ตอนที่ 317 คุณจะไม่ถามเลยหรือว่าผมจะไปไหน

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

เป็นอย่างที่ถังซีคาดไว้ สีหน้าของทั้งถังเจี๋ยเหรินและถังเย่าเหรินซีดเผือดลงทันตา ถังซีมองหน้าพวกเขาแล้วยิ้มเยาะ ด้วยประกายตาที่ค่อยๆ ลดอุณหภูมิลงจนเย็นเยือกเป็นน้ำแข็ง “ดูเหมือนว่าพวกคุณจะต้องไปปรึกษากันให้ดีๆ ก่อน เกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายก้อนนี้ ถึงจะมาอธิบายให้ฉันฟังได้ ใช่ไหม”

 

 

หลังจบการประชุม ถังซีนั่งนิ่งอยู่ที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งอีกพักใหญ่ เธอเคยคิดว่าหลังจากเวลาล่วงเลยไปหลายเดือน เธอคงเตรียมใจได้พร้อมสำหรับจะเผชิญหน้ากับคนที่สั่งฆ่าเธอ แต่เมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ เธอไม่คาดคิดเลยว่าจะรู้สึกหมดแรงถึงเพียงนี้ หลังจากเผชิญหน้ากับพวกเขา จริงๆ แล้วเธอยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับคนพวกนี้

 

 

เมื่อเลขานุการเข้ามาเตือน ถังซีจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องประชุม แล้วก็พบว่ามีชายหนุ่มคุ้นหน้าคนหนึ่งยืนรอเธออยู่ไม่ไกลออกไปนัก และกำลังส่งรอยยิ้มประจบประแจงให้เธอ

 

 

ถังซีมองหน้าชายหนุ่มผู้นั้น ดวงตาฉายแววประหลาดใจ ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเธอ ยังคงยิ้มอย่างประจบเอาใจ และทักทายเธออย่างอ่อนโยน “ซีซี พอได้ยินว่าเธอกลับมาแล้ว ฉันก็รีบมาตั้งแต่เช้า โล่งอกจริงๆ ที่ได้เห็นว่าเธอปลอดภัยและสบายดี”

 

 

ถังซีพิจารณาดูฉินเปิ่นหยวน ก่อนจะแย้มริมฝีปาก “ขอบคุณนะคะ ที่เป็นห่วง”

 

 

“เดี๋ยวก่อน ซีซี” ฉินเปิ่นหยวนรีบเรียกเธอไว้ เมื่อเห็นว่าถังซีกำลังจะเดินจากไป “ทำไมเราไม่ออกไปหากาแฟดื่มกันข้างนอกสักแก้วล่ะ”

 

 

ถังซีหยุดเดิน มองฉินเปิ่นหยวนด้วยสายตาไม่บ่งบอกความรู้สึก ครู่ต่อมาเธอจึงยิ้มและกล่าวว่า “ตอนนี้เราอยู่ที่บริษัท ไม่จำเป็นต้องไปหากาแฟดื่มข้างนอกหรอกค่ะ ทำไมเราไม่ไปดื่มกาแฟที่ห้องทำงานฉันล่ะ”

 

 

ดวงตาฉินเปิ่นหยวนเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้ยินคำพูดของถังซี เขารีบพยักหน้าอย่างแรง “ตกลงๆ เธอนี่ช่างคิดรอบคอบจริงๆ ซีซี”

 

 

“กรุณาเรียกฉันว่าประธานถัง ขณะที่เราอยู่ในบริษัทด้วยค่ะ ประธานฉิน” ถังซีกล่าวหน้านิ่ง และออกเดินไปยังห้องทำงานของเธอ

 

 

เมื่อได้ยินคำเตือนจากถังซี ฉินเปิ่นหยวนก็มีสีหน้าอับอายเล็กน้อย แต่เขารีบกลบเกลื่อน และเดินตามถังซีไปที่ห้องทำงาน

 

 

เขาเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับอุทานว่า “ซีซี… เอ้อ ท่านประธานถัง เธอมีความสามารถมาก อายุยังน้อย แต่สามารถบริหารจัดการบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ ผลประกอบการของบริษัทนี้ดีขึ้นมากกว่าที่ผ่านมาจริงๆ ซินหยิ่งของเราควรเรียนรู้งานจากเธอบ้าง วันๆ เอาแต่เที่ยวเล่นไม่เป็นสาระ”

 

 

เมื่อได้ยินชื่อฉินซินหยิ่งจากปากฉินเปิ่นหยวน ดวงตาถังซีก็หรี่ลง แต่ฉินเปิ่นหยวนซึ่งเดินตามมาข้างหลังไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าเธอที่เปลี่ยนไป เมื่อทั้งสองเข้ามาอยู่ในห้องทำงานแล้ว ถังซีจึงถามขึ้น “ฉันคิดว่า ประธานฉินคงไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อมาพูดคุยเล่นกับฉัน ถูกไหมคะ ต้องการอะไรก็พูดมาตรงๆ ได้เลยค่ะ”

 

 

ฉินเปิ่นหยวนมองถังซีแล้วยิ้ม “ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอก ก็แค่เราได้ร่วมลงทุนทำโครงการกับคู่ค้าของเราเมื่อหลายเดือนก่อน และโครงการนี้กำลังจะสำเร็จลงเร็วๆ นี้ แต่เผอิญเงินทุนเราหมดเสียก่อน เพราะเอ็มไพร์กรุปยังไม่ได้โอนเงินให้เราตามที่ได้สัญญากันไว้ ฉันมาวันนี้ก็เพื่อมาเซ็นสัญญากับเธอ เธอจะได้ไปเร่งให้แผนกการเงินของเธอโอนเงินให้เราโดยเร็วที่สุด ทางเราจะได้ทำโครงการนี้ให้เสร็จสมบูรณ์เสียที ซึ่งนั่นจะเป็นประโยชน์สำหรับบริษัทของเราทั้งคู่ จริงไหม”

 

 

จู่ๆ ตาแก่นั่นก็เดินทางไปเมือง A แล้วเอ็มไพร์กรุปก็ไม่ยอมโอนเงินมาให้ ถ้าหากยังล่าช้าต่อไป พวกเขาต้องสูญเสียโครงการนี้ไปแน่ โชคยังดีที่ถังซีกลับมา เท่าที่เขารู้จักเด็กโง่คนนี้ หล่อนจะตอบตกลงกับทุกสิ่งที่ซินหยิ่งขอ เพียงแค่เขาเรียกร้อง หล่อนก็จะต้องตอบตกลงทันที และสั่งให้โอนเงินไปเข้าบัญชีฉินกรุป แค่นี้โครงการนี้ก็จะได้สำเร็จสมบูรณ์เสียที!

 

 

ถังซีแอบยิ้มหยันอยู่ในใจ เมื่อเห็นว่าฉินเปิ่นหยวนไม่ได้คิดจะซ่อนความประสงค์ที่มาหาเธอในวันนี้ ดูเหมือนเธอจะทำดีกับฉินซินหยิ่งไว้มากเกินไป ฉินเปิ่นหยวนจึงคิดไปเองว่า เธอจะต้องตอบตกลงในทุกสิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง! เห็นทีคงต้องสั่งสอนกันสักหน่อยแล้ว!

 

 

ถังซีทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา เงยขึ้นมองฉินเปิ่นหยวนแล้วทำสีหน้างุนงง

 

 

“โครงการนี้ยังไม่จบอีกหรือคะ” ถังซียืดตัวขึ้น ขมวดคิ้วมองหน้าฉินเปิ่นหยวน “ยังไงก็ตามสำหรับโครงการนี้ ฉันได้รับรายงานว่าเสร็จสิ้นไปตั้งแต่เมื่อสามเดือนที่แล้ว แต่เอ็มไพร์กรุปยังไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ กลับคืนมาเลย ไหนๆ คุณก็มาที่นี่แล้ว ประธานฉินคะ เรามาปรึกษากันดีกว่า ว่าทำไมทางเราถึงยังไม่ได้ผลตอบแทนจากเงินลงทุนของเราเลย ทั้งที่โครงการก็เสร็จสิ้นไปแล้ว”

 

 

“ผลตอบแทนหรือ” ฉินเปิ่นหยวนมึนงง ถังซีไม่เคยใส่ใจมาก่อน เกี่ยวกับผลตอบแทนจากเงินลงทุนที่เอ็มไพร์กรุปให้กับฉินกรุป ทำไมจึงมาถามเอาตอนนี้ เขาเองก็ไม่เคยคิดจะแบ่งผลกำไรที่ได้จากโครงการนี้ให้กับเอ็มไพร์กรุปเลย!

 

 

ถังซีมองหน้าเขาพลางยิ้มหยันในใจอีก เธอพยักหน้า “ใช่ค่ะ ผลตอบแทนจากเงินลงทุนของเราไงคะ ประธานฉิน คุณคงไม่ได้จะบอกว่าเงินทุนที่เราลงไปในฉินกรุปไม่มีเหลือแล้วนะคะ หากเป็นเช่นนั้น ต่อไปใครจะกล้าทำงานร่วมกับฉินกรุปอีกในอนาคต”

 

 

ฉินเปิ่นหยวนถึงกับนิ่งงันไป ถังซีเคยแต่ทำตัวน่ารักแสนดีกับเขา แต่ตอนนี้เธอกำลังข่มขู่เขา! ถ้าเอ็มไพร์กรุปประกาศขึ้นบัญชีดำฉินกรุป ทุกบริษัทในเมืองหลวงและทั่วทั้งประเทศจีน ย่อมไม่มีใครยอมร่วมงานกับฉินกรุปอย่างแน่นอน แม้แต่บริษัทใหญ่ๆ ก็คงหวาดผวา หากต้องการจะร่วมงานกับฉินกรุป ทำไมเด็กคนนี้ถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้หลังจากเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน หล่อนใจร้ายกับพวกเขาเพียงนี้ได้อย่างไรกัน!

 

 

ถังซีมองหน้าเขา แล้วเลิกคิ้วขณะกล่าวว่า “ถ้าประธานฉินยังต้องการจะร่วมงานกับเราอยู่ ฉันหวังว่าเราจะได้รับผลตอบแทนจากเงินที่เราลงทุนไปโดยเร็วที่สุด คงไม่มีใครเชื่อหรอกค่ะ ว่าทุกโครงการที่เราลงทุนให้กับฉินกรุปจะขาดทุนไปทั้งหมด จริงไหมคะ” เมื่อกล่าวจบ เธอก็ลุกยืนขึ้น ยกหูโทรศัพท์ติดต่อภายใน ขอให้เลขานุการชงกาแฟมาให้ถ้วยหนึ่ง

 

 

เลขานุการนำกาแฟเข้ามาเสิร์ฟ ถังซียิ้มให้ฉินเปิ่นหยวน “รับกาแฟก่อนค่ะ ประธานฉิน กรุณาไตร่ตรองเรื่องที่ฉันพูดด้วยนะคะ คุณก็รู้ เราเป็นนักธุรกิจเหมือนกัน ไม่มีนักธุรกิจที่ไหนหรอกค่ะ จะมัวงมงายลงทุนอยู่กับกิจการที่มีแต่ขาดทุน นอกเสียจากจะเป็นคนโง่”

 

 

ฉินเปิ่นหยวนยิ้มฝืน จิบกาแฟ แล้วลุกขึ้นอย่างกะทันหัน กล่าวว่า “ประธานถังพูดถูก ฉันมาพบเธอใหม่วันหลังดีกว่า”

 

 

ถังซีก้มศีรษะให้ มองตามฉินเปิ่นหยวนซึ่งกำลังเดินออกไป และกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันศุกร์ ฉันหวังว่าจะได้เห็นความจริงใจของคุณภายในสุดสัปดาห์นี้ ไม่เช่นนั้นก็คิดว่าเราคงไม่อาจเป็นเพื่อนกันต่อไปได้นะคะ”

 

 

เธอควรได้กลับไปเมือง A ช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะอย่างไรก็ตาม หลังจากวันจันทร์หน้าเธอก็จะกลายเป็นนักเรียนมัธยมปลายเกรดสามแล้ว เธอควรไปปรากฏตัวให้อาจารย์เห็นหน้าในวันแรกของการเปิดเรียน

 

 

ทันทีที่ฉินเปิ่นหยวนจากไป ก็มีสายโทรศัพท์เรียกเข้าจากเฉียวเหลียง เธอมองดูชื่อผู้โทรและเลิกคิ้ว เธอไม่ทันสังเกตว่าเฉียวเหลียงไม่ได้อยู่ใกล้ๆ แถวนี้ จนกระทั่งถึงตอนนี้ เธอรับสายและเฉียวเหลียงพูดขึ้นทันที ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร “ผมมีธุระต้องไปจัดการ ต้องออกไปก่อน อาหกอยู่ที่บริษัท คุณจะไปไหนให้เขาไปด้วยนะ”

 

 

ถังซีทำเสียงคำรามเบาๆ แล้วทั้งคู่ก็เงียบกันไป หลังจากนั้นอีกครู่ใหญ่เฉียวเหลียงก็ถามขึ้น “คุณจะไม่ถามเลยหรือว่าผมจะไปไหน