ตอนที่ 544 มีข้าอยู่ด้วย

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

โม่จิ่นมองมู่เฉียนซีด้วยความตกใจ “นี่เจ้ากำลังจะบอกว่า เจ้า……เจ้า……”

ความสัมพันธ์ของคนในเกาะวิญญาณมรณะด้วยกันเขานั้นรู้จักดี แต่สิ่งเดียวที่เขาไม่ได้รู้จักดีนั่นก็คือนาง!

พลังจิตของมู่เฉียนซีไหลเวียนขึ้น ในครั้งที่ขึ้นไปบนหอฉงโหลวบนเมฆา พลังจิตของนางได้เพิ่มขึ้นมาไม่น้อยเลย การฝึกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เพียงไม่กี่ตัวนี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนาง

หลังจากที่ฝึกสัตว์ได้สำเร็จแล้ว มู่เฉียนซีกล่าวกับโม่จิ่นว่า “ไปหาคนมาทำพันธสัญญาเถอะ!”

โม่จิ่นในตอนนี้ยังคงตกตะลึงอยู่ “นี่ ฝึกเสร็จแล้วจริง ๆ รึ!”

“จริงหรือไม่จริงนั้น เจ้าหาคนมาลองก็จะรู้เอง หาคนที่ไว้ใจได้ มิเช่นนั้นจะเกิดเรื่องวุ่นวายเอาได้ เจ้าจัดการเองเถอะ!”

“แน่นอนอยู่แล้ว!”

“สำเร็จแล้ว!”

“สำเร็จแล้วจริง ๆ ด้วย!”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ตอนแรกข้าก็นึกว่าหัวหน้าล้อเล่น! คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง”

“ท่านผู้ฝึกสัตว์ผู้ยิ่งใหญ่อยู่ที่ไหน ข้าอยากจะยกชีวิตให้กับเขา!”

โม่จิ่นให้ลูกน้องได้ทำพันธสัญญากับสัตว์เหล่านั้น ส่วนตัวเขาเองกลับไม่ทำ

โม่จิ่นมิใช่คนที่เสียสละเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เขาเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทำพันธสัญญา

“เจ้าไม่ชอบเจ้าพวกนี้เหรอ ?”

“ใช่! ก็พวกมันหน้าตาน่าเกลียดจะตายไป!” โม่จิ่นยักไหล่พลางกล่าว

“แล้วแต่เจ้า!”

ทำพันธสัญญากับสัตว์ทะเลเสร็จ จากนั้นก็ได้สั่งให้พวกมันไปจัดการ และพวกมันก็ไปจัดการตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง

พวกมันที่คุ้นเคยกับทะเล หากหาตำแหน่งที่อยู่ของเรือวิญญาณมรณะไม่เจอ เช่นนั้นก็เกรงว่าเรือวิญญาณมรณะนี้คงจะไร้สิ่งของใด ๆ

หลังจากที่ได้ค้นหามาเป็นเวลาหนึ่งวัน ในที่สุดเหล่าสัตว์ทะเลก็ได้ส่งข่าวมา

ก้นทะเลไม่มีเรือวิญญาณมรณะอยู่ แต่ชั้นใต้เกาะวิญญาณมรณะกลับปรากฏสิ่งแปลกประหลาดขึ้น

โม่จิ่นมองมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “แม่นางมู่ เจ้าจะทำยังไง ?”

“ในเมื่อมีสิ่งแปลกประหลาดปรากฏขึ้น งั้นก็ลองไปดูสักหน่อยก็แล้วกัน!”

ครั้นแล้วพวกเขาก็ลงไปสำรวจใต้ทะเล ไม่จำเป็นต้องสืบเสาะค้นหาในหลายด้าน มู่เฉียนซีกับโม่จิ่นก็ได้พบกับจุดที่ผิดปกติ

ด้างล่างของเกาะวิญญาณมรณะดูเหมือนว่ามีคนขยับมันก็มิปาน ด้านล่างนี้เกรงว่าจะมีอะไรบางอย่างอยู่

โม่จิ่นที่อายุยังน้อย มีพลังความแข็งแกร่งเช่นนี้ แน่นอนว่าเขามิใช่ผู้ที่ไร้ความรู้ความสามารถเขายังรู้เรื่องค่ายกลอีกด้วย

หลังจากที่ขยับ ค่ายกลด้านล่างของเกาะวิญญาณมรณะก็ได้เปิดขึ้น!

ตูม ตูม ตูม!

ชั่วขณะหนึ่ง ทั่วทั้งเกาะวิญญาณมรณะก็สั่นสะเทือนขึ้น นักโทษบนเกาะวิญญาณมรณะต่างก็ตื่นตระหนกขึ้น!

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?”

“ใต้เกาะกำลังเคลื่อนงั้นรึ ?”

“……”

ด้านล่างของเกาะวิญญาณมรณะปรากฏประตูใหญ่บานหนึ่ง และประตูใหญ่บ้านนั้นถูกเปิดออก ด้านหลังประตูนั้นดูเหมือนว่ามีโลกใต้แห่งก็มิปาน

ด้านในนั้นมีเรือลำใหญ่สีดำสนิทอยู่ลำหนึ่ง ดูเหมือนมันจะมีขนาดใหญ่ครึ่งหนึ่งของเกาะวิญญาณมรณะและถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันสีดำ

พลังวิญญาณได้ห่อหุ้มร่างของโม่จิ่นและได้แยกกับน้ำที่อยู่ในบริเวณรอบ ๆ เขาปริปากกล่าวขึ้นว่า “นี่คือเรือวิญญาณมรณะ ที่แท้เรือวิญญาณมรณะก็ซ่อนอยู่ที่ใต้เกาะวิญญาณมรณะนี่เอง”

“บนพื้นผิวทะเลนั้นก็เป็นเพียงแค่เงาของมัน!”

โม่จิ่นเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้น “จะเข้าไปหรือไม่ ?”

“ซี! เข้าไป!” เสียงอันเย็นยะเยือกดังขึ้น มู่เฉียนซีสะดุ้งเล็กน้อย เป็นเสียงของจิ่วเยี่ย คำพูดของจิ่วเยี่ยทำให้มู่เฉียนซีเชื่ออย่างไร้เงื่อนไข

ท่านอาไปอยู่ในโลกแห่งภูต จากนางไปไกลแสนไกล บัดนี้จิ่วเยี่ยเป็นผู้ที่อยู่เคียงข้างนางและเป็นคนที่นางเชื่อใจ

มู่เฉียนซีตอบ “พยายามหาอยู่ตั้งนาน ในที่สุดก็ได้เจอเรือวิญญาณมรณะในตำนาน ต้องเข้าไปอยู่แล้ว”

โม่จิ่นกล่าว “ก็จริงอย่างที่เจ้าพูด เข้าก็เข้า!”

“เจ้าคิดใคร่ครวญดูดีดี ข้ากลัวว่าเจ้าจะตายอยู่ในนั้นแล้วไม่มีคนไปเอาศพ”

สถานที่แห่งนี้ ในเมื่อจิ่วเยี่ยเป็นคนเอ่ยปากกล่าวขึ้นมาเองว่าให้นางเข้าไป มันจะต้องมีบางอย่างที่พิเศษแน่นอน ในขณะเดียวกันก็ต้องอันตรายมากเช่นกัน หากเป็นเพียงเรื่องเล็กจิ่วเยี่ยคงไม่ปริปากเอ่ยออกมาอย่างแน่นอน

โม่จิ่นกล่าว “แม้แต่เจ้ายังกล้าเข้าไป หากข้าไม่กล้าเข้าข้าก็เสียหน้าแย่นะสิ”

ครั้นแล้วมู่เฉียนซีกับจิ่นโม่ก็ได้ย่างกรายเข้าไปในประตูบานนั้นและมุ่งไปที่เรือวิญญาณมรณะ

ในสถานที่ที่พวกเขามองไม่เห็นนั้น จื่อโยวก็ได้กล่าวขึ้นว่า “เยี่ย เจ้าโหดร้ายกับสาวงามเกินไปแล้ว! สถานที่เช่นนี้ยังกล้าปล่อยให้สาวงามเข้าไปอีก ในนั้นมันน่ากลัวซะยิ่งกว่าอะไร”

“มีข้าอยู่ด้วย!” เงาร่างสีดำนั้นเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็ว ได้ตามเข้าไปแล้ว

หลังจากที่มู่เฉียนซีเข้าไป ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์และคนอื่น ๆ จำนวนมากก็ได้ตามมา หนึ่งในนั้นรวมถึงพี่หลงผู้ที่ยังบาดเจ็บยังไม่หายดีอยู่ด้วย

ทันทีที่ได้เห็นเรือวิญญาณมรณะนั้น พวกเขาก็ตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “เรือวิญญาณมรณะ พวกเราเจอเรือวิญญาณมรณะแล้ว!”

“ที่แท้เรือวิญญาณมรณะก็ซ่อนอยู่ตรงนี้นี่เอง!”

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! ยังไม่ทันเข้าใกล้เรือวิญญาณมรณะ มู่เฉียนซีก็พบว่ามีคมลูกศรสีดำกำลังโจมตีมา นี่เป็นอาวุธลับที่ปกป้องเรือวิญญาณมรณะ!

ร่างสีม่วงรีบเคลื่อนไหวหลบหลีกอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า อาวุธลับเช่นนี้ ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะเป็นเพียงราชาแห่งภูต แต่ทักษะพันเงาของนางก็สามารถหลบหลีกได้

“แม่นางมู่ รอข้าด้วย!” โม่จิ่นไล่ตามหลังมู่เฉียนซี

หลังจากที่หลบหลีกการโจมตีนี้ได้ มู่เฉียนซีกับโม่จิ่นก็ขึ้นไปบนเรือได้สำเร็จ ส่วนคนอื่นนั้นกลับได้รับบาดเจ็บครึ่งและตายครึ่ง

แกร่ก! เขาย่างเท้าเดินบนเรือเบา ๆ แต่กลับรู้สึกราวกับจะเหยียบโดนเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยของเรือก็มิปาน

โม่จิ่นกล่าว “เรือลำนี้เก่ามากแล้ว อย่างน้อยก็หลายพันปี แต่เรือเช่นนี้เหตุใดถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ ?”

“อย่ามัวแต่พูดไร้สาระอยู่เลย ไปเถอะ!”

มู่เฉียนซีก้าวเท้าเข้าในห้องโดยสาร ด้านในนี้ใหญ่มาก ราวกับเป็นโลกอีกใบก็มิปาน

โม่จิ่นพึมพำว่า “ของล้ำค่า! ของล้ำค่าจะถูกทิ้งไว้ตรงไหนกัน ?”

“โดยปกติแล้ว น่าจะเป็นห้องเก็บของ!”

“ใช่แล้ว ห้องเก็บของ”

ในขณะที่พวกเขากำลังจะไปหาห้องเก็บของ ทันใดนั้นความรู้สึกหนาวเหน็บก็ค่อย ๆ เข้ามา ตรงหน้ามีโครงกระดูกสีขาวความสูงประมาณสามเมตร ในดวงตามีเปลวไฟสีเขียวเข้มกำลังลุกไหม้อยู่และจ้องมองไปที่พวกเขา

แกร่ก แกร่ก แกร่ก! ทันทีที่มันเปิดปาก เสียงเสียดแทงหูก็ดังขึ้น

โม่จิ่นสีหน้าซีดเผือด “โครงกระดูก นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย ?”

มู่เฉียนซีตอนนี้กลับนิ่งสงบมาก นางเห็นโครงกระดูกในจวนของจิ่วเยี่ย และเห็นจิ่วเยี่ยทำลายคนให้เป็นโครงกระดูกจนชินแล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นสิ่งนี้เข้าก็เป็นความคุ้นชินของนาง!

เพียงแต่ว่า ตอนนี้มันกลับมีความรู้สึกที่จะโจมตีนาง!

ตูม! จู่ ๆ โครงกระดูกนั่นก็พรวดเข้ามู่เฉียนซี เคลื่อนไหวโจมตีนางอย่างรุนแรง

“แม่นางมู่ ระวัง!” พลังธาตุอัคคีไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง และโจมตีไปทางโครงกระดูกขาวนั่น

มู่เฉียนซีหลบหลีกมาอีกด้านหนึ่ง กระบี่มังกรเพลิงถูกนางชักออกมา นางตะโกนด้วยเสียงเย็นชาว่า “มังกรเพลิงสังหาร!”

เปลวเพลิงทั้งสองพุ่งเข้าใส่โครงกระดูกขาวทันที ทว่า มันกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย จากนั้นก็โจมตีต่อ!

ปัง ปัง ปัง!

เผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ของมัน มู่เฉียนซีกับโม่จิ่นยังคงสามารถหลบหลีกได้!

“มังกรวารีพิฆาต!”

“เปลวอัคคีพิฆาต!”

ตูม ตูม ตูม!

โม่จิ่นกล่าว “นี่ตกลงมันเป็นอะไรกันแน่ ร่างอมตะ ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ตาย!”

ดวงตาของมู่เฉียนซีขุ่นมัวขึ้น “เจ้านี่ฆ่าไม่ตาย อย่าได้เสียเวลากับมันเลย รีบไปเถอะ!”

“อืม!”

มู่เฉียนซีกับโม่จิ่นใช้ความเร็วสุดขีดในการวิ่งหนี ทว่า โครงกระดูกนี้กลับไล่ตามทั้งสองอย่างสุดชีวิต!

ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง คนเหล่านั้นที่ได้มาถึงเรือวิญญาณมรณะ ก็ต้องเผชิญกับกลุ่มกองทัพโครงกระดูกอันน่าสะพรึงกลัวเช่นกัน

เกาะวิญญาณมรณะแห่งนี้ น่ากลัวราวกับแดนปรโลกก็มิปาน