ตอนที่ 260 อุบัติเหตุ / ตอนที่ 261 ลอบสังหาร

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 260 อุบัติเหตุ 

 

 

 

 

 

รอยยิ้มเธอทั้งสะใจทั้งเ**้ยมเกรียม จิ้นหยวนเห็นแล้วสังหรณ์ใจไม่ดี 

 

 

เขาก้าวยาวเดินไปข้างหน้าเธอ บีบคอเธอแน่น เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เธอคิดจะทำอะไรอีก? พูดมาเดี๋ยวนี้!” 

 

 

หร่วนเซียงเซียงยิ้มหน้าตาบิดเบี้ยว “แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ? ในเมื่อฉันทั้งเจ็บปวดทั้งโชคร้ายขนาดนี้ ฉันก็ต้องหาคนมาเป็นเพื่อนนะสิ คุณว่าดีไหมล่ะ?” 

 

 

จิ้นหยวนหัวใจเย็นวาบ โยนเธอลงบนพื้น คำรามเสียงดังลั่น “เฝ้าเธอไว้ให้ดี!” 

 

 

เขาก้าวยาวๆ ออกจากที่นั่น หร่วนเซียงเซียงตะโกนไล่หลังอย่างบ้าคลั่ง “จิ้นหยวน มันสายไปแล้ว สายไปแล้ว ฮ่าๆๆ…” 

 

 

จิ้นหยวนหวาดกลัวไปหมด เขาขับรถด้วยความเร็วสูงสุด หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกจากอก 

 

 

เขากดโทรศัพท์โทรออกไม่หยุด แต่กลับไม่มีใครรับสายเขาเลย มันทำให้เขาทรมานมาก อยากจะมีปีกสักคู่จะได้บินไปเร็วๆ ดั่งใจนึก 

 

 

ใช่แล้ว ตอนนี้เขาเดาออกแล้ว เป้าหมายของนักฆ่าที่หร่วนเซียงเซียงส่งไปในคืนนี้ก็คือเฉียวซือมู่ หญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ 

 

 

เขานึกถึงท่าทางบ้าคลั่งของหร่วนเซียงเซียงแล้วตัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาไม่เคยหวาดกลัวขนาดนี้มาก่อน ไม่กล้าคิดด้วยซ้ำว่าถ้าคำพูดของหร่วนเซียงเซียงเป็นจริงขึ้นมาแล้วตัวเองจะเจ็บปวดมากขนาดไหน 

 

 

เขาขับรถไปจอดลงตรงหน้าคฤหาสน์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว เห็นข้างในบ้านเปิดไฟสว่างไสว หัวใจเขาหนักอึ้ง 

 

 

ตามปกติถ้าดึกมากขนาดนี้ ในบ้านจะไม่เปิดไฟมากมายแบบนี้ ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่าข้างในเกิดเรื่องอะไรขึ้นนะสิ? 

 

 

เขาไม่กล้าเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว รีบก้าวเท้าจ้ำพรวดเข้าไปในบ้าน ร่างกายสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ “สวรรค์ทรงโปรด ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย ได้โปรด…” 

 

 

เขาเดินเข้าไปในบ้าน แต่ข้างในกลับว่างเปล่าไร้ผู้คน เขาเงยหน้าขึ้น ได้ยินเสียงคนมากมายดังมาจากชั้นบน 

 

 

หัวใจเขาเต้นแรงขึ้น รีบก้าวขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว พลันเห็นบอดี้การ์ดหลายคนยืนอยู่หน้าห้องนอนของเขา แต่ละคนสีหน้าแปลกประหลาด 

 

 

หัวใจเขาเต้นแรงมาก เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว พยายามแหวกบอดี้การ์ดพวกนั้นออก “มู่มู่! มู่มู่!” 

 

 

บอดี้การ์ดหันไปเห็นว่าเป็นจิ้นหยวนจึงแหวกออกเป็นทางอย่างเป็นระเบียบ ทำให้วิสัยทัศน์ของเขากว้างขึ้น เขามองเข้าไปในห้องแล้วถึงกับตะลึงค้าง 

 

 

สิ่งที่ปรากฎตรงหน้าเขาคือเครื่องเรือนที่แสนคุ้นเคย การประดับตกแต่งที่แสนคุ้นเคย และคนที่แสนคุ้นเคยกำลังชายตามองมาที่เขา เฉียวซือมู่ที่ใบหน้าแดงระเรื่อและร่างกายครบสมบูรณ์กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา 

 

 

เขาทั้งโล่งอกทั้งดีใจ ร่างกายเซเล็กน้อย แต่เขาก็กลับมายืนอย่างมั่นคงอย่างรวดเร็ว เขากวาดสายตามองผู้คนโดยรอบ แล้วมองชายปริศนาที่ฟุบอยู่กับพื้น “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” 

 

 

พ่อบ้านยืนเงียบอยู่มุมหนึ่ง ส่วนเฉียวซือมู่อยากจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จิ้นหยวนสังเกตเห็นแล้วมุ่นหัวคิ้วเล็กน้อย เขาโบกมือไล่บอดี้การ์ดพวกนั้นให้ออกไป จากนั้นชี้ไปยังพ่อบ้าน “ไหนบอกมาซิว่าเกิดอะไรขึ้น?” 

 

 

พ่อบ้านเหลือบมองเฉียวซือมู่แวบหนึ่ง จากนั้นหันไปเอ่ยกับจิ้นหยวนอย่างนอบน้อม “เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ…” 

 

 

มีคนงัดหน้าต่างแล้วปีนเข้ามาในห้องหลังจากเฉียวซือมู่หลับสนิทไปแล้ว แต่ถูกพ่อบ้านที่กำลังเดินเล่นในสวนเห็นเข้าพอดี 

 

 

พ่อบ้านที่ใจเย็นมากจึงโทรศัพท์เรียกตัวบอดี้การ์ดฝีมือดีที่สุดให้มาที่นี่ทันที พอเปิดประตูออกก็เห็นหัวขโมยคนนั้นกำลังจะกระโดดหน้าต่างหนีพอดี พ่อบ้านจึงขว้างตั่งใส่หัวขโมยคนนั้นจนสลบเหมือด 

 

 

เรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้ ส่วนเรื่องที่จิ้นหยวนโทรศัพท์เข้ามาแล้วไม่มีคนรับสายนั้น เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นฉุกละหุกเกินไป ส่วนเฉียวซือมู่ก็เพิ่งถูกพ่อบ้านปลุกให้ตื่นเมื่อกี้นี้เอง เธอเพิ่งจะงัวเงียตื่นขึ้น จึงไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีสายเรียกเข้า 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 261 ลอบสังหาร  

 

 

 

 

 

จิ้นหยวนฟังแล้วเหลือบมองพ่อบ้านแวบหนึ่ง เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ เขาเดินไปหยุดยืนข้างๆ ชายที่กำลังนอนสลบเหมือดอยู่กับพื้น ใช้เท้าเขี่ยไปสองที “ไหนดูซิว่ามันเป็นใคร…” 

 

 

เอ่ยจบแล้วก้มกายลงแกะหน้ากากของชายคนนั้นออก จู่ๆ ชายคนนั้นก็ลืมตาพรึบ สายตาโหดเ**้ยม จิ้นหยวนสังหรณ์ใจไม่ดี รีบก้าวเท้าถอยทันที แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว 

 

 

เฉียวซือมู่กรีดเสียงร้อง พ่อบ้านโถมตัวเข้าใส่ จิ้นหยวนรู้สึกถึงความเย็นบนอกจึงก้มลงดู เห็นมีดใบมีดเงาวับปักอยู่กลางอกตัวเอง ด้ามมีดอยู่ด้านนอก 

 

 

แต่น่าแปลกที่วินาทีนั้นเขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย หากแต่เป็นห่วงปฏิกิริยาของเฉียวซือมู่มากกว่า เขาเงยหน้าขึ้น เอ่ยปลอบเธอยิ้มๆ “มู่มู่…” 

 

 

หลังจากทำร้ายจิ้นหยวนแล้วชายคนนั้นก็รีบวิ่งไปยังหน้าต่างที่แตกละเอียด เขากระโดดหน้าต่างหนีโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น จากนั้นตามมาด้วยเสียงดังอึกใหญ่ 

 

 

เสียงสับสนวุ่นวายดังมาจากด้านนอก ส่วนเฉียวซือมู่นั้นสติแตกกระเจิงไปหมดแล้ว เธอถลาเข้าไปหาจิ้นหยวนด้วยความตื่นตระหนก “จิ้นหยวน จิ้นหยวน คุณเป็นยังไงบ้าง?” 

 

 

เธอมองใบหน้าขาวเผือดของจิ้นหยวนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ทั้งรู้สึกผิดทั้งหวาดกลัว หยาดน้ำตาไหลพรั่งพรูไม่หยุด เธอยื่นมือสั่นเทาออกไปกอดเขา พลันสัมผัสถึงของเหลวเหนียวหนืดในมือ ก้มลงมองจึงเห็นว่าเป็นเลือดสีแดงฉาน 

 

 

ทำอย่างไรดี? จิ้นหยวนถูกแทง เธอควรจะทำอย่างไรดี? เป็นเพราะเธอไม่ดีเอง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เขาก็ไม่ต้องบาดเจ็บแบบนี้ เธอมันสมควรตาย… 

 

 

เธออกสั่นขวัญหนีจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ร้องไห้น้ำตาไหลพราก จิ้นหยวนยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เธอ แต่มือเขากลับไร้เรี่ยวแรงจนตกลงกับพื้น “ไม่ร้องนะ คุณต้องไม่เป็นอะไร ผมเองก็จะไม่เป็นอะไรเหมือนกัน คุณได้ยินหรือเปล่า? ไม่ร้องนะ คุณร้องไห้แล้วผมเจ็บปวดหัวใจ…” 

 

 

เอ่ยจบแล้วลมหายใจเขาค่อยๆ แผ่วลง สติค่อยๆ เลือนราง ดูเหมือนหญิงสาวตรงหน้ากำลังพูดอะไรกับเขาด้วยความตื่นตระหนก แต่เขากลับได้ยินไม่ชัดเลย เขายิ้มขื่น หรือว่าคืนนี้เขาต้องตายอยู่ตรงนี้? 

 

 

เขาพยายามรวบรวมแรงที่มีอยู่หันไปเอ่ยกับพ่อบ้านอย่างยากลำบาก “อย่าให้พ่อแม่รู้…” 

 

 

ชั่ววินาทีก่อนที่สติเขาจะดับวูบลง ดูเหมือนเขาจะได้ยินเสียงหวอรถพยาบาลดังอยู่หน้าบ้าน… 

 

 

ทีมแพทย์ยกร่างจิ้นหยวนออกจากห้อง เธอรู้สึกเหมือนวิญญาณตัวเองจะหลุดลอยตามจิ้นหยวนไปแล้ว เธอลูบอกตัวเอง รู้สึกว่ามันทั้งเย็นทั้งว่างเปล่า ไม่รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจอีกแล้ว 

 

 

นี่เธอเป็นอะไรไป? หรือว่าหัวใจเธอจะหลุดลอยตามจิ้นหยวนไปแล้ว? 

 

 

เธอกลัวจนลนลาน รีบวิ่งออกจากห้อง ทันเห็นจิ้นหยวนถูกหามขึ้นรถพยาบาลพอดี แสงไฟสว่างเจิดจ้า เลือดสีแดงฉานที่ท่วมตัวจิ้นหยวนทิ่มแทงหัวใจเธอ 

 

 

วินาทีนี้ ในสมองเธอมีเพียงความคิดเดียว นั่นคือจิ้นหยวนกำลังจะตาย เขากำลังจะตาย แล้วเธอควรทำอย่างไรดี? เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีจิ้นหยวน? 

 

 

ไม่ ไม่ได้ เธอขาดเขาไม่ได้ เธอไม่ยอมหรอก ไม่ยอมเด็ดขาด! 

 

 

ไม่รู้ว่าเธอไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทั้งๆ ที่ยืนแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว แต่จู่ๆ เธอก็มีพละกำลังขึ้นมา เธอลุกขึ้นยืน วิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็ว แต่กลับวิ่งไม่ทันความเร็วของรถพยาบาลที่เพิ่งเคลื่อนตัวออกไป