บทที่ 281 เป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

“พ่อคะ นี่คือชาที่พ่อชอบดื่มมากที่สุดค่ะ……”

“พ่อคะ นี่คือหมากรุกที่พ่อชอบเล่นที่บ้านบ่อยๆ …”

“แล้วก็มี นี่คือขนมที่พ่อชอบกินมากที่สุดค่ะ……”

ทีละอย่างๆ เธอวางไว้ตรงหน้าหลุมฝังศพ น้ำตาที่คิดว่ามันเหือดแห้งไปแล้ว แต่ตอนนี้ น้ำตาที่ราวกับน้ำพุ ก็ไหลลงมาอีกครั้ง

“ฮือๆๆ !” เธอร้องโฮ มือค้ำยันไว้กับพื้น ร้องไห้เสียงดัง ปวดร้าวไปทั้งร่างกาย ชาไปทั้งตัว

“พี่ เธอจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วนะ” เลอแปงไม่สามารถทนเห็นได้อีกต่อไป ดวงตาของเขาแดงก่ำ ปวดร้าวหัวใจ

ออกัสเองก็ยืนอยู่ท่ามกลางม่านฝน มองเธออย่างเงียบๆ ส่ายหัวพร้อมขวางเลอแปงไว้ เธอต้องการร้องอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้างแบบนี้ นี่ก็เป็นการระบายอารมณ์ออกมาอย่างเต็มที่เหมือนกัน……

โธ่เอ๊ย!เลอแปงหันหลัง ทำให้คนหงุดหงิดใจชะมัด ฟ้าไม่มีตา ผู้โชคร้ายมักจะเป็นคนดีๆ เสมอ!

ร้อง เรียก ปล่อยโฮเสร็จ ในที่สุดเชอร์รีนก็เริ่มกลับมาเหมือนเดิม เธอยืนขึ้นด้วยอาการสั่น ลากร่างกายผ่านกลางสายฝน เดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

เห็นท่าทางนั้น ออกัสก็ถอดเสื้อคลุม แล้วคลุมให้เธอ

เธอดึงเสื้อออกทันที ท่าทางนิ่งเฉย พูดออกมาสั้นๆ “คุณไปเถอะ ต่อจากนี้เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก……”

“พูดอะไรของเธอ?” เสียงของออกัสมัวหม่นราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมอกควัน แต่มือทั้งสองข้างกลับโอบเอวเธอไว้แน่น

ร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัว ในขณะที่ร่างกายกำลังสั่นไหว เชอร์รีนกลับพูดย้ำชัดออกมาอีกครั้ง “ฉันบอกว่า คุณไปซะ จากนี้ไปเราไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีก เราเลิกกัน……”

คำพูดของเธอไร้ความรู้สึกแต่หนักแน่น ฝนที่ตกหนักอย่างนี้ ทำให้เขาเปียกโชกตั้งแต่หัวไปถึงเท้า

ตราบใดที่เธอไม่หลับ เขาเธอก็กลัวจนใจเต้นรัวไม่กล้าหลับตาเช่นเดียวกัน เธอเจ็บมากเท่าไหร่ เขาเองก็รู้สึกถึงความรู้สึกนั้นเช่นเดียวกัน ในตอนนี้ดวงตาของเขาแดงฉาน เสียงของเขาสั่นเทาทำให้ใจสั่น “ถอนคำพูดซะ”

“ไม่……” เธอชักมือกลับ เช็ดน้ำฝนบนใบหน้า “คำที่พูดออกไปแล้วก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป มันเอากลับคืนได้ยังไงกัน?”

ออกัสริมฝีปากสั่น สั่นไปทั้งปาก กัดฟันแน่น “เชอร์รีน เธอทำแบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับฉันนะ!”

“แล้วใครยุติธรรมกับฉันล่ะ?” เชอร์รีนยิ้ม รอยยิ้มของเธอปนไปด้วยความโศกเศร้า เสียงแหลมคม “ถ้าไม่ใช่พ่อของคุณ ลูกของฉันจะตายได้ยังไง แล้วพ่อของฉันจะตายได้ยัง?แยกจากไปสองชีวิต แล้วเราจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง?”

ถ้าหากไม่มีสิงหา ลูกของเธอก็คงไม่ตาย พ่อก็คงไม่ต้องตาย พวกเขาคงเป็นครอบครัวที่มีความสุข!

สิงหาคือตัวการของเรื่องนี้ แต่สิงหาก็กลับเป็นของเขา!

สองสามวันมานี้ เธอคิดไม่หยุด ถ้าหากเธอแต่งงานกับองค์ชายในตอนแรก และไม่ติดต่อกับเขาอีก เหตุการณ์ทุกอย่างก็คงเปลี่ยนไปอีกแบบ!

แล้ว ถ้าตอนแรกเธอตกลงบริจาคไขกระดูก ถึงแม้ว่าจะต้องสูญเสียลูกไป แต่ก็ยังคงรักษาพ่อไว้ได้อยู่ไม่ใช่เหรอ?

เขาและเธอก็ก่อนกรรมสร้างเรื่องนี้ไว้ เป็นเธอที่ฆ่าพ่อของตัวเอง เป็นเธอเองที่ฆ่า!

เขาไม่อยากฟังที่สิ่งเธอพูดแบบนี้ออกมา ไม่อยากฟังเลยแม้แต่นิด เจ็บปวดที่หัวใจอย่างหาทางระบายไม่ได้ โน้มตัว ริมฝีปากบางจูบตรงเข้าไปที่ริมฝีปากของเธอ

ปากของเขากำลังสั่น เธอเองก็เช่นกัน สิ่งที่กระจายเข้ามากลับไร้รสหอมหวาน มีแต่ความขมขื่น จำใจ ความเจ็บปวด……

เลอแปงไม่อยากเห็น เขาหันหลัง ชุดสูทสีดำที่เหมือนตกขึ้นมาได้จากน้ำ เขาเองก็เจ็บ เจ็บปวดแทนพวกเขา

ใช้แรงทั้งหมดที่มี เชอร์รีนผลักเขาออก แล้วถอยหลังออกทีหลังก้าว “ต่อจากนี้ไป เราไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก……”

เพียงแค่เห็นหน้า เธอก็จะนึกถึงสิงหา นึกถึงพ่อที่ตายไป นึกถึงลูกที่สูญเสียไป นึกถึงสายเลือดอีกครึ่งหนึ่ง……

นึกถึงตัวเองที่เป็นตัวการของเรื่องนี้!

เลอแปงเดินข้ามไปข้างหน้าพี่ชาย ดึงแขนเธอไว้ “ขึ้นรถ”

“ไม่ต้อง ฉันเดินเองได้……” เธอดึงแขนเขาออกเบาอย่างแน่วแน่โดยไม่ลังเล

“ตอนนี้แม้แต่ในฐานะนักเรียนก็ไม่คิดจะรู้จักผมเลยเหรอครับ?ที่นี่เปลี่ยวนะ ไม่มีรถ แถมฝนยังตกหนักขนาดนี้ ต่อให้ใช้เวลาทั้งคืน คุณว่าจะเดินไปถึงในเมืองได้เหรอครับ?แล้วซารางล่ะ ใครจะดูแล?”

ได้ยินถึงซาราง เธอขยับตาเล็กน้อย ปล่อยให้เลอแปงพาเธอไปที่รถอย่างเงียบๆ

ออกัสยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ มองคนสองคนที่หายไปจากสายตา ทีละนิด จนมองไม่เห็นในที่สุด

หัวของเขาเปียกโชก น้ำฝนไหลผ่านใบหน้า ไหลผ่านจมูกโด่ง และริมฝีปาก

เดินเข้าไปที่หลุมฝังศพ ร่างสูงของเขาทรุดตัวลง นั่งลงบนพื้น ปล่อยให้น้ำฝนสาดท่วมลงมาบนร่างของเขา หลับตาลงแน่นสนิท

ระหว่างถึงบ้าน น้ำฝนบนตัวเธอไหลลงพื้นจนเปียก ซารางเองก็ร้องไห้มาสองสามวันแล้ว ร้องโวยวายเรียกหาคุณตา

เมื่อเห็นเธอกลับมา กนกอรก็หยิบของบางอย่างข้างๆ เธอแล้วทุบ “ไป!ไป!เธอไปให้พ้นหน้าฉัน!”

“แม่!” เธอร้องเสียงเบาด้วยความเจ็บปวด

“ยังไม่ไปอีก!แกอยากเห็นฉันตายต่อหน้าแกหรือยังไง!ได้เห็นฉันตายต่อหน้าแก ถึงจะสาแก่ใจแก ใช่ไหม?ฉันไม่ให้แกคบกับมันตั้งแต่แรก แต่แกก็ยึดมั่นตามใจตัวเอง!”

กนกอรรับไม่ได้กับการจากไปที่เกิดขึ้นของจักรกฤษ ร่างกายของเธอแทบจะพังทลาย สติเองก็แตกกระจายตาม

หน้าผากที่โดนทุบตีมีเลือดไหลออกมา เชอร์รีนไม่หลบหนี ซารางที่วิ่งมาร้องไห้แงเสียงดัง

แต่เดิมช่างเป็นครอบครัวที่กลมกลืน เพียงแค่พริบตาเดียว กลับกลายเป็นสภาพอย่างวันนี้

กัดริมฝีปากล่างไว้แน่น เต็มไปด้วยเลือดทั่วทั้งปาก ความขมขื่นมากขึ้นเต็มไปทั่วท้อง เจ็บปวดมากขึ้นไปอีก

ถึงแม้ว่าเธอจะถูกรับมาเลี้ยง แต่จักรกฤษกลับถือว่าเป็นโลกทั้งใบตรงหน้าเธอ แต่ สิ่งที่เธอตอบแทนเขากลับกลายเป็นไม้ตาย

เธอไม่กล่าวโทษแม่หรอก โทษแค่เธอเอง โทษตัวเธอเอง……

หลังจากกอดซารางเสร็จ เธอก็อดไม่ได้ที่จะกระตุ้นกนกอรอีกครั้ง หันกลับมา จากไป มีพี่อยู่ เขาดูแลแม่ได้

ไร้สิ้นจุดหมาย แต่กลับไม่มีที่ที่เธอจะสามารถไปได้

แต่ ไม่ได้ เธอจะให้พ่อเธอตายไปแบบสูญเปล่าไม่ได้ เป็นไปไม่ได้……

ณ ตอนนี้ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมา คือนาโน “เธออยู่ไหน ฉันจะไปรับ”

ยังไงเธอก็ไม่มีที่จะไป เธอมองไปรอบๆ บอกสถานที่ หลังจากนั้นก็ไปยืนอยู่ที่มุมถนนมืดๆ โอบกอดซาราง

ไม่กี่วันมานี้ซารางผอมไปมาก ช่วงนี้ไม่มีใครดูแลเธอ คางแหลมมากขึ้น ยื่นมือกำที่มุมเสื้อของเธอ “แม่คะ แม่ทะเลาะกับคุณยายเหรอคะ?คุณยายทุบแม่ทำไมคะ?”

“แม่ทำผิดลูก แม่สมควรโดนแล้ว”

“แล้วคุณตาล่ะคะ?คุณป้าบอกว่าต่อจากนี้ไปเราจะไม่ได้เจอคุณตาอีก คุณตาสัญญากับหนูอีกด้วยว่าจะซื้อของเล่นมาให้ แม่คะ หนูคิดถึงคุณตา!”

เพียงแค่ประโยคนี้ เชอร์รีนก็น้ำตาร่วง หน้าอกของเธอราวกับถูกคว้าแล้วกำไว้แน่นๆ เจ็บ เจ็บมาก เธอเองก็คิดถึง……

แต่คิดไม่ถึงแล้ว ตอนที่เธอออกจากบ้าน เธอหยิบแก้วที่พ่อใช้ดื่มบ่อยที่สุดออกมาด้วย

ครึ่งชั่วโมงต่อมา นาโนมาถึง เห็นท่าทางเชอร์รีน เธอถอนหายใจออกมาเฮือกยาว

นี่แค่เวลาไม่กี่วัน เธอผอมซูบลงไปมาก เห็นแล้วทำให้รู้สึกปวดใจอย่างมาก แค่ตอนนี้เธอก็ลำบากใจมากพอแล้ว เธอจะไม่เพิ่มเรื่องลำบากใจให้มากขึ้นไปอีก

“ดูสิเธอลดน้ำหนักเก่งนะ หยางกุ้ยเฟยก็สวยแล้ว ทำไมต้องสวยแบบติดกระดูกด้วยล่ะ?” นาโนผู้ที่ไม่เคยสามารถพูดคำที่นุ่มนวลและปลอบโยนได้

เธอเองก็อยากปลอบใจเธอ เธอจะได้ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น ทำให้เธอไม่ต้องเศร้าใจ แต่เธอทำไม่เป็น