ตอนที่ 665

The Divine Nine Dragon Cauldron

665 – หัวหน้าผู้ตรวจการไป

 

ก่อนซือหยูจะมาที่นี่ เขาตั้งใจจะทําตัวต้อยต่ําเพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจ แต่เขาไม่พอใจกับเหล่าทหารพวกนี้อย่างมากข

 

นี่นะกําลังของอาณาจักรทมิฬที่ผู้เฒ่าจิวเอ่ยถึง?

 

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง อาณาจักรทมิฬก็คงจะเสื่อมโทรมไปแล้ว มันไม่ต่างอะไรกับพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ในอดีตเลย! แค่มองก็บอกได้เลยว่าอาณาจักรทมิฬเสื่อมโทรมเพียงใด ถึงได้ปล่อยให้คนอย่างหลงควนมามีอํานาจเช่นนี้!

 

การต้องมาเจอกับเรื่องเช่นนี้ขณะที่เดินทางมาถึงอาณาจักรทมิฬด้วยความหวังทําให้ความหวังทั้งหมดที่มีสลายไปในพริบตา เขารู้สึกด้วยซ้ําว่าควรเลิกคิดที่จะขอกําลังเสริมจากพวกเขา เพราะอย่างไรสัญชาตญาณก็บอกเขาว่าอาณาจักรทมิฬอาจจะพึ่งพาไม่ได้และไม่น่าเชื่อถือ

 

ในตอนนี้ คนทั้งเมืองหันมามองซื้อหูราวกับได้เห็นคนบ้า

 

แม้แต่หลงควนเองก็โกรธจัด! คําพูดสั้นๆว่า “เจ้าหลีกไปเถอะ” นั้นหยาบคายอย่างมาก!

 

หลงควนคงสับสนถ้าได้ยินคําพูดแบบนี้มาจากผู้เฒ่าที่มีพลังสูงส่ง แต่เมื่อกลับมาได้สติเขาทั้งโกรธและอับอาย

 

“จับมัน แล้วค่อยเอามันไปทรมานสืบสวน”

 

หลงควนพยายามจะพูดอย่างใจเย็น

 

เหล่าทหารล้อมชื่อหยขณะที่มองซื้อหยูด้วยความกังวลและตกใจ

 

พี่บ!

 

แต่ก่อนที่เหล่าทหารจะได้ขยับตัว เมฆาสีเลือดก็ได้ลอยมาจากท้องนภาไกลโพ้น และเมื่อเมฆานั้นมาใกล้ก็พบว่ามันคือชายแก่สวมชุดแดง!

 

“พวกผู้ตรวจการนี้!”

 

คนในเมืองตะโกนด้วยความนับถือ เขานับถือเหล่าผู้ตรวจการยิ่งกว่าพวกทหารเสียอีก

 

ผู้ตรวจการเป็นดั่งดวงตาของอาณาจักรทมิฬ พวกเขาทําหน้าที่สอดส่องดูแลทุกสํานักที่ข้องเกี่ยวกับอาณาจักร ดังนั้นทุกอย่างตั้งแต่ความผิดธรรมดาๆหรือกองทัพกบฏจึงอยู่ในคําตัดสินของพวกเขา พวกเขามีสิทธิ์ตัดสินใจและลงมือก่อนที่จะรายงานยังผู้ที่ครองอํานาจสูงกว่า

 

ตอนที่ตําหนักเจ็ดจ้าวปิดตัวลง พวกเขาคือคนที่มีอํานาจสูงสุดรองจากราชาแห่งความมืดพวกเขาคือคมกระบี่ที่อยู่เหนือหัวประชาชนทุกคนในอาณาจักร

 

พวกเขาจะประหารใครก็ได้ที่ฝ่าฝืนกฏของอาณาจักรทมิฬในทันทีทันใด ด้วยเหตุนี้ประชาชนจึงนับถือพวกเขาเหนือทหารทัพต้องห้าม

 

บัดซบ! พวกตัวปัญญามาแล้ว! สีหน้าหลงควนหม่นหมองและเดินไปข้าวหน้าเพื่อทักทายเหล่าผู้ตรวจการ

 

“ท่านผู้ตรวจการ ข้าคือผู้นําทัพหลวงหลงควน ยินดีต้อนรับพวกท่านทุกคน”

 

ผู้ตรวจการสามคนร่อนลงพื้น พวกเขามีพลังที่แข็งแกร่งในขอบเขตภูติระดับหนึ่ง แต่พวกเขาเพิ่งจะเลื่อนระดับพลังมาไม่นาน พวกเขาจึงอ่อนแอกว่าหัวหน้าผู้ตรวจการไปเล็กน้อย

 

สามผู้ตรวจการมองรอบๆหน้าตาเฉยเมย เขามองไปยังรถเลื่อนวิหคและขมวดคิ้ว หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา

 

“ตามกฏของอาณาจักร คนที่ระดับต่ํากว่าจ้าวแห่งความมืดห้ามมีสัตว์อสูรมากกว่าหนึ่งตัว”

 

เขาพูดต่อ

 

“เจ้ามีสามตัว อีกสองตัวต้องถูกสังหาร”

 

ผู้ตรวจการที่อายุราวแปดสิบปีพูดออกมา เส้นผมรวมถึงคิ้วที่ขาวราวหิมะทําให้คนที่มองดูรู้สึกขนลุก

 

ผู้ตรวจการสองคนที่เหลือเดินไปที่รถเลื่อน จากนั้นพวกเขาจึงพันมือตัดหัวสัตว์อสูรทิ้ง

 

“เจ้าบ้าไปแล้วรี? เจ้ารู้ไหมว่าสัตว์อสูรพวกนั้นข้าได้มาจากใค..”

 

หลงควรตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว

 

ฉัวะ!

 

เสียงกรีดร้องของสัตว์อสูรสองตัวดังขึ้น สัตว์อสูรที่คล้ายวิหคเพลิงตายในทันที! เหลือ หนึ่งตัวที่ยังมีชีวิตรอดมันหวาดกลัวอย่างมาก

 

“กล้าดียังไง!”

 

หลงควนต้องมองอย่างโกรธแค้น

 

ชายแก่ผู้ตรวจการยังกล้าที่จะโต้แย้ง

 

“เราก็แค่ทําตามกฎ”

 

เขามองไปยังรถเลื่อนด้วยหางตา

 

“รถเลื่อนนั้นใหญ่ไปทําลายมันซะ”

 

สองผู้ตรวจการลงมืออีกครั้ง รถเลื่อนถูกทําลายในพริบตาเดียว หลงควนไม่กล้าจะขวางพวกเขาเลยนั่นก็เพราะหลงควนรู้ว่าถ้าพูดขัดเมื่อใด นั่นจะเท่ากับว่าเขาต่อต้านผู้ตรวจการ นั่นคือค วามผิดร้ายแรงที่สุด ถ้าเขาทําเช่นนั้น ต่อให้เป็นผู้ที่หนุนหลังเขาอยู่ก็ช่วยอะไรไม่ได้!

 

“เจ้ามีเรื่องติดใจกับคําตัดสินของข้าหรือไม่?”

 

ชายแก่มองหลงควนอย่างเย็นชา

 

หลงควนกัดฟันพยายามจะซ่อนความโศกเศร้า

 

“ข้าไม่ติดใจอะไร แต่สัตว์อสูรพวกนั้น จ้าวแห่งความมืดที่สามให้ข้ามา…”

 

“แล้วอย่างไร? ต่อให้เป็นสัตว์อสูรของจ้าวแห่งความมืดลําดับแรกก็ต้องเหมือนกัน อะไรทําให้เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์รบกวนการพักผ่อนของประชาชนโดยการบินไอ้ตัวพวกนี้ เพียงเพราะมันเป็นสัตว์อสูรของจ้าวแห่งความมืดรึ?”

 

ในตอนนั้นเอง มีเสียงอันเยือกเย็นดังมาจากท้องนภา

 

ผู้ตรวจการผมขาวกับอีกสองคนยืดหลังตรงและประสานหมัดทําความเคารพต่อคนผู้นั้นพร้อมกัน

 

“ท่านหัวหน้า!”

 

พี่บ!

 

ชายแก่ชุดแดงที่มีผมและเคราขาวร่อนลงมาจากฟ้า

 

“หัวหน้าผู้ตรวจการไป!”

 

เหล่าผู้คนตะโกนนามของเขาพร้อมกันด้วยความนับถือ

 

“ทําไมแม้แต่หัวหน้าผู้ตรวจการไปยังปรากฏตัวที่นี่? มิใช่ว่าเขากําลังพยายามจะเป็นภูติระดับสองหรอก? ทําไมเขาถึงออกมากัน?”

 

บางคนเริ่มสงสัย

 

หลงควนตัวแข็งที่อ เขาตัวสั่น เพราะหัวหน้าผู้ตรวจการไปนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าผู้ตรวจการคนใด

 

นั่นก็เพราะเขามีอํานาจที่จะตัดสินชะตาชีวิตของทุกคนแม้แต่จ้าวแห่งความมืด แม้แต่เจ้าตําหนักรองทั้งสี่ก็เคยถูกเขาสั่งประหาร! อํานาจอันสูงส่งมิใช่สิ่งที่ผู้ตรวจการธรรมดาจะมีได้

 

ผู้นําทัพอย่างหลงควนก็เป็นคนที่ถูกสั่งประหารได้เช่นกัน ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือคนที่หนุนหลังหัวหน้าผู้ตรวจการคือจ้าวแห่งความมืดลําดับแรก เขาจึงมีอํานาจอย่างมหาศาล!

 

“ท่านหัวหน้าผู้ตรวจการ”

 

หลงควนโค้งคํานับประสานหมัดให้กับเขา

 

“ผู้นําหลง ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่พอใจกับผู้ตรวจการของข้านะ ทําไมเจ้าไม่เล่าให้ข้าฟังล่ะ?”

 

ชายแก่ประสานมือที่ด้านหลังและเดินไปหน้าหลงควน

 

เหงื่อเย็นๆไหลมาจากหน้าผากหลงควนเมื่อถูกมอง เขารีบประสานหมัดให้หัวหน้าผู้ตรวจการอีกครั้ง

 

“ข้าแค่เผลอพลั้งปากไปเท่านั้น ข้าไม่คิดจะโต้แย้งพวกเขาเลย โปรดอภัยข้าเถอะ”

 

หัวหน้าผู้ตรวจการละสายตาและตอบเบาๆ

 

“หึ ขอให้มีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว”

 

“ขอบคุณท่านหัวหน้าผู้ตรวจการ”

 

หลงควนถอนหายใจอย่างโล่งอก ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะรอดตายมาได้ หัวใจของเขายังเต้นแรงอยู่เลย!

 

“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

 

หัวหน้าผู้ตรวจการถามเขาและมองรอบๆ ที่นี่ค่อนข้างมีคนอยู่มาก

 

แต่เขาก็เบิกตากว้างเมื่อมองไปยังเด็กหนุ่มผมสีเงิน

 

เมื่อเห็นซือหยู หลงควนเริ่มอธิบาย

 

“ท่าน ไอ้เด็กคนนี้พยายามจะใส่ร้ายทหารหลวงและทําให้ผู้คนเข้าใจผิด ข้าแค่จะกําจัดเขา…”

 

การหายใจเข้าลึกและมองหลงควน

 

“เขาใส่ร้ายทหารหลวงยังไง?”

 

หลงควนพูดสิ่งที่ชื่อหยูเคยกล่าวขณะที่พูดเกินจริงไปหลายครั้งและตัดส่วนสําคัญออกไปท้ายสุดเขาก็สรุป

 

“ไอ้เด็กนี่หยาบช้ามาก เขากล้าจะดูถูกอาณาจักรทมิฬของพวกเรา! คนเช่นนี้ต้องถูกลงโทษส ถานหนักเพื่อรักษาเกียรติของอาณาจักรทมิฬ”

 

หัวหน้าผู้ตรวจการฟังเรื่องทั้งหมดอย่างเงียบเชียบโดยไม่พูดขัด เขามองตาหลงควนเมื่อหลง ควนพูดจบ

 

เขาพูดอย่างเยือกเย็น

 

“ข้าไม่รู้ว่าส่วนที่เจ้าเล่ามาถูกต้องหรือไม่ประการใด แต่เป็นเรื่องจริงแล้ว ที่คนอย่างเจ้าไม่คู่ควรจะรู้นามของชายผู้นี้”

 

หลงควรนิ่งราวกับท่อนไม้เมื่อได้ยินคําพูดของหัวหน้าผู้ตรวจการ! ในทวีปเฉินหลง นอกจากราชาแห่งความมืดกับเจ็ดจ้าวแห่งความมืด ใครกันจะกล้าพูดกับเขาแบบนี้?

 

ทุกคนต่างตกอกตกใจไม่ต่างกัน รวมถึงตัวหลิงเจี้ยนหลิวกับลูกสาวของเขาเองด้วย ตอนที่ซื้อหยูพูดตําหนิหลงควน ทั้งสองคิดว่าชื่อหยุเพียงพูดยกตนขึ้นมาเท่านั้น แต่คําพูดจากหัวหน้าผู้ตรวจการทําให้ทุกคนต้องประเมินซื้อหยูใหม่

 

“ท่านเจ้าพันธมิตรชื่อ ขอท่านโปรดจงอภัยต่อคนเหล่านี้…”

 

หลังจากที่มองหลงควนอย่างเยือกเย็น หัวหน้าผู้ตรวจการรีบเดินไปหาซื้อหยู จากนั้นเขาก็โค้งคํานับให้ชื่อหูต่อหน้าทุกๆคน!

 

เจ้าพันธมิตร ชื่อ?

 

ทุกคนตัวแข็งที่อเมื่อได้ยินคําว่า “เจ้าพันธมิตร” นั่นทําให้พวกเขาสงสัย…เขาเป็นเจ้าพันธมิตรจากที่ใดกัน?