ตอนที่ 340 ซูจิ่วซือผู้กล้าหาญ / ตอนที่ 341 เจ้าสองคนเหมาะสมกันจริงๆ

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 340 ซูจิ่วซือผู้กล้าหาญ

 

 

 

 

พอเข้าเขตแคว้นเจียง อากาศก็ร้อนขึ้นมาก แม้ย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อากาศยังร้อนอบอ้าวอยู่

 

 

ขณะเดินทางผ่านป่าเขา ท้องฟ้าก็มืดครึ้มราวกับฝนจะตก ทั้งสองเตรียมพักบริเวณนั้นคืนหนี่ง รุ่งเช้าค่อยเดินทางต่อ จะได้ไม่เจอฝนหนัก

 

 

แถวใกล้ภูเขาไม่มีหมู่บ้าน หาอยู่นาน ในที่สุดก็เห็นเรือนหลังหนึ่งที่ตีนเขา

 

 

“ที่นี่เป็นที่รกร้างห่างไกล หลียวน เราต้องระวังให้ดี” ซูจิ่วซือเป็นคนรอบคอบ ก่อนไปบ้านชาวนา นางเตือนกู้หลียวนไว้

 

 

“กลัวอะไร เรายังมีคนคอยคุ้มกันอยู่ห่างๆ สองคน คนทั่วไปทำอะไรเราไม่ได้ ไปเถอะ ไม่งั้นฝนจะตกจริงๆ ”

 

 

ทั้งสองไม่ได้พาใครไปด้วย มีแต่คนคุ้มกันสองคนที่ฟู่เฉินหรงมอบหมายให้ดูแลนาง ทั้งสองมีวรยุทธสูงส่ง สามารถรักษาความปลอดภัยได้

 

 

ที่นี่เป็นกระท่อม ดูทรุดโทรมมาก ประตูปิดอยู่ กู้หลียวนเข้าไปเคาะประตู “มีคนอยู่ไหม”

 

 

เรียกอยู่นานก็ไม่มีคนตอบ กู้หลียวนจึงผลักประตูเข้าไป เวลานี้ยังไม่ค่ำ แต่ข้างนอกมืดแล้ว กำลังจะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองได้ทุกเมื่อ

 

 

ฟ้าแลบขึ้น ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้อง แสงจากฟ้าแลบส่องให้เห็นสภาพในห้อง เป็นห้องที่ไม่มีคนอยู่นานแล้ว ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยหยากไย่และฝุ่นละออง

 

 

“เข้ามาเถอะ! ข้างในไม่มีใครอยู่ คงเป็นบ้านร้าง”

 

 

กู้หลียวนเดินนำเข้าไป ซูจิ่วซือตามหลังมา จากนั้นคนคุ้มกันก็ตามเข้าไป

 

 

“จิ่วซือ เมื่อกี้มีฟ้าแลบฟ้าร้อง เจ้าไม่สะดุ้งสะเทือนเลย ข้านึกว่าเจ้าจะตกใจหลบอยู่ข้างหลังข้า”

 

 

กู้หลียวนเกรงว่าซูจิ่วซือจะกลัว จึงล้อนาง ซูจิ่วซือหัวเราะ นางไม่ใช่คนขี้ขลาด ไม่ว่าอย่างไร นางไม่หลบอยู่หลังลูกของตัวเองแน่

 

 

“เจ้ากลัวไหม”

 

 

กู้หลียวนเหมือนได้ยินเรื่องตลก “เจ้าถามชายชาตรีว่ากลัวฟ้าร้องไหม ใช้ได้ที่ไหน แต่บ้านร้างกลางป่าอย่างนี้ก็ดูลึกลับนะ”

 

 

“ไม่ต้องกลัว ข้าปกป้องเจ้า”

 

 

กู้หลียวนถลึงตาใส่ซูจิ่วซือ “ข้าเป็นพี่ชายเจ้า”

 

 

ซูจิ่วซือยิ้มไม่พูดไม่จา ไม่ได้แย้งกู้หลียวน ในห้องมืดจริงๆ  มองไม่เห็นอะไรเลย จึงยืนนิ่ง จนกระทั่งคนคุ้มกันเอาฟืนเข้ามา

 

 

พอได้ฟืน คนคุ้มกันก็หยิบแท่งเชื้อไฟมาจุด ในห้องสว่างขึ้น

 

 

ซูจิ่วซือมองไปรอบๆ  เห็นข้างขวาของบ้านมีเตียงหลังหนึ่ง บนเตียงมีคนนอนหันหลังให้ ในห้องมีคนอยู่ พวกเขาเข้ามาตั้งนานไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว แสดงว่าไม่ใช่คนเป็น

 

 

กู้หลียวนก็เห็นคนนอนอยู่ที่เตียง เขาก้าวออกไป “ข้าจะดูว่าเป็นอย่างไร”

 

 

พูดจบก็เดินไปที่เตียง พอเห็นคนคนนั้นชัดเจน ก็สะดุ้ง รีบถอยทันที ซูจิ่วซือเห็นก็รีบเข้ามา และดูคนที่นอนบนเตียงให้ชัด

 

 

เป็นซากศพที่ตายนานแล้ว ดูเหมือนตายมาหลายปี เผยให้เห็นกระดูกขาวข้างใน ทันทีที่เห็น ก็รู้สึกน่ากลัว

 

 

กู้หลียวนเห็นซูจิ่วซือสงบ เขานับถือซูจิ่วซือขึ้นมาทันที นางกล้าหาญกว่าเขามาก

 

 

“หลียวน ไม่ต้องกลัว เป็นเพียงซากศพ คืนนี้เราคงอยู่ที่นี่”

 

 

กู้หลียวนรู้สึกประหลาดใจ ผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าปลอบใจเขาว่าไม่ต้องกลัว เป็นความรู้สึกที่แปลกจริงๆ

 

 

 

 

——

 

 

 

 

ตอนที่ 341 เจ้าสองคนเหมาะสมกันจริงๆ

 

 

 

 

“จิ่วซือ เจ้าฝึกความกล้าได้อย่างไร”

 

 

“คนเราสุดท้ายก็ต้องตาย พอตายก็เป็นอย่างนี้แหละ มีอะไรน่ากลัวหรือ”

 

 

ซูจิ่วซือย้อนถาม เมื่อก่อนนางก็ใจกล้า ยิ่งผ่านเหตุการณ์มามาก ความอ่อนแอในตัวจึงแทบไม่ปรากฏให้เห็นแม้แต่น้อย มีแต่ความสงบเยือกเย็น ไม่ว่าเผชิญกับอะไร ก็ไม่ตื่นตระหนก

 

 

“ห้องนี้มีเตียงหลังเดียว เราเอาศพไปฝัง คืนนี้ข้านอนบนเตียง”

 

 

กู้หลียวนประหลาดใจในตัวซูจิ่วซืออีกครั้ง เขาไม่มีวันนอนเตียงนี้แน่ ยินดีนั่งที่พื้นทั้งคืน

 

 

“เจ้าจะหลับลงหรือ”

 

 

“หลังจากนี้ยังต้องรีบเดินทาง ทำไมจะไม่หลับ เจ้าสองคนช่วยหน่อย เอาศพไปฝังข้างนอก ให้นอนในหลุมอย่างสงบ”

 

 

ซูจิ่วซือเรียกคนคุ้มกันทั้งสอง ย้ายศพออกไปข้างนอก ฝังไว้ข้างตัวบ้าน แล้วซูจิ่วซือก็นอนบนเตียงจริงๆ  กู้หลียวนนั่งอยู่ข้างกองไฟ เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกยอมรับนับถือ

 

 

เด็กสาวคนนี้ร้ายกาจจริงๆ  มิน่านางจึงก้าวมาถึงขั้นนี้ จิตใจและสติปัญญาของนางคนทั่วไปไม่อาจเทียบได้

 

 

ข้างนอกฝนตกหนัก พร้อมกับมีพายุพัดกระหน่ำ กองไฟในห้องจึงถูกลมพัดดับ ได้ยินแต่เสียงพายุและเสียงฝนตก

 

 

ซูจิ่วซือนอนไม่หลับ นางนอนบนเตียงนึกถึงเหตุการณ์นานมาแล้ว ตอนที่นางเห็นความสัมพันธ์ระหว่างกู้เหยี่ยนกับซูเหมย ก็เป็นตอนฝนตกอย่างนี้

 

 

เวลานี้ฝนตก กลับเป็นการเริ่มต้นใหม่

 

 

เวลานั้นนางเต็มไปด้วยรู้สึกสิ้นหวัง เวลานี้นางมีความหวังอย่างเต็มเปี่ยม

 

 

ในห้องไม่มีแสงไฟ คนคุ้มกันทั้งสองนั่งหลับตา กู้หลียวนหาวอย่างต่อเนื่อง แต่ก็หลับไม่ลง เขาเป็นคุณชายตระกูลสูงสุขสบายตั้งแต่เล็ก ไม่เคยลำบากมาก่อน สถานที่ลำบากอย่างนี้ เขาเพิ่งมาอยู่เป็นครั้งแรก

 

 

“จิ่วซือ ทำไมเฉินหรงไม่มีจดหมายมาเลย ทำอย่างนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน เขาไม่กลัวเจ้าจะเข้าใจผิดหรือ”

 

 

“ไม่มีก็ไม่เป็นไร ค่อยถามต่อหน้าดีกว่า”

 

 

ความจริงแล้วซูจิ่วซือเองก็แปลกใจ ฟู่เฉินหรงไม่เขียนจดหมายถึงนาง เท่าที่นางรู้จักฟู่เฉินหรง เขาน่าจะเขียนอธิบายเรื่องนี้ให้นางเข้าใจ แต่คราวนี้กลับไม่มีข่าวคราวจากเขาเลย

 

 

“เจ้าสองคนเหมาะสมกันจริงๆ  เมื่อก่อนข้าไม่รู้สึก เวลานี้ยิ่งรู้สึกว่าเจ้าสองคนเหมาะสมกันจริงๆ ”

 

 

กู้หลียวนทอดถอนใจ เมื่อก่อนเขารู้สึกว่าฟู่เฉินหรงไม่มีสายตาเสียเลย เด็กสาวอ่อนโยนน่ารักมากมายกลับไม่ชอบ ดันมาชอบซูจิ่วซือซึ่งไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกและยังโหดเ**้ยม อย่างนี้ไม่เท่ากับหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวหรือ

 

 

อีกทั้งเมื่อก่อนซูจิ่วซือไม่เคยยิ้มแย้มกับฟู่เฉินหรง ถ้าเป็นเขา คงทิ้งไปนานแล้ว แต่ฟู่เฉินหรงกลับยืนหยัด ไม่ว่าคนใกล้ชิดจะมองอย่างไร เขาก็ยังยืนยันเลือกซูจิ่วซือ

 

 

เวลานี้พอเห็นทั้งสองรักกันมั่นคงอย่างนี้ เขากลับรู้สึกอิจฉา

 

 

ฟู่เฉินหรงฟันฝ่าอุปสรรคมากมายจนเอาพิชิตใจสาวงาม ซูจิ่วซือก็เชื่อมั่นและยึดมั่นต่อเขาอย่างที่คนใกล้ชิดไม่อาจเข้าใจ นี่เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้

 

 

และเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ ฟู่เฉินหรงไม่ได้เลือกผิด เขามีสายตาที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

 

 

เขารู้สึกชื่นชมน้องสาวคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ  

 

 

ซูจิ่วซือไม่ได้โต้แย้ง พอรู้จักฟู่เฉินหรงนางจึงรู้ว่าการรักคนคนหนึ่งอย่างจริงใจเป็นอย่างไร

 

 

ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่ จู่ๆ  คนคุ้มกันที่นั่งบนพื้นก็ระแวดระวังขึ้นมาทันที ทั้งสองลืมตาขึ้นพร้อมกัน คนคุ้มกันคนหนึ่งพูดขึ้น “คุณหนู คุณชาย มีคนมา”

 

 

พอได้ยินว่ามีคนมา ซูจิ่วซือก็รีบลุกจากเตียง กู้หลียวนก็ลุกขึ้น ที่นี่มืดมิด ข้างนอกมีฝนตกหนัก ตามเหตุผลแล้วไม่น่าจะมีคนผ่านทางมา คนที่มาไม่น่าจะมีเจตนาดี