บทที่176
ผู้แปล : N
ซู่จิงที่เห็นอาการพ่อแบบนั้นก็ถามว่า “ทำไม?”
ซู่ชินพูดว่า :. “มันได้ขาดคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ดีไปและอีกสิ่งหนึ่งที่เรายังขาดคือตลาดในประเทศจีนนั้นไม่กว้างขวางพอ ”
” ปีที่ผ่านมา, บริษัทอเมซอนได้แสดงยอดขายกล่องอัจฉริยะในตลาดอเมริกาเหนือมากกว่าสิบล้านเครื่องซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ได้เลย! แต่เมื่อเทียบกับเรา ประเทศจีนได้มียอดการขายกล่องอัจฉริยะน้อยกว่าหนึ่งล้านเครื่องต่อปีด้วยซ้ำ “
“และในสหรัฐอเมริกาบางส่วนของสมาร์ทโฮมและกล่องอัจฉริยะมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขาอย่างมาก “
ลูชินพูดว่า :.” คุณลุงกำลังบอกว่าเพราะขาดคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ดีและการตลาดใช้ไหมครับ?”
“มันก็ไม่ใช้ทั้งหมดซะที่เดี่ยว เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุสาหกรรมเครื่องใช้ภายในบ้านอัจฉริยะของประเทศเรานั้นไม่มีมาตรฐานเกินไป และบางครอบครัวได้ซื้อกล่องอัจฉริยะไปแต่ไม่มีอุปกรณ์หรือเครื่องใช้สมาร์ทอยู่ในบ้าน เช่นสมาร์ททีวี ตู้เย็น สวิตช์ และเครื่องปรับอากาศ หรืออุปกรณ์ต่างๆที่สามารถเชื่อมต่อกับกล่องอัจฉริยะได้ และอุปกรณ์เหล่านี้มีราคาสูงอย่างมากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ธรรมดาในระดับเดียวกัน”ซู่ชิได้อธิบายอีกว่า
“ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตามฉันก็หวังว่าประเทศของเราจะสามารถวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์สมาร์ทและกล่องอัจฉริยะเหล่านี้ให้เทียบเท่าหรือเหนือกว่าต่างประเทศให้ได้ “
ทางด้านซู่เสี่ยวพูดว่า:” คุณพ่อก็พูดแบบนี้มาตั้งแต่สองปีที่แล้ว และไม่เห็นว่ากล่องอัจฉริยะตัวนี้จะอัจฉริยะเลย! “
ซู่ชิได้หลุดออกจากความฝันก่อนที่เขาจะพูดว่า:” ลูกคนนี้! ”
ลูชินที่เห็นแบบนี้ก็พูดว่า” ในความเป็นจริงการโต้ตอบด้วยเสียงและการประมวลผลข้อมูลอัจฉริยะผมสามารถช่วยได้นะครับ “
” นายเหรอ? “ซู่ชิมองดูลูชินอย่างสงสัย เขารู้ว่าบริษัทของคนตรงหน้าถือว่าเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศสินทรัพย์โดยรวมของชายคนนี้มากกว่าบริษัทของเขาไม่รู้เท่าไหร่ แต่เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับลูชินเลยทั้งในแง่ของการจัดการและทักษะต่างๆ
“นายรู้ใช้ไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่?” ซู่ชิถาม
“ครับ ตัวผมเองก็ยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบเรทคลาวด์ขึ้นมาอีกด้วย ” ลูชินได้ตอบกลับไป
ซู่ชิยังไม่เชื่อในสิ่งที่ลูชินบอกมาร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเขาจะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบตอบโต้อัจฉริยะแบบนั้นขึ้นมาได้ เพราะเขาคือประธารและคนที่มีตำแหน่งนั้นไม่จำเป็นต้องมีส่วนรวมในโครงการพวกนี้เลย
ซู่จิงพูดว่า: “ใช่พ่อ ถ้าพ่อมีคำถามใดๆพ่อสามารถถามลูชินได้โดยตรง”
“ไม่จำเป็น” ซู่ชิไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยินและเขายังถือว่าเป็นผู้อาวุโสกว่า
ในเวลานี้เยรุนพูดว่า: “ระบบเรทคลาวด์ที่บริษัทของลูกเขยทำนั้นทรงพลังอย่างมาก คุณอาจจะต้องการให้ชินน้อยไปกับคุณในครั้งนี้?”
เธอได้หันไปทางลูชินแล้วพูดว่า: “ชินน้อย เธอพอมีเวลาไหม?”
“ ได้ครับ ผมยังคงอยู่ในเมืองหลวงตลอดทั้งวัน” ลูชินพยักหน้ายอมรับ
ซู่ชินั้นแสดงท่าทางไม่ยินยอมออกมาเล็กน้อย แต่เมื่อเขาย้อนกลับไปคิดถึงการถูกทรมานจากปัญหาเหล่านี้มาตลอด และเขาคิดว่าบางทีลูชินอาจให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ก็ได้ และการไปครั้งนี้เขาก็ต้องการเห็นความสามารถว่าที่ลูกเขยคนนี้อีกด้วย
เขายังคงถามอย่างระมัดระวังว่า: “ข้อมูลเหล่านี้ถือว่าเป็นความลับของบริษัทของนายไหม?”
“ไม่ครับ ข้อมูลนี้ผมมีอำนาจตัดสินใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” โดยปกติแล้วเขาจะไม่มีทางให้ข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทแก่คนภายนอกอย่างแน่นอน แต่นี้คือพ่อตาในอนาคต
“งั้นนายไปบริษัทกับฉันตอนนี้” ซู่ชิพูดขึ้นทันที
“หนูก็อยากไปเหมือนกัน!” ซู่เสี่ยวตะโกนออกมา
“เธอไปก็มีแต่เพิ่มความวุ่นวายให้พวกเขา ดังนั้นเธอต้องอยู่บ้าน” ซู่จิงพูดต่อว่า “แล้วอีกเดี่ยวเรายังต้องออกไปข้างนอกกับแม่เพื่อหาซื้อสินค้าปีใหม่”
…
ลูชินได้ไปที่บริษัท ธันเดอร์สตอร์ม แอ็พไลแอ็นซ์ เขาได้เดินเข้าไปกับว่าที่พ่อตาและพนักงานข้างในที่พบซู่ชิได้พูดว่า “สวัสดีปีใหม่“
เมื่อเห็นว่ามีคนแปลกหน้าอยู่ข้างหลังซู่ชิ พวกเขาได้แสดงอาการสงสัยอย่างมาก ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่เคยเห็นหน้าชายคนนี้มาก่อน
เมื่อพวกเขาอยู่บนลิฟต์ซู่ชิก็พบกับคนรู้จัก ชายคนนี้มีอายุเท่ากันกับซู่ชิและป้ายบนหน้าอกของเขาอ่าน: รองประธานเชียหยุน
“เฒ่าซู่ นายไม่ได้กลับบ้านเหรอ?” เชียหยุนถามออกมาด้วยความแปลกใจ
“ พอดีเกินปัญหานิดหน่อย” ซู่ชิตอบกลับไปง่ายๆ
เมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อนแบบนี้เชียหยุนพูดว่า: “เฒ่าซู่ นายก็รู้ว่าปัญหาพวกนั้นเราจะแก้มันหลังจากปีใหม่”
“ฉันรู้ว่านายตั้งความหวังกับมันไว้มาก แต่ยังไงก็ตามโครงการนี้ได้แสดงผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจอย่างมาก นั้นทำให้ผู้ถือหุ้นจำนวนหนึ่งเห็นว่าถ้าเรายังคงยื้อโครงการนี้ต่อไป มันจะเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรของเราไปเปล่าประโยชน์”
ซู่ชิไม่เห็นด้วยกับมุมมองของพวกนั้น เขาคิดว่าแบรนด์เครื่องใช้ในบ้านนั้นกำลังจะเกิดการขยายตัวอย่างแน่นอนในอนาคต ถ้าเขาปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปมันอาจจะทำให้พวกเขาไม่สามารถมีกำลังแข่งขันกับบริษัทข้ามชาติเหล่านั้นได้เลย
เชียหยุนพูดต่อว่า:” และพวกนั้นยังเห็นชอบด้วยว่าเราควรเป็นตัวแทนขายของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สมาร์ทเหล่านั้นแทน”
ซู่ชิส่ายหัวและพูดว่า:“ ตัวแทนนี้นะ! ทำไมพวกนั้นคิดง่ายไปแล้ว”
เชียหยุนที่เห็นแบบนั้นก็รู้ว่าเขาไม่สามารถโน้มน้าวเพื่อนคนนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเปลี่ยนเรื่องคุยเท่านั้น และเขาเห็นว่ามีคนแปลกหน้ายืนอยู่เขาจึงถามออกไปว่า: “คนนี้คือ?”
ซู่ชิพูดว่า: “เขาเป็นแฟนหนุ่มของลูกสาวฉัน และเขาก็ถือว่านนักธุรกิจเหมือนกับเรา ดังนั้นฉันจึงนำเขามาเดินชมรอบบริษัท”
“ โอ้ ที่แท้ก็ลูกเขยของนายนั้นเอง” เชียหยุนที่ได้รู้แบบนั้นก็หันไปทักทายลูชินอย่างสุภาพ ทางด้านลูชินเองก็ได้มีการตอบกลับมาอย่างสุภาพเช่นกัน
ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้ไปที่แผนกพัฒนากล่องอัจฉริยะ เมื่อคนในนั้นเห็นว่าซู่ชิเข้ามาทุกคนก็ทักทายเขาอย่างง่ายๆก่อนที่จะกลับไปทำงานของตนต่อ
“เฒ่าเซี่ย เซียวหวัน นายสองคนมาที่นี่ก่อน” ซู่ชิเรียกคนสองคนมาหาทันทีที่เขามาถึง จะเห็นได้ว่ามีชายวัยกลางคนและชายหนุ่มที่มีอายุมากกว่าลูชินไปเล็กน้อยเดินเขามา
ซู่ชิได้แนะนำคนทั้งสองให้ลูชินฟังว่า “เฒ่าเซี่ย ผู้อำนวยการของแผนกวิจัยกล่องอัจฉริยะ เขามีประสบการณ์การทำงานในสายงานนี้มานานกว่าสิบปี!”
“นี่คือเซียวหวัน, เขาเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมจากมหาลัยอันดับหนึ่งของเมืองหลวง และเขายังมีความรู้ในเรื่องอุปกรณ์อิเล็กโทนิคอีกด้วย ”
” นายและพวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนประเด็นทางเทคนิคกันได้ ”
ที่ซู่ชิทำแบบนี้ก็เพราะถึงตอนนี้เขาก็ยังได้สงสัยในคำพูดของลูชินที่ได้วิจารณ์ข้อด้อยของผลิตภัณฑ์ของเขาที่บ้าน และมันยังได้รับคำชมจากทั้งลูกและภรรยาของเขาอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงอยากแก้เผ็ดว่าที่ลูกเขยคนนี้ซักนิดก็ยังดี
และเนื่องจากลูชินได้เป็นคนอาสาที่จะมาช่วยเขาในการแก้ปัญหาในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงอยากรู้ว่าลูกเขยคนนี้จะมีดีอย่างที่พูดไว้หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงได้มอบหน้าที่ทดสอบนี้ให้กับเฒ่าเซี่ย เซียวหวันในการสอนบทเรียนนี้ให้กับลูชินและเขาจะแสดงให้ว่าการที่มาแหย่เสือเฒ่าคนนี้จะเจอกับอะไร!