ตอนที่ 365 องค์ชายไป๋ชินอี้

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 365

องค์ชายไป๋ชินอี้

“เจ้าเข้ามาทำอะไรที่นี่”ชิงชิวพูดพลางมองร่างของหญิงสาวนางหนึ่งที่กำลังย่องเข้ามาในสวนหน้าวังขององค์หญิงไป๋หลิน

“ทะ ท่านชิงชิว”หญิงสาวหน้าซีดเผือดพลางถอยหลังออกห่างชิงชิวทันที

“เจ้าเป็นคนรับใช้ของวังองค์ชายไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ได้”ชิงชิวถามพลางจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยใบหน้าจริงจัง

“ขะ ข้าหลงทางเจ้าค่ะ”หญิงสาวตอบพลางมองชิงชิวด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ชิงชิวแทบจะไม่ต้องเดาเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อข้อแก้ตัวปัญญาอ่อนแบบนั้นจริงๆงั้นหรือ”ชิงชิวถามพลางจับแขนของหญิงสาวคนนั้นเอาไว้แล้วล็อคตัวนางเอาไว้จากด้านหลัง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีบ่าวรับใช้จากวังขององค์ชายมษโผล่หน้าสวนขององค์หญิง นั่นเพราะวังขององค์หญิงไป๋หลินอยู่ระหว่างทางไปวังทองคำของท่านไก่ฟ้านั่นเอง พวกบ่าวรับใช้ใหม่ๆที่พึ่งเคยเห็นวังทองคำมักจะตื่นเต้นกันมาก แล้วก็จะมีพวกยับยั้งความต้องการบางไม่ได้อย่างหญิงสาวคนนี้แอบหาทางไปวังทองคอเพื่อหาอะไรกลับไปอยู่เสมอ

“เหนื่อยหน่อยนะท่านชิงชิว”นายทหารว่าพลางยิ้มร่าเมื่อได้รับตัวหญิงสาวจากชิงชิวไป เพราะปกติชิงชิวต้องประจำการอยู่ที่หน้าประตูวังขององค์หญิงมันเลยได้กลิ่นคนพวกนี้อยู่ตลอด พอมันจับได้ก็ส่งให้กรมจัดการ ส่วนมากก็จับขังคุกให้หลาบจำแล้วไล่ออกจากวังหลวงไป

“คราวหน้าให้ฝ่ายบุคคลเลือกคนดีๆหน่อยนะ”ชิงชิวถอนหายใจพลางโบกมือลาเหล่าทหารไป ในวังของอาณาจักรไป๋มีแต่ข้าวของมีค่าทั้งนั้น หากไม่คัดคนซื่อสัตว์เข้ามาจริงๆก็คงมีแต่โจรแบบนี้ล่ะ

“ขอรับ”นายทหารว่าพลางพาหญิงสาวไปที่ห้องขังในวัง

“พี่ชิว มีอะไรงั้นเหรอ”ชิงชิวยังเดินมาไม่ถึงหน้าประตูมันก็พบว่าองค์หญิงไป๋หลินเดินออกมาจากประตูเสียแล้ว

“เหมือนเดิมขอรับ”ชิงชิวตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา แทบไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ จะโทษที่วังทองคำดูดึงดูดเกินไปหรือใจคนบอบบางเกินไปดี พวกบ่าวที่อดใจไม่ไหวเลยมีมาเรื่อยๆ

“อีกแล้วเหรอ แบบนี้พี่ชิวคงลำบากน่าดู”ไป๋หลินยิ้มพลางเดินไปทางวังขององค์ชายด้วยท่าทีสบายๆ

“ช่วยไม่ได้นี่ขอรับ ยังไงก็ปล่อยพวกนั้นเข้าไปในวังทองคำไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะตายเปล่าๆ”ชิงชิวว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา นอกจากชิงชิวจะห้ามไม่ให้พวกบ่าวสิ้นคิดเข้าไปขโมยของแล้ว นับว่าชิงชิวยังช่วยชีวิตพวกมันเอาไว้อีกต่างหาก เพราะในวังทองคำนั้นนอกจากสมบัติมากมายที่ท่านไก่ฟ้าหงอนทองเอามาประดับแล้วยังมีไข่ของท่านขุนพลจื่อหนิงอีกต่างหาก ตอนนี้นางถึงกับหยุดพักงานเพื่อกกไข่ของนางเลย แถมนางยังหวงไข่มากๆถ้ามีคนเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตนางจะโจมตีทันที เมื่อถึงตอนนั้นชิงชิวเองก็คงช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกัน

“ท่านน้าไก่ฟ้าฝากมาชมท่านด้วยนะ”ไป๋หลินว่าพลางเดินเข้าไปในสวนขององค์ชาย ซึ่งในส่วนนี้ชิงชิวสามารถตามเข้าไปได้เช่นกัน

“ชินอี้”ไป๋หลินว่าพลางเดินเข้าหาเด็กผู้ชายที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่ที่กลางห้อง ไป๋ชินอี้ องค์ชายเพียงพระองค์เดียวของอาณาจักรไป๋ ท่านได้ชื่อนี้มาจากชื่อเก่าขององค์จักรพรรดิที่เคยเป็นราชวงศ์อาณาจักรชินมาก่อน และเช่นเดียวกับไป๋หลินองค์ชายเองก็เป็นองค์ชายของทั้ง 3 อาณาจักรเช่นกัน และยามนี้ท่านยังเป็นว่าที่องค์จักรพรรดิพระองค์ต่อไปด้วย

“พี่หญิง..”ไป๋ชินอี้เงยหน้าขึ้นมามองไป๋หลินด้วยใบหน้าบ้องแบ้วทำเอาไป๋หลินรีบตรงเข้าไปกอดน้องชายทันที แม้ไป๋ชินอี้จะไม่มีพลังอสูร แต่ความสามารถเดิมของบิดาอย่างความสามารถในการจดจำและความสามารถดึงดูดเหล่าอสูรนั้นมันมีอย่างพร้อมเพรียงทีเดียว ทำให้ท่านพูดได้ตั้งแต่อายุขวบกว่าๆ จนตอนนี้มันอายุ 3 ขวบแล้วถึงกับนั่งอ่านตำราได้อย่างกับเด็กโตเลยทีเดียว แถมท่านยังโปรดการอ่านพิชัยสงครามและตำนานวีรบุรุษมากทีเดียว

“ชินอี้ เจ้าอย่าเอาแต่ขลุกตัวในห้องสิ ไปฌดินเที่ยวข้างนอกกับพี่เถอะ”ไป๋หลินว่าพลางกอดร่างของชินอี้เต็มอ้อมแขน

“แต่ข้ายังอ่านไม่จบนี่นา”ไป๋ชินอี้ทำหน้ามุ่ยพลางยื่นตำราที่ตนอ่านให้พี่สาวดู

“งั้นถ้าเจ้าอ่านจบแล้วต้องไปกับพี่นะ”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มกว้าง

“ขะรับ”ไป๋ชินอี้ตอบพลางเริ่มเปิดอ่านตำราต่อ แต่ดูเหมือนไป๋หลินจะไม่ยอมปล่อยน้องชายไปง่ายๆ นางยกตัวมันขึ้นมานั่งบนตักตนเองพลางใช้มือโอบร่างของมันเอาไว้อย่างกับกอดตุ๊กตาไม่มีผิด ส่วนไป๋ชินอี้ก็เหมือนจะชินเสียแล้วมันเลยปล่อยให้พี่สาวตนเองกอดร่างของมันเอาไว้แล้วอ่านตำราต่อเงียบๆ

การอ่านตำราของคนในตระกูลไป๋นี่ช่างแปลกประหลาด ถึงชิงชิวจะเห็นสักกี่รอบก็ไม่ชิน ไม่ว่าจะองค์จักรพรรดิ องค์หญิง หรือ องค์ชาย พวกท่านไม่ได้ทำเหมือนอ่านตำรา พวกท่านทำอย่างกับนั่งพลิกตำราเล่นไปทีละหน้าเท่านั้น

“เสร็จแล้วขอรับ”ไป๋ชินอี้ตอบพลางปิดตำราลง แทบจะเป็นเรื่องปกติสำหรับคนตระกูลนี้ไปแล้วที่เปิดตำราผ่านๆแล้วไปอ่านซ้ำในความทรงจำของตนเอง

“งั้นเราไปที่ตลาดกันไหม”ไป๋หลินถามพลางยิ้มกว้าง

“ถ้าพี่หญิงอยากไปข้าก็ไม่ขัด”ไป๋ชินอี้ตอบพลางกระโดดลงมาจากตักของไป๋หลิน แม้จะพูดจาเหมือนผู้ใหญ่ แต่ร่างของไป๋ชินอี้ยังไงก็เป็นร่างของเด็ก 3 ขวบ ทำให้ขาค่อนข้างสั้นทีเดียว หากจะออกจากวังไปที่ตลาดให้ท่านเดินไปก็คงใช้เวลาอีกพักใหญ่ ไป๋หลินเลยอุ้มร่างของไป๋ชินอี้ขึ้นมาอุ้มพลางเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทีมีความสุข 3 ปีที่ผ่านมานี้ไป๋หลินติดน้องชายแจอย่างกับอะไรดี เรียกได้ว่าไป๋ชินอี้โดนพี่สาวอุ้มเกือบทุกวันจนชินไปแล้ว หวังว่าท่านจะไม่รำคาญพี่สาวขึ้นมาหรอกนะ

“องค์ชาย จะไปเดินเล่นหรือขอรับ”ทันทีที่ไป๋หลินพาไป๋ชินอี้ออกมาจากวัง เหล่าอสูรรอบๆก็เข้ามาสอบถามทันที ความจริงพวกมันก็แค่ถามไปตามระเบียบเท่านั้นเพราะพวกมันรู่อยู่แล้วว่าเวลานี้ไป๋หลินจะพาไป๋ชินอี้ออกไป

“ให้พวกเราตามไปคุ้มกันดีหรือไม่ขอรับ”อสูรที่พูดออกมานั้นคือขุนพลมังกรเขาเดียว และข้างๆมันนั้นคือเหล่าขุนพลอสูรอีก 3 ตน นอกจากขุนพลระดับบรรพกาลและขุนพลจื่อหนิงที่ลางานอยู่แล้ว พวกขุนพลอสูรต่างอยู่ที่นี่กันหมดเหมือนนัดกันมาแล้วไม่มีผิด

“ถึงบอกว่าห้ามมาพวกท่านก็จะมาอยู่แล้วนี่”ไป๋หลินว่าพลางทำแก้มป่อง ความจริงแค่ไป๋ไป่ตนเดียวก็เหลือเฟือแล้วแท้ๆ แต่เพราะพวกขุนพลโดนพลังของไป๋ชินอี้ดึงดูดเข้าอย่างจังตั้งแต่แกเกิดทำให้พวกมันพยายามติดตามไป๋ชินอี้ไปทุกที่ แม้จะไม่มีพลังอสูรแต่ความสามารถดึงดูดเหล่าอสูรขององค์ชานนั้นท่าทางจะมากกว่าพี่สาวเสียอีกกระมัง เหล่าอสูรถึงดูเอาใจไป๋ชินอี้มากกว่าไป๋หลินเสียอีก

“พวกเราเป็นห่วงความปลอดภัยขององค์ชายนะองค์หญิง”ปู่ขุนพลเต่าว่าพลางยิ้มออกมา

“พี่หญิง ให้พวกท่านขุนพลตามไปด้วยไม่ได้เหรอ”ไป๋ชินอี้ถามพลางส่งสายตาใสแป๋วมาทางไป๋หลิน

“…กะ ก็ได้”ไป๋หลินทำแก้มป่องออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก็ถ้าพวกขุนพลตามไปนางจะไม่ได้โอ๋ชินอี้เท่าไหร่นี่สิ พวกขุนพลพากันแย่งเอาใจชินอี้กันหมดเลย

การเที่ยวชมตลาดของไป๋หลินนับว่าเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วสำหรับชาวเมือง เพราะมีขุนพลอสูรเดินตามกันเป็นขบวนทำให้ไป๋หลินปกปิดใบหน้าไปก็เท่านั้น สุดท้ายก็เลยเหมือนจัดเวลาองค์หญิงพบประชาชนไม่มีผิด แต่เพราะไป๋หลินไม่ชอบให้ประชาชนเอาแต่ก้มกราบอยู่ข้างทาง นางก็เลยบอกให้ทุกคนทำตัวตามปกติ แต่ถึงจะอย่างนั้นประชาชนไม่ว่าจะมนุษย์หรืออสูรก็มีท่าทีเกรงอกเกรงใจไป๋หลินและองค์ชายกันอย่างมากอยู่ดี

“ชิงชิว เย็นนี้เจ้าว่างหรือเปล่า”ทู่เยว่พูดพลางเข้ามาเดินข้างๆชิงชิว

“ว่างขอรับ”ชิงชิวตอบพลางเลิกคิ้วขึ้น

“เย็นข้าจะฝึกทหารใหม่เสียหน่อย เจ้ามาช่วยอย่างเคยได้ไหม”ทู่เยว่ถามพลางยิ้มบางๆออกมา

“ได้ขอรับ แต่ท่านก็อย่าลืมค่าตอบแทนของข้าด้วยล่ะ”ชิงชิวยิ้มตอบพลางรับคำอย่างมั้นใจ สิ่งที่ทู่เยว่อยากจะให้ชิงชิวช่วยก็คือการฝึกตามล่าตัวศัตรูนั่นเอง ชิงชิวยามนี้มีความสามารถล่องหนหายตัว แถมยังปิดบังพลังวิญญาณและพลังอสูรได้อย่างแนบเนียนมาก เรียกได้ว่าเป็นคนที่จับตัวยากที่สุดคนหนึ่งในอาณาจักรไป๋เลยก็ว่าได้ ทำให้ทู่เยว่ขอร้องให้ชิงชิวมาช่วยฝึกให้กับทหารของตนโดยใครสามารถจับชิงชิวได้จะมีรางวัลให้นั่นเอง

ส่วนค่าจ้างของทู่เยว่นั้นเป็นสิ่งที่ชิงชิวต้องการมากถึงขั้นยอมเหนื่อยเป็นเหยื่อล่อให้พวกสาวๆของทู่เยว่ไล่ล่าเลยทีเดียว นั่นก็คือวิชาควบคุมวายุของทู่เยว่นั่นเอง

ตัวชิงชิวนั้นมีพลังธาตุลมอยู่แล้ว และได้เห็นวิธีต่อสู้ของทู่เยว่กับตา มันสวยงาม รวดเร็ว และรุนแรง สำหรับชิงชิวที่ไม่มีเกราะป้องกันหนาๆอย่างไป๋จูเหวิน การปะทะซึ่งๆหน้าไม่ใช่คำตอบของชิงชิว มันจึงอยากจะใช้ความสามารถล่องหนหายตัวที่ได้มาจากอสูรแมงมุมให้เต็มที่ มันจึงขอร้องให้ทู่เยว่สอนวิชาควบคุมวายุของนางให้กับตนเองเพื่อนำมาปรับใช้กับวิชามีดและดาบสั้นของมัน

.

.

“นั่นสินะองค์ชายของอาณาจักรไป๋”ในมุมหนึ่งของตลาดมีชายกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนชั้น 2 ของร้านอาหาร ยามนี้องค์ชายอยู่กลางตลาด แต่กลับมีกำลังคุ้มกันแน่นหนาจนน่ากลัว ทำให้กลุ่มชายหนุ่มที่นั่งมองขบวนเสด็จขององค์ชายและองค์หญิงแห่งอาณาจักรไป๋ไม่กล้าจะเข้าไปใกล้

“แบบนี้ลงมือยากจริงๆ อสูรพวกนั้นมันแข็งแกร่งเกินไป”ชายคนหนึ่งพูดพลางกัดฟันกรอด ไม่ทราบว่าทำไม แต่เหมือนคนเหล่านี้จะมององค์ชายไป๋ชินอี้ด้วยสายตาไม่ธรรมดา หากไม่มีผู้คุ้มกันอย่างพวกขุนพลอสูรละก็พวกมันคงจะลงมือได้แล้วแท้ๆ

“จะจัดการพวกนั้นก็ไม่ไหว ไม่มีตอนไหนที่องค์ชายอยู่คนเดียวบ้างหรือไง”ชายที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ริมหน้าต่างถามพลางหันมามองพวกพ้องอีก 5 คนของมัน

“ข้าได้ข่าวจากพวกที่โดนไล่ออกมาว่าตอนเช้าองค์ชายจะชอบอ่านหนังสือในห้องคนเดียว ข้าว่าเวลานั้นเป็นเวลาที่เหมาะมาก”ชายคนหนึ่งตอบพลางยิ้มออกมา

“เจ้าจะบอกให้พวกเราบุกวังหลวงหรือไง แบบนั้นมันเสี่ยงกว่าตอนนี้อีกนะ”ชายอีกคนท้วง เพราะการบุกเข้าห้องขององค์ชายมันก็ยากน้อยกว่าบุกเข้าห้ององค์จักรพรรดินิดเดียวเองไม่ใช่หรือไง

“ได้ข่าวว่าบ่าวรับใช้โดนไล่ออกไปหลายคน ถ้าพวกเราไปสมัครเข้าเป็นบ่าวรับใช้พวกเราจะเข้าไปในวังหลวงได้ และเมื่อถือช่วงเวลาที่องค์ชายอยู่คนเดียว เราก็จะลงมือ”ชายอีกคนพูดพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์

“ไม่เลว เช่นนั้นก็ต้องสมัครเข้าไปเป็นคนรับใช้ให้ได้ก่อน เจ้ามีแผนอะไรหรือไม่”ชายที่นั่งหัวโต๊ะถามพลางหันไปหาคนที่เสนอแผนออกมา

“ไม่ยาก ความรู้ของพวกเราเหนือกว่าพวกชาวบ้านที่ไปสมัครตั้งมากมาย เพราะพวกฉลาดๆไม่ไปสมัครเป็นบ่าวรับใช้หรอก”ชายคนเสนอแผนยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ