากจะเตือนคุณให้คุณนอนได้แล้ว ฉันก็จะนอนแล้วเหมือนกัน] 

 

 

[เซ่าเชิน ฝันดีนะ] 

 

 

ลั่วเซ่าเชินเห็นถังโจวโจวหยุดส่งข้อความมาแล้ว ในขณะที่เขายังอยากส่งข้อความหาเธออีก เพราะตอนนี้เขาไม่ง่วงเลยสักนิด แต่ถังโจวโจวบอกจะนอนแล้ว เขาก็ทำได้แค่เลิกล้มความคิดไป “น่าหงุดหงิดจริงๆ” ไม่รู้ว่าคำพูดนี้ของลั่วเซ่าเชินกำลังว่าใคร 

 

 

“ฮัดเช้ย!” ถังโจวโจวลูบจมูกของตัวเอง “ใครบ่นถึงฉันนะ” 

 

 

เธอคิดอยู่พักหนึ่งก็เลิกใส่ใจ ลุกไปหยิบเสื้อผ้า เตรียมตัวไปอาบน้ำ 

 

 

เช้าวันถัดมา เมิ่งชิงซีก็ถืออาหารที่เธอให้แม่บ้านปรุงตั้งแต่เช้ามาเยี่ยมคุณแม่ลั่ว 

 

 

คุณแม่ลั่วเพิ่งตื่นพอดี เมื่อเห็นว่าเมิ่งชิงซีมา ใบหน้าก็ยิ้มไม่หุบ “ชิงซี ทำไมมาแต่เช้าเลยล่ะจ๊ะ” 

 

 

“คุณป้าคะ ฉันตั้งใจเอาอาหารเช้ามาให้ค่ะ นี่คือซุปสตูว์บำรุงร่างกาย คุณป้าจะต้องทานให้มากๆ นะคะ” 

 

 

เมิ่งชิงซีวางของลงบนโต๊ะ คุณพ่อลั่วที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำได้ยินคำพูดของเมิ่งชิงซีเข้าพอดี 

 

 

เมิ่งชิงซีได้ยินเสียงจากทางด้านหลัง จึงหันตัวกลับไปมอง “คุณลุง อรุณสวัสดิ์ค่ะ