ตอนที่ 506 ฉันไม่อยากกลับ / ตอนที่ 507 ควรจะหยุดรักคุณยังไง

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 506 ฉันไม่อยากกลับ 

 

 

           ผู้คนในบาร์มองดูชายสองคนที่ถูกพาตัวไปด้วยความคุ้นเคย คนที่ก่อความวุ่นวายในเม่ยเซ่อต่างไม่มีจุดจบที่สวยงาม 

 

 

           “เหล้า ฉันอยากดื่มเหล้า” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย นำบรรยากาศแห่งความเงียบไปสู่เส้นทางที่ควรจะเป็น เพียงชั่วครู่ผู้คนก็ต่างเพลิดเพลินกันอีกครั้ง ราวกับว่าเรื่องเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยละสายตากลับมา มองดูฉู่เจียเสวียนในอ้อมแขนที่ยิ่งกระสับกระส่ายขึ้นเรื่อยๆ แววตามืดมนลง แม้ว่าเขาไม่เคยมาที่เม่ยเซ่อ แต่ว่าก็เข้าใจกฎของที่นี่เป็นอย่างดี ยิ่งไม่กล้าให้ใครมาที่นี่และเห็นเสน่ห์อันเต็มเปี่ยมของฉู่เจียเสวียน 

 

 

           “คออ่อนขนาดนี้แล้วคุณยังจะดื่มอีกเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ย น้ำเสียงเอ็นดู รอยยิ้มปรากฏในดวงตา 

 

 

           “ฉันมีสติครบถ้วน” ฉู่เจียเสวียนตอบอย่างไม่พอใจ ต้องการดิ้นรนออกจากอ้อมอกของเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           “กลับกัน ผมจะดื่มเป็นเพื่อนคุณเต็มที่เลย” เผยหนานเจวี๋ยเอาใจเธอ ในความทรงจำของเขา ฉู่เจียเสวียนดื่มเหล้าเพียงครั้งเดียวคือครั้งนั้นที่เธอไปบาร์เพื่อตามหาเขา และถูกบังคับให้ดื่มเหล้าที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงแก้วหนึ่ง 

 

 

           “ไม่ ฉันไม่อยากกลับ” ฉู่เจียเสวียนพูดขึ้นอย่างดื้อรั้น อารมณ์ไร้เหตุผลกว่าปกติ 

 

 

           “ฉันอยากดื่มเหล้า ฉันอยากดื่มวิสกี้!” ในตอนนี้ฉู่เจียเสวียนเพียงต้องการดื่มเหล้ามากกว่าเดิม เธอไม่ได้ลิ้มลองรสชาติของเหล้านานแล้ว เธออยากจะเมา 

 

 

           จะว่าไปก็แปลก หลังจากที่ฉู่เจียเสวียนดูเหมือนว่านอกจากสามารถดื่มไวน์แดงได้ในระดับหนึ่งแล้ว เธอไม่สามารถดื่มเหล้าอื่นได้เลย คราวก่อนที่ถังถังมาหาเธอกลางคืนเพื่อดื่มฉลองวันเกิด ไวน์แดงขวดเดียว เธอดื่มไปครึ่งขวด สติของเธอก็ไม่ได้เป็นเหมือนตอนนี้ 

 

 

           “เป็นเด็กดีนะ” เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกจนปัญญากับฉู่เจียเสวียนที่เป็นแบบนี้ ได้แต่ทำให้เธอสงบลง 

 

 

           ในเวลานี้ฉู่เจียเสวียนปล่อยการก่อกวนอันไร้เหตุผลของตัวเองให้เป็นไปอย่างอิสระ อย่างไรก็ดีเธอไม่ต้องการฟังเผยหนานเจวี๋ย เธอแค่ต้องการดื่มเหล้า เธออยากดื่มให้ตัวเองเมา 

 

 

           “พนักงาน ขอวอดก้าขวดหนึ่ง แล้วก็วิสกี้ขวดนึงด้วย!” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย คำที่พูดออกมายิ่งทำให้เผยหนานเจวี๋ยจนปัญญา 

 

 

           ยังจะบอกว่าไม่เมาอีก ตัวเองอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้เรื่องแล้ว 

 

 

           บาร์เทนเดอร์มองเผยหนานเจวี๋ยด้วยความลำบากใจเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางของผู้จัดการที่มีต่อเผยหนานเจวี๋ยเมื่อครู่แล้ว เขาก็รู้ว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ เขาไม่สามารถทำผิดต่อเขาได้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าตอบฉู่เจียเสวียนตามอำเภอใจ ยิ่งไม่กล้าให้เธอดื่มเหล้า เขามองเผยหนานเจวี๋ย ขอความคิดเห็นของเขา 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยส่ายหน้า ด้วยความสามารถในการดื่มของฉู่เจียเสวียนแล้ว หากดื่มเหล้าไปสองขวด ไม่หลับไปสามวันสามคืนหรอกเหรอ 

 

 

           เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่พาเธอมายังสถานที่แบบนี้ เดิมทีนึกว่าเธอจะไม่แตะแอลกฮอล์เลย ใครจะรู้ว่าผลลัพธ์มักจะอยู่เหนือความคาดหมายเสมอ 

 

 

           หลังจากครุ่นคิดแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็ยังตัดสินใจที่จะพาฉู่เจียเสวียนออกไปจากสถานที่อันวุ่นวายนี้ ฉู่เจียเสวียนรู้สึกว่าร่างกายเบาโหวง พูดขึ้นทันที “คุณจะพาฉันไปไหน ฉันไม่กลับ” 

 

 

           เธอดิ้นรนอยู่ในอ้อมอกของเขา แต่ว่ากลับไร้ผล เธอกลับมาถึงวิลล่าท่ามกลางความสะลึมสะลือ 

 

 

           “ฉันหิวแล้ว” ฉู่เจียเสวียนลืมตาที่พร่ามัวเล็กน้อย มองดูสถานที่ที่สวยงามและหรูหรา และเมื่อมองดูหลอดไฟสีขาวบนเพดานก็รู้สึกเวียนศีรษะ 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนไม่ได้ยินคำตอบ อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นอีกครั้ง “พนักงาน เอาอาหารมาให้ฉัน!” 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยที่กำลังอาบน้ำในห้องน้ำ ได้ยินฉู่เจียเสวียนโวยวายอยู่บนโซฟาคนเดียว ก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายมาก 

 

 

           ที่จริงเขาทนกลิ่นเหม็นเหล้าของตัวเองไม่ไหว จึงกลับมาที่วิลล่า หลังจากวางฉู่เจียเสวียนลงบนโซฟาและจัดท่าทางเธอแล้วเขาก็แอบเข้าห้องน้ำไป 

 

 

 

 

 

       ตอนที่ 507 ควรจะหยุดรักคุณยังไง 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยกังวลว่าฉู่เจียเสวียนที่อยู่บนโซฟาจะทำเรื่องที่เขาไม่คาดคิด หลังจากอาบน้ำด้วยความรวดเร็วแล้ว เช็ดร่างกายอย่างลวกๆ สวมเสื้อคลุมอาบน้ำแล้ววิ่งออกไป 

 

 

           เมื่อเห็นว่าฉู่เจียเสวียนยังคงนั่งอยู่บนโซฟา เขาก็ถอนหายใจโล่งอก 

 

 

           “พนักงาน…” ปากของฉู่เจียเสวียนยังคงเรียกพนักงาน เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เห็นฉู่เจียเสวียนที่เป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เขากอดอกมองดูเธอเงียบๆ 

 

 

           เขาไม่เคยเห็นฉู่เจียเสวียนที่เป็นแบบนี้เลย ตอนที่แต่งงานกัน เธอเชื่อฟังมาโดยตลอด มีบางคราวที่ดื้อรั้นบ้าง หลังจากหย่ากับเธอแล้ว เขาก็ไม่ได้ติดต่อกับเธออีกจนกระทั่งเธอกลับมา ราชินีผู้เย็นชาที่มีรอยยิ้มมั่นใจในตัวเองอยู่เสมอ แต่ตอนนี้มันคืออะไรกัน? 

 

 

           ใบหน้าของฉู่เจียเสวียนสะอาดสะอ้านเหมือนเมื่อก่อน ไม่สิ ตั้งแต่ที่เธอกลับมา เธอสวยกว่าเมื่อก่อนมาก 

 

 

           นึกถึงตอนที่รู้จักกับเธอสมัยเด็ก ตอนนั้นเขาก็รู้ว่าเธอเป็นคนสวย แต่ว่าหลายปีต่อมา เหตุการณ์กลับตาลปัตรทำให้เขานึกว่าฉู่อีอีก็คือเด็กผู้หญิงในตอนนั้น ทำให้เขาไม่เห็นความดีของเธอในสายตาอีกต่อไป 

 

 

           เมื่อคิดว่าฉู่เจียเสวียนได้รับความทุกข์ทรมานมากมายเพียงนั้น เขาก็รู้สึกปวดใจ ถ้าหากตอนนั้นเขายอมไปสืบหาความจริง ถ้าเขาใส่ใจกว่านี้อีกสักหน่อย ทุกอย่างในตอนนี้จะเปลี่ยนไปหรือเปล่า 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยโน้มตัวลง ก้มหน้าจูบหน้าผากของฉู่เจียเสวียนเบาๆ ลมหายใจอันอบอุ่นห่อหุ้มฉู่เจียเสวียนเอาไว้ 

 

 

           “ฉู่เจียเสวียน ผมควรจะหยุดรักคุณยังไง ควรจะปล่อยมือได้ยังไง คุณบอกผมสิ” เผยหนานเจวี๋ยพูดด้วยความเจ็บปวด 

 

 

           เขาทำร้ายเธออย่างสาหัส ตอนนั้นที่ฉู่เจียเสวียนจากไป เขาไม่เข้าใจว่าความรู้สึกสูญเสียในหัวใจมันคืออะไร จนกระทั่งเขาได้เจอเธออีกครั้ง หัวใจของเขาก็ดูเหมือนจะสมบูรณ์ 

 

 

           เมื่อเขาเห็นกงจวิ้นฉือปรากฏตัวข้างกายเธอ หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ แต่ในเวลานั้น เขาไม่เข้าใจว่าความโกรธนั้นมาจากไหน 

 

 

           จนกระทั่งภายหลัง เมื่อเขาค่อยๆ แยกเรียงลำดับความคิด จนกระทั่งทุกอย่างโผล่ขึ้นมาสู่ผิวน้ำ เขาจึงรู้ว่าที่แท้หลายปีมานี้เขาทำผิดร้ายแรงขนาดไหน 

 

 

           ดังนั้นเขาอยากให้สวรรค์ให้โอกาสเขา ให้โอกาสเขาได้ชดเชยสักครั้ง 

 

 

           แต่ว่าเขาพบว่าไม่ว่าเขาปฏิบัติต่อเธออย่างไร เธอดูเหมือนว่าจะไม่มีวันหวั่นไหวต่อเขาอีกแล้ว เขาถอนหายใจในใจเบาๆ ความยุ่งยากทั้งหมดเป็นเหมือนสายลมที่พัดพาความโศกเศร้าเหล่านั้นทั้งหมดเข้าไปในหัวใจของเขานับครั้งไม่ถ้วน 

 

 

           ขณะที่เผยหนานเจวี๋ยต้องการจะจากไป ฉู่เจียเสวียนกลับโอบคอของเขาไว้ 

 

 

           “อย่าจากฉันไป” เสียงชัดเจนที่เจือปนความตื่นตระหนกของฉู่เจียเสวียนดังขึ้น สายตาตื่นกลัว ในเวลานี้เธอเป็นเหมือนเด็กน้อยที่ถูกทอดทิ้ง 

 

 

           หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยดำดิ่งไปตามเสียงของฉู่เจียเสวียน เขาก้มหน้าลงประกบริมฝีปากของเธอ ยิ่งจูบยิ่งลึกซึ้ง 

 

 

           “ฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียน” เผยหนานเจวี๋ยกระซิบเรียก ราวกับว่ามีเพียงวิธีนี้จึงจะสามารถมั่นใจว่าฉู่เจียเสวียนอยู่ข้างกายเขาจริงๆ 

 

 

           สติค่อยๆ กลับมา จิตสำนึกของฉู่เจียเสวียนเริ่มชัดเจนขึ้น 

 

 

           เอื้อมมือผลักเผยหนานเจวี๋ย ความเย็นชาวูบผ่านแววตาของเธอ มองดูเผยหนานเจวี๋ยที่กำลังดำดิ่งลงไป ฉู่เจียเสวียนหลับตา เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งสายตาก็ชัดเจน 

 

 

           เธอไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งอยู่ในโลกของเผยหนานเจวี๋ยแบบนี้ ไม่ได้เด็ดขาด 

 

 

           “เพี๊ยะ” บรรยากาศที่เงียบกริบและคลุมเครือในตอนแรก กลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงฉับพลันนี้ ใบหน้าของเผยหนานเจวี๋ยถูกฉู่เจียเสวียนตบเข้าไปเต็มแรง 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนที่ได้สติฉับพลันมองเผยหนานเจวี๋ยด้วยความเย็นชา สองคนสบตากัน ความรู้สึกแปลกประหลาดแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของพวกเขา