ตอนที่ 332 จุดจบของคนใจอ่อน / ตอนที่ 333 ฐานะเปิดเผย

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 332 จุดจบของคนใจอ่อน

 

 

           “ไม่กลัวผมใส่อะไรในไวน์เหรอ” ฟู่เหยี่ยนเลิกคิ้วถาม

 

 

           เจียงมู่เฉินหัวเราะเบาๆ “คุณฟู่พาฉันมาถึงที่นี่แล้ว ฉันยังมีที่เหลืออะไรให้กลัวอยู่เหรอ”

 

 

           ความชื่นชมประกายในแววตาของฟู่เหยี่ยน “สมกับที่เป็นคุณชายน้อยตระกูลเจียง”

 

 

           “ฉันสงสัยอยากรู้มาตลอด ความสนใจของนายที่มีต่อฉันตกลงแล้วมาจากไหนกันแน่” เจียงมู่เฉินพิงโต๊ะด้านข้าง เอ่ยเสียงเบา

 

 

           ฟู่เหยี่ยนกอดอกมองเขา

 

 

           “ฟู่เหยี่ยน เมื่อก่อนนายรู้จักฉัน” เจียงมู่เฉินกลัวคำพูดตัวเองไม่ชัดเจน จึงเสริมเพิ่มอีกประโยค “ห้าปีก่อน”

 

 

           “ทำไมคุณชายเจียงพูดแบบนี้ล่ะ”

 

 

           “วันนั้นที่ออกจากคฤหาสน์ของนายไป ฉันคิดอยู่ตั้งนาน ด้วยคุณสมบัติของคุณชายฟู่แล้ว อยากได้คนไหนก็ได้กลับไม่มี ทำไมจะต้องแสดงออกกับฉันคนเดียวคนที่เพิ่งเจอกันสองวันชัดเจนขนาดนี้…

 

 

           …ดังนั้นมันชัดเจนมากเลยว่านายเคยเจอมาก่อนหน้านั้นแล้ว”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนหัวเราะเบาๆ “ถูกต้อง ผมรู้จักคุณมานานมากแล้ว”

 

 

           เจียงมู่เฉินสันนิษฐานไว้ ฟู่เหยี่ยนเกี่ยวข้องกับความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนของเขาจริงๆ สิ่งที่เขาคาดเดาก่อนหน้านี้ถูกต้องทั้งหมด

 

 

           “ก็น่าเสียดายอยู่ทีเดียว ฉันประสบอุบัติเหตุ ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนลืมไปหมดเลย” เจียงมู่เฉินมองเขาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

 

 

           “ถ้าคุณอยากฟื้นความทรงจำ ผมช่วยคุณได้นะ” ฟู่เหยี่ยนเอ่ยเสียงต่ำ

 

 

           “ฉันอยากฟื้นความทรงจำก็จริง แต่น่าเสียดาย ฉันเคยถามผู้เชี่ยวชาญแล้ว ถ้าใช้วิธีบังคับให้ฟื้นคืน ฉันอาจจะเสียสติได้” เจียงมู่เฉินถอนหายใจ “ตอนนี้ฉันก็ใช้ชีวิตได้อย่างดี ไม่อยากจะเสียสติอะไรหรอก”

 

 

           “อ่อ งั้นจู่ๆ คุณชายเจียงถามผม อยากจะสื่ออะไรเหรอ”

 

 

           นิ้วเรียวยาวของเจียงมู่เฉินบีบคางเอาไว้ “เมื่อก่อนฉันทำผิดกับนาย?”

 

 

           “เปล่า”

 

 

           “งั้นทำไมนายถึงจับฉันแน่นไม่ปล่อยเลยล่ะ”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนเลียบแบบท่าทางของเขา ยกมือขึ้นมาลูบคางไปมา ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรอย่างไรอย่างนั้น

 

 

           ผ่านไปครู่ใหญ่ ฟู่เหยี่ยนก็เอ่ยถามเสียงต่ำ “คุณไม่เชื่อว่าผมทำเพราะว่าชอบคุณบ้างเหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มหัวเราะ “ฉันยังรู้ตัวเองดีอยู่นะ”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนชักจะสนใจแล้ว “เช่นว่าเมื่อห้าปีก่อนผมเปิดใจให้คุณ หลังจากนั้นก็ตกหลุมรักคุณ ลืมคุณไม่ลงตลอดหลายปีมานี้ ดังนั้นจึงพาตัวคุณกลับมา”

 

 

           เหมือนเจียงมู่เฉินได้ฟังเรื่องตลกอะไรสักเรื่องไม่มีผิด เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย “ถ้าฉันเพิ่งจะเป็นผู้ใหญ่ นายพูดกับฉันแบบนี้ บางทีฉันอาจจะเชื่อนายได้”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงมู่เฉิน ก็เผยอปากขึ้น รู้สึกปลงใจทีเดียว “บอกตามตรง ผมยังคิดถึงรอยยิ้มที่คุณเริ่มยิ้มทุกครั้ง”

 

 

           ในความทรงจำของฟู่เหยี่ยน เจียงมู่เฉินในตอนนั้นเรียกสั้นๆ ว่าเจียงเฉิน ความสามารถเด่นกว่าใคร รูปร่างหน้าตาดูดีแบบที่น้อยคนนักจะมี ไม่ว่าอะไรก็ตาม ขอเพียงแต่ส่งถึงมือเจียงมู่เฉิน ก็จะจัดการได้อย่างสวยงามทั้งหมด

 

 

           ได้รับวิชาจากพ่อเขามากกว่า แม้แต่คนในตระกูลก็ยังชื่นชมเจียงมู่เฉินมากมายเช่นกัน

 

 

           ตอนนั้นเขาโกรธจนทนไม่ไหว จึงมักจะไปยั่วโทสะเจียงมู่เฉินบ่อยๆ

 

 

           เพียงแต่น่าเสียดาย เขามักจะยอมรับการยั่วโทสะของเขาอย่างใจเย็นเสมอ น้อยมากที่จะโกรธ

 

 

           มีเพียงครั้งหนึ่ง เขาฝ่าฝืนกฎ ทำเรื่องที่เจียงมู่เฉินรังเกียจ

 

 

           เจียงมู่เฉินโกรธจนตีกันกับเขา ตอนนั้นเขาผู้ซึ่งหยิ่งยโสโอหังถูกเจียงมู่เฉินกดลงกับพื้น อัดจนใบหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยแผล ก็ยังไม่ยอมแพ้

 

 

           สุดท้ายเจียงมู่เฉินจนใจ มือข้างหนึ่งกดที่ตัวเขา พลางเอ่ย “ฟู่เหยี่ยน มีวิธีแก้ปัญหาตั้งมากมาย ไม่ใช่จะใช้แต่กำลังไปซะทุกอย่างนะ”

 

 

           เขาโมโหจนดวงตาแดงก่ำ ถลึงตาใส่เจียงมู่เฉิน “วันนี้ฉันยังสู้นายไม่ได้ นายรอไว้เลย ไม่ช้าก็เร็วสักวัน ฉันจะทำให้นายรู้ถึงจุดจบของคนใจอ่อน”

 

 

           เจียงมู่เฉินปล่อยมือ เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “แล้วฉันจะรอนาย”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนมองตามแผ่นหลังของเจียงมู่เฉินที่เดินลับไปไกล ตั้งใจแน่วแน่แล้ว ต้องมีสักวัน เขาจะทำให้เจียงมู่เฉินมาเสียใจทีหลังกับความเมตตาปราณีในวันนี้

 

 

       

 

 

ตอนที่ 333 ฐานะเปิดเผย

 

 

           ตั้งแต่หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เขาก็มักจะไปหาเรื่องเจียงมู่เฉินเสมอๆ ทั้งสองตีกันได้ทุกวี่ทุกวัน กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ทำให้คนตกใจอยู่ไม่น้อย

 

 

           เพียงแต่ว่าไม่มีใครออกมาห้ามพวกเขาทั้งสองคน ตรงกันข้ามกลับมองดูพวกเขาตีกันเหมือนดูละครอย่างไรอย่างนั้น

 

 

           เป็นเช่นนี้มาตลอด หลังจากที่เขายั่วประสาทเจียงมู่เฉินมาเต็มๆ หนึ่งปี ก็ยังคงโดนเจียงมู่เฉินสยบแทบเท้าได้เหมือนเดิม

 

 

           จนกระทั่งเขาตัดสินใจไปหาคนฝึกซ้อมด้วย จึงออกไปข้างนอกเป็นเวลาสองเดือน หลังจากสองเดือนผ่านไป เขากลับมาก็พบว่าฐานะของเจียงมู่เฉินถูกเปิดเผย ตัวจริงเขาคือสายลับที่แฝงตัวมา

 

 

           ฟู่เหยี่ยนคิดไม่ตกถึงอารมณ์ในตอนนั้น เขารับคำสั่งจากพ่อ ให้พาตัวเจียงมู่เฉินไป บอกว่าต้องลงโทษเจียงมู่เฉินเป็นการส่วนตัว

 

 

           พ่อเขารู้ถึงอารามณ์โทสะของเขา จึงไม่ได้ความยากเย็นอะไรมากมาย

 

 

           ฟู่เหยี่ยนกักขังเจียงมู่เฉินไว้อย่างง่ายดาย พาตัวเขามากักขังไว้ในห้องที่เกาะเล็กๆ เกาะนี้

 

 

           ฟู่เหยี่ยนรู้สึกว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อเจียงมู่เฉินไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ เขาไม่อยากให้เจียงมู่เฉินตาย แต่ก็จงเกลียดจงชังเจียงมู่เฉิน

 

 

           เขากักตัวเจียงมู่เฉินในทุกๆ วัน เปลี่ยนวิธีทรมานอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ

 

 

           ในหัวเขามีเพียงแค่ความคิดเดียว เขาต้องการให้เจียงมู่เฉินผู้หยิ่งยโสได้รับความอัปยศอย่างถึงที่สุด ให้ยอมก้มหัวให้เขา

 

 

           เขาคิดอยู่หลากหลายวิธี ค่อยๆ ทรมานทำลายจิตใจของเจียงมู่เฉินทีละนิดๆ

 

 

           ช่วงเวลาสั้นเพียงครึ่งเดือน เจียงมู่เฉินผอมลงเท่าตัว ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยรอยแผล

 

 

           และก็ไม่ได้มีท่าทางห้าวหาญเมื่อแต่ก่อนอีก

 

 

           เห็นสภาพเช่นนั้นของเจียงมู่เฉิน ในใจฟู่เหยี่ยนไม่ได้มีความสุขกับการได้แก้แค้นเลย กลับรู้สึกสับสนเสียด้วยซ้ำไป

 

 

           เขาคิดไม่ตกถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเจียงมู่เฉิน กลับไม่อยากทรมานเจียงมู่เฉินอีกด้วย

 

 

           ประจวบเหมาะที่เวลาช่วงนั้น พ่อเขาเรียกตัวเขากลับไปพอดี

 

 

           ฟู่เหยี่ยนอยากจะทำให้ความรู้สึกที่สับสนของตัวเองชัดเจน ล็อคที่คุมขังเจียงมู่เฉินไว้ สั่งคนเพิ่มกำลังรักษาเวรยามเฝ้าประตูอย่างเข้มงวด

 

 

           รอเขากลับมาค่อยคิดกันใหม่

 

 

           แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่เขาออกไปแล้ว เจียงมู่เฉินจะอาศัยเวลาช่วงค่ำในคืนหนึ่งแอบวิ่งหนีไป

 

 

           ผลปรากฏว่าถูกคนในปราสาทจับได้ จึงกระโดดลงหน้าผาไปตาย

 

 

           กว่าเขาจะกลับมา ก็เห็นเพียงแค่สภาพร่างกายที่ไม่เหลือชิ้นดีของเจียงมู่เฉิน

 

 

           ตัวบวม ใบหน้างามละเอียดได้รูปนั้นก็ถูกหินโสโครกครูดผ่านจนเสียโฉมไปหมด ช่างโหดร้ายทารุณเหลือเกิน

 

 

           ไม่เหลือเค้าเดิมของเจียงมู่เฉินเลย

 

 

           ฟู่เหยี่ยนมองดูเจียงมู่เฉินในสภาพที่น่าอนาถ ใจเขาก็พังทลาย

 

 

           นาทีนั้นเอง เขาถึงเพิ่งได้เข้าใจ ตอนนั้นที่ตัวเองไปยั่วโมโหเจียงมู่เฉินอย่างไม่ลดละตลอดหนึ่งปีกว่าๆ ก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับเจียงมู่เฉิน

 

 

           เขาอยากจะสยบเจียงมู่เฉินให้ได้ แบบนี้ถึงจะมีคุณสมบัติเทียบเสมอเจียงมู่เฉินได้

 

 

           เขาถึงจะมีคุณสมบัติที่จะคบกับเจียงมู่เฉินได้

 

 

           แต่ใครก็ไม่คิดว่าเจียงมู่เฉินจะเป็นสายลับที่แฝงตัวมา ดังนั้นเขาในตอนนั้นถึงรับความจริงไม่ไหว พาลเกลียดเจียงมู่เฉินไปด้วย

 

 

           เขาเกลียดเจียงมู่เฉินมาก แต่กลับไม่อยากให้เจียงมู่เฉินตาย ดังนั้นเขาจึงหาเหตุผลพาตัวเจียงมู่เฉินไปทรมานอยู่ทุกวัน

 

 

           เห็นอีกฝ่ายเจ็บปวด…

 

 

           เหมือนกับว่าทำแบบนั้นแล้วจะทำให้ความรู้สึกที่โดนหักหลังสะเทือนจิตใจของเขารู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

 

 

           แต่ยิ่งทรมานเจียงมู่เฉิน ก้นบึ้งหัวใจเขากลับยิ่งสับสน

 

 

           เพียงแต่กว่าเขาจะคิดได้ คิดไม่ถึงว่าเจียงมู่เฉินจะตายไปแล้ว

 

 

           กว่าเขาจะรู้ใจตัวเองได้ กว่าจะคิดได้ว่าต่อให้เจียงมู่เฉินหักหลังเขา เขาก็ยินดีที่จะคบกับเจียงมู่เฉิน

 

 

           แต่…

 

 

           เจียงมู่เฉินไม่ได้ให้โอกาสนี้กับเขา

 

 

           เขากระโดดลงไปเพื่อจบมัน และตายอยู่บนเกาะเล็กๆ เกาะนี้

 

 

           หลังจากเจียงมู่เฉินเสียชีวิตไป ฟู่เหยี่ยนจะทำอะไรนับวันก็โหดร้ายและน่ากลัว การเปลี่ยนแปลงของเขากลับทำให้ได้วิชาของพ่อมา

 

 

           ต้องการให้เขารับช่วงต่อกิจการของตระกูล

 

 

           หลายปีมานี้ ข้างกายฟู่เหยี่ยนมีคนเข้ามาไม่ขาดสาย ทุกคนต่างก็มีเงาของเจียงมู่เฉิน

 

 

           ดวงตา ริมฝีปาก คิ้ว…

 

 

           ขอเพียงแต่มีจุดเดียวที่เหมือนกัน เขาก็จะให้คนอยู่ข้างกายเขา

 

 

           เขามองผ่านคนพวกนั้นเข้าไป ตามหาเงาของเจียงมู่เฉิน

 

 

           แต่คนพวกนั้นถึงแม้จะมีความคลับคล้ายกับเจียงมู่เฉิน ไม่มีใครสักคนที่เป็นเจียงมู่เฉิน