ตอนที่ 320 เจียงมู่เฉินสู้กลับ / ตอนที่ 321 เจอเข้ากับซือเหยี่ยน

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 320 เจียงมู่เฉินสู้กลับ

 

 

           “งั้นมีคนที่เป็นผู้รับผิดชอบใหญ่ของที่นี่ได้อะไรเทือกนั้นอยู่หรือเปล่า ฉันมีธุระจะหาเขาหน่อย”

 

 

           ซังจิ่งเองก็ไม่โกรธ เขายกยิ้มมุมปากขึ้น “คุณชายน้อยของพวกนายจับเพื่อนของฉันไป นายว่าฉันต้องเจอเขาไหมล่ะ”

 

 

           “นายพูดจาอะไรมั่วๆ ของนาย”

 

 

           “พี่ใหญ่ พี่พล่ามอะไรกับเขาอยู่” ข้างๆ มีผู้ชายห่ามๆ หยาบๆ คนหนึ่งเดินออกมา “คุณชายน้อยของพวกเราไม่อยู่ ต่อให้อยู่ก็เจอนายไม่ได้ รีบไสหัวไปซะ”

 

 

           ซังจิ่งแววตาประกายความโกรธ

 

 

           เขายิ้มหัวเราะ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ดูท่าว่าจะพูดจาเคลียร์กันดีๆ ไม่ได้แล้ว” เขาเอียงหน้ามองคนที่อยู่ด้านหลัง

 

 

           กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังเข้าใจความหมายของไป๋จิ่งในเพียงพริบตาเดียว

 

 

           คนจำนวนนั้นพุ่งตัวเข้าไปตะลุมบอนอัดใส่คนที่อยู่หน้าประตูทันที

 

 

           ท่านเชนเห็นเหตุการณ์แล้ว ก็เร่งตามเข้าไปติดๆ จากตำแหน่งที่ไม่ไกลนัก เข้าร่วมฉากการต่อสู้ คนหน้าประตูและคนที่เฝ้าอยู่ข้างในทั้งหมดต่อสู้กันเป็นกลุ่มใหญ่ ยุ่งวุ่นวายจนไม่ไหว

 

 

           ท่านเชนอาศัยช่วงเวลาจลาจลเข้าไปข้างในตามเส้นทางที่ซือเหยี่ยนบอก  มุ่งหน้าตามหาเจียงมู่เฉิน

 

 

           เจียงมู่เฉินยังถูกขังอยู่ในห้องสีดำเล็กๆ หน้าประตูมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ต่อมาประตูก็ถูกเปิดออก

 

 

           เจียงมู่เฉินหรี่ตาลงมอง ตอนที่คนคนนั้นเปิดประตูมา เขานั่งคุกเข่าขดตัวอยู่ด้านข้าง ราวกับกำลังสลบไสลอยู่อย่างไรอย่างนั้น

 

 

           คนมาส่งข้าวเห็นเจียงมู่เฉินแน่นิ่ง ในใจก็นึกสงสัย เขาไม่เหมือนปกติที่เป็น จึงรีบวางของแล้วออกไปทันที

 

 

           คนมาส่งข้าวลังเลสองจิตสองใจอยู่ครู่หนึ่ง นึกถึงงานที่ซูเตอร์มอบหมาย ให้เขาติดตามสถานการณ์ของเจียงมู่เฉินอย่างใกล้ชิด

 

 

           คิดได้แบบนี้ สุดท้ายเขาก็เดินเข้าไปจนได้

 

 

           เขายื่นมือไปสะกิดเจียงมู่เฉิน “นี่…”

 

 

           เจียงมู่เฉินยังคงแน่นิ่ง คนคนนั้นอดจะวางความระแวงลงไม่ได้ นั่งยองๆ ลงไปเตรียมจะดูสถานการณ์ของเจียงมู่เฉินอย่างละเอียด

 

 

           และเวลานี้เอง เจียงมู่เฉินลืมตาขึ้นมากะทันหัน ใช้มือตีเข้าที่ท้ายทอยเขาทันที

 

 

           คนคนนั้นอ้าปากยังไม่ทันพูดออกมา ก็ถูกเจียงมู่เฉินตีจนแน่นิ่งอยู่บนพื้น

 

 

           เจียงมู่เฉินจัดการเขาเสร็จ กำลังจะเตรียมปฏิบัติการตามแผนที่สอง คือการล่อคนเฝ้าประตูเข้ามา จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงอึกทึกโครมครามระลอกหนึ่งจากทางประตูเข้ามา

 

 

           เขาได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ จึงรีบยืนขึ้นหลบที่ประตูทันที ตอนที่มีคนจะเข้ามา ก็เตรียมจะตีเขาให้สลบทันที

 

 

           เสียงฝีเท้ายิ่งเข้าใกล้มาเรื่อยๆ แสงสว่างจากข้างนอกสะท้อนเงาเข้ามา เจียงมู่เฉินกำมือแน่นเหลือบมองหาจังหวะเหมาะสมเตรียมจะลงมือ

 

 

           เสี้ยวเวลาที่ประตูถูกเปิดออก เขาเหวี่ยงหมัดออกไปในทันใด กลับโดนคนกันเอาไว้

 

 

           พอเจียงมู่เฉินเห็นก็รีบดึงประตู แล้วต่อยเขาอย่างหนักหน่วงรุนแรงไปสองหมัด

 

 

           จนคนโดนตีจนขยับร่างกายไม่ได้แล้ว เจียงมู่เฉินถึงได้ละมือออก เขาพลิกมือมาล็อคประตู มุ่งหน้าออกไปตามทางแคบๆ

 

 

           เนื่องจากการโจมตีสองรอบเมื่อครู่ ทำให้บาดแผลของเขาฉีกขาด เลือดแดงฉานไหลซึมออกมา

 

 

           เจียงมู่เฉินเจ็บจนสีหน้าซีดเผือด เขาไม่ทันดูสภาพของบาดแผล รีบวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างระมัดระวัง

 

 

           ยิ่งขึ้นไป ยิ่งได้ยินเสียงก่อจลาจล เจียงมู่เฉินแปลกใจไม่เบา ใครจะมาหาเรื่องที่นี่ได้

 

 

           เขาหลบหลีกตามทางอย่างระมัดระวัง พอเดินไปถึงชั้นหนึ่ง เพิ่งจะขึ้นไปก็เห็นโถงใหญ่ยุ่งเหยิงวุ่นวายกันเป็นกลุ่มใหญ่ คนสองฝ่ายกอดรัดฟัดเหวี่ยงต่อสู้กันไม่ห่าง

 

 

           คนไม่กี่คนเห็นเขาเลือดออกท่วมตัววิ่งออกมา ก็กรูกันเข้าไป

 

 

           เจียงมู่เฉินยกเท้าถีบคนหนึ่งจนล้ม แผลฉีกอีกพอดี เขาทรุดลงกับพื้น ลุกขึ้นไม่ไหว

 

 

           ด้านข้างมีอีกคนพุ่งเข้ามา เจียงมู่เฉินคิ้วขมวด ลุกขึ้นเบี่ยงหลบอย่างยากลำบาก

 

 

           แต่ละคนเข้ามาออกไปเรื่อยๆ จนทำเขาเสียแรงไปเยอะมากแล้ว อยากจะออกจากที่นี่อย่างปลอดภัย เกรงว่าจะทำได้อย่างยากเย็น

 

 

           เจียงมู่เฉินฝืนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ดูท่าว่าวันนี้เขาต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่แล้วจริงๆ

 

 

           ‘ไม่รู้ว่าก่อนตาย จะได้เห็นซือเหยี่ยนเจ้าคนระยำนั่นไหม’

 

 

           เขาเห็นคนที่พุ่งเข้ามา หลับตาอย่างจนใจแล้ว

 

 

           

 

 

    ตอนที่ 321 เจอเข้ากับซือเหยี่ยน

 

 

           ความเจ็บปวดที่จินตนาการไว้ไม่ได้รับมา ที่ข้างหูก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา “เจียงมู่เฉิน คุณยังไหวไหม”

 

 

           เจียงมู่เฉินลืมตาขึ้น ก็เห็นซังจิ่งถีบคนตรงหน้าเขาให้พ้นทาง

 

 

           เขาส่ายหัวไปมา ก่อนเอ่ย “พอไหว ตายไม่ได้หรอก”

 

 

           ซังจิ่งรีบพุ่งตัวเข้ามา ยื่นมือไปพยุงเขา “ไปกัน ผมจะพาคุณออกไปก่อน”

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นความโกลาหลในโถงใหญ่ ก็เอ่ยถามเสียงต่ำ “นายทำทั้งหมดนี้เหรอ”

 

 

           “ไว้ผมอธิบายคุณทีหลัง ออกไปจากที่นี่ก่อนสำคัญกว่า รอให้ปลอดภัยแล้ว ผมจะอธิบายให้คุณฟังอีกที”

 

 

           ซังจิ่งเห็นเขาเลือดออกทั้งตัว คิ้วก็ขมวดกันแน่น แทบอยากจะจับซูเตอร์มา แล้วเอาคืนอย่างป่าเถื่อนกลับไป

 

 

           “ได้ งั้นลำบากนายแล้ว”

 

 

           ซังจิ่งปรากฏกะทันหันแบบนี้ ทำให้เจียงมู่เฉินโล่งใจไปที

 

 

           ท่านเชนไปยังที่กักขังของเจียงมู่เฉิน ก็พบว่าประตูข้างในถูกล็อคเอาไว้ เขาเสียเวลาเปิดประตู ก็เห็นคนสองคนกองอยู่ที่พื้น

 

 

           เขาดูทั้งคู่โดยละเอียดสักพัก ไม่ใช่เจียงมู่เฉินสักคน

 

 

           เขาจึงคิดว่าเจียงมู่เฉินควรจะหนีออกมาแล้ว

 

 

           กว่าเขาจะขึ้นไปอีกครั้ง ก็เห็นข้างกายซังจิ่งมีคนๆ หนึ่ง เขารีบพุ่งตัวเข้าไป เป็นเจียงมู่เฉินที่ได้รับบาดเจ็บจริงๆ

 

 

           ท่านเชนเห็นเจียงมู่เฉินยังมีชิวิตอยู่ ในใจดังคลื่นซัด แทบอยากจะรีบเข้าไปทักทายเจียงมู่เฉิน

 

 

           แต่เมื่อคิดถึงว่าตอนนี้เขาสูญเสียความทรงจำลืมตัวเองไปแล้ว ก็จำใจต้องล้มเลิกอย่างทำอะไรไม่ได้

 

 

           อีกอย่างสถานการณ์ในตอนนี้ ก็ไม่ใช่เวลาที่ดีจะมาทำความรู้จักกัน

 

 

           เขาทำได้เพียงกดเก็บความดีใจในใจนี้ลงไป เอ่ยเสียงต่ำกับซังจิ่ง “ฉันจะจัดการที่นี่เอง นายรีบพาเขาไปเลย”

 

 

           ซังจิ่งพยักหน้า “งั้นรบกวนคุณแล้ว”

 

 

           เจียงมู่เฉินมองท่านเชนแวบหนึ่ง ก็เบนสายตาตามซังจิ่งออกไป

 

 

           ทั้งสองคนเดินหน้าประตู ก็เห็นรถคันหนึ่งมาจอด

 

 

           ซือเหยี่ยนกับซูเตอร์ลงมาจากรถ

 

 

           ซังจิ่งเห็นทั้งสองคนที่หน้าทางเข้า สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้น

 

 

           เจียงมู่เฉินมองดูซูเตอร์และซือเหยี่ยนที่ยืนอยู่ต่อหน้าตัวเอง ในใจก็ขุ่นเคือง เขาคิดมาตลอดว่าซือเหยี่ยนจะพบเรื่องที่เขาถูกซูเตอร์พาตัวไปเรื่องนี้ได้หรือเปล่า

 

 

           แต่ตอนนี้ความจริงกลับมาลอยหน้าลอยตาอยู่ต่อหน้าเขา

 

 

           ยามที่เขาโดนซูเตอร์กักตัวอยู่ที่ห้องชั้นใต้ดิน ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ซือเหยี่ยนกลับอยู่ข้างกายของซูเตอร์

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มอย่างอ้างว้าง เขารู้สึกว่าตัวเองคงจะโดนความรักที่ตัวเองคิดไปเองปิดบังดวงตาคู่นี้ไปแล้ว

 

 

           ‘ถึงได้เชื่อว่าซือเหยี่ยนจะมีความลำบากใจ ถึงหมดหนทางทำได้เพียงเท่านี้…’

 

 

           “เป็นนาย! คิดไม่ถึงว่านายจะกล้าบุกมาเอาตัวคนไป” ซูเตอร์เห็นเจียงมู่เฉินถูกช่วยออกมา คิดอะไรไม่ออก คิดออกแค่เพียงต้องการชีวิตของเจียงมู่เฉินโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว

 

 

           ถึงอย่างไรตอนนี้ซือเหยี่ยนก็รู้เรื่องแล้ว เขาไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไปแล้ว

 

 

           ‘ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็เปิดเผยมันตรงๆ ไปซะเลย’

 

 

           ซือเหยี่ยนสีหน้าบึ้งตึง มองซูเตอร์แวบหนึ่ง คำถามปรากฏในแววตา “คุณทำเหรอ”

 

 

           ซูเตอร์เชิดหน้า “ใช่ ฉันทำเอง แต่ซือเหยี่ยน นายรู้มาตั้งแต่แรกไม่ใช่เหรอ ว่าฉันไม่ชอบขี้หน้าเขา อีกอย่างตอนนั้นนายก็พูดเองว่าเขาจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่เกี่ยวกับนาย”

 

 

           “แต่ผมไม่ได้ให้คุณมากักขังเขาแบบนี้” ใบหน้าซือเหยี่ยนเต็มไปด้วยความโมโห

 

 

           ซูเตอร์หัวเราะเบาๆ “ฉันกำลังคิดว่าวันนั้นนายพูดยังไงกับฉันบ้าง…”

 

 

“อ้อ” เขาเอ่ยขึ้นราวกับเพิ่งนึกขึ้นมาได้ “วันนั้นนายบอกฉันว่าเจียงมู่เฉินกับนายครอบครัวพวกนายรู้จักกันมาหลายชั่วอายุคน เขาตายแล้วนายจะลำบากได้ นายเลยไม่อยากจะทำรุนแรงกับเขา…แล้วนายยังบอกว่านายก็แค่เล่นๆ กับเขาเท่านั้น เพียงแต่เรื่องของพวกนายถูกคนที่บ้านจับได้ นายคิดว่าเรื่องนี้จะไปกระทบความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ ก็เลยเลิกกับเขา”

 

 

           ซูเตอร์จ้องมองซือเหยี่ยน ซักถามเขา “ยังไงกัน นายกล้าไม่ยอมรับไหมล่ะว่าวันนั้นนายไม่ได้พูดแบบนี้”