บทที่ 731 : ธุระสําคัญสามเรื่อง!
หลิงหยุนนั้นรู้อยู่แล้วว่าชายชราต้องเห็นด้วยและสนับสนุนในสิ่งที่เขากำลังจะพูดออกมาอย่างแน่นอน
“เรื่องแรก..ข้าต้องการซื้อสมุนไพรจีนจำนวนมหาศาล และต้องไม่ใช่สมุนไพรจำพวกที่ผ่านกระบวนการใดๆมาก่อน และสมุนไพรที่ข้าต้องการล้วนเป็นสมุนไพรหายาก..”
เพราะไม่ว่าจะเป็นการปลุกเสกยันต์หรือว่าการปรุงยา หลิงหยุนก็ต้องใช้สมุนไพรจำนวนมากทั้งสิ้น จึงจำเป็นต้องจัดซื้อไว้เพื่อที่จะสามารถหยิบมาใช้ได้ในทันที
“ได้สิ..ไม่มีปัญหา!”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับพูดต่อว่า“ท่านปู่.. สมุนไพรที่ข้าต้องการนั้น ท่านก็ให้เหล่ากุ่ยไปหาซื้อจากตระกูลเสี่ยวโดยตรง ตระกูลเสี่ยวมีบริษัทยาทั้งขนาดกลาง และขนาดใหญ่มากมายในเมืองหลวง อีกทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรโดยตรง!”
ก่อนที่จะพูดเรื่องนี้หลิงหยุนเองก็ได้ครุ่นคิดมาก่อนแล้ว เขาไม่ยอมให้เงินทองของตนเองไหลเข้ากระเป๋าคนอื่นอย่างแน่นอน อีกทั้งท่านเสี่ยวหมอเทวดาก็เป็นผู้ที่ดีกับหลิงหยุนอย่างมาก เขาจึงต้องการที่จะตอบแทน
“นอกจากสมุนไพรจำนวนมหาศาลแล้ว ก็ต้องมีโกดังขนาดใหญ่สำหรับเก็บสมุนไพรเหล่านี้ด้วย..”
หลิงลี่ยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า“นั่นก็ไม่เป็นปัญหาเช่นกัน ว่าแต่เจ้าต้องการซื้อจำนวนเท่าไหร่รึ”
หลิงหยุนตอบกลับไปด้วยท่าทางสบายๆ“จำนวนสองร้อยล้านหยวน!”
ทันทีที่คำตอบหลุดออกมาจากปากของหลิงหยุนผู้คนที่อยู่ในห้องต่างก็ตกใจจนอ้าปากคค้าง! หลิงหยุนนับว่ามือเติบนัก เพราะสมุนไพรจำนวนสองร้อยล้านนั้น คงต้องให้คนเป็นหมื่นกินไปได้อีกหลายปีจึงจะหมด
หลิงเจิ้นเห็นหลิงหยุนเอ่ยปากพูดเรื่องเงินก็เริ่มไม่พอใจและรีบค้านขึ้นมาทันที “หลานสี่.. นี่เจ้าต้องการสมุนไพรมากมายขนาดนี้ไปทำอะไรงั้นรึ นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยหรืออย่างไร?!”
หลิงหยุนหันไปมองหลิงเจิ้นพร้อมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ“ลุงใหญ่.. คนในตระกูลหลิงอาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องประโยชน์ของสมุนไพรดีนัก แต่ข้าในฐานะศิษย์สำนักหมอสวรรค์.. ย่อมเข้าใจดี!”
“สำนักหมอสวรรค์งั้นรึข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย..”
“นั่นสิ..ข้าเองก็เคยได้ยินแต่ชื่อสำนักหมอหุบเขาเทวะ”
“มิน่าล่ะ..ไม่แปลกเลยที่น้องสี่มีทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศถึงเพียงนี้ ชื่อเสียงของสำนักหมอสวรรค์คงจะไม่ด้อยไปกว่าสำนักหมอหุบเขาเทวะสินะ!”
ทั้งหลิงหย่งหลิงเฟิง และหลิงเลี่วย ต่างก็จ้องมองหลิงหยุนด้วยแววตาชื่นชม!
หลิงเจิ้นเองก็นึกแปลกใจไม่น้อยเพราะเขาเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อสำนักหมอสวรรค์มาก่อนเลย จึงได้แต่แสร้งทำเป็นสนอกสนใจ และถามหลิงหยุนไปว่า
“ลุงไม่เคยได้ยินชื่อสำนักหมอสวรรค์มาก่อนเลยแล้วก็ไม่รู้ว่าเจ้าเรียนวรยุทธมาจากสำนักใด แล้วสำนักหมอสวรรค์นี่ตั้งอยู่ที่ใหนงั้นรึ?”
ความจริงแล้วหลิงเจิ้นต้องการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับตัวหลิงหยุนเสียมากกว่าเพราะหลิงหยุนไม่เพียงดูลึกลับ แต่ยังแข็งแกร่งและเก่งกาจอย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วย หลิงเจิ้นจึงค่อนข้างแปลกใจและร้อนใจไม่น้อย!
เขารู้สึกว่าตำแหน่งผู้นำตระกูลของตนเองนั้นเริ่มสั่นคลอน!
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า“ลุงใหญ่.. เรื่องนั้นข้าบอกไม่ได้จริงๆ ข้าเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของสำนักหมอสวรรค์ และอาจารย์ของข้าก็ได้สั่งไว้ว่าห้ามบอกที่อยู่ของสำนักให้คนนอกรู้!”
และเพียงแค่คำตอบของหลิงหยุนก็สามารถปิดกั้นคำถามที่จะตามมาของหลิงเจิ้นได้ในทันที
หลิงเจิ้นได้ฟังก็รู้สึกไม่พอใจหลิงหยุนมากยิ่งขึ้นจึงได้วางท่าทางในฐานะผู้นำตระกูลพร้อมกับขมวดคิ้ว และพูดต่อว่า
“เจ้าจะใช้เงินจำนวนก้อนโตของตระกูลหลิงซื้อสมุนไพรพอจะบอกได้หรือไม่ว่าจะนำสมุนไพรเหล่านี้ไปใช้อะไรกันแน่!”
หลิงหยุนตอบกลับไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ในเมื่อข้าต้องการซื้อสมุนไพร ก็ย่อมต้องนำมาใช้ประโยชน์อยู่แล้ว อีกอย่าง.. ตัวข้าเองก็มีเงิน ไม่จำเป็นต้องใช้เงินของตระกูลหลิง!”
จากนั้นหลิงหยุนก็เรียกสมุดเช็คออกมาพร้อมกับเขียนจำนวนเงินลงบนสมุดเช็คห้าร้อยล้านหยวน แล้วจึงยื่นให้กับหลิงลี่ด้วยท่าทางเคารพนบนอบ
“ท่านปู่..นี่เป็นเช็คของธนาคาร ICBC จำนวนห้าร้อยล้านหยวน สองร้อยล้านนั้นข้าต้องการนำไปซื้อสมุนไพร ส่วนที่เหลืออีกสามร้อยล้าน ข้ายังต้องนำไปใช้ในเรื่องอื่นๆอีก”
นอกเหนือจากหลิงลี่และเหล่ากุ่ยแล้วคนอื่นๆที่อยู่ในห้องต่างก็พากันตกตะลึง และนิ่งอึ้งไป พวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าหลิงหยุนจะมีเงินมากมายถึงเพียงนี้ หลิงหยุนสามารถจ่ายเงินห้าร้อยล้านด้วยสีหน้านิ่งเฉยราวกับกำลังเล่นขายของ
หลิงหยุนยิ้มมุมปากและไม่แม้แต่จะเหลียวไปมองหลิงเจิ้น..
หลิงเจิ้นถึงกับหน้าแดงก่ำและไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวเช่นกัน!
หลิงลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาเห็นว่าก่อนหน้านี้หลิงหยุนเองก็ไม่ยอมคำนับหลิงเจิ้น และดูท่าว่าทั้งคู่จะกินแหนงแคลงใจกันอยู่ เวลานี้หลิงเจิ้นเองก็มีฐานะเป็นถึงผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน ส่วนหลิงหยุนนั้นหลิงลี่ก็ได้คัดเลือกไว้ในใจให้เป็นผู้นำตระกูลรุ่นถัดไป หากทั้งคู่ยังไม่สามารถเข้าใจกันได้ ก็คงจะเป็นปัญหาต่อไปในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน
หลิงลี่ไม่ยอมรับเช็คที่หลิงหยุนยื่นให้เขามองหลิงหยุนด้วยความรักพร้อมกับตอบไปว่า
“หลานรัก..ปู่รู้ว่าเจ้ามีเงิน แต่คืนนี้เจ้าเพิ่งจะกลับเข้าตระกูลหลิง และได้ช่วยตระกูลหลิงให้รอดพ้นจากหายนะครั้งใหญ่ และจุดไฟแห่งความหวังให้กับตระกูลของเรา ตระกูลหลิงไม่เพียงไม่มีอะไรมอบเป็นของขวัญให้กับเจ้า หากต้องให้เจ้าออกเงินซื้อสมุนไพรเองแล้ว ในวันข้างหน้าหากให้ใครล่วงรู้เข้า คงจะต้องหัวเราะเยาะตระกูลหลิงของเราแน่นอน!”
“เจ้าเก็บเช็คนี้กลับไปเถิด..เรื่องนี้ปู่จะจัดการให้กับเจ้าเอง!” คำพูดของหลิงลี่นั้นชัดเจน
หลิงเย่วเองก็พูดสนับสนุนขึ้นเช่นกัน“หลานสี่.. ลุงสองขอออกความเห็นบ้าง! เรื่องนี้เจ้าคงต้องเชื่อฟังท่านปู่ เงินที่จัดซื้อสมุนไพรเหล่านี้ ให้เจ้าเป็นผู้จ่ายไม่ได้อย่างแน่นอน!”
ตั้งแต่หลิงหยุนกลับเข้าตระกูลหลิงมาหลิงเย่วเองก็ได้แต่นิ่งเงียบมาตลอด แต่เขาก็ได้ตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาเลือกที่จะยืนอยู่ข้างหลิงหยุนอย่างแน่นอน แม้ว่าจะทำให้พี่ใหญ่ของเขาไม่พอใจบ้าง หลิงเย่วก็คงต้องยอม!
หลิงหยุนยิ้มกว้างให้กับหลิงเย่วพร้อมกับย้ำว่า“ลุงสอง.. ตอนนี้ข้ามีเงินมากมาย เงินเหล่านี้อยู่ในมือของข้าก็ไม่ได้ใช้อะไร หากสามารถนำมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับตระกูลหลิงได้เร็วที่สุดก็จะยิ่งเป็นเรื่องดี พวกเราต่างก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความอีก..”
จากนั้นหลิงหยุนก็หันไปทางหลิงลี่พร้อมกับยัดเยียดเช็คลงไปในมือของเขาและพูดยิ้มๆ “ท่านปู่.. ท่านรีบเก็บเช็คนี้ไปเถิด ข้ายังมีธุระเรื่องอื่นอีก!”
หลิงลี่ไม่มีทางเลือกจึงได้แต่รับเช็คมาจากหลิงหยุน เขายิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ถ้าเช่นนั้น.. เจ้าก็พูดเรื่องต่อไปได้เลย!”
หลิงหยุนตอบมาว่า“เรื่องที่สอง.. ข้ามีบริษัทยาอยู่ในมณฑลเจียงหนานถึงหกบริษัท แต่น้ำไกลย่อมดับไฟไม่ทัน ข้าจึงคิดว่าในวันข้างหน้า หากไม่จัดหาซื้อยามาเตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่น ก็คงต้องเปิดบริษัทยาที่นี่เสียเอง เพื่อที่ราจะได้หาซื้อยาได้ง่ายและราคาถูกมากขึ้น ไม่ทราบท่านปู่คิดเห็นเช่นใด”
หลิงลี่ได้ฟังก็ตอบกลับในทันที“เรื่องนี้ง่ายมาก.. ลุงสองรู้จักกับผู้คนในแวดวงนี้ดี เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลุงสองก็แล้วกัน”
“ลูกสอง..เจ้าล่ะมีปัญหาอะไรหรือไม่!”
หลิงเย่วหัวเราะพร้อมกับตอบไปว่า“ท่านพ่อ.. ข้ายินดี และเข้าใจความต้องการของหลิงหยุนดี! ”
หลิงหยุนยิ้มและตอบกลับไปว่า“ขอบคุณท่านลุงสองมาก!”
หลิงหยุนนั้นมีเงินและแม้ว่าตระกูลหลิงจะตกต่ำลงมาก แต่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลใหญ่แห่งปักกิ่ง จึงยังคงมีอำนาจและเส้นสายอยู่บ้าง เพียงแค่เงินกับเส้นสาย การเปิดบริษัทยาสักบริษัทก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก
หลังจากที่ปรึกษาหารือกันเรียบร้อยแล้วหลิงหยุนก็พูดธุระเรื่องที่สามต่อ..
“ท่านปู่..ข้าจำเป็นจะต้องหลอมโลหะจำนวนมากในปักกิ่ง จึงอยากจะซื้อหรือตั้งโรงงานถ่านหินขนาดใหญ่ด้วย ท่านคิดเห็นเช่นใด”
หลิงหยุนนั้นก่อนที่จะออกเดินทางจากจิงฉูเขาก็มีอยากจะมีโรงถลุงโลหะเพื่อเตรียมการไว้สำหรับการเล่นแร่แปรธาตุในวันข้างหน้า
แต่ทันทีที่หลิงหยุนพูดจบ..ทุกคนในตระกูลหลิงรวมถึงทายาทรุ่นหลัง ต่างก็มีสีหน้าเศร้าสร้อย และนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา
เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นน่ะหรือ!
นั่นเพราะเมื่อสิบแปดปีก่อนอุตสาหกรรมถลุงโลหะได้เคยอยู่ในการครอบครองของตระกูลหลิง แต่กลับถูกปล้นไปเป็นของตระกูลอื่น ทุกคนจึงรู้สึกเศร้าใจเมื่อหลิงหยุนพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
“เฮ้อ..” หลิงลี่ถึงกับถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดต่อว่า..
“ปู่รับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้กับเจ้าแต่ช่วงนี้มีการคุมเข้มอุตสาหกรรมที่สร้างมลพิษเหล่านี้มาก และในอุตสาหกรรมเหล่านี้ในปักกิ่ง ก็ล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีน หากเจ้าต้องการจริงๆ ก็คงต้องเปิดแถวชานเมืองรอบๆปักกิ่งแทน..”
ความจริงแล้วยังมีเรื่องอื่นที่หลิงลี่ไม่ได้พูดออกมา ตระกูลหลิงนั้นตกต่ำมาถึงสิบแปดปี จู่ๆต้องการจะซื้อกิจการโรงงานถลุงโลหะและถ่านหิน แน่นอนว่าหากให้เรื่องนี้ล่วงรู้ไปถึงตระกูลอื่นๆ คงจะไม่เป็นผลดีต่อตระกูลหลิงอย่างแน่นอน!
หลิงหยุนเองก็เฉลียวฉลาดเขาจึงเข้าใจดีว่าเหตุใดจู่ๆ คนตระกูลหลิงจึงมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก และเข้าใจว่าเหตุใดหลิงลี่จึงได้ถอนใจออกมาเช่นนั้น หลิงหยุนจึงพูดขึ้นมาอย่างโอหัง..
“ท่านปู่..ท่านไม่ต้องกังวลใจไป! อะไรที่เคยเป็นของตระกูลหลิงเมื่อสิบแปดปีก่อน ข้า – หลิงหยุนจะนำกลับคืนมาให้ท่านเอง!”
คำพูดที่เต็มไปด้วยความหยิ่งจองหองและมั่นอกมั่นใจของหลิงหยุนนั้น ทำให้ทุกคนในที่นั้นถึงกับตกตะลึง!
ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าหลิงหยุนนั้นช่างแข็งแกร่งมั่นอกมั่นใจ และหยิ่งผยอง!
สิ่งใดที่เคยเป็นของตระกูลหลิงจะนำกลับคืนมาให้เช่นนั้นหรือ!
หลิงลี่เองก็ถึงกับตกใจไม่น้อยหลิงเจิ้นได้แต่นิ่งไป หลิงเย่วเองก็เพียงแค่ยิ้ม ส่วนเหล่ากุ่ยถึงกับน้ำตาเอ่อ หลิงซิ่วและทายาทคนอื่นๆ ต่างก็รับรู้ได้ถึงเลือดในกายที่กำลังเดือดพล่าน
พวกเขาทุกคนต่างก็รอคอยวันนี้มานานถึงสิบแปดปี!
รอคอยวันที่ตระกูลหลิงจะได้กลับมาภาคภูมิใจในตัวเองอีกครั้งและวันนั้นก็กำลังจะมาถึงในไม่ช้า!
หลิงลี่กำหมัดจ้องมองหลิงหยุนนิ่งไปครู่ใหญ่จู่ๆก็ลุกขึ้น และจู่ๆก็เงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดัง!
“เยี่ยม!ตระกูลหลิงมีเจ้า ปู่คงไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้ว! ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้า เจ้าบอกมาว่าต้องการสร้างโรงถลุงเหล็กที่ใหน”