สวีฟังเพิ่งเดินออกมาจากสุสาน พอดีกับที่ได้ยินคำพูดของถังซี เธอกำมือแน่น กล่าวอย่างเย็นชา “เธอจะเปิดเผยสิ่งที่เธอรู้กับสื่อก็ได้นะ”
ถังซียิ้มเยาะ “ถ้าฉันอยากทำแบบนั้น ฉันคงต้องเล่าเรื่องที่น่าตื่นเต้นให้พวกเขาฟัง อย่างเช่น คุณสวีฟัง นักแสดงสาวชื่อดังมีวิธีขยับสถานะที่เธอเป็นอยู่ทุกวันนี้ได้อย่างไร โดยการนอนกับผู้ชายนับไม่ถ้วน”
สวีฟังกำมือแน่น จ้องมองถังซีแล้วเดินจากไป
ถังซีมองตามร่างที่กำลังเดินห่างออกไป หันกลับไปขึ้นรถ และขับออกไป
…
เมื่อกลับมาถึงโรงแรมถังซีพยายามติดต่อ 008 เพื่อขอให้เขาเปลี่ยนใบหน้าให้เธอ แต่ 008 ไม่ยอมตอบกลับ… เธอจึงยอมแพ้ และคิดหาทางว่าจะทำอย่างไรในสิ่งที่เธออยากทำ ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเธอเอง
เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นเธอก็โทรไปที่บ้าน จากนั้นก็โทรหาเฉียวเหลียง บอกรายละเอียดตารางงานของเธอในวันนี้ให้เขาฟัง จากนั้นก็แต่งตัว และออกจากห้อง
เป็นไปตามที่เธอคาดไว้ เมื่อเธอเปิดประตูห้อง เหล่าบรรดาผู้บริหารของเอ็มไพร์กรุปก็มารออยู่ที่หน้าประตู รวมทั้งคนที่สังหารเธอด้วย ถังซีจับสังเกตท่าทางอยากรู้อยากเห็นบนใบหน้าของพวกเขา และเลิกคิ้ว วันนี้เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้าแบบเดียวกับเมื่อวาน แต่สวมชุดสูทของจิวองชี่ ก่อนหน้านี้เธอชอบสวมชุดแบบนี้มากกว่าเวลาทำงาน เมื่ออยู่ในชุดสูทแบบนี้เธอดูมีพลัง และ…ไม่มีใครเทียบเทียมได้
คนเหล่านั้นทักทายถังซี และหลีกทางให้เธอ ถังซีเดินไปสองสามก้าวแล้วหยุดตรงหน้าใครบางคน เธอจ้องมองกลุ่มชายวัยกลางคนที่เหงื่อออกโชก และยิ้มให้ “คุณลุง ทำไมดูตื่นเต้นจังล่ะคะที่เห็นฉัน เป็นเพราะผลงานชิ้นล่าสุดของคุณลุงไม่ได้เรื่องหรือเปล่า”
“ท่านประธาน…” คนทั้งสามกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เมื่อถังซียกมือขึ้นห้าม เธอมองพวกเขาด้วยรอยยิ้ม และเลิกคิ้วบอกว่า “ไปกันเถอะค่ะ”
จากนั้นเธอก็เดินตรงไปที่ลิฟต์ พนักงานที่รออยู่ที่นั่นเพื่อกดปุ่มลิฟต์ให้เธอ มองดูเธอและโค้งคำนับ พยักหน้าให้เธอเข้าไปในลิฟต์ ถังซีเดินเข้าไป คนอื่นๆ ตามเธอเข้าไป และไปยืนอยู่ข้างหลังเธอ จู่ๆ ผู้บริหารคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้น “ซีซี…” ถังซีมองเขาอย่างเย็นชา เขารีบแก้ไขคำพูดตัวเองทันที “ท่านประธานครับ ท่านจะไม่จากไปไหนอีกแล้วใช่ไหมครับ”
ถังซียิ้ม “บริษัทจะล่มสลายเหรอคะ หลังจากที่ฉันไม่อยู่แค่ไม่กี่เดือน พวกคุณไร้ความสามารถถึงขนาดนั้นเลยเหรอ”
ผู้บริหารและกรรมการบริษัทที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอดูท่าทางอับอาย เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ถังซียิ้ม “แต่ฉันก็เห็นว่าบริษัทดำเนินงานไปได้ด้วยดีนี่คะ ในช่วงหลายเดือนที่ฉันไม่อยู่ เพราะฉะนั้นฉันจึงคิดว่า ถึงแม้ฉันจะไม่อยู่ การดำเนินงานของบริษัทก็จะไม่ได้มีผลกระทบอะไร เพราะพวกคุณมีความสามารถกันมาก”
บรรดาผู้บริหารและกรรมการทั้งหลายดูโล่งอกที่ได้ยินคำพูดของเธอ ถังซีกล่าวต่อไป “ฉันจะไม่อยู่อีกเร็วๆ นี้ ทุกคนก็ทราบดีว่าคุณปู่ท่านส่งมอบบริษัทให้ฉันดูแลแล้ว ฉันจึงจำเป็นต้องเดินทางไปในที่ต่างๆ เพื่อคลายความเครียด ทุกท่านโปรดเตรียมพร้อมไว้เลยว่าฉันจะไปอีกเมื่อไหร่ก็ได้”
“ซีซี หนูจะ…” จู่ๆ ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็ถามขึ้น แต่ก่อนจะพูดจบเขาก็รีบแก้ไขคำพูดของตัวเอง ภายใต้ประกายตาเจิดจ้าที่ส่งมาจากถังซี “ท่านประธาน ท่านยังจะจากไปอีกหรือ”
ถังซียิ้ม “ผู้อำนวยการถัง คุณพูดอะไรอย่างนั้นคะ ฉันไม่เคยจากไปไหน ฉันแค่ไปพักผ่อน”
เมื่อลิฟต์มาถึงชั้นหนึ่ง ถังซีเป็นผู้เดินนำออกมา และคนอื่นๆ เดินตามเธอ คนที่ขึ้นลิฟต์อีกตัวหนึ่งก็เดินออกมา และตามหลังเธอมาเป็นขบวน
ถังซีเดินไปที่ห้องโถงด้านหน้าและหยุดกะทันหัน เธอมองไปยังบุคคลที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล แล้วยิ้มออกมา “วีนัส สตีฟ”
“โอ้พระเจ้า คุณจริงๆ ด้วย! ผมคิดว่าผมมีคนโทรมาปลอมเป็นคุณเมื่อคืนนี้” ชายวัยกลางคนผู้หล่อเหลามองถังซีอย่างตกตะลึง “ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะทำห้องให้คุณใหม่ทั้งหมด และผู้จัดการเหอจะได้รับการลงโทษตามที่เธอสมควรได้รับ”
ถังซีพยักหน้า เดินเข้าไปกอดชายคนนั้น “ขอบคุณนะคะ สตีฟ”
สตีฟตบไหล่เธอเบาๆ ด้วยความยินดี และกระซิบกับเธอ “ยินดีต้อนรับกลับมา แต่… อีกประเดี๋ยวคุณก็จะต้องปวดหัว” เมื่อจบคำพูดเขาก็ยืดตัวขึ้น หลีกทางให้ถังซี ถังซีมองดูบรรดานักข่าวที่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกันไว้ด้านนอกโรงแรมแล้วยักไหล่ “ฉันต้องปวดหัวอยู่แล้วล่ะค่ะ” แต่เธอก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ตรงหน้า
ถังซีเดินออกไปข้างนอก และคนอื่นๆ ก็เดินตามเธอออกไป ทันทีที่เธอก้าวพ้นจากโรงแรมแสงแฟลชก็สว่างวาบมาจากทุกทิศทุกทาง จนเธอแทบลืมตาไม่ขึ้น ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวตรงหน้าเธอ ปกป้องเธอไว้ด้านหลังเขา ป้องกันเธอจากแสงไฟแฟลช ถังซีจำกลิ่นอันคุ้นเคยนั้นได้ เธอเงยหน้าขึ้นมอง และพบเพียงใบหน้าของคนแปลกหน้า เธอมองชายคนนั้นด้วยท่าทางประหลาดใจ เขาขยิบตาให้เธอ ถังซีอดยิ้มออกมาไม่ได้ แล้วเอ่ยออกมาดังๆ กับนักข่าว “ใครมีคำถามอะไรไหมคะ ฉันจะตอบพวกคุณทุกคน”
“คุณไปอยู่ที่ไหน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ตอนที่คุณไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณถัง” นักข่าวคนหนึ่งถามขึ้นก่อน
ถังซีขมวดคิ้ว มองไปที่นักข่าวคนนั้น “ฉันไม่ต้องการเปิดเผยสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนของฉันค่ะ เพราะกลัวว่าพวกคุณอาจไปดักรอที่นั่น แล้วฉันจะไม่มีความเป็นส่วนตัว เพราะฉันไม่ใช่นักแสดง ดังนั้นฉันจึงคิดว่าฉันมีสิทธิ์ในการรักษาความเป็นส่วนตัวค่ะ”
นักข่าวคนนั้นทำปากยื่นอย่างผิดหวัง นักข่าวอีกคนรีบถามว่า “คุณถัง มีข่าวลือว่าคุณประสบอุบัติเหตุทางอากาศ คุณเคยได้ยินเรื่องนี้ไหมครับ”
ถังซีพยักหน้า “เคยค่ะ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันส่งอีเมลกลับมาหาครอบครัว และผู้ถือหุ้นของบริษัทเรา แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่สามารถหยุดการแพร่สะพัดของข่าวลือได้ แต่ตอนนี้ฉันมาปรากฏตัวแล้ว เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าข่าวลือจะหายไปเอง”
นักข่าวพยักหน้า และอีกคนถามว่า “ในเมื่อคุณกลับมาแล้ว คุณจะเริ่มทำงานทันทีเลยไหมคะ”
ถังซียิ้ม หันกลับไปมองคณะผู้บริหารและกรรมการบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง “พวกคุณน่าจะบอกได้จากสีหน้าท่าทางของท่านเหล่านี้ ว่าฉันคงขี้เกียจต่อไปไม่ได้อีกแล้ว” เธอกล่าวติดตลก “ฉันไม่กลับบ้านเพราะไม่อยากทำงาน แต่พวกเขาจับได้ ถึงแม้ฉันจะอุตส่าห์มาพักที่โรงแรมก็ตาม”
นักข่าวหัวเราะครืน จู่ๆ คนหนึ่งก็ถามออกมาดังๆ ว่า “บอดีการ์ดข้างๆ คุณ ดูเหมือนจะโผล่มาจากที่ไหนก็ไม่ทราบ คุณรู้จักเขาไหมครับ คุณสองคนดูๆ กันอยู่หรือเปล่า คุณอยู่กับเขาตอนที่คุณไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่ไหมครับ คุณสองคนจะแต่งงานกันหรือเปล่า คุณถัง เป็นเพราะบอดีการ์ดคนนี้เองใช่ไหม ที่ทำให้คุณก้าวออกจากความสัมพันธ์ครั้งก่อนอย่างรวดเร็ว”
ถังซีชะงัก แล้วยิ้มออกมา นักข่าวพวกนี้นี่หูตาเหมือนเหยี่ยวจริงๆ พวกเขาคิดเรื่องนี้ออกได้อย่างไร
ถังซีมองนักข่าวคนนั้นด้วยรอยยิ้มและเลิกคิ้ว “ฉันจะตอบคำถามของคุณเพียงข้อเดียว แต่คุณถามฉันหลายข้อเหลือเกิน ฉันควรตอบข้อไหนดีล่ะคะ”