ตอนที่ 652 ความรู้สึกยังคงเดิม

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 652 ความรู้สึกยังคงเดิม

มู่จวินฮานนึกมิถึงว่าอันหลิงเกอจะขยับตัวเช่นนี้ เขาจึงมิทันได้ระวังตัวจนถูกนางดึงจนล้มลงกับเตียง หลังจากนั้นอันหลิงเกอก็ประกบริมฝีปากลงมาทันที ก่อนที่มู่จวินฮานจักตอบรับอย่างเร่าร้อนเช่นกัน และตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงจนอันหลิงเกอรู้สึกได้

รูปร่างผอมบางของนางที่ทาบทับอยู่บนตัว นอกจากเขามิรู้สึกเจ็บแล้วยังให้ความรู้สึกอ่อนหวานอีกด้วย หัวใจของมู่จวินฮานเต็มไปด้วยความสุข เขาคิดว่าตอนนี้อันหลิงเกอคงให้อภัยแล้วจึงยอมกลับมาอยู่ข้างกายเขาอีกครั้ง

อันหลิงเกอซุกซบมู่จวินฮานเช่นนั้นจนรุ่งเช้า

ขณะที่มู่จวินฮานกำลังจะออกไปก็หันมาจุมพิตอำลาอันหลิงเกออีกรอบ และครานี้นางก็ได้จุมพิตตอบเขาเช่นกัน ทำให้มู่จวินฮานตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนจะเดินออกไปพร้อมรอยยิ้มเปี่ยมสุข

อันหลิงเกอเห็นรอยยิ้มเมื่อครู่ของมู่จวินฮานจึงหวนนึกถึงรสจุมพิตเมื่อครู่ของเขาแล้วก็ต้องตกใจ

ระหว่างทั้งสองคนราวกับมี*พันภูผาและหมื่นวารีคอยขวางกั้น…

อันหลิงเกอมิกล้าที่จะคิดต่อเพราะมู่จวินฮานจดจำนางได้แล้ว ความรักของพวกนางยังไปต่อได้อีกหรือไม่ ?

และวันนั้นทั้งวันมู่จวินฮานก็ได้ทานอาหารทุกมื้อกับอันหลิงเกอเพียงผู้เดียว

เรื่องนี้ย่อมถึงหูของเฝิงเยว่เอ๋ออย่างรวดเร็ว นางรู้ดีว่าหากเอ่ยถึงความรู้สึกย่อมสู้อันหลิงเกอมิได้ แต่หากนับตามตำแหน่งแล้ว ตอนนี้นางเป็นถึงพระชายาเอกจึงย่อมสูงส่งกว่า

เป็นไปดั่งที่คาดเอาไว้คือวันต่อมาเฝิงเยว่เอ๋อก็อ้างว่ามีธุระเพื่อดึงตัวมู่จวินฮานไป

ทิ้งอันหลิงเกอไว้ที่เรือนเพียงลำพัง ทว่าอันหลิงเกอมิได้คิดอันใดเพราะรู้อยู่แล้วว่านี่คือแผนการของเฝิงเยว่เอ๋อ

แต่อันหลิงเกอมิคิดว่าการที่ลองหยั่งเชิงเฝิงเยว่เอ๋อแค่วันเดียว อีกฝ่ายก็ถึงขั้นทนมิไหวเสียแล้ว อันหลิงเกอยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนละเลียดทานอาหารบนโต๊ะจนหมด ส่วนเฝิงเยว่เอ๋อในใจมีเพียงมู่จวินฮานย่อมมิได้ใส่ใจกับเรื่ององครักษ์ของนางอีก

เมื่อไร้องครักษ์แล้วอันหลิงเกอจึงลอบออกจากจวนโดยลำพังเพื่อไปหาอิ่งจือที่ถ้ำน้ำแข็ง มิพบกันแค่ไม่กี่วันสีหน้าของเขาดูดีขึ้นมากทีเดียว

แม้แววตายังเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอยู่ก็ตาม

อันหลิงเกอที่รู้ถึงเหตุผลแล้วก็เข้าใจความรู้สึกของเขาดี อีกฝ่ายเคยเป็นชายหนุ่มที่จมดิ่งอยู่ในห้วงความรักมาก่อน การโศกเศร้าเช่นนี้ก็มิแปลก นางจึงถอนหายใจออกมา

อิ่งจือเห็นอันหลิงเกอเดินเข้ามาจึงฝืนยิ้มให้นาง

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนอ๋องตลอดหลายวันมานี้เขาก็รับทราบเช่นกันจึงอดสงสารอันหลิงเกอมิได้ เขารู้ว่าเหตุใดนางจึงมีท่าทางเช่นนี้และรู้ว่าภายในใจของนางเจ็บปวดเพียงใด

เมื่ออันหลิงเกออยู่ตรงหน้าอิ่งจือก็มีความรู้สึกบางอย่างที่มิอาจปิดบังเอาไว้ได้ ราวกับความคิดทั้งหมดมิสามารถเก็บซ่อนเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา และนางรู้สึกว่าตอนนี้หัวใจได้หลุดออกมาอยู่ตรงหน้าเขาก็มิปาน

อิ่งจือมิได้เอ่ยสิ่งใดออกมา เขาเพียงเชื้อเชิญให้นางนั่งลง

อันหลิงเกอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ในถ้ำน้ำแข็ง นอกจากโลงศพและเตียงน้ำแข็งแล้วก็หามีสิ่งอื่นไม่ ทว่าบัดนี้มีทั้งโต๊ะและเก้าอี้หินอีกสองตัวเพิ่มเข้ามา

นางจึงหันไปมองอิ่งจื่อซึ่งยังยิ้มให้อยู่เช่นนั้น

ดูท่าแล้วโต๊ะกับเก้าอี้เหล่านี้เขาคงเตรียมไว้ให้นางโดยเฉพาะและมิรู้เหตุใดการถูกอันหลิงเกอมองออกว่าเขาเตรียมพร้อมเพื่อจะได้สนทนากับนางเช่นนี้ก็ทำให้อิ่งจือรู้สึกประดักประเดิดมิน้อย

อันหลิงเกอเห็นปฏิกิริยาของเขาก็อดหัวเราะออกมามิได้

“ผู้ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือเช่นเจ้าก็เก็บสีหน้ามิอยู่เป็นด้วยหรือ ? ” อันหลิงเกอเอ่ยอย่างหยอกล้อ

“เฮอะ” อิ่งจือเพียงส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอเท่านั้น

อันหลิงเกอมิรู้ว่ามีเพียงนางเท่านั้นที่อิ่งจือจะเก็บสีหน้าและท่าทีเอาไว้มิอยู่ ไม่ว่าความโกรธหรือความโศกเศร้าของเขามิเคยมีผู้ใดได้เห็นยกเว้นนางผู้เดียว

หลังอันหลิงเกอนั่งลง อิ่งจือก็นำผลไม้มาต้อนรับและนางก็ชื่นชอบความหอมหวานของผลไม้เป็นอย่างมาก ขณะที่สนทนากันนั้นอันหลิงเกอรู้สึกสบายใจอย่างบอกมิถูก ไม่รู้ว่าเหตุใดการได้อยู่ใกล้กับอิ่งจือทำให้นางรู้สึกสบายใจยิ่งนัก

“หลายวันมานี้เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง ? ” ความจริงอิ่งจือรู้อยู่แล้ว แต่ความเงียบในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดจนต้องเอ่ยถามขึ้นก่อน

“ก็ดี”

อันหลิงเกอตอบคำถามเรียบ ๆ ตอนนี้จิตใจของนางยังมิอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไรนัก นางจึงมิรู้ว่าควรต้องวางตัวเช่นไร

อิ่งจือที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็มองออกว่านางคิดสิ่งใดอยู่จึงถอนหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยว่า

“ทำตามที่ใจเจ้าต้องการเถิด อย่าได้บีบบังคับใจตนเองอีกเลย” คำพูดเยี่ยงนี้มิเคยมีผู้ใดกล่าวกับอันหลิงเกอมาก่อน

ทำให้อันหลิงเกอมองอย่างเลื่อมใสจนอิ่งจือทำตัวมิถูกและต้องก้มหน้าลง

ราวกับหนุ่มน้อยที่กำลังเขินอายก็มิปาน อันหลิงเกอเห็นดังนั้นก็รู้สึกขบขันจนหัวเราะออกมาเสียงดัง ส่วนอิ่งจือมีใบหน้าแดงก่ำและพูดอันใดมิออก

หลังจากนั้นอิ่งจือก็มาส่งอันหลิงเกอที่เรือน เมื่อมาถึงก็พบมู่จวินฮานที่มารอนางอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเขาเห็นนางกลับมาพร้อมอิ่งจือก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะเดินเข้ามารับนางแต่มิได้กล่าวสิ่งใดออกมา เพราะเห็นว่าตอนนี้อันหลิงเกอกำลังใจลอยอยู่

จากนั้นอันหลิงเกอก็เดินไปนั่งเก้าอี้ รอจนอิ่งจือกลับไปแล้ว นางจึงพยายามรวบรวมสติอีกครั้งแล้วมองมู่จวินฮาน

มู่จวินฮานคิดว่านางคงเหนื่อยล้าจึงอยู่ทานอาหารเป็นเพื่อนและมองนางหลับไป แต่มิว่าอย่างไรอันหลิงเกอก็หลับไม่ลง

เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนถึงกลางดึกอันหลิงเกอก็ยังมิอาจข่มตาหลับได้

ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ล้วนทำให้นางรู้สึกกังวลโดยเฉพาะเรื่องของอิ่งจือ เขาช่างเป็นคนลึกลับและยากที่จะเข้าใจจริง ๆ

วันรุ่งขึ้น ทุกอย่างยังคงเดิม มู่จวินฮานออกไปแล้ว อันหลิงเกอก็ทำงานเย็บปักอยู่ลำพังในเรือน แต่วันนี้มีแขกที่มิได้รับเชิญมาปรากฏตัว

ตอนที่เฝิงเยว่เอ๋อเข้ามาก็เห็นท่าทางสบายใจของอันหลิงเกอแล้วเกิดความคับแค้นขึ้นมา

สิ่งที่นางเฝ้าปรารถนากลับถูกอันหลิงเกอครอบครองมาตลอดจึงทำให้จิตใจของเฝิงเยว่เอ๋อร้อนรุ่มยิ่งนัก

เฝิงเยว่เอ๋อก้าวยาว ๆ ไปตรงหน้าของอันหลิงเกอแต่อีกฝ่ายทำราวกับมองมิเห็นและยังปักผ้าอย่างเงียบ ๆ

ท่าทีของอันหลิงเกอทำให้เฝิงเยว่เอ๋อโมโหกว่าเดิม ก่อนที่เฝิงเยว่เอ๋อจะกระชากผ้าปักในมือของนางไป เมื่อเห็นลายปัก*ยวนยางคลอเคลียกันอยู่บนนั้นก็ทำให้นึกถึงความรักของอันหลิงเกอและมู่จวินฮาน จากนั้นความโกรธแค้นที่ปะทุขึ้นมาก็ทำให้เฝิงเยว่เอ๋อฉีกผ้าออกเป็นสองส่วนอย่างมิไยดี

อันหลิงเกอมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉยมิบ่งบอกอารมณ์ใด

ก่อนที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบผ้าไหมผืนใหม่ขึ้นมาปักต่อ เฝิงเยว่เอ๋อเห็นดังนั้นก็โกรธมากขึ้น

เฝิงเยว่เอ๋อหันไปหยิบตะกร้าที่อยู่ด้านหลังของอันหลิงเกอขึ้นมาและใช้ตะบันไฟในมือเผาผ้าไหมในตะกร้าจนมอดไหม้ อันหลิงเกอเห็นการกระทำนั้นแล้วมิเพียงไม่ตอบโต้ ทว่าแค่หยุดปักผ้าก่อนหันมามองหน้านิ่ง ๆ

“เจ้ามีปัญหาหรือ ? ”

บัดนี้ในห้องของอันหลิงเกอยุ่งเหยิงไปหมด เศษซากของผ้าที่ถูกฉีกและถูกเผาตกเกลื่อนกลาดเต็มพื้น มิหนำซ้ำยังโดนเท้าของเฝิงเยว่เอ๋อเหยียบย่ำจนมิเหลือชิ้นดี

แม้เฝิงเยว่เอ๋อทำถึงเพียงนี้แล้ว อันหลิงเกอก็มิได้มีท่าทีอันใด

เฝิงเยว่เอ๋อมองอันหลิงเกอและความโกรธเกรี้ยวของนางได้ปะทุออกมาจนหมด ซึ่งนางเองก็มิรู้ว่าเพราะเหตุใดจึงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้

แค่เห็นหน้าอันหลิงเกอ นางก็แทบอยากกระโจนเข้าไปฉีกทึ้งออกเป็นชิ้น

โชคดีที่ตอนนี้เฝิงเยว่เอ๋อมีสติเหลืออยู่เล็กน้อยและยังพอคิดได้ว่าตนมิสามารถแตะต้องอันหลิงเกอจึงทำได้เพียงระบายโทสะกับข้าวของแทน ทว่าก็มิอาจลดทอนความโกรธลงได้เลย

“อันหลิงเกอ เจ้ามีอันใดดีกันแน่ ! ”

*พันภูผาและหมื่นวารีคอยขวางกั้น เปรียบเปรยว่าช่างอยู่ห่างไกลกันจนยากมาบรรจบ

*ยวนยาง หรือเป็ดแมนดาริน เป็นสัญลักษณ์แทนความรักและความซื่อสัตย์เนื่องจากเชื่อกันว่ายวนยางมีคู่เพียงตัวเดียวตลอดอายุขัย