ขณะที่เย่เทียนฝึกวิชา ในบ้านพักติดกับเขาแห่งหนึ่งในจ๊กกลาง
คนของสำนักหวู่หันที่ไปปรากฏตัวที่เหมืองหยกเมื่อคืน ยืนตัวตรงราวกับเป็นหลานที่เชื่อฟัง ด้านหน้าพวกเขานั้นมีคนสามคนนั่งอยู่บนโซฟา
ด้านซ้านนั้นเป็นคนที่เคยได้เจอกับเย่เทียนซึ่งเป็นเจ้าบ้านของตระกูลหยางก็คือหยางหย่งซิน
ด้านขวานั้นเป็นชายคนหนึ่งที่แต่งหน้าแต่งตาจัด มีกลิ่นน้ำหอมฉุน แถมท่าทีก็ยังเหมือนหญิงมากกว่าผู้หญิงอีกด้วย!
ส่วนเขา เป็นสุดยอดปีศาจที่ใครๆ ในโลกยุทธภพก็ฆ่าได้ เป็นอาจารย์ของหลิวจื่อหยัง ก็คือฮวาอวี่เฟย!
เกรงว่าเย่เทียนจะคิดไม่ถึง เขาปล่อยคนเหล่านั้นออกมาก็เพื่อหวังว่าพวกเขาจะสามารถมาก่อกวนเรื่องภายในของสำนักหวู่หันได้
แต่ลับหลังหลิวจื่อหยังนั้นกลับยังมียอดปีศาจที่โหดร้าย ที่ทำให้พวกเขาไม่มีทางกล้าคิดทรยศ
“พวกคุณบอกว่าจื่อหยางตายแล้วเหรอ?แล้วพวกคุณกล้ากลับมาได้อย่างไร!”
ฮวาอวี่เฟยในตอนนี้มีแววตาล้ำลึก ก่อนจะจ้องมองไปยังศิษย์ของสำนักหวู่หันสิบกว่าคน แววตามีความเย็นยะเยือกไม่เบา
“ท่าน ท่านฮวา คนคนนั้นมันแข็งแกร่งจริงๆ พวกเรา……”
คนหนึ่งของสำนักหวู่หันรวบรวมความกล้าก่อนจะพูดออกมา
ซวา!
เพียงแต่ว่ายังไม่ทันรอให้เขาพูดจบ ฮวาอวี่เฟยก็ยกมือขึ้น ก่อนจะดูดชายคนนั้นเข้ามาอยู่ในมือทันที!
“ท่านฮวา อย่านะ!”
“อีกฝ่ายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดิน พวกเราเข้าไปสู้ก็เหมือนไปตายอยู่ดี!”
คนคนนั้นรู้สึกถึงแรงภายในที่ฝึกฝนมาอย่างขมขื่น มันทะลุผ่านมือของฮวาอวี่เฟยไปอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะรีบเปิดปากร้องขอชีวิต
ฮวาอวี่เฟยมองด้วยแววตาประหลาดอย่างล้ำลึก แต่ในมือกลับไม่ได้หยุดลง พลางดูดชี่ทิพย์ของคนนั้นไว้!
คนในนั้นไม่มีใครกล้าออกเสียงเพื่อให้หยุด ต่างคนต่างยืนตัวสั่นอยู่ที่เดิม โดยไม่กล้าหายใจเสียงดังด้วยซ้ำ เพราะเกรงว่าฮวาอวี่เฟยจะหันมาสนใจเอาได้
ฟู่ๆ !
ผ่านไปเพียงไม่นาน ฮวาอวี่เฟยก็หายใจออกมา ก่อนจะปล่อยมือออก
“เศษสวะก็คือเศษสวะ มีพลังในเท่านั้นเอง ฉันฝึกวิชาสองวันยังมีมากกว่านี้อีก!”
เมื่อมองคนคนนั้น ไม่เพียงแค่พลังในทั้งตัวถูกวิชาดูดพลังดูดไปจนหมด แต่น้ำในตัวยังถูกดูดไปจนไม่เหลืออะไร จนกลายเป็นศพแห้งๆ แววตาน่ากลัว แต่ก็ยังมีความอาลัยอาวรณ์ต่อโลกใบนี้อยู่
“แหวะ?!”
หยางหย่งซินรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน ดีที่เขาผ่านอะไรมามากมาย เลยกลั้นไว้ไม่ให้อ้วกตรงนี้ได้
ตระกูลหยางเป็นครอบครัวด้านการแพทย์ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเจอคนตายมาก่อน แถมยังเจอศพแปลกๆ มามาก แต่เมื่อมาเห็นแบบนี้มันก็ยังทำให้เขารู้สึกรับไม่ได้อยู่ดี
คนเป็นที่ไม่กี่นาทีก่อนยังกระโดดโลดเต้นได้อยู่ เพียงไม่นานก็กลายเป็นศพแห้งที่เหมือนตายมาร้อยปี ความไม่ปกตินี้มันคงจะไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะรับได้
ขนาดหยางหย่งซินที่เจอศพจนชินยังไม่เว้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงศิษย์ของสำนักหวู่หันเลย ต่างคนต่างตัวสั่น หัวก็ก้มหน้าจนแทบจะมุดเข้าไปในอก เพราะกลัวเป็นอย่างมาก
“ท่านฮวา ศาสตร์ของเทพนั้นอยู่เหนือโลกจริงๆ ด้วย!ข้าน้อยหยางขอคารวะ!ขอคารวะเลย!”
หยางหย่งซินปรับอารมณ์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะกลอกตา เคารพด้วยความมีนัย
“ทำไม?คุณอยากเรียนเหรอ?”
ฮวาอวี่เฟยเหมือนจะรู้เขากำลังคิดอะไรอยู่ เลยมองเขาเบาๆ ก่อนจะพูดออกมานิ่งๆ “น่าเสียดายที่คุณแก่ไปหน่อย แต่ลูกคุณไม่เลวเลย เดี๋ยวให้เขาตัดไอ้นั่นทิ้งแล้วก็มาหาฉัน”
“นี่……ท่านฮวาทำเป็นล้อเล่นหรอกเหรอ”
หยางหย่งซินตะลึง พลางมีสีหน้าประหม่า ความคิดที่มีในใจก็หายวาบ
ฝึกวิชานี้ ต้องเข้าพระราชวังก่อนเหรอ?
เขานั้นมีแค่ลูกชายอย่างหยางเส้าเหวินคนเดียว ถ้าตัดไอ้นั่นไปแล้ว ก็เหมือนตัดตระกูลหยางสิ้น แล้วตระกูลหยางจะมีใครเป็นผู้สืบทอดได้อีกล่ะ!
ฮวาอวี่เฟยขี้เกียจจะสนใจหยางหย่งซินอีก เลยมองไปทางศิษย์ของสำนักหวู่หันสิบกว่าคนที่ตัวสั่นเทาอยู่ทางด้านหน้า
“เมื่อครู่เขาบอกว่าคนนั้นคือผู้แข็งแกร่งระดับดิน มันจริงหรือเปล่าเนี่ย?”
“ใช่ๆ !เขาพูดถูก คนคนนั้นคือผู้แข็งแกร่งระดับดินจริงๆ !”
“เมื่อคืนคนคนนั้นปล่อยพลังภายในจนสูงถึงเจ็ดเมตร จะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งระดับดินแน่ๆ”
“เงาลวงตี้จวินที่ออกมานั้นเหมือนมีชีวิตเป็นอย่างมาก ระดับดำไม่มีทางทำได้แน่”
คนสิบกว่าคนนั้นพยักหน้าตามๆ กัน มีเสียงพึมพำอื่นๆ ด้วย ดูเหมือนจะตกใจไม่เบา
ฮวาอวี่เฟยถ้าพยักหน้าอย่างมีนัย ก่อนจะยกถ้วยชาบนโต๊ะชามาจิบ พลางกลืนลงคออย่างชุ่มชื้น
“พวกคุณมีใครอยากจะมาเป็นผู้ดูแลใหม่ไหม?”
เมื่อเขาวางถ้วยชาลง ก็พูดออกมาจนคนอื่นตกใจ
“นี่……”
คนสิบกว่าคนนั้นสบตากันไปมา ไม่มีใครกล้าลุกออกมาเลย
น่าขัน ยอดปีศาจอย่างฮวาอวี่เฟยนั้นยินดีและไม่พอใจอย่างไม่ปกติ ใครจะรู้ว่านี่มันจะเป็นแผนอันชาญฉลาดของเขาอีกหรือเปล่า ลองอะไรอยู่อีก ความพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้ยังอยู่ตรงนั้นอยู่เลย!
“งั้นคุณมาก็แล้วกัน!ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณเป็นเจ้าสำนักอันดับหนึ่งคนใหม่ของสำนักหวู่หัน!”
ฮวาอวี่เฟยเลิกคิ้วขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่ชายคนหนึ่งที่หล่อเหลา
ไม่ว่าอย่างไร ถึงอย่างไรก็เป็นยอดปีศาจที่ใครๆ ในโลกยุทธภพก็สามารถฆ่าได้ มีเรื่องมากมายที่เขาไม่สามารถยืนขึ้นอย่างสง่า จนต้องพยุงคนไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา!
“ห๊ะ?”
ชายที่ถูกเรียกชะงักไป ก่อนจะอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ทำไม?คุณไม่พอใจเหรอไง?”
ฮวาอวี่เฟยขมวดคิ้วแน่นมากขึ้น พลางมีเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจส่งออกมาเบาๆ
“ไม่ใช่ๆ”
คนคนนั้นเห็นความไม่พอใจของฮวาอวี่เฟยได้ พลางส่ายหัวปฏิเสธ เกรงว่าจะต้องเอาชีวิตเข้าไปโดนไม่ระวัง
“งั้นก็ดี เดี๋ยวคุณมาที่ห้องของฉัน ฉันจะสอนความสามารถให้คุณได้รู้!”
ฮวาอวี่เฟยพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะพูดขึ้น “จริงสิ ก่อนจะมาก็แต่งหน้าแต่งตัวด้วย ในเมื่อเป็นถึงผู้ดูแลชั้นสูงก็ต้องทำตัวให้เหมือนหน่อย!”
“ฉัน……ได้เลย!”
คนคนนั้นขมขื่นเป็นอย่างมาก จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าฮวาอวี่เฟยอยากจะแสดงอะไรออกมา เขาน้อยใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา
เพื่อปกป้องชีวิตของตัวเอง เขาเลยทำได้เพียงกัดฟันกรอด ก่อนจะยอมรับโชคที่น่าเศร้าหมองอย่างเชื่อฟัง
เมื่อหันมามองคนหลายสิบคน กลับได้เห็นว่าตัวเองนั้นหน้าตาน่าเกลียดเป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่อย่างนั้นชายชาตรีคนหนึ่งเกรงว่าจะโดนตีหลังแอ่นเลยล่ะ!
“เอาล่ะ ฉันกับเถ้าแก่หยางยังมีเรื่องต้องคุยกัน พวกคุณออกไปได้แล้ว”
ฮวาอวี่เฟยโบกไม้โบกมืออย่างง่ายๆ เพื่อให้พวกเขาออกไปเหมือนกำลังปัดแมลงวัน
ศิษย์ของสำนักหวู่หันสิบกว่าคนจะไปกล้ามีปากเสียงอะไรได้อย่างไร ต่างคนต่างหันมาอย่างเชื่อฟัง พลางเตรียมตัวจะจากไป
“เดี๋ยวก่อน!”
เพียงแต่ว่า พวกเขาเพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ข้างหูก็มีเสียงของฮวาอวี่เฟยเรียบๆ ดังขึ้น มันน่าตกใจจนทำให้พวกเขาตัวสั่น เกรงว่าตัวเองจะเจอเรื่องเลวร้าย
“ท่าน ท่านฮวา คุณมีอะไรจะกำชับไหม?”
คนที่ถูกเรียกให้มาเป็นผู้ดูแลใหญ่เมื่อครู่ยืนขึ้นมา ก่อนจะยิ้มด้วยความเอาใจ
“เอาเขาออกไป แล้วหาที่ฝัง อย่าได้ส่งผลกับอารมณ์ของฉัน!”
ฮวาอวี่เฟยชี้ไปทางไอ้ผู้โชคร้ายที่ถูกเขาดูดจนกลายเป็นศพแห้ง
“โอเคๆ ……”
จากนั้นก็มีคนสองคนหนีออกไป ต่างคนต่างแบกศพแห้งๆ ก่อนจะจากไปอย่างโซเซ
รอจนพวกเขาจากไปหมด ฮวาอวี่เฟยถึงได้หันไปมองหยางหย่งซิน
“เจ้าบ้านตระกูลหยาง เหมืองหยกนี้ฉันจะต้องเป็นของฉันให้ได้ แม้จะบอกว่ามีมดมาเดินยุบยิบ แต่คุณวางใจเถอะ จะช้าหรือเร็วก็ตบให้ตายอยู่ดี!