ภาค 4 กวาดล้างหมื่นลี้ บทที่ 389 จุดเชื่อมปะทุมากมาย ก่อเกิดผลลูกโซ่

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

คนที่รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของชั้นใต้ดินที่ทะเลชั้นนอกในทันที ก็คือพวกหยวนเจิ้งเฟิง

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์ที่กำลังสู้กับราชันปีศาจอัคคี รู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่อยู่ใต้ทะเลเบื้องล่าง

พวกหยวนเจิ้งเฟิงคิดจะลงมือยับยั้งการระเบิดของแกนไฟใต้ดิน แต่ว่าพวกราชันปีศาจจิ่งจงได้โต้กลับอย่างดุดัน

สิ่งที่ทำให้ยอดฝีมือแห่งมหาอำนาจแปดพิภพรู้สึกตึงมือก็คือ พวกเขารู้สึกได้ทันทีว่าปีศาจอัคคีที่อยู่ตรงหน้ามีพลังเพิ่มมากขึ้น

มิใช่เป็นเพราะพวกปีศาจอัคคีจะเก็บออมพลังไว้ แต่เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายนอก จึงทำให้พวกมันมีพลังต่อสู้เพิ่มขึ้น

เผ่าพันธุ์ปีศาจอัคคีที่กำลังเสียเปรียบ ต้องถอยร่นอย่างต่อเนื่อง เริ่มโต้กลับทันที

สถานการณ์สู้รบของทั้งสองฝ่ายเปลี่ยนด้านกลับตาลปัตรอีกครั้ง

ยังดีที่พวกหยวนเจิ้งเฟิงและหวงกวงเลี่ยตอบโต้ทันเวลา ตั้งหลักไม่ให้เผ่าพันธุ์ปีศาจอัคคีได้เปรียบโดยง่าย

นอกจากยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์จะต่อสู้กันเองแล้ว จอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์เช่นฟู่เอิ้นซูที่ทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก ก็เริ่มต่อสู้กับปีศาจอัคคีตัวอื่นด้วยเช่นกัน

ไม่ใช่แค่ราชันปีศาจอัคคีเท่านั้น ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ผิดปกติเช่นนี้ ปีศาจอัคคีทุกตัวล้วนเหมือนปลาได้น้ำ

โดยเฉพาะพวกจ้าวปีศาจอัคคี พวกมันต่างมีพลังเพิ่มขึ้นเหมือนน้ำพัดให้เรือลอย ทำให้จอมยุทธ์แห่งมหาอำนาจแปดพิภพรู้สึกได้ถึงแรงกดดัน

มหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณที่กำเนิดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์ โดยพื้นฐานล้วนครอบครองอาวุธชั้นยอด พลังต่อสู้มักจะเหนือกว่าจ้าวปีศาจอัคคีที่มีระดับพลังเท่ากัน

แต่ในตอนนี้ จ้าวปีศาจอัคคีคิดพึ่งพาความได้เปรียบด้านจำนวน เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดไปของพลังต่อสู้ส่วนตัว

และตอนนี้แกนไฟใต้ดินที่ก้นทะเลระเบิดขึ้น ทะเลสีมรกตและท้องฟ้าสีครามก่อนหน้ากลายเป็นทะเลเพลิง จ้าวปีศาจอัคคีดุร้ายยิ่งขึ้น

พวกฟู่เอิ้นซูรับมือไม่ทันท่วงที เสียท่าอยู่บ้าง มีมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณถูกปีศาจอัคคีลอบโจมตีจนได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่าหนึ่งคน

สิ่งที่ทำให้ยอดฝีมือด้านวรยุทธ์เผ่ามนุษย์ต้องระวังก็คือ หลังจากเวลาผ่านไป ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยไฟเช่นนี้ ปีศาจอัคคีจะยิ่งเหี้ยมหาญขึ้นเรื่อยๆ

เวลานี้เยี่ยนจ้าวเกอก็คิดถึงปัญหาข้อนี้เช่นกัน

จ้าวปีศาจอัคคีที่ไล่ตามหลังตนอยู่เหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

มันโยนหอกไฟถี่มากขึ้น อีกทั้งทุกครั้งยังเหมือนใช้พลังเต็มที่ ไม่เก็บออมไว้แม้แต่น้อย

เพียงแต่เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ว่า พลังของอีกฝ่ายไม่เพียงแต่ไม่น้อยลง กลับเพิ่มมากขึ้นอีก

หอกไฟเล่มหนึ่งถูกโยนออกมา ระเบิดกลางอากาศกลายเป็นทะเลเพลิงร้อนแรงแถบหนึ่ง

การโยนหอกไฟติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้บริเวณรอบๆ กลายเป็นกรงอัคคี ปิดทางหนีของเยี่ยนจ้าวพร้อมกับทะเลที่กำลังเดือดเบื้องล่าง

อาหู่แยกเขี้ยวยิงฟัน “คุณชาย ท่านบอกว่าเตรียมตัวไว้แล้วมิใช่หรือ ลงมือตอนนี้ได้เลยดีหรือไม่ขอรับ”

เยี่ยนจ้าวเกอกางปีกเซียนกระเรียนที่ด้านหลัง ตาขวาพลันมีแสงสายฟ้าสีม่วงสว่างขึ้น กระแสไฟฟ้ากระตุ้นทั่วร่างกาย ก่อนจะไหลไปบนปีกด้านหลัง

เขากระพือปีก ความเร็วพุ่งสูงขึ้น หลบหอกไฟอีกเล่มอย่างหวาดเสียวอีกครั้ง

“สภาพแวดล้อมเช่นนี้ใช้ไม่ได้แล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอเบะปาก “แต่ว่ายังต้องเก็บของมาก่อน เอาไว้ใช้ที่อื่น”

ขณะที่พูด ก็เหาะร่างขึ้นข้างบน จากนั้นก็ก้มตัวพุ่งลงไปข้างล่าง

ชายหนุ่มหลบการโจมตีของจ้าวปีศาจอัคคีเบื้องหลัง มันไล่ตามมาอย่างดุร้าย

เยี่ยนจ้าวเกอคลายมือ อาหู่กับพ่านพานร่วงลงด้านล่าง

ตัวเขาพลิกตัวง้างธนูเหมือนฟ้าแลบ ธนูนภาอลหม่านคำราม อาคมน้ำแข็งปราบมารส่งเสียงหวีดหวิว กลายเป็นแสงสีทองยิงไปยังจ้าวปีศาจอัคคีตัวนั้น

ทันทีที่ยิงเสร็จแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็เก็บธนูนภาอลหม่าน กระพือปีกเซียนกระเรียนด้านหลัง เพิ่มความเร็วลงด้านล่าง ใช้สองมือคว้าอาหู่กับพ่านพ่านที่กำลังร่วงลงสู่ด้านล่าง

จ้าวปีศาจอัคคีตัวนั้นถูกอาคมน้ำแข็งปราบมารยับยั้งเอาไว้ แต่ว่าเปลวไฟก็พวยพุ่งขึ้นมาทั่วร่างของมันอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

ลมปราณอันร้อนแรงที่อยู่ทั่วบริเวณ ละลายเกล็ดน้ำแข็งสีทองอย่างรวดเร็ว

จ้าวปีศาจอัคคีคำรามขึ้น ไล่ตามเยี่ยนจ้าวเกอต่อ

เยี่ยนจ้าวเกอพาอาหู่กับพ่านพ่านพุ่งลงมหาสมุทรอีกครั้ง

ท้องทะเลเบื้องหน้าเดือดพล่าน น้ำทะเลเดือดปุด ฟองน้ำขนาดยักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นมา จากนั้นก็แตกออกอย่างต่อเนื่อง

การระเบิดของฟองน้ำนี้ก่อให้เกิดพลังทำลายล้างที่รุนแรงถึงขีดสุด ทำให้ไม่อาจเข้าใกล้ อย่าว่าแต่น้ำทะเลเบื้องล่างเลย

พ่านพ่านคำรามเสียงต่ำ กระแสน้ำสีดำกับเปลวไฟสีขาวหลายสายปรากฏขึ้นมาหมุนวนรอบๆ ตัวมัน เยี่ยนจ้าวเกอ และอาหู่

ไฟสีขาวและน้ำสีดำกันท้องทะเลที่เดือดพล่านและไฟโหมอันร้อนแรงไว้ชั่วคราว

เยี่ยนจ้าวเกอพาอาหู่กับพ่านพ่านดำลงทะเลอีกครั้ง

ก้นทะเลในตอนนี้กลายเป็นโลกเปลวไฟและหินหลอมเหลว เป็นสีแดงแดงเข้มและส่องแสงสว่างไสวไปทั่วบริเวณ เต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้าง

ชายหนุ่มกวาดตามอง เห็นก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ลูกหนึ่ง หยุดนิ่งอยู่ในน้ำทะเลไม่ลอยขึ้นและจมลง

ในน้ำทะเลที่เดือดพล่าน ผิวลูกบอลน้ำแข็งส่งเสีง ‘เปรี๊ยะๆ’ แตกเป็นรอยร้าวหลายรอย

ถึงแม้จะไม่ได้แตกออกจริงๆ แต่ถ้าหากยังอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ต่อไป มันจะต้องถูกทะเลเพลิงทำลายแน่

เขาใช้ฝ่ามือผลักก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ ก่อนจะเปิดถุงย่อส่วน แล้วเก็บมันใส่ในถุง รวดเร็วเหมือนงูกินช้าง

การหยุดนิ่งแค่เพียงระยะสั้นๆ เช่นนี้ ทำให้จ้าวปีศาจอัคคีไล่ตามมาอีกครั้ง

สายตาของเยี่ยนจ้าวเกอสำรวจไฟที่พ่นออกมาจากก้นทะเลไม่หยุด จากนั้นก็พาอาหู่กับพ่านพ่านพุ่งไปด้านหน้าอย่างแน่วแน่

‘ที่นี่ไม่ใช่วังสุสานทะเลเพลิงที่ทุ่งร้างแดนใต้ หากการเปลี่ยนแปลงของชั้นใต้ดินที่มีขนาดใหญ่จนครอบคลุมทั่วทะเลชั้นนอกทะเลตะวันออกก่อให้เกิดเปลวไฟปปะทุขึ้นมา จะไม่ปะทุแค่เพียงจุดเดียว น่าจะเกิดลูกโซ่ขึ้นที่จุดเชื่อมจำนวนมาก’

แววตาเยี่ยนจ้าวเกอทอประกายเย็นเยียบ ‘ตำแหน่งจุดเชื่อมที่กระตุ้นชั้นใต้ดิน กับเส้นทางที่เชื่อมกันน่าจะสงบกว่านี้’

หลบเปลวไฟที่ทะลักออกมาก้นทะเล

หลบการโจมตีจากจ้าวปีศาจอัคคีที่ไล่ฆ่า

คำนวณแบบแผนการเคลื่อนที่ของแก่นแท้แห่งไฟใต้ดินตามสภาพแวดล้อมรอบๆ

ระหว่างการหนี เยี่ยนจ้าวเกอใช้ความคิดอย่างหนัก ถึงขั้นเกิดความรู้สึกวิงเวียนศีรษะ

ในที่สุดอุณหภูมิของทะเลเดือดก็ลดต่ำลงในทันใด!

เยี่ยนจ้าวเกอมองไป เห็นก้นทะเลสีแดงฉาน เหมือนปรากฏเส้นทางขึ้นมาสายหนึ่ง

นั่นคือแนวเขาก้นทะเลที่ไม่ได้รับผลกระทบจากทะเลเพลิงรอบๆ คล้ายกับได้รับการปกป้องด้วยพลังอันไร้รูปร่าง

ท้องทะเลกว้างใหญ่ ก้นทะเลมีไฟปะทุขึ้นมาเต็มไปหมด ที่นี่กลับมีอาณาเขตซึ่งยังคงเงียบสงบ

ท่ามกลางเปลวไฟที่กระจายไปทั่ว คล้ายกับเส้นทางสายหนึ่งยืดไปจนไม่เห็นปลายทาง

เยี่ยนจ้าวเกอระบายลมหายใจ ‘เป็นอย่างที่คิดไว้!’

แต่ว่าจ้าวปีศาจอัคคีด้านหลังไล่ตามมาอีกครั้ง สภาพแวดล้อมของทะเลชั้นนอกทะเลตะวันออกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ถึงแม้จะอยู่ในโลกที่เงียบสงบ พลังของมันก็ยังเพิ่มขึ้นเพราะทะเลเพลิงอยู่ดี

เท้าสี่ข้างของจ้าวปีศาจอัคคีตัวนี้ห้อตะบึง ก่อนจะพุ่งเข้าหาเยี่ยนจ้าวเกอ

เขาไม่ได้สนใจมัน หลังจากพิจารณาเบื้องล่างเสร็จ ก็มุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่ไร้ไฟทันที

ขณะที่คำนวณตำแหน่งในใจอย่างต่อเนื่องไปพลาง และปะทะกับจ้าวปีศาจอัคคีด้านหลังไปพลาง หลังจากเคลื่อนที่อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เขาก็พลันลดความเร็วลง

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง เห็นแนวเขาก้นทะเลเบื้องหน้าพลันปรากฏจุดตัด

ถึงแม้จะมีไฟปะทุต่อเนื่องไม่เหมือนสถานที่อื่น แต่ตรงกลางแนวสันเขาที่ขาดไปนี้ยุบลงเป็นหลุม เป็นสถานที่ที่คล้ายกับเหวลึก

ในเหวลึกนั้นมีแสงไฟสีแดงฉานโผล่ขึ้นจากใจกลาง