บทที่ 738 : เตรียมการ!
หลิงหยุนและถังเมิ่งต่างก็เดินออกมาทักทายเหล่ากุ่ย..
“สวัสดีครับเหล่ากุ่ย..ไม่ได้เจอกันนานเลย!” ถังเมิ่งรีบเอ่ยทักทายเหล่ากุ่ยทันที
เหล่ากุ่ยยิ้มพร้อมกับพยักหน้าและเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ถังเมิ่ง.. เจ้ามาได้ยังไง”
ส่วนหลิงหยุนก็ร้องบอกสมาชิกแก๊งมังกรเขียวทั้งสามคนให้รีบช่วยกันขนของที่นำมา“ช่วยกันขนของออกจากรถได้แล้ว!”
หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและได้แต่นึกแปลกใจที่จู่ๆแสงแดดก็หายไป แต่กลับมีเมฆลอยมาบดบังแสงอาทิตย์ไว้
หลิงหยุนเห็นเช่นนี้ก็ได้แต่นึกกังวลใจเพราะหากเกิดฝนตกขึ้นมาจริงๆ สายฝนก็จะชะล้างร่องรอยของหมื่นลี้ล่าวิญญาณให้จางลง และหากประสาทสัมผัสทั้งห้าของหลิงหยุนไม่สามารถสัมผัสร่องรอยได้อีก การตามหาที่ซ่อนของเกาเฉินเฉินก็จะยิ่งลำบากมากขึ้น..
โลหะเงินจำนวนสองร้อยกิโลกรัมถูกบรรจุไว้ในกล่องอย่างแน่นหนาปลอดภัยถูกเคลื่อนย้ายไปไว้ในรถตู้ของเหล่ากุ่ย
“ถังเมิ่ง..นายพาพวกเขาไปทานข้าวเที่ยงก่อน หลังจากกินข้าวเสร็จแล้วก็ค่อยให้ทุกคนช่วยกันยกสมุนไพรเข้าไปไว้ด้านใน..”
หลิงหยุนสั่งให้ขับรถตู้ที่บรรจุสมุนไพรจำนวนหลายสิบกระสอบไปไว้ในลานบ้านก่อนพร้อมกับหันไปสั่งถังเมิ่งว่า
“ถังเมิ่ง..นายจัดการโทรไปสั่งสมุนไพรที่จิงฉูเพิ่มได้เลย แล้วก็นำไปเก็บไว้ในบ้านเลขที่-1 ของฉันเหมือนเดิม ฉันไม่ต้องการให้สมุนไพรหมดสต๊อค!”
ถังเมิ่งตอบกลับยิ้ม“พี่หยุน.. พี่สบายใจได้! รับรองว่าพี่จะได้ทั้งสมุนไพรที่มีคุณภาพแล้วก็มีปริมาณมากพอไม่ขาดมืออย่างแน่นอน..
“เอาล่ะ..ฉันจะไปทำธุระกับเหล่ากุ่ยก่อน กลับมาฉันจะรีบโทรหานาย!” หลิงหยุนพยักหน้าอย่างพอใจพร้อมกับร้องบอกถังเมิ่ง
พูดจบ..หลิงหยุนก็เดินไปขึ้นรถตู้ของเหล่ากุ่ย จากนั้นรถตู้ก็เลี้ยวกลับและมุ่งหน้าออกนอกเมืองไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งคู่ก็มาถึงถนนวงแหวนที่เจ็ดซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานเล็กๆทรุดโทรมแห่งหนึ่ง
และมันก็คือโรงงานผลิตคลังแสงของตระกูลหลิงนั่นเอง!
ครั้งนี้รถตู้ของเหล่ากุ่ยขับเข้าไปด้านในโรงงานและไปจอดอยู่หน้าประตูโกดัง..
โกดังแห่งนี้เป็นโกดังขนาดใหญ่พื้นที่กว้างขวางด้านในสามารถรอบรับรถตู้ขนาดใหญ่ได้มากกว่าสองคัน นอกเหนือจากพื้นที่โล่งแล้ว ด้านในยังมีโกดังเล็กๆอยู่อีกนับสิบโกดัง แต่ปิดประตูไว้หมด
ทันทีที่รถตู้ของเหล่ากุ่ยเคลื่อนเข้าไปจอดหลิงหยุนก็เปิดจิตหยั่งรู้ออกสำรวจทันที เขาพบว่าแม้ภายนอกจะดูเหมือนโกดังเก็บของเล็กๆ แต่ความจริงแล้วมันคือทางเดินขนาดใหญ่ และด้านในก็คือทางเดินเข้าไปสู่โรงงานลับที่ผลิตอาวุธของตระกูลหลิง
และโลหะต่างๆที่ใช้ผลิตอาวุธให้กับตระกูลหลิงก็จะถูกส่งเข้าโรงงานตามเส้นทางลับแห่งนี้
นับว่าเป็นการออกแบบที่สร้างสรรค์และชาญฉลาดอย่างมากคนธรรมดาคงยากที่จะคาดเดาได้..
หลังจากที่รถตู้แล่นเข้าไปในโกดังเรียบร้อยดีแล้วเหล่ากุ่ยก็หยิบรีโมทคอนโทรลออกมา และกดที่ปุ่มเบาๆ
ประตูโกดังก็ค่อยๆเคลื่อนปิดลงมาและโกดังขนาดใหญ่ก็ถูกปิดไว้สนิท
เหล่ากุ่ยยิ้มให้หลิงหยุนพร้อมกับพูดขึ้นว่า“วัสดุที่ใช้ก่อสร้างโรงงานแห่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นวัสดุกันเสียงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์..”
หลิงหยุนถึงกับตกใจไม่น้อยและได้แต่คิดในใจว่าโกดังขนาดใหญ่เช่นนี้ หากก่อสร้างด้วยวัสดุกันเสียงทั้งหมด จะต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างมากเพียงใด
ตระกูลหลิงตกต่ำมาถึงสิบแปดปีแน่นอนว่ารายได้ของตระกูลก็ลดน้อยถอยลงไปด้วย คนในตระกูลต่างก็ไม่ได้ใช้เงินทองด้วยความฟุ่มเฟือย แต่เงินจำนวนมากมายกลับถูกนำมาลงทุนกในโรงงานลึกลับแห่งนี้!
เหล่ากุ่ยกดปุ่มบนรีโมทคอนโทรลเบาๆอีกครั้งจากนั้นประตูโกดังเล็กๆที่อยู่ด้านในก็ค่อยๆเปิดออกเผยให้เห็นความจริง..
แม้ว่าภายนอกอาจจะดูไม่แตกต่างจากโกดังทั่วไปแต่ภายในนั้นกลับว่างเปล่า เพียงแค่เหลือบตามองหลิงหยุนก็รู้ว่า หากผนังห้องถูกเปิดออก ด้านหลังก็จะเป็นโรงงานผลิตอาวุธ
คนขับรถที่ขับรถตู้ให้กับเหล่ากุ่ยนั้นก็คือหนึ่งในนักรบทั้งสามสิบคนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี และรีบเดินลงมาเปิดประตูรถให้เหล่ากุ่ยลงทันที
ทันทีที่ลงจากรถร่างของเหล่ากุ่ยก็กระโดดไปยืนอยู่ที่ผนังห้อง และเอื้อมมือออกไปผลักผนังด้านหนึ่ง จากนั้นกำแพงก็เปิดออกกว้างราวสามสิบเซ็นติเมตร เผยให้เห็นเพียงความมืดด้านใน
นับได้ว่ามาตรการป้องกันของที่นี่แข็งแกร่งกว่าระบบป้องกันของธนาคารเสียอีก!
กำแพงที่เปิดขึ้นนั้นเผยให้เห็นหน้าจอที่ดูคล้ายกับหน้าจอตู้ATM และมันก็คือหน้าจออินเตอร์คอมที่ใช้สำหรับติดต่อกับคนที่อยู่ด้านใน เพราะหลิงหยุนเห็นหน้าของหลิงสือชีปรากฏอยู่บนหน้าจอ
“เหล่ากุ่ย..ท่านมาแล้วรึ” แววตาของหลิงสือชีที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอนั้นเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น
“ใช่..เจ้าเปิดประตูได้!” เหล่ากุ่ยยิ้มพร้อมกับร้องสั่งให้หลิงสือชีเปิดประตูโรงงานพร้อมกับหันไปพูดกับหลิงหยุนว่า
“นายน้อยสี่..เราสองคนเพิ่งงจะมาถึง แต่ดูเหมือนหลิงสือชีจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้แล้ว!”
หลิงหยุนเองก็ได้แต่แอบคิดกังวลว่าขนาดตระกูลหลิงยังมีระบป้องกันที่ดีเยี่ยมเช่นนี้ หากเฉินเจี้ยนกุ่ยจับเกาเฉินเฉินไปขังไว้ในสถานที่ที่มิดชิดเช่นนี้ ก็คงจะเป็นปัญหาใหญ่ในการที่จะไปช่วยออกมาอย่างมาก!
กำแพงนี้ทำจากเหล็กที่หนาถึงครึ่งเมตร!
กำแพงเหล็กหนาเกือบครึ่งเมตรนี้ค่อยๆเลื่อนออกไปทางด้านข้างทั้งสองด้าน ร่างของหลิงสือชีเดินออกมาตรงกลาง และรีบตรงเข้ามาขอบคุณหลิงหยุน
“ขอบคุณนายน้อยสี่ที่ช่วยตระกูลหลิง!”
และแน่นอนว่าหลิงสือชีรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลหลิงเมื่อคืนนี้หมดแล้ว..
หลิงหยุนยิ้มให้กับหลิงสือชี“ข้าเป็นคนตระกูลหลิง การปกป้องตระกูลหลิงย่อมเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว เจ้ามาขอบคุณข้าด้วยเหตุใดกัน หรือเจ้าเห็นข้าเป็นคนนอกงั้นรึ?”
หลิงสือชีรีบส่ายหน้าแต่ไม่พูดอะไร..
“ลูกธนูเงินที่ข้าสั่งให้เจ้าทำล่ะ”
หลิงสือชีตอบกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น“นายน้อยสี่.. หลังจากที่ท่านกลับไป ข้าก็ได้สั่งให้คนทำลูกธนูหัวเงินขึ้นมาสองร้อยดอก และลูกธนูที่เป็นเงินทั้งด้ามอีกยี่สิบสี่ดอก”
ทันทีที่ได้ยินหลิงหยุนก็ร้องสั่งออกมาอย่างตื่นเต้น“เร็วเข้า.. พาข้าไปดูเดี๋ยวนี้!”
ทั้งสามคนเดินตรงเข้าไปยังจุดผลิตลูกธนูหลิงหยุนเห็นลูกธนูแหลมคมทั้งสี่มัดวางกองอยู่กับพื้น แต่ละมัดมีห้าสิบดอก ส่วนอีกหนึ่งมัดเล็กนั้นมีลูกธนูที่ทำจากเงินทั้งด้าม
ลูกธนูแต่ละดอกนั้นยาวหนึ่งเมตรครึ่งปลายธนูนั้นแหลมคมอย่างมาก และหัวธนูทั้งหมดก็เคลือบด้วยเงิน ภายใต้แสงไฟจึงเปล่งประกายวิบวับไม่หยุด..
ลูกธนูเงินทั้งสี่มัดนั้นหัวธนูเคลือบด้วยเงินตามคำสั่งของหลิงหยุนเขารู้ดีว่าถึงแม้ลูกธนูที่หัวธนูเคลือบด้วยเงินนั้นจะมีผลต่อเหล่าแวมไพร์ แต่อานุภาพของมันก็คงเทียบไม่ได้กับลูกธนูที่ทำจากเงินทั้งด้ามอย่างแน่นอน
หลิงหยุนหยิบลูกธนูที่ทำจากเงินทั้งด้ามมาไว้ในมือเพื่อกะน้ำหนักเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับคิดในใจว่า
‘หนักถึงสองร้อยกิโลกรัมเชียวรึ!นี่เทียบเท่ากับลูกธนูธรรมดาถึงร้อยดอกเลยทีเดียว!’
“เอาล่ะ..วันนี้ข้านำโลหะเงินมาให้อีกสองร้อยกิโลกรัมเพื่อให้เจ้าใช้ทำลูกธนูทั้งหมด!”
หลิงหยุนร้องสั่งหลิงสือชีทันทีแต่ในใจก็ได้แต่แอบคิดว่าถึงเวลาที่ต้องให้บริวารแวมไพร์ที่ซื่อสัตย์ทั้งสี่ตนของเขาเสียสละบ้างแล้ว..
เพราะไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรหรือโลหะแร่ธาตุต่างๆนั้น ต่อให้มีเงินทองมากมาย หากต้องการซื้อจำนวนมากๆ ก็ใช่ว่าจะสามารถหาซื้อได้ในทันทีเสียเมื่อไหร่ จำเป็นที่หลิงหยุนจะต้องสั่งโลหะเงินมาเก็บไว้ และหากจำเป็นก็จะสามารถหยิบมาใช้ได้ทันที!
หลังจากสัมผัสลูกธนูดูแล้วหลิงหยุนก็รู้สึกว่ามันยังใหญ่ไป “ลูกธนูนี่มีขนาดใหญ่เกินไป มันควรจะต้องเพรียวบางกว่านี้ ไม่เช่นนั้นจะมีผลต่อความเร็วของลูกธนู”
หลิงหยุนสั่งให้หลิงสือชีแก้ไขและหากสามารถทำให้ลูกธนูเล็กกว่านี้ได้สักครึ่งหนึ่ง เขาก็จะสามารถยิงลูกธนูได้ครั้งละสองดอก
“นายน้อยสี่..ข้าได้เคยทดสอบดูแล้ว หากทำให้ลูกธนูเล็กลงครึ่งหนึ่ง จะมีผลต่อหัวธนู และทำให้คลาดเคลื่อนจากเป้าได้!” หลิงสือชีตอบหลิงหยุนด้วยสีหน้าจริงจัง..
หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อย“เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น คนอื่นอาจจะมีผลต่อความแม่นยำ แต่มันไม่มีผลต่อข้า..”
หลิงสือชีพยักหน้าเป็นการรับคำสั่ง..
หลิงหยุนโน้มตัวลงหยิบลูกธนูทั้งห้ามัดเข้าไปไว้ในแหวนพื้นที่และนั่นทำให้เขาพบว่าเวลานี้เนื้อที่ในแหวนพื้นที่ของเขาเริ่มแน่นมากแม้ว่าจะผ่านการเพิ่มพื้นที่ด้านในมาแล้วก็ตาม
หลิงหยุนสั่งให้นักรบตระกูลหลิงช่วยกันยกโลหะเงินทั้งสองร้อยกิโลกรัมเข้าไปไว้ในโรงงานและให้นำกล่องที่ว่างเปล่าทั้งแปดกล่องนั้นกลับไปไว้ในรถตู้ของเหล่ากุ่ยเช่นเดิม
“เจ้ารีบไปจัดการตามที่ข้าสั่งและให้เสร็จโดยเร็วที่สุด..” หลิงหยุนสั่งหลิงสือชีพร้อมกับชี้ไปยังโลหะเงินที่กองอยู่บนพื้น
หลิงหยุนคาดว่าแวมไพร์ขั้นเอริ์ลและแกรนด์ดยุคที่เฉินเจี้ยนกุ่ยเชิญมานั้นคงจะมาถึงปักกิ่งในไม่ช้านี้แล้ว เขาจึงต้องเตรียมการไว้ให้พร้อม!
“ขอรับ!ข้าจะทำตามที่นายน้อยสี่สั่ง” หลิงสือชีพยักหน้า และรีบไปทำตามคำสั่งของหลิงหยุน
หลิงหยุนพยักหน้าและพูดอีกเพียงแค่สองสามประโยคก็ออกไปจากโรงงานผลิตอาวุธของตระกูลหลิงพร้อมกับเหล่ากุ่ย
เสียงสตาร์ทรถตู้ดังขึ้นและค่อยๆเคลื่อนตัวออกนอกประตูโรงงานไป