ถังซีหน้านิ่วคิ้วขมวด ถึงแม้เธอจะไม่รู้จักคุ้นเคยกับหลิวเฉิงอวี่ แต่ตามที่เซียวหงอี้และเซียวเจี่ยนพูดถึง หลิวเฉิงอวี่เป็นคนมีความสามารถ แม้ผลการดำเนินงานของหลิวกรุปจะไม่โดดเด่นมาก แต่หลิวเฉิงอวี่ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่ดี นำพาหลิวกรุปให้ผ่านพ้นปัญหาใหญ่ๆ ได้หลายครั้ง ตั้งแต่เข้ามาบริหารบริษัทเมื่อสองปีก่อน เป็นที่รู้กันกว้างขวางพอสมควรในเมือง A
เซียวหงอี้ยังคงประจบประแจงตระกูลหลิว ดูเหมือนเขายังไม่ทราบว่าหลิวกรุปกำลังจะล้มละลาย…
“คุณอยากลงทุนกับหลิวกรุปเหรอ” ถังซีมองหน้าเฉียวเหลียง เธอไม่เคยได้ยินว่าเฉียวเหลียงต้องการลงทุนกับหลิวกรุป เธอจำได้ว่าเมื่อครั้งที่เฉียวเหลียงเจอกับหลิวเฉิงอวี่ที่โรงเรียนเธอคราวก่อน ทั้งสองคนไม่ได้มีสัมพันธภาพที่ดี ทำไมเขาถึงอยากลงทุนกับหลิวกรุป
เฉียวเหลียงรินน้ำผลไม้ที่พนักงานเพิ่งยกมาเสิร์ฟให้ถังซี “ผมสนใจหุ่นยนต์อัจฉริยะที่บริษัทเขากำลังพัฒนา หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ หุ่นยนต์อัจฉริยะจะสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ในอนาคตประสิทธิภาพการทำงานของหุ่นยนต์พวกนี้เป็นยี่สิบเท่าของมนุษย์ ผมวางแผนว่าจะนำมาใช้แทนที่คนงานในโรงงานผม”
ลู่หลีเลิกคิ้ว “หุ่นยนต์มนุษย์จำลองจีเอ็นน่ะเหรอ”
เฉียวเหลียงมองหน้าลู่หลีแล้วเลิกคิ้ว “คุณรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ”
ลู่หลีคำรามเบาๆ รินไวน์แดงให้ตัวเองแล้วหมุนแก้วช้าๆ “ใช่ ผมเจอข้อมูลโครงการนี้ตอนที่ตรวจสอบข้อมูลของหลิวกรุป เมื่อไหร่ที่หุ่นยนต์มนุษย์จำลองจีเอ็นได้รับการพัฒนาสำเร็จ มันจะสามารถเข้ามาช่วยงานมนุษย์ได้ แม้จะมีข้อเสียอยู่บ้างก็ตาม”
เฉียวเหลียงพยักหน้า แล้วขมวดคิ้ว “ผมคิดไว้แล้วเรื่องนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามในเรื่องจิตใต้สำนึกหุ่นยนต์ไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้ ถึงแม้ว่าหุ่นยนต์จะค่อยๆ เริ่มเข้ามาแทนที่มนุษย์ได้มากขึ้นจริงๆ แต่ก็อาจกลายเป็นหายนะสำหรับเราในอนาคต ซึ่งประเด็นนี้ไม่สามารถหยุดผมไม่ให้ลงทุนกับโครงการพัฒนาหุ่นยนต์มนุษย์จำลองจีเอ็นเพราะนี่ยังคงเป็นยุคที่มนุษย์ควบคุมหุ่นยนต์ได้ ไม่ใช่หุ่นยนต์ควบคุมมนุษย์”
“นี่คุณล้อผมเล่นใช่ไหม” ลู่หลีจ้องมองเฉียวเหลียงด้วยความตกใจ “หากเมื่อไหร่ที่หุ่นยนต์ควบคุมมนุษย์ได้ โลกก็จะสิ้นสุด”
เฉียวเหลียงยิ้ม ถังซีขมวดคิ้วขณะคิดในใจ ‘แต่ตอนนี้ฉันก็ถูกควบคุมโดยหุ่นยนต์…’
ดูเหมือน 008 จะตรวจจับความคิดของถังซีได้ และตะโกนอยู่ในใจเธอ [นี่คุณกำลังคิดอะไร! อย่าเอาฉันไปเปรียบเทียบกับหุ่นยนต์ชั้นต่ำพวกนั้นได้ไหม ฉันเป็นระบบที่มีระดับ และมีการศึกษาสูง!]
ถังซี : ‘ใช่ คุณเป็นระบบ แต่คุณก็ควบคุมด้วยกลไกไม่ใช่หรือ เพราะฉะนั้นคุณก็เป็นหุ่นยนต์เหมือนกัน!’
008 รู้สึกโกรธ : [คุณนี่ไม่รู้อะไรสักอย่าง! แต่ฉันจะขอแนะนำอย่างหนึ่ง อย่าปล่อยให้เฉียวเหลียงร่วมมือกับหลิวกรุป เพราะโครงการนี้ไม่ใช่โครงการที่สมบูรณ์ และเมื่อหุ่นยนต์รุ่นนี้ผลิตออกมาสำเร็จ อาจเป็นประเด็นก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ ฉันไม่แนะนำให้เฉียวเหลียงเข้าร่วมในโครงการนี้]
ถังซี : ‘แค่หุ่นยนต์ จะสร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศได้ยังไง’
008 : [แล้วถ้าฉันบอกคุณว่า ต้นแบบดั้งเดิมของหุ่นยนต์นี้ถูกขโมยมาจากศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ของประเทศ M โดยแผนกออกแบบของหลิวกรุปล่ะ คุณยังคิดว่าหุ่นยนต์นี้สมควรเข้าสู่กระบวนการผลิตอยู่ไหม]
ถังซีเบิกตาโต ถามด้วยความตกใจ “คุณหมายความว่ายังไง”
เฉียวเหลียงและลู่หลีหันมามองถังซีพร้อมกันด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าถังซีตื่นเต้นมากเกินไป ลู่หลีก็นึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกไปเมื่อกี้ เขากระแอมกลบเกลื่อนแล้วอธิบายเจื่อนๆ ว่า “ผมล้อเล่นน่ะ มนุษย์มีพลังอำนาจมากพอ ที่จะยึดคืนการครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างก่อนสิ้นโลกอย่างแน่นอน”
ถังซีรู้ทันทีว่าเธอได้เอ่ยสิ่งที่อยู่ในความคิดออกมาดังๆ เธอยิ้มเขิน อธิบายว่า “เอ้อ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ ฉันหมายถึง… คือ… ดูเหมือนฉันจะได้อ่านบทวิเคราะห์ข่าวจากที่ไหนสักแห่งว่า ศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ของประเทศ M กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ตัวนี้ และวิศวกรผู้คิดค้นคือวิศวกรอาวุโสของศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์แห่งนั้น ต้นแบบดั้งเดิมของหุ่นยนต์จีเอ็นนี้มาจากไหน คุณเคยตรวจสอบหรือเปล่า”
เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว หันไปมองลู่หลี ลู่หลีลุกขึ้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะกล่าวขอโทษถังซี “ผมขอตัวไปโทรศัพท์ก่อน”
ถังซียิ้มและพยักหน้า เฉียวเหลียงก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเช่นกัน เพื่อค้นหาข้อมูลบางอย่างจากอินเทอร์เน็ต สองวินาทีต่อมาเขาก็วางโทรศัพท์ลง ถังซีมองหน้าเขาและถามว่า “หุ่นยนต์ทดแทนแรงงานคนได้จริงๆ หรือ แล้วคนที่ถูกแทนที่จะเป็นยังไง”
เฉียวเหลียงมองถังซีอย่างพินิจพิจารณา เขาคาดไม่ถึงว่าเธอจะคิดถึงปัญหานี้ เมื่อถึงเวลา แม้จะไม่มีหุ่นยนต์ คนงานในโรงงานก็จะต้องถูกแทนที่อยู่ดี คนหนึ่งมาคนหนึ่งไป นี่คือกฎของสังคม ที่เขาคิดจะเลือกใช้หุ่นยนต์ก็เพราะหุ่นยนต์มีความเสถียรมากกว่ามนุษย์ และจะไม่ออกจากงาน อย่างน้อยก็ภายในระยะวงจรชีวิตของพวกมัน
มนุษย์มีความไม่แน่นอนมากเกินไป และมนุษย์ต้องมีวันหยุดงานมากมายตลอดทั้งปี แล้วยังมีการลาป่วย ลาฉุกเฉิน หรือลาออก ด้วยเหตุผลต่างๆ นานาที่ไม่คาดคิดอยู่ตลอดเวลา แต่ในทันทีที่หุ่นยนต์เข้ามาแทนที่มนุษย์ ความไม่แน่นอนเหล่านี้จะหมดไป หุ่นยนต์จะทำงานไม่หยุดแม้แต่ในช่วงวันหยุด หุ่นยนต์ต้องการเพียงการชาร์จพลังงานและการตรวจเช็ก ไม่ว่ากรณีใดก็ตามหุ่นยนต์ไม่ต้องการพักผ่อนเลย
“มนุษย์อาจถูกแทนที่ได้ แต่มีบางสิ่งที่หุ่นยนต์ทำไม่ได้” เฉียวเหลียงมองหน้าถังซี “หุ่นยนต์ยังไม่สามารถทำสิ่งที่มีความละเอียดได้”
ถังซีเม้มริมฝีปาก “ฉันคิดว่าเหตุผลที่มนุษย์เป็นมนุษย์ก็คือ มนุษย์สามารถสร้างสรรค์ได้ แต่หุ่นยนต์ทำไม่ได้”
“ใช่” เฉียวเหลียงมองถังซี “มนุษย์แตกต่างจากหุ่นยนต์ เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป แล้วอีกอย่างผมก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช่หรือเปล่า… สิ่งที่ผมต้องการแทนที่คือคนงานในโรงงานผลิตอาวุธ เพราะสิ่งที่สำคัญคือในนั้นมีความลับมากมาย หากมีอะไรรั่วไหลออกมา ถ้าเป็นหุ่นยนต์เราสามารถทำลายและนำชิปออกมาได้ทันที แต่ถ้าเป็นคนงาน เราอาจไม่สามารถย้ายคนงานทั้งหมดออกไปได้ทันเวลา และอาจมีอุบัติเหตุระหว่างทาง หรือ… บางคนอาจทรยศเราได้ เพราะฉะนั้นแผนของผมก็คือ แทนที่คนงานทั้งหมดในโรงงานผลิตอาวุธของหลงเซี่ยวด้วยหุ่นยนต์ ยกเว้น… บุคลากรด้านเทคนิคกับงานวิจัยและพัฒนา”
ถังซียิ้ม “ฉันเข้าใจค่ะ”
เฉียวเหลียงจ้องหน้าถังซี “คุณคิดอะไรอยู่”
ถังซีส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรค่ะ ความคิดของคุณถูกต้องแล้ว ฉันไม่ได้คิดละเอียดขนาดนั้น”
“คุณกำลังสงสัยใช่ไหม ว่าทำไมเราถึงต้องเก็บโรงงานของเราไว้เป็นความลับ” เฉียวเหลียงถาม
ถังซีชะงัก จากนั้นก็มองเฉียวเหลียงและพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ใช่ค่ะ ในเมื่อหลงเซี่ยวคือนักสู้ในสนามรบระดับสากล ทำไมคุณต้องกลัวที่จะให้คนรู้ว่าศักยภาพที่แท้จริงของหลงเซี่ยวคืออะไร”
“ซีซี หลงเซี่ยวกรุปน่ะเป็นเพียงฉากหน้าขององค์การหลงเซี่ยว ผมคิดว่าคุณก็รู้เรื่องนี้”