ตอนที่ 472 เทศกาลแห่งความรักของพวกเรา / ตอนที่ 473 นางฟ้า

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 472 เทศกาลแห่งความรักของพวกเรา

 

 

           มันมาจากหุบเขานาปาของแคลิฟอร์เนีย มีราคาแพงมากและยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะเอามันออกมาขาย

 

 

           “ขวดนี้เป็นสมบัติส่วนตัวของผม” เจ้าของร้านเห็นว่าฉู่เจียเสวียนมองไวน์ขวดนั้น รีบอธิบาย เขาไม่ต้องการให้คนเข้าใจผิดว่าเขาซื้อไวน์ปลอม

 

 

           “ขอบคุณบอสที่กรุณา” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวขอบคุณเจ้าของร้านอย่างมีมารยาท

 

 

           “ขอให้พวกท่านทานอาหารให้อร่อยนะครับ” เจ้าของร้านพูดจบ ก็สั่งให้บริกรถอยออกไป

 

 

           กลิ่นหอมเข้มข้นกระจายไปทั่วโต๊ะอาหาร เผยหนานเจวี๋ยนั่งลงตรงข้ามฉู่เจียเสวียน ทั้งสองคนสบสายตากันโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นก็รีบหลบสายตาอย่างรวดเร็ว

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยลุกขึ้นมาอย่างสุภาพบุรุษ รินไวน์ให้กับฉู่เจียเสวียน เมื่อก่อนบริกรจะเป็นคนทำสิ่งเหล่านี้ แต่เผยหนานเจวี๋ยบอกกับเจ้าของร้านว่าไม่ต้องการบริการใดๆ

 

 

           ดังนั้นงานบริการเหล่านี้จึงกลายเป็นหน้าที่ของเขา

 

 

           ก่อนหน้านี้ ฉู่เจียเสวียนไม่มีทางที่จะจินตนาการได้ว่าเผยหนานเจวี๋ยจะรับใช้ผู้อื่น เขาอยู่สูงเหนือสิ่งอื่นใดเสมอ ท่าทางเหมือนเจ้านายมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จะเหมือนวันนี้ที่ไหนกัน

 

 

           เธอได้รู้จักเขาในอีกระดับหนึ่งจริงๆ

 

 

           วันนี้เผยหนานเจวี๋ยแปลกเกินไปแล้วจริงๆ ฉู่เจียเสวียนสงสัยว่าผู้ชายที่ยิ้มอยู่ตรงหน้าใช่เผยหนานเจวี๋ยจริงๆ หรือเปล่า หรือว่าเป็นแค่คนที่หน้าตาคล้ายเขา

 

 

           “ไวน์นี้หาซื้อไม่ได้ง่ายๆ เลยนะ คุณต้องลองชิม” เสียงทุ้มต่ำนุ่มนวลของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น ทำลายอาการเหม่อลอยของเธอ ดึงเธอกลับสู่ความเป็นจริง

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้น ‘ตึกตักๆ’ เผยหนานเจวี๋ยที่มีเสน่ห์แบบนี้ไม่มีทางไม่ทำให้คนหวั่นไหว และไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเห็นใบหน้าของฉู่เจียเสวียนที่แดงก่ำ รอยยิ้มในดวงตายิ่งกว้างขึ้น เขาจะใช้การโจมจีอันอ่อนโยน เพื่อมัดใจฉู่เจียเสวียนทีละน้อยๆ

 

 

           “ขอบคุณค่ะ” ดึงสติกลับมา ฉู่เจียเสวียนกล่าวขอบคุณอย่างมีมารยาท

 

 

           เสียงดนตรีในร้านอาหารดังขึ้น มันคือเพลง ‘เปียโนบริสุทธิ์’ ที่ฉู่เจียเสวียนโปรดปราน เธอเงยหน้ามองเผยหนานเจวี๋ย เขารู้ได้ยังไง

 

 

           รู้สึกได้ถึงแววตาของฉู่เจียเสวียน มุมปากของเขายกยิ้มขึ้น รอยยิ้มนั้นเผยความหมายที่ยากจะเดา เขาตั้งใจจัดการเรื่องพวกนี้ทั้งหมด ท่าทางผลที่ได้ไม่เลวเลย

 

 

           “วันนี้เป็นวันที่เจ็ดเดือนเจ็ด[1] ตามตำนานของเมืองจีน พวกเรามาฉลองให้กับเทศกาลทานาบาตะกันเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว ยกแก้วไวน์ในมือให้ฉู่เจียเสวียน ตั้งในดเน้นคำว่าทานาบาตะมาก ราวกับต้องการเตือนเธอว่าวันนี้เป็นวันแห่งความรัก

 

 

           ก็แค่เป็นวันทานาบาตะ เขาเริ่มใส่ใจกับวันพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน ฉู่เจียเสวียนมองเผยหนานเจวี๋ยแล้วยิ่งไม่เข้าใจ

 

 

           จำได้ว่าเขาไม่เคยฉลองเทศกาลแบบนี้มาก่อน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนชนแก้วกับเผยหนานเจวี๋ย เสียงแก้วที่ชนกันทำให้เกิดเสียงที่คมชัด

 

 

           หลังจากทั้งสองคนจิบไวน์คนละคำแล้วก็วางแก้วลง เริ่มหั่นเนื้อสเต๊กในจาน ที่จริงเธอหิวเล็กน้อย เธอใช้เวลาไปกับงานทั้งเช้า วันนี้เพราะท้องมีปัญหานิดหน่อย เธอจึงกินข้าวเช้าไปเพียงไม่กี่คำ

 

 

           “กินของผมสิ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยขณะที่ฉู่เจียเสวียนกำลังก้มหน้า ส่งเนื้อวัวที่ตัวเองหั่นเรียบร้อยแล้วไปให้ฉู่เจียเสวียน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนถือมีดและส้อมไม่ขยับเขยื้อน เงยหน้ามองเผยหนานเจวี๋ย แววตาเปี่ยมไปด้วยความงุนงง เผยหนานเจวี๋ยที่เป็นแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สมจริงเลย

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยไม่รอให้ฉู่เจียเสวียนตอบสนอง ยกเนื้อสเต๊กตรงหน้าของเธอแล้วสลับกัน

 

 

 

 

[1] วันที่เจ็ดเดือนเจ็ด วันวาเลนไทน์ของจีน และ เทศกาลทานาบาตะของญี่ปุ่น

 

 

 

 

       ตอนที่ 473 นางฟ้า

 

 

           ฉู่เจียเสวียมองสเต๊กตรงหน้าด้วยความอึดอัด ไม่รู้ว่าควรจะลงมือกินหรือเปล่า

 

 

           “ไม่ต้องห่วง ผมยังไม่ได้กิน” เห็นเธอที่ขมวดคิ้ว เผยหนานเจวี๋ยเอ่ย แววตาอ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด

 

 

           พูดจบ เผยหนานเจวี๋ยก็ก้มหน้าหั่นเนื้อวัวต่อ ฉู่เจียเสวียนมองดูเผยหนานเจวี๋ยที่อยู่ตรงหน้า เมื่อนึกถึงความอ่อยโยนในสายตาของเขา ก็ไม่กล้ามองตาเขา

 

 

           จู่ๆ ก็นึกถึงประโยคหนึ่ง ผู้ที่ใจดีอย่างไม่อาจปฏิเสธได้มักซ่อนเจตนาชั่วร้าย

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเห็นว่าฉู่เจียเสวียนไม่ยอมกินอยู่นาน อดไม่ได้ที่จะคาดเดาความคิดในใจของฉู่เจียเสวียน เธอกลัวอะไร เขาอ่อนโยนกับเธอเพียงนี้ หรือว่าเธอไม่ชอบเหรอ

 

 

           ในที่สุดหลังจากฉู่เจียเสวียนครุ่นคิดแล้ว ก็ยังตัดสินใจกิน ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ต้องหั่นเอง ทำไมเธอถึงไม่มีความสุขล่ะ

 

 

           เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางความเงียบงันของทั้งคู่ เพลงที่ผ่อนคลายในร้านอาหารทำให้ฉู่เจียเสวียนรู้สึกสะลึมสะลือหลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว เธอก็รู้สึกไร้ชีวิตชีวาทันใด

 

 

           เมื่อคืนเธอก็นอนไม่หลับ ตอนนี้เมื่อกินอิ่มแล้วรู้สึกว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงทั่วร่างกายอ่อนล้า

 

 

           ในขณะที่ฉู่เจียเสวียนกำลังเซื่องซึมอยู่นั้น ไฟในร้านอาหารก็ดับลงทันใด ฉู่เจียเสวียนตกใจ จู่ๆ ก็มีพลังขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

           กวาดตามองรอบข้างอย่างตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกาย สามารถมองเห็นดวงตาที่แวววับของเผยหนานเจวี๋ยเลือนลาง

 

 

           ยังไม่ทันพูด ลำแสงก็ส่องสว่างขึ้นในความมืด จากนั้น แต่ละลำแสงค่อยๆ ปรากฏตัวในตำแหน่งที่แตกต่างกัน กลายเป็นทรงรูปหัวใจอีกครั้ง นี่คือเซอร์ไร้ที่เผยหนานเจวี๋ยเตรียมการไว้แล้ว

 

 

           เพื่อให้การสร้างเอฟเฟกต์ในตอนกลางวันมีผลในเวลากลางคืน ผ้าม่านของร้านอาหารทั้งหมดจึงถูกปลดลงและไม่อนุญาตให้แสงใดๆ เล็ดลอดเข้ามา

 

 

           ทันใดนั้นบริกรก็เดินเข็นรถเข้ามา บนรถเข็นมีเทียนปักอยู่ ฉู่เจียเสวียนสามารถมองเห็นกล่องหนึ่งเลือนลางภายใต้แสงเทียน

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยรีบหยิบกล่องของขวัญขึ้นมาแล้วเปิดกล่องออก ภายใต้แสงเทียนนั้น ฉู่เจียเสวียนมองเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่องอย่างชัดเจน

 

 

           นั่นเป็นผลงานชิ้นเอกของนักออกแบบในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ สร้อยข้อมือ ‘นางฟ้า’ คำสาบานโรแมนติกที่จะรักเพียงคนเดียวตลอดชีวิต

 

 

           ภายใต้แสงเทียน เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนด้วยความรักลึกซึ้ง ลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหาฉู่เจียเสวียน มองเธอแล้วพูดด้วยความจริงจัง “ได้โปรดยอมรับพรที่จริงใจที่สุดของผม จิตวิญญาณของคุณเข้ากับนางฟ้านี้มาก คุณก็เป็นเหมือนกับดวงดาวที่เปล่งประกาย” ฉู่เจียเสวียนคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าสักวันหนึ่งเขาจะนำความรักของเขามาใช้กับเธอ อีกทั้งยังพูดได้อย่างหอมหวานด้วย

 

 

           เพื่อนัดครั้งนี้แล้ว เผยหนานเจวี๋ยได้การวางแผนทั้งหมดนี้อย่างรอบคอบเป็นเวลานาน เขาทั้งซื้อสร้อยข้อมือของนางฟ้าในราคาสูง เหมือนกับว่าเธอคือนางฟ้าในใจเขาอย่างไรอย่างนั้น

 

 

           ถ้าหากเป็นผู้หญิงคนอื่น เชื่อว่าจะต้องควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่แล้วโผเข้ากอดเขานานแล้ว

 

 

           แต่ว่าฉู่เจียเสวียนไม่เหมือนกัน เธอไม่ทำแบบนั้น เผยหนานเจวี๋ยทำให้หัวใจของเธอแตกสลายนานแล้ว สำหรับเขาแล้วมันถูกแช่แข็งมาเป็นเวลานาน เธอจะถูกเขาล่อลวงด้วยสำนวนดอกไม้นี้ได้อย่างไร?

 

 

           ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เธอคิดว่าเธอจะต้องซาบซึ้งจนหลั่งน้ำตาอย่างแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ หัวใจของเธอก็แค่เต้นเบาๆ สองครั้ง แล้วไม่มีความรู้สึกอื่นอีก

 

 

           “ขอบคุณค่ะ” ฉู่เจียเสวียนรับของขวัญที่เผยหนานเจวี๋ยมอบให้เธอ พร้อมกล่าวขอบคุณอย่างนอบน้อม

 

 

           แม้ว่าเธอไม่ต้องการรับของขวัญราคาแพงเช่นนี้ แต่เขาก็ตั้งใจทำนานขนาดนั้น ถ้าหากไม่รับก็ดูเหมือนจะไม่ไว้หน้าหรือเปล่า ยิ่งไปกว่านั้นเผยหนานเจวี๋ยจะทำให้เธอยอมรับอย่างแน่นอน

 

 

       ตอนที่ 473 นางฟ้า

 

 

           ฉู่เจียเสวียมองสเต๊กตรงหน้าด้วยความอึดอัด ไม่รู้ว่าควรจะลงมือกินหรือเปล่า

 

 

           “ไม่ต้องห่วง ผมยังไม่ได้กิน” เห็นเธอที่ขมวดคิ้ว เผยหนานเจวี๋ยเอ่ย แววตาอ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัด

 

 

           พูดจบ เผยหนานเจวี๋ยก็ก้มหน้าหั่นเนื้อวัวต่อ ฉู่เจียเสวียนมองดูเผยหนานเจวี๋ยที่อยู่ตรงหน้า เมื่อนึกถึงความอ่อยโยนในสายตาของเขา ก็ไม่กล้ามองตาเขา

 

 

           จู่ๆ ก็นึกถึงประโยคหนึ่ง ผู้ที่ใจดีอย่างไม่อาจปฏิเสธได้มักซ่อนเจตนาชั่วร้าย

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเห็นว่าฉู่เจียเสวียนไม่ยอมกินอยู่นาน อดไม่ได้ที่จะคาดเดาความคิดในใจของฉู่เจียเสวียน เธอกลัวอะไร เขาอ่อนโยนกับเธอเพียงนี้ หรือว่าเธอไม่ชอบเหรอ

 

 

           ในที่สุดหลังจากฉู่เจียเสวียนครุ่นคิดแล้ว ก็ยังตัดสินใจกิน ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ต้องหั่นเอง ทำไมเธอถึงไม่มีความสุขล่ะ

 

 

           เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางความเงียบงันของทั้งคู่ เพลงที่ผ่อนคลายในร้านอาหารทำให้ฉู่เจียเสวียนรู้สึกสะลึมสะลือหลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว เธอก็รู้สึกไร้ชีวิตชีวาทันใด

 

 

           เมื่อคืนเธอก็นอนไม่หลับ ตอนนี้เมื่อกินอิ่มแล้วรู้สึกว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงทั่วร่างกายอ่อนล้า

 

 

           ในขณะที่ฉู่เจียเสวียนกำลังเซื่องซึมอยู่นั้น ไฟในร้านอาหารก็ดับลงทันใด ฉู่เจียเสวียนตกใจ จู่ๆ ก็มีพลังขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

           กวาดตามองรอบข้างอย่างตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกาย สามารถมองเห็นดวงตาที่แวววับของเผยหนานเจวี๋ยเลือนลาง

 

 

           ยังไม่ทันพูด ลำแสงก็ส่องสว่างขึ้นในความมืด จากนั้น แต่ละลำแสงค่อยๆ ปรากฏตัวในตำแหน่งที่แตกต่างกัน กลายเป็นทรงรูปหัวใจอีกครั้ง นี่คือเซอร์ไร้ที่เผยหนานเจวี๋ยเตรียมการไว้แล้ว

 

 

           เพื่อให้การสร้างเอฟเฟกต์ในตอนกลางวันมีผลในเวลากลางคืน ผ้าม่านของร้านอาหารทั้งหมดจึงถูกปลดลงและไม่อนุญาตให้แสงใดๆ เล็ดลอดเข้ามา

 

 

           ทันใดนั้นบริกรก็เดินเข็นรถเข้ามา บนรถเข็นมีเทียนปักอยู่ ฉู่เจียเสวียนสามารถมองเห็นกล่องหนึ่งเลือนลางภายใต้แสงเทียน

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยรีบหยิบกล่องของขวัญขึ้นมาแล้วเปิดกล่องออก ภายใต้แสงเทียนนั้น ฉู่เจียเสวียนมองเห็นสิ่งที่อยู่ในกล่องอย่างชัดเจน

 

 

           นั่นเป็นผลงานชิ้นเอกของนักออกแบบในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ สร้อยข้อมือ ‘นางฟ้า’ คำสาบานโรแมนติกที่จะรักเพียงคนเดียวตลอดชีวิต

 

 

           ภายใต้แสงเทียน เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนด้วยความรักลึกซึ้ง ลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหาฉู่เจียเสวียน มองเธอแล้วพูดด้วยความจริงจัง “ได้โปรดยอมรับพรที่จริงใจที่สุดของผม จิตวิญญาณของคุณเข้ากับนางฟ้านี้มาก คุณก็เป็นเหมือนกับดวงดาวที่เปล่งประกาย” ฉู่เจียเสวียนคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าสักวันหนึ่งเขาจะนำความรักของเขามาใช้กับเธอ อีกทั้งยังพูดได้อย่างหอมหวานด้วย

 

 

           เพื่อนัดครั้งนี้แล้ว เผยหนานเจวี๋ยได้การวางแผนทั้งหมดนี้อย่างรอบคอบเป็นเวลานาน เขาทั้งซื้อสร้อยข้อมือของนางฟ้าในราคาสูง เหมือนกับว่าเธอคือนางฟ้าในใจเขาอย่างไรอย่างนั้น

 

 

           ถ้าหากเป็นผู้หญิงคนอื่น เชื่อว่าจะต้องควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่แล้วโผเข้ากอดเขานานแล้ว

 

 

           แต่ว่าฉู่เจียเสวียนไม่เหมือนกัน เธอไม่ทำแบบนั้น เผยหนานเจวี๋ยทำให้หัวใจของเธอแตกสลายนานแล้ว สำหรับเขาแล้วมันถูกแช่แข็งมาเป็นเวลานาน เธอจะถูกเขาล่อลวงด้วยสำนวนดอกไม้นี้ได้อย่างไร?

 

 

           ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เธอคิดว่าเธอจะต้องซาบซึ้งจนหลั่งน้ำตาอย่างแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ หัวใจของเธอก็แค่เต้นเบาๆ สองครั้ง แล้วไม่มีความรู้สึกอื่นอีก

 

 

           “ขอบคุณค่ะ” ฉู่เจียเสวียนรับของขวัญที่เผยหนานเจวี๋ยมอบให้เธอ พร้อมกล่าวขอบคุณอย่างนอบน้อม

 

 

           แม้ว่าเธอไม่ต้องการรับของขวัญราคาแพงเช่นนี้ แต่เขาก็ตั้งใจทำนานขนาดนั้น ถ้าหากไม่รับก็ดูเหมือนจะไม่ไว้หน้าหรือเปล่า ยิ่งไปกว่านั้นเผยหนานเจวี๋ยจะทำให้เธอยอมรับอย่างแน่นอน