เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 602
“คุณชายลู่ฝานเพิ่งอายุสิบเก้าปีเหรอ”

“ล้อเล่นหรือเปล่า อายุไม่ถึงยี่สิบปี เขาวิทยายุทธแดนปราณนอกชั้นเจ็ดแล้วเหรอ”

“ฝึกตั้งแต่ในท้องแม่ก็ไม่เร็วขนาดนี้”

เสียงตกใจ เสียงสงสัย ดังขึ้นพร้อมกัน

ชางหลิงจัวอ้าปากค้าง ตาโตจมูกบาน

อู่คงหลิงที่เตรียมทดสอบบนเวที หันมามองทางลู่ฝาน

แววตาอี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์วูบไหว ลู่ฝานพูดว่า “มีปัญหาอะไรไหม”

ชางหลิงจัวพูดอะไรไม่ออก อายุน้อยกว่าเขาสิบปี สิบปีเต็มๆ

พระเจ้า เขาฝึกมานานกว่าลู่ฝานสิบปี วิทยายุทธสูงกว่าลู่ฝานแค่ สองชั้น ถ้าสู้กันขึ้นมาจริงๆ ไม่รู้ใครจะแพ้ชนะ

ไม่เพียงแค่เขา ขนาดพวกอี่ว์เทียนซี ยังตกใจกับอายุของลู่ฝานจนใบหน้าบิดเบี้ยว

เมื่อเทียบกับลู่ฝาน พวกเขาฝึกบู๊ไปแบบเสียเปล่าจริงๆ

ลู่หาวขมวดคิ้วเบาๆ นับนิ้วแล้วพูดว่า “เหมือนลู่ฝานอายุเพิ่งสิบเก้าปีจริงๆ เฮ้อ คนหนุ่มอายุสิบเก้าปี แบกรับหน้าที่ทั้งตระกูล”

ลู่เฮ่าหรานพยักหน้าพูดว่า “ใช่ ควรหาภรรยาให้เขาได้แล้ว”

ทั้งสองพยักหน้าพร้อมกัน

โชคดีที่ลู่ฝานไม่ได้ยินคำพูดของพวกเขาสองคน ไม่งั้นลู่ฝานต้องหลบพวกเขาอีกพักใหญ่

ชางหลิงจัวรีบออกไป ไม่กล้าถามอะไรมากอีก

ลู่ฝานทำลายความภาคภูมิใจของเขาไปจนหมดแล้ว

เมื่ออัจฉริยะเจออัจฉริยะที่เหนือกว่าเขา ความรู้สึกนั้นไม่สามารถบรรยายได้เลย

ชางหลิงจัวออกมาจากกลุ่มคนทันที ถ้าเป็นไปได้ ต่อไปเขาจะไม่เหยียบเข้ามาในเมืองตงหวาอีก

อับอาย อับอายจริงๆ!

ลู่ฝานกับอี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์นั่งลง อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์มุมปากกระตุก แล้วถามขึ้นมาอีก

“ลู่ฝาน นายอายุแค่สิบเก้าปีจริงๆ เหรอ”

ลู่ฝานพูดว่า “มีปัญหาอะไรไหม”

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์ส่ายหน้าพูดว่า “แค่คิดไม่ถึงว่านายยังเด็กกว่าฉัน”

ลู่ฝานมองอี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์อย่างประเมิน แล้วพูดว่า “เธออายุยี่สิบกว่าหรือ”

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์ยิ้มแล้วพูดว่า “เอาคำว่ากว่าออกไป ฉันเพิ่งยี่สิบปี อายุมากกว่านายปีเดียว ไม่สิ ครึ่งปี นายมองฉันแบบนี้ทำไม ฉันแก่เหรอ”

ลู่ฝานพูดว่า “ไม่มีอะไร แค่ยี่สิบปีแล้ว แต่ยังไม่แต่งงาน ผมตกใจนิดหน่อย”

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์โมโหจนหน้าแดงทันที เธอเบิกตาโตมองลู่ฝาน

ลู่ฝานหัวเราะแล้วพูดว่า “ล้อเล่น แต่เธอควรแต่งงานได้แล้วนะ ที่บ้านเกิดผม ผู้หญิงอายุยี่สิบปี มีลูกไปหลายคนแล้ว”

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์ทำเป็นโมโหชกลู่ฝานไปหนึ่งที “นายไม่ต้องยุ่ง”

ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ ไม่พูดอะไร

บนเวที อู่งคงหลิงเอามือวางไว้บนหินเจ็ดสี

เธอไม่ได้ใช้กระบวนท่าอะไรเช่นกัน โจมตีด้วยพลังปราณ แต่หินเจ็ดสีมีพลังกระเพื่อมออกไปไกล

มีแสงสว่างขึ้นบนหินเจ็ดสี จากนั้นสีส้มกลายเป็นสีเหลือง แสงสีทองสาดไปทั่ว

ผ้าปิดหน้าขยับเล็กน้อย อู่คงหลิงเดินลงมาอย่างงดงาม

ผู้อาวุโสโม่พูดเสียงดังว่า “การทดสอบรอบแรกจบลงแล้ว มีห้าคนผ่านเกณฑ์ เจิงหยง อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์ อี่ว์เทียนซี ลู่ฝาน และอู่คงหลิง ชื่อห้าคนนี้เข้าสู่โถงดวงดาวของเขตตงหวา ตั้งป้ายเกียรติยศไว้ตลอดชีวิต!”

ลู่ฝานได้ยินคำว่าโถงดวงดาวเป็นครั้งแรก ตั้งป้ายเกียรติยศไว้ตลอดชีวิตคืออะไรกัน

ลู่ฝานหันมาถามอี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์ “มันคืออะไร”

อี้ว์เสี้ยวเอ๋อร์พูดว่า “เป็นการลงทะเบียนทางส่วนราชการ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เราคือคนที่ส่วนราชการให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพวกเลวก็ไม่กล้าคิดทำอะไรเราแล้ว มีป้ายเกียรติยศตลอดชีวิต ถ้าต่อไปเกิดเรื่องกับเรา ส่วนราชการจะเป็นคนแรกที่รู้ความเป็นตายของเรา รวมไปถึงเรื่องราวก่อนตายด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้คนของส่วนราชการ รวมไปถึงพวกโจรผู้ร้าย ก็ไม่กล้าแตะต้องเราแล้ว”