ตอนที่ 366 บุกให้ถึงตัว

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 366

บุกให้ถึงตัว

“พวกเจ้าทำคะแนนได้ยอดเยี่ยมมาก”เสียงชมจากฝ่ายบุคลากรทำให้ชายหนุ่มทั้ง 6 ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ การสอบเข้ารับงานเป็นบ่าวรับใช้ของวังหลวงนั้นง่ายมากสำหรับพวกมัน เพียงอ่านออกเขียนได้ พิสูจน์ความซื่อสัตว์และความรู้เกี่ยวกับการดูแลเชื้อพระวงก์ ซึ่งพวกมันศึกษามาก่อนที่จะเข้ามาทดสอบแล้ว

“เป็นไงล่ะลูกพี่ แผนของข้ายอดเยี่ยมไปเลยใช่หรือไม่”ชายหนุ่มหน้าตาเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอกว่าพลางยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี

“อืม ยอดเยี่ยมมากเท่านี้พวกเราก็จะได้เข้าไปในวังเสียที”ชายที่เหมือนจะเป็นลูกพี่พูดพลางพยัดหน้าด้วยท่าทียอมรับ หากได้งานพวกมันทั้ง 6 ก็จะสามารถเข้าไปในวังหลวงได้ และสามารถเข้าถึงตัวองค์ชายอย่างที่หวังเอาไว้ได้

“พวกเจ้าทำคะแนนได้ดีจริงๆ แน่ใจนะว่าจะเข้ามาทำงานเป็นบ่าวรับใช้เท่านั้น”ฝ่ายบุคลากรถามพลางมองชายทั้ง 6 ด้วยท่าทีครุ่นคิด

“เอาอย่างนี้ดีไหม ข้าจะให้เจ้าเข้ามาเป็นบัณฑิตแทน ความรู้ระดับพวกเจ้าน่าจะพอช่วยงานอย่างอื่นได้ดีกว่า”ได้ยินเช่นนั้นเหล่าชายหนุ่มทั้ง 6 ก็ส่ายหน้าพร้อมกันทันที บัณฑิตเข้าใหม่ของวังหลวงทำงานแต่ในวังส่วนนอก แบบนั้นพวกมันก็ไม่มีโอกาสเข้าหาองค์ชายนะสิ

“ไม่หรอกขอรับ ข้าชอบงานบ้านมากกว่า”ชายคนหนึ่งพูดพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา

“ใช่แล้วๆ ให้พวกเราได้เป็นบ่าวรับใช้เถอะขอรับ”ชายอีกคนรีบพูดด้วยท่าทีลนๆ ท่าทางพวกมันจะตั้งใจทำทดสอบมากเกินไปทำให้คะแนนมากเกินไปสำหรับข้ารับใช้

“แบบนั้นคงน่าเสียดาย แต่ก็เอาเถอะแล้วแต่พวกเจ้าตัดสินใจก็แล้วกัน”ฝ่ายบุคลากรว่าพลางหัวเราะออกมา

“ขอรับ ขอบพระคุณขอรับ”ชายทั้ง 6 ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ เพราะพวกมันไม่ได้สนเงินเดือนหรือตำแหน่งความมั่งคั่งในอาณาจักรไป๋เลย

“พรุ่งนี้พวกเจ้านำป้ายนี้ไปให้ยามที่หน้าประตู เก็บข้าวของเข้าไปให้เรียบร้อยล่ะ”ฝ่ายบุคลากรว่าพลางนำป้ายสำหรับผู้สอบผ่านเหมือนที่อวิ๋นอี้เคยพกให้กับพวกมัน ทำให้ชายทั้ง 6 ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เท่านี้แผนการของพวกมันก็สำเร็จไปก้าวหนึ่งแล้ว

.

.

“สวัสดี ข้าคืออวิ๋นอี้เป็นรุ่นพี่ของพวกเจ้า”อวิ๋นอี้ท่ำทงานในวังมา 2 ปีแล้วพูดพลางออกหน้ารับพวกมันทั้ง 6 อย่างกับเป็นขุนนางมาตรวจงานเองเสียอย่างนั้น

“ขอรับ”ชายทั้ง 6 ที่พึ่งเข้าวังมาเมื่อเช้าตอบพลางประสานมือคารวะอย่างนอบน้อม ตอนนี้พวกมันต้องทำตัวเหมือนบ่าวรับใช้เข้าใหม่ไปก่อน เริ่มแผ่นเมื่อไหร่พวกมันจะไม่กลับมาอีก

“วันนี้ข้าจะมอบหมายงานให้พวกเจ้าทำ ตั้งใจทำซะแล้วข้าจะคอยจับตาดูเอาไว้”อวิ๋นอี้สั่งพลางพาชายทั้ง 6 ไปทำงานในสวนแห่งหนึ่ง งานของพวกมันคือตัดแต่งต้นไม้ในสวนให้ออกมาสวยงามนั่นเอง โดยอวิ๋นอี้ที่โดนมอบหมายงานนี้มาเช่นกันยืนกอดอกสั่งพวกมันทั้ง 6 อย่างกับตนเองไม่ใช่บ่าวรับใช้

“เฮ้ ตรงนั้น ตัดให้มันได้ทรงหน่อย พุ่มไม้นี้นำเข้ามาจากต่างแดนเชียวนะ เจ้าต้องตัดมันอย่างระมัดระวัง และต้องตัดให้เรียบเสมอกัน”อวิ๋นอี้ว่าพลางชี้ไปที่ชายคนหนึ่งที่กำลังตัดแต่งพุ่มไม้ที่ปลูกให้เป็นรั้วอยู่รอบๆสวน

“แต่นี่ข้าก็ตัดเรียบแล้วนะขอรับ”ชายคนนั้นตอบพลางมองผลงานของตนเอง ไม่ว่าจะมองอย่างไรการตัดของมันก็สมบูรณ์แบบไม่ใช่หรืออย่างไร

“ตาของเจ้าคงบอดกระมัง ตัดให้มันเรียบกว่านี้”อวิ๋นอี้ว่าพลางเดินไปดูการทำงานของคนอื่นๆ ทำให้ชายคนนั้นมีท่าทีไม่ชอบใจนัก มันไม่ได้ตัดแต่งพุ่มไม้เดิมแต่อย่างไร เพียงแต่หันไปตัดพุ่มอื่นต่อเท่านั้น

“อืมดีขึ้น เห็นไหมทำตามข้าบอกก็ดีแบบนี้ล่ะ”อวิ๋นอี้ว่าพลางมองพุ่มไม้พุ่มเดิมที่มันพึ่งว่าไปหยกๆ ทำเอาชายหนุ่มได้แต่ด่าอยู่ในใจว่าเจ้าต่างหากล่ะตาบอด

“เอ้า รีบทำเข้า ถ้าเสร็จไม่ทันพวกเจ้าจะไม่ได้กินข้าวเที่ยงนะ”อวิ๋นอี้ว่าพลางเดินตรวจงานเสียรอบสวน ในกลุ่มชายทั้ง 6 พวกมันไม่มีใครหิวเลยแม้แต่คนเดียว พวกมันไม่ได้สนใจเวลาข้าวเที่ยงเลย เพราะแผนการของมันเริ่มตอนรุ่งสางเท่านั้น

“ถ้าเป็นข้างนอกข้าจะฉีกมันเป็นชิ้นๆเลย”ชายใบหน้าเจ้าเล่ห์กัดฟันกรอดพลางใช้กรรไกรตัดเล็มกิ่งต้นไม้ตามอวิ๋นอี้สั่งอย่างแสนจะอึดอัด นอกจากลูพี่ของมันแล้วมันแทบไม่รับคำสั่งคนอื่นเลย แต่ตอนนี้เจ้าบ้าที่ไหนก็ไม่รู้มาสั่งพวกมันเย้วๆราวกับเป็นพ่อบังเกิดเกล้าเสียอย่างนั้น หากไม่กลัวว่าแผนจะล่มมันจะเอากรรไกรนี่ล่ะตัดแขนขาเจ้าบ้านั่นทีละข้างเลย

“กำลังจัดสวนใหม่งั้นเหรอ”ระหว่างพวกมันทำงานอยู่ๆก็มีเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น เสียงนี้พวกมันพอจะคุ้นๆอยู่บ้าง

“พี่หญิง งั้นพวกเราไปที่สวนในวังทองคำดีหรือไม่ ข้าอยากไปเยี่ยวท่านน้าจื่อหนิงด้วย”เสียงเล็กๆขององค์ชายดังเข้ามากระทบหูพวกมันทั้ง 6 ทำให้มือของพวกมันหยุดชะงักลงพร้อมทั้งหันไปมององค์ชายกันอย่างพร้อมเพรียง

“หึหึ”ชายคนหนึ่งหัวเราะออกมาพลางกำที่จับมีดตัดแต่งต้นไม่แน่น

“ใจเย็น”หัวหน้าของพวกมันเดินเข้ามาขวางเอาไว้พลางทำท่าตัดแต่งต้นไม้ต่อ ตอนนี้ข้างหลังองค์หญิงและองค์ชายมีไป๋ไป่อยู่ด้วย พวกมันทำอะไรบุ่มบ่ามตอนนี้ไม่ได้

“องค์ชายอยู่ตรงหน้าแท้ๆ ท่านยังทนได้อีก ลูกพี่ช่างมีความอดทนจริงๆ”ชายใบหน้าเหมือนจิ้งจอกพูดพลางหายใจเข้าลึกๆ

“คิดถึงงานหลักเอาไว้ คืนนี้หากทางสะดวกพวกเราจะได้ลงมือกันทั้งหมดนี่เอง”หัวหน้ากลุ่มว่าพลางตบบ่าสหายของมันก่อนจะเริ่มกลับไปทำงานต่อ

“เอาล่ะ วันนี้พวกเจ้าพักได้”อวิ๋นอี้ที่ทั้งวันเอาแต่เดินตรวจตราความเรียบร้อยเหมือนนายใหญ่พูดพลางมองสวนที่พึ่งตัดแต่งใหม่อย่างพึงพอใจ ความจริงทั้ง 6 ทำงานไวมาก สวนนี้หัวหน้ามันให้เวลามา 3 วันจัดการให้เรียบร้อยพวกมันกลับทำเสร็จในวันเดียว ทำเอางานของอวิ๋นอี้เบาลงมากทีเดียว

.

.

กึก…. ในยามใกล้จะรุ่งสางร่างของชายคนหนึ่งในกลุ่มกระโดดวูบขึ้นมาบนหลังคาเรือนพักของเหล่าบ่าวรับใช้ ก่อนที่มันจะยืนตัวตรงแล้วมองไปรอบๆด้วยท่าทีตั้งใจ

“เป็นยังไง”หัวหน้ากลุ่มถามพลางมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนหลังคา ดวงตาของพวกพ้องมันคนนี้ยอดเยี่ยมมาก เพียงยืนจากเรือนพักของบ่าวรับใช้ก็สามารถมองเห็นวังขององค์ชายได้เลย

“มีทหารยามเดินตรวจตราอยู่บ้าง แต่ถ้าพวกเราซ่อนพลังเอาไว้แล้วเข้าไปให้ถูกจังหวะ…”ชายหนุ่มว่าพลางยิ้มออกมา ที่พวกมันสมัครเข้ามาเป็นบ่าวรับใช้ได้อย่างแนบเนียนเป็นเพราะพวกมันซ่อนพลังทั้งหมดเอาไว้เช่นเดียวกับชิงชิวนั่นเอง ทำให้พวกมันดูเหมือนคนธรรมดาอย่างมากจนฝ่ายบุคคลแยกไม่ออกเลยทีเดียว

“ดี เจ้านำไป”หัวหน้าพูดจบชายที่ทำหน้าที่เป็นดวงตาของกลุ่มก็พุ่งวาบออกจากหลังคาเรือนพักของบ่าวรับใช้ไป

ฟุบๆๆ ร่างของชายทั้ง 6 ทะยานไปในสวนของวังหลวงท่ามกลางความมืด พวกมันปิดบังพลังเอาไว้หมด แถมยังเคลื่อนไหวเบาหวิวราวกับใบไม้ลอยตามลม แถมพวกมันยังเลือกเส้นทางที่ไม่มีใครเข้ามาขัดขวางอีกต่างหาก การเข้าถึงวังขององค์ชายสมควรจะเป็นเรื่องง่ายมากแล้ว…

เปรี้ยง!!! ยังไปไม่ถึงครึ่งทางอยู่ๆชายคนหนึ่งก็กระเด็นไปข้างหลังเสียอย่างนั้น

“อะไร…”ชายคนนั้นมึนงงอย่างมาก หรือมันจะวิ่งชนต้นไม้กัน

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”ชายอีกคนว่าพลางล้มลงกับพื้น เมื่อครู่มันเหมือนโดนอะไรบางอย่างเตะขัดขาเลย

“บางทีอาจจะมีคนลอบโจมตี”ชายอีกคนว่าพลางมองไปรอบๆ แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่เจออะไรเลย

“ลูกพี่ ท่านไปก่อนเถอะ พวกเราจะหาตัวมันก่อน”ชายใบหน้าเหมือนจิ้งจอกว่าพลางหันไปรอบๆเพื่อหาตัวคนโจมตี มันเป็นใครกันแล้วทราบได้อย่างไรว่าพวกมันกำลังผ่านเส้นทางนี้

ตูม!! ร่างของชายคนหนึ่งกระเด็นไปกระแทกเข้ากับกำแพง มันยิ่งทำให้พวกมันงงเข้าไปใหญ่ หรือว่าจะเป็นการโจมตีจากระยะไกลกัน

“บ้าเอ้ย”ชายที่เป็นหัวหน้าว่าพลางออกวิ่งไปข้างหน้า อีกไม่ถึง 500 เมตรก็จะถึงวังขององค์ชายแล้วแท้ๆ แต่พวกมันกลับโดนจัวได้เสียก่อน

“แยกกันไป อย่างน้อยก็ต้องมีใครก็ได้ในพวกเราเข้าไปถึงวังขององค์ชาย”ชายคนหนึ่งพูดพลางแยกตัววิ่งออกไป เจ้าคนที่เล็งโจมตีเข้ามาคงมีเพียงคนเดียว ไม่อย่างนั้นพวกมันคงโดนโจมตีพร้อมๆกันไปแล้ว

พลัก!! ชิงชิวที่กำลังใช้ความสามารถล่องหนหายตัวอยู่นั้นได้แต่กัดฟันกรอด เจ้าพวกบ่าวรับใช้พวกนี้แปลกมาก พวกมันโดนชิงชิวโจมตีไปตั้งหลายครั้ง แต่พวกมันยังไม่มีท่าทีจะล้มเลย หรือพวกมันจะซ่อนพลังเอาไว้เหมือนกัน

ปัง! ชิงชิวเห็นท่ามันจะจัดการคนเดียวไม่ได้มันจึงยิงลูกบอลไฟขึ้นไประเบิดบนท้องฟ้าเพื่อส่งสัญญาณให้ทหารคนอื่นๆ

“ชิบหายแล้ว”ชายในกลุ่มทั้ง 6 วิ่งหนีกันจ้าละหวั่น การแยกตัวของพวกมันทำถูกแล้วเพราะชิงชิวไม่สามารถจัดการพวกมันทีเดียวได้ แต่เหล่าอสูรและองครักษ์ในวังหลวงที่แข็งแกร่งกว่าชิงชิวยังมีอีกจำนวนมาก

เปรี้ยง!!! ตูม!! โครม!! เพียงไม่กี่อึดใจหลังจากชิงชิวส่งสัญญาณขึ้นฟ้า เจ้าพวกบ่าวรับใช้จอมปลอมทั้ง 6 ก็โดนเล่นงานทีละคนอย่างรวดเร็ว พอโดนระดับยอดฝีมือโจมตีพวกมันก็รับมือไม่ไหว แสดงว่าพวกมันแข็งแกร่งกว่าชิงชิวแต่ก็ยังไม่ได้อยู่เกินระดับยอดฝีมือแต่อย่างไร บางทีอาจจะเป็นระดับเทียนเซียนขั้นต้นๆเท่านั้น

“หนอย”ชายที่เป็นหัวหน้ากลุ่มกัดฟันกรอดพลางวิ่งเข้าหาวังขององค์ชายด้วยกำลังทั้งหมด

หมับ…หางสีขาวหางหนึ่งเข้ามาพันร่างของชายที่เป็นหัวหน้าเอาไว้ ก่อนจะยกร่างมันขึ้น กำลังของหางนั่นแข็งแกร่งมากจนมันไม่อาจดิ้นหลุดได้เลย

“บ้าเอ้ย….บัดซบ”ชายที่เป็นหีวหน้ากลุ่มยื่นมือไปทางวังขององค์ชายเหมือนกำลังไขว่คว้าหาความหวัง แต่หางของไป๋ไป่ก็ไม่ปล่อยมันง่ายๆ นางเดินกลับมาหาชิงชิวและเหล่าองครักษ์ที่จับตัวผู้บุกรุกทั้ง 5 เอาไว้ก่อนแล้ว

“นี่คนสุดท้ายแล้วสินะ”ไป่ไป่ถามพลางโยนร่างของหัวหน้ากลุ่มเข้าไปในวงล้อมของเหล่าองครักษ์

“ลูกพี่ เป็นอย่างไรบ้าง เข้าถึงตัวองค์ชายหรือเปล่า”ชายคนหนึ่งในกลุ่มถามพลางมองไปทางหัวหน้าด้วยท่าทีมีความหวัง

“ไม่ ข้าทำไม่ได้”หัวหน้ากลุ่มพูดพลางก้มหน้าลงด้วยความผิดหวัง

“พวกเจ้า จะเข้ามาในวังของข้าทำไมกัน”เพราะเสียงดังโหวกเหวกข้างนอกทำให้องค์ชายไป๋ชินอี้ตื่นขึ้นมาจนได้

“อะ องค์ชาย”หัวหน้ากลุ่มว่าพลางมองไปทางองค์ชาย

“อึก….ใกล้ขนาดนี้”ชายหน้าเหมือนจิ้งจอกว่าพลางขยับเข้าไปใกล้องค์ชายมากกว่าเดิม

“องค์ชาย ข้า”ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดพลางพยายามขยับตัวเข้าไปหาองค์ชายทั้งๆที่ยังถูกมัดเอาไว้

“องค์ชาย ให้ข้าอยู่ๆใกล้ๆท่านเถอะขอรับ หะ ให้ข้าได้รับใช้ท่านเถอะขอรับ”ชายคนนั้นว่าพลางพยายามเข้าไปหาไป๋ชินอี้

“…..เจ้าพวกนี้มันอสูรนี่นา”ไป๋ไป่ว่าพลางขมวดคิ้วมองชายทั้ง 6 เจ้าพวกนี้เป็นอสูรที่อาศัยในเมืองหลวงมาตั้งนานแล้ว ท่าทางจะโดนพลังดึงดูดอสูรขององค์ชายตอนเดินเที่ยวตลาดกับไป๋หลินกระมัง